´ฝ้าย´ ขอตรวจดีเอ็นเอใหม่ วอนอย่าป้องคนผิด ด้าน "แด๊ก บิ๊กแอส" รับคำ เผยรู้สึกโล่งใจสุดๆ
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 10 พฤษภาคม 2549 19:55 น.
นางแบบสาวไม่ยอมรับผลการตรวจดีเอ็นเอจากตำรวจระบุ "น้องจัสติน" ไม่ใช่ลูกชาย "แด๊ก บิ๊กแอส" วอนขอความเห็นใจอย่าปกป้องคนผิดก่อนเผยอยากตรวจใหม่พร้อมกัน 3 คน เจ้าตัวแฉนักร้องดังสุดเจ้าชู้จูบสาวต่อหน้าต่อตายังบอกไม่มีอะไร ลั่นใครเป็นอย่างไรย่อมรู้อยู่แก่ใจ ด้านนักร้องดังรับคำท้า เผยรู้สึกโล่งใจหลังตกเป็นจำเลยสังคมมานาน ส่วนแกรมมี่ฯ โต้ จะเอาเงินที่ไหนไปล็อบบี้
ภายหลังการออกมาแถลงข่าวของเจ้าหน้าที่ตำรวจในช่วงเช้าที่ผ่านมาของวันนี้(10)นำโดย พล.ต.ท.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช ผช.ผบ.ตำรวจแห่งชาติ พร้อมทั้ง พล.ต.ต.นพ.สมยศ ดีมาก โฆษก รพ.ตำรวจ และผอ.นิติเวช ถึงผลการตรวจดีเอ็นเอของนักร้องชื่อดัง แด๊ก บิ๊กแอส และ น้องฝ้าย ฟารีดา หรือ สุวรรณรี ไชยมงคล และ น้องจัสติน บุตรชาย โดยระบุว่านักร้องดังนั้นไม่ได้เป็นพ่อของเด็กตามข้อสงสัยของนางแบบสาวแต่อย่างใดนั้น
ในส่วนของนางแบบสาวเอง ซึ่งวันวาน(9)ที่ผ่านมาได้ให้สัมภาษณ์อย่างไม่ยอมรับผลการตรวจที่ออกมาก็ยังคงยืนยันเช่นเดิม โดยเจ้าตัวบอกว่าอยากให้มีการตรวจดีเอ็นเออีกครั้งพร้อมๆ กัน 3 คน พ่อ แม่ ลูก ซึ่งหากผลออกมาเหมือนเดิมตนเองก็พร้อมที่จะยอมรับ
"หนูไม่เชื่อ คิดว่าครั้งนี้มันไม่ยุติธรรม เพราะไม่ได้ตรวจพร้อมกัน 3 คน พี่ที่สถาบันเป็นคนบอกหนูจะรู้ผลเป็นคนแรก แต่สุดท้ายหนูกลับเป็นคนสุดท้ายที่รู้ วันที่ 10 แด๊กจะต้องรับฟังข้อกล่าวหา แต่มันเหมือนเค้าเจตนาให้ผลออกก่อน คือให้มาออกวันที่ 9 พวกเค้าทำอะไรกัน หนูอยากจะขอร้องผู้ใหญ่น่ะคะ อย่าปกป้องคนผิดเลย สงสารหนูกับลูกเถอะ หนูอยากพาจัสตินไปตรวจอีกครั้งหนึ่ง ถ้าถึงวันนั้นหนูกล้าที่รับความจริงแล้ว
"อยากตรวจพร้อมกัน 3 คน และขอให้พี่สื่อมวลชนมาเป็นพยานให้หนูด้วย และไม่อยากตรวจที่นิติเวชแล้ว...ถ้าผลตรวจออกมาไม่ใช่อีกหนูก็พร้อมจะรับตรงนั้น กล้าที่จะเผชิญความจริง แล้วหนูก็คงจะต้องก้มหน้าก้มตาเลี้ยงจัสตินต่อไป เลี้ยงลูกของหนูให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
"อยากให้เร็วๆ นี้ เพราะหนูก็อยากพิสูจน์ความจริงให้ทุกคนรู้ แต่ยังไงก็ขอตรวจ 3 คน ถ้าเกิดไม่ยอมหนูก็สุดแท้แต่บุญวาสนาของกันนะลูกนะแม่ก็ทำดีที่สุดแล้ว...(ก้มลงไปจูบลูกพูดกับลูก) หนูสงสารลูกอยากจะบอกว่าสิ่งที่หนูกำลังทำอยู่ สิ่งที่หนูพูดออกไป มันคือความจริงแต่ไม่มีใครเชื่อหนูเลย...(ร้องไห้) หนูก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน
ส่วนเรื่องที่ฝ่ายชายเคยบอกเอาไว้ว่าหากผลที่ออกมาไม่ใช่ลูก ตนเองก็พร้อมที่จะรับผิดชอบนั้นเรื่องนี้ฝ้ายบอกว่าไม่จำเป็น ส่วนเรื่องคดีความก็คงจะต้องว่ากันไปตามพยานหลักฐาน
"ไม่เป็นไรค่ะ...(กระแทกเสียง) เก็บความหวังดีของเค้าไว้เถอะ มันสายไปแล้ว มันไม่จำเป็นสำหรับชีวิตหนูแล้ว ถึงแม้จะใช่หนูก็ไม่ต้องการแล้ว ที่ออกมาทุกวนนี้ไม่เคยต้องการเงินจากเค้าซักบาทเดียว เพราที่ผ่านมาก็ไม่เคยได้รับเงินจากเค้าอยู่แล้ว"
"เรื่องคดีก็ต้องดำเนินต่อไป แต่หนูก็ไม่ทราบเหมือนกันมีผลต่อรูปคดีหรือเปล่า แต่หนูก็ไม่เข้าใจอยู่ดีว่าเจตนาให้ออกวันที่ 9 ด้วย ทีตอนนั้นหนูขอให้เร่งตรวจให้หนูหน่อย เค้าก็บอกว่า 3 อาทิตย์ แต่อยู่ๆ ผลมาออกวันที่ 9 โดยไม่แจ้งหนูเลย พวกพี่นักข่าวรู้ก่อนหนูด้วยซ้ำ แล้วทำไมดีเอ็นเอที่ตรวจบอกว่าใช่ 7 จุด ไม่ใช่ 9 จุด หนูก็ไม่รู้มันหมายถึงอะไร หนูไม่ได้เป็นแพทย์ หนูก็ไม่รู้ว่ามันหมายถึงอะไร ถ้าไม่ใช่ลูกเขามันก็น่าจะไม่ใช่ซักจุดไม่ใช่เหรอ หนูก็ไม่เข้าใจเหมือนกันตรงนี้ เพราะตอนไปตรวจเจ้าหน้าที่ก็ไม่อธิบายอะไรเลย
"แต่นี่หนูก็ไม่ได้กล่าวหาใครนะคะ หนูก็ไม่โทษใคร แต่หนูขอแค่ความยุติธรรม ถึงตอนนี้ความจริงเป็นไงหนูก็ไม่รู้แต่มันเป็นความคิดของเด็กโง่ๆ คนหนึ่งคือหนูก็คิดของหนูแบบนี้ค่ะ ถ้าจะต้องไปตรวจอีกทีก็คงต้องปรึกษาเร็วๆ นี้
ยืนยันที่ผ่านมาตนคบกับหนุ่มแด๊กเพียงคนเดียว และที่ทำทั้งหมดนี้ก็เพื่อเรียกร้องหาความยุติธรรมกับความถูกต้อง
"มีแด๊กคนเดียวค่ะ ทุกวันนี้หนูทำเพื่อความถูกต้อง ถึงแม้ความจริงของหนูมันจะไม่สวยงามเท่าไหร่ (มีข่าวออกมาว่าช่วงคบกับแด๊กก็มีหนุ่มคนอื่นเหมือนกัน จริงหรือเปล่า?)...นั่นมันคืออดีตของหนู แต่หนูยืนยันนะว่าตอนคบกับแด๊กหนูอยู่กับแด๊กคนเดียว ไม่เคยมีความสัมพันธ์กับชายคนไหนเลย
"ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำไปมันคือความจริง ถ้าไม่มั่นใจไม่แน่ใจหนูไม่เอาอนาคตหนูกับลูกไปแลกหรอก ถ้าแลกไปแล้วไม่ได้อะไรกลับมากับชีวิต หนูก็คงไม่ทำ ส่วนที่ทางสถาบันบอกว่าถ้าผลตรวจครั้งนี้ผิดพลาดจะขอปิดสถาบัน หนูก็ไม่ได้คิดยังไง หนูบอกแค่ว่าหนูไม่ได้กล่าวหาว่าสถาบันเค้าตรวจผิดพลาดนะคะ หนูแค่อยากขอความยุติธรรม อยากขอตรวจพร้อมกัน 3 คนอีกครั้ง เรื่องผิดพลาดหรือไม่ผิดพลาดนั้นหนูไม่ได้กล่าวหาเลย หนูแค่อยากตรวจพร้อมกัน 3 คนขอความชัดเจนเท่านั้นเอง
เผยไม่เคยคิดจะเข้าวงการบันเทิงเพราะกลัว ส่วนมูลนิธิปวีณาที่ออกมาเป็นธุระให้ในเบื้องต้นตอนนี้ก็ไม่ได้ช่วยเหลืออะไรมากมาย แต่มั่นใจไม่โดนลอยแพแน่
ไม่ค่ะ ไม่เอาแล้ว กลัวเจ็บมากๆ ขออยู่ของหนูเงียบๆ ดีกว่า กลัววงการนี้ ตอนนี้หนูยังไม่ได้ทำงาน แม่ทำคนเดียวแต่ก็พอเลี้ยงจัสตินได้ ไม่เหลือบ่ากว่าแรง ส่วนมูลนิธิ ตอนนี้ยังไม่ได้ช่วยเหลืออะไร แต่มีโทรมาถามบ้าง แล้วตัวหนูเองก็ยังไม่ได้โทรไปปรึกษาทางโน้นด้วยเหมือนกัน เขาจะทิ้งมั้ย หนูไม่ได้คิดถึงขนาดนั้น ไม่ได้คิดว่าเค้าจะปล่อยเราขนาดนั้น เพราะที่ผ่านมาเค้าก็ช่วยเหลือเรามาตลอด
กับเรื่องที่ได้มีการเผยแพร่ภาพของฝ่ายชายพัวพันอยู่กับสาวคนหนึ่งนั้นฝ้ายบอกว่าโดยส่วนตัวรู้จักผู้หญิงคนนั้นดี พร้อมแฉความเจ้าชู้ของฝ่ายชายเคยจูบหญิงต่อหน้าต่อตา ก่อนทิ้งท้ายฝากท้าหนุ่มแด๊กออกมาตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอใหม่พร้อมๆ กัน 3 คน ลั่นใครทำอะไรย่อมรู้อยู่แก่ใจดี
"รู้จักตั้งนานแล้วว่าเขามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกัน รู้จักดีด้วย รู้สึกว่าจะเป็นดีเจที่ร้านกระฉูด ชื่อจ๋า ตอนที่เขาจีบกันวันแรกฝ้ายก็อยู่ด้วย รับรู้ทุกอย่างในสิ่งที่เขากระทำ แต่ตอนนั้นบอกตัวเองว่าไม่เป็นไร เพราะเรารักเขา เคยเห็นเขาเคยจีบกันระหว่างคบเป็นแฟนกับฝ้ายอยู่ แต่ก็เพราะรู้ว่านิสัยเค้าเป็นแบบนี้
"ตอนนี้รู้สึกเฉยๆ แล้ว เหมือนแก้วที่มันร้าวจะมาติดมาประกอบใหม่ไม่ได้แล้ว...ไม่ถึงกลับเกลียด เพียงแต่ว่าไม่อยากเจอกันอีกต่อไปเลย มันเสียใจคนเคยรักกันเคยบอกว่ารักอย่างโน่น รักอย่างนี้ ไม่มีผู้หญิงคนไหนหรอก ที่จะทนยืนเห็นพี่แด๊กจูบปากกับผู้หญิงคนอื่น ตอนนั้นเขาจูบกันหน้าร้านกาแฟหรือร้านนมอะไรซักอย่างที่ลาดพร้าวซอย 2 ผู้หญิงคนนั้นขับวอลโว่ รู้สึกจะเป็นลูกนายพลหรือลูกตำรวจนี่แหละ"
"วันนั้นพี่ตูน (บอดี้สแลม) ก็ไปด้วย ฝ้ายยังยืนดูเขาจูบกันอยู่เลย ทั้งจูบทั้งกอดฟัดเหวี่ยงกัน เพื่อนในวง (บิ๊กแอส)เขาก็เห็น ร่ำลากันเสร็จแล้วเขาก็เดินมากอดฝ้ายบอกว่าอย่าคิดมากนะเรารักเธอนะ เธอจะรักเราได้เหรอ เราเกเรขนาดนี้ แต่ก็ไม่เป็นไร เรารักเขาก็ทนได้ เขาเจ้าชู้ เขาเห็นแก่ตัวเองมากกว่าเห็นแก่คนอื่น
"คือถ้าแน่จริงก็ออกมาตรวจพร้อมกันเลย 3 คนดีกว่าคุณพูดอยู่แบบนั้นแต่ไม่ยอมออกมาซักที มันไม่ได้ช่วยอะไรเลย ถ้าคุณมั่นใจว่าคุณไม่ใช่พ่อของเด็ก คุณก็ออกมาเลย...หนูไม่เรียกร้องอะไรทั้งนั้น แค่อยากให้สังคมรับรู้ ในเมื่อในจิตใจเขาไม่ต้องการหนูกับลูกหนูก็ไม่ต้องการเขาเหมือนกัน ที่ออกมาก็ไม่ใช่เพราะเขาเป็นบิ๊กแอสด้วย"
"ถ้าแด๊กไม่ใช่บิ๊กแอสเขาก็เป็นผู้ชายธรรมดาๆ คนหนึ่งนี่แหละ ชีวิตหนูน่าจะมีค่ามากกว่านี้ ไม่น่าต้องมานั่งเป็นข่าวแบบนี้ แต่ถ้าไม่ใช่ก็ถือว่าเป็นเวรกรรมของหนูก็ยินดีที่จะรับผลนั้น ขออย่างเดียวอย่ามาพูดข้างๆ คูๆ ว่ามีความสัมพันธ์อะไรกัน คนอื่นไม่รู้ แต่ตัวคุณน่ะรู้ดีอยู่แก่ใจ"
ทั้งนี้ในส่วนของนักร้องดัง "แด๊ก บิ๊กแอส" ซึ่งได้จัดแถลงข่าวที่ตึกจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ฯ ตันสังกัดในช่วงเย็นที่ผ่านมาเปิดเผยว่า ที่ผ่านมาตนต้องตกเป็นจำเลยของสังคมมาโดยตลอดว่าเป็นผู้ชายที่ไม่มีความรับผิดชอบบ้าง เป็นพ่อที่ไม่รักลูกบ้าง ซึ่งเมื่อการตรวจออกมาเช่นนี้จึงทำให้ตนเองรู้สึกสบายใจมากๆ ส่วนกรณีที่อีกฝ่ายต้องการอยากจะให้มีการตรวจใหม่นั้น นักร้องดังเผยว่าตนยินดีและพร้อมเสมอเพื่อความสบายใจของทุกๆ ฝ่าย
คำตอบที่ได้ก็ดูจากข่าวก็มีอย่างหนึ่งที่คาใจ ข้อเท็จจริงมันเป็นยังไง ยินดีเพื่อความสบายใจของทุกๆฝ่ายจะไปตรวจที่ไหนยังไงก็รออีกทีหนึ่งแต่ผมยินดีทุกที่แหละ จริงๆ ไม่ต้องหมอพรทิพย์ก็ได้ ผมว่านิติเวชก็เป็นหนึ่งในกระบวนการยุติธรรมที่น่าเชื่อถือ ตรวจที่ไหนก็ได้ ผมยินดีเพื่อความสบายใจของทุกคน
จริงๆ ผมก็เห็นใจน้องฝ้ายเค้านะครับ ถ้าจะให้ช่วยเหลืออะไรก็บอกมาแล้วกัน ผมไม่ใช่คนใจร้ายใจดำอะไรขนาดนั้น (จะโดนมองว่าสร้างภาพรึเปล่า?) พูดจริงๆ หน้าตาผมยังงี้ผมไม่ได้ชั่วร้ายนะครับ ไม่รู้จะตอบยังไง หลายๆ คนที่รู้จักผมก็น่าจะรู้ว่าผมเป็นคนยังไง การช่วยเหลือกันมันเป็นสิ่งที่ดีที่ควรช่วยเหลือกกันครับ
ส่วนกรณีที่ว่าทำไมการตรวจครั้งนี้ ทั้งแด๊ก, ฝ้ายและน้องจัสตินถึงไม่ไปเจาะเลือดพร้อมๆ กันกระทั่งกลายเป็นประเด็นที่หลายคนสงสัยว่าผลของการตรวจดีเอ็นเอในครั้งนี้ดูจะไม่โปร่งใสนั้น เรื่องนี้นักร้องหนุ่มบอกว่าเป็นเพราะการนัดหมายที่คลาดเคลื่อน ขณะที่นาย วิเชียร เลิศไพศาล กรรมการผู้จัดการบริษัทจีนี่เรคคอร์ดบอกว่าเรื่องที่ทางแกรมมี่เองจะไปจ่ายเงินเพื่อล็อบบี้ผลนั้นเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน
"เท่าที่ฟังการแถลงข่าวก็จะเป็นว่าเค้าเอาตัวสถาบันเค้ามารับประกัน มันเป็นเรื่องที่ตลกมาก ถ้ามีคนคิดแบบนั้น นิติเวช เป็นสถาบันที่เราเชื่อถือเราก็ไปตรวจ สถาบันตอบไปแล้วว่ายังไงผมคงไม่อยากพูดซ้ำอีก เอาเงินมากเท่าไหร่ล่ะครับไปซื้อสถาบันนิติเวช แล้วถ้าตรวจอีกครั้งเป็นลูกแด๊กจริงๆ ทางสถาบันนิติเวชก็ต้องผิดก่อน
สำหรับภาพของนักร้องดังกับสาวในผับนั้นหนุ่มแด๊กยืนยันว่าเป็นแค่แฟนเพื่อน ส่วนคดีพรากผู้เยาว์ยังก็อยู่ในขั้นตอนของศาล ก่อนจะบอกว่าภายในปีนี้อาจจะได้ฟังเพลงที่มาจากจากมุมหนึ่งของชีวิตตนกับเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน
จากในหนังสือพิมพ์ใช่มั้ยครับ จริงๆ วันนั้นมันเป็นวันเกิดของร้านย่านนวมินทร์ น้องคนนั้นเค้าเป็นแฟนเพื่อนผม มันเป็นจังหวะที่เราอยู่ในงาน จะให้พูดมันก็แค่นั้นแหละครับ เค้าเป็นแฟนเพื่อนที่ทำงานที่นั่น เรื่องคดี ตอนนี้เป็นทางกระบานการทางนั้น ผมไม่รู้ ก็คงต้องไปทางนั้นแหละครับ มอบหมายให้เค้าทำ สำหรับตัวผมผมว่ามันคลี่คลายแล้ว ทุกอย่างเป็นสิ่งที่ทุกคนอยากรู้มากกว่า สำหรับผมผมรู้แล้วว่ายังไง หลายๆ คนเข้าใจผม ยืนข้างผม ผมมายืนจุดนี้ ผมเจออะไรมาเยอะ รู้ว่ามันต้องเจออะไรบ้าง ผมโชคดีที่มีกำลังใจหลายสิ่งอย่างล้อมรอบ เวลาลำบากเราจะรู้ว่าใครดีกับเรา
ส่วนที่อีกฝ่ายไม่เชื่อผลการตรวจ ก็หลายสิ่งหลายอย่างก็ฝากพี่ๆ ทุกคนด้วยแล้วกัน และก็น่าเห็นใจน้องเขา...เรื่องตรวจใหม่ ไม่มีปัญหาครับ ผมยินดีจะทำทุกอย่างให้มันดีต่อทุกฝ่ายถ้าจะตรวจอีกครั้งเพื่อความสบายใจผมก็สามารถทำได้...เรื่องฟ้องจะฟ้องกลับผมเคยพูดหลายครั้งแล้วไม่ว่าผลจะเป็นยังไง ผมก็แค่อยากรู้ว่ามันเป็นอย่างไร แค่นั้นครับ
หลังจากสบายใจผลงานก็ต้องเดินหน้าต่อไป มีอะไรหลายอย่างอยากจะเล่าในเพลง คงเป็นมุมมองในช่วงชีวิตที่ผ่านมา คงได้ฟังกันแน่นอน คงปีนี้แหละครับ
https://www.facebook.com/teeneedotcom