´ฝ้าย´ ขอตรวจดีเอ็นเอใหม่ วอนอย่าป้องคนผิด ด้าน แด๊ก บิ๊กแอส รับคำ เผยรู้สึกโล่งใจสุดๆ

"ฝ้าย" ช็อกผลดีเอ็นเอ ´แด๊ก บิ๊กแอส´ ไม่สัมพันธ์ลูกชาย

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 10 พฤษภาคม 2549 03:53 น.

"แด๊ก บิ๊กแอส" พิรุธมากมาย "ฝ้าย" ทำใจยอมรับไม่ได้ผลการตรวจดีเอ็นเอไม่สัมพันธ์ "น้องจัสติน" ลูกชายวัย 4 เดือน เจ้าตัวออกอาการซึมออกปากไม่ได้รับความยุติธรรมพร้อมทำใจต้องตกเป็นจำเลยสังคม เผยอยากให้ตรวจพร้อมกันพ่อแม่ลูกเพื่อความโปร่งใสก่อนจะยืนยันพร้อมท้าพิสูจน์หน้าลูกเหมือนนักร้องดังเป๊ะ

ถึงกับออกการงงถึงขนาดช็อกเลยทีเดียวสำหรับนางแบบสาววัย 17 ปี "ฝ้าย สุวรรณรี ไชยมงคล" ที่ได้ออกมาแฉพร้อมยื่นฟ้อง "แด๊ก เอกรัตน์ วงศ์ฉลาด" นักร้องนำวงร็อกชื่อดัง "บิ๊กแอส" สังกัดแกรมมี่ฯ ภายหลังมีเพศสัมพันธ์กระทั่งมีบุตรออกมาด้วยกันหนึ่งคนคือ "น้องจัสติน" ซึ่งขณะนี้มีอายุได้ 4 เดือน ทว่าฝ่ายชายไม่ยอมรับกระทั่งนำมาซึ่งการท้าพิสูจน์ตรวจดีเอ็นเอเพื่อหาความจริงเมื่อทางโฆษกของโรงพยาบาลตำรวจได้ออกมาเปิดเผยผลการตรวจอย่างไม่เป็นทางการในช่วงค่ำของวานนี้(9)ว่า ดีเอ็นเอไม่มีความสัมพันธ์กัน

ทั้งนี้นางแบบสาวได้แสดงความคิดเห็นต่อผลตรวจที่ออกมาด้วยความเสียใจว่า ตนยากที่จะทำใจยอมรับผลการตรวจที่ว่านี้เนื่องจากมีพิรุธและเงื่อนงำมากมาย โดยเจ้าตัวเผยว่าตนเองเพิ่งจะไปให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการเจาะเลือดเมื่อวันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา และทางเจ้าหน้าที่ได้บอกว่าจะรู้ผลอีกทีในอีก 3 สัปดาห์ข้างหน้า แต่กลับกลายเป็นว่ามีข่าวออกมาในวันนี้และเป็นตนที่รู้ผลหลังใครเพื่อน

"เสียใจมาก ไม่เชื่อผลตรวจครั้งนี้ มันเป็นไปไม่ได้ หนูมั่นใจ 100% ว่าเป็นลูกแด๊ก สัญชาติญาณความเป็นแม่หนูรู้ดี เชื่อว่ามันมีเงื่อนงำ มันเหมือนเค้าเจตนา ศาลนัดแด๊กไปฟังข้อกล่าวหาวันที่ 10 พ.ค. แต่อยู่ๆ ผลตรวจออกมาวันที่ 9 ว่าไม่ใช่ แล้วหนูเพิ่งพาลูกไปตรวจวันที่ 4 เอง เจ้าหน้าที่ที่สถาบันนิติเวชยังบอกเลยว่าอีก 3 อาทิตย์ถึงจะรู้ผล ตอนนั้นหนูยังเร่งเขาเลยว่าเร็วกว่านี้ได้มั้ยเขายบังบอกว่าไม่ได้ งานที่สถาบันเยอะต้องตามขั้นตอน"

"เขาบอกผลเป็นย่างไรจะโทรบอกหนูเป็นคนแรก แต่กลายเป็นว่าคนที่รู้สุดท้ายเป็นหนู วันนี้ตอนเช้านักข่าวโทรมาถามเยอะมากว่าผลออกแล้วหรือ หนูเลยโทรไปถามเจ้าหน้าที่ที่สถาบันเขาบอกว่ายังไม่ออกอีกนาน จนต้องโทรไปถามผู้กองที่รับผิดชอบคดีของหนูว่าเป็นแบบนี้มันมีผลกับคดีหรือเปล่า ผู้กองก็บอกอย่าเพิ่งไปเชื่อเพราะทางสถาบันเขาก็ยืนยันมาแล้ว แต่หนูก็ไม่มั่นใจก็เลยโทรไปถามอีกตอนเย็น อำเจ้าหน้าที่ที่สถาบันว่าบอกมาเถอะหนูรู้แล้ว นักข่าวบอกหนูแล้ว เขาถึงยอมบอกว่าผลออกแล้วจริงๆ ว่าไม่ใช่ลูกแด๊ก"

ออกอาการงงพร้อมแสดงความตัดพ้อไม่ได้รับความยุติธรรมแม้จะทำใจล่วงหน้าว่าผลนั้นอาจจะออกมาในลักษณะเช่นนี้
"หนูงงมาก เหมือนเขากำลังเล่นอะไรกันอยู่ ครั้งนี้มันไม่ยุติธรรมสำหรับหนูกับลูกเลย หนูจะเชื่อได้หริอว่าเลือดที่เอาไปตรวจเป็นเลือดแด๊ก จริงๆ หนูก็ทำใจไว้อยู่แล้วว่าจะต้องเป็นอย่างนี้ถ้ารู้จักนิสัยแด๊กดีว่าเขาเป็นคนอย่างไร พูดไปก็จะหาว่ากล่าวหาเขาอีก แต่หนูคิดแบบนี้จริงๆ ว่ามันต้องเป็นแบบนี้ หนูไม่ได้โกหกใคร หนูอ่านเกมออกตั้งแต่แรก ถ้าหนูโกหกหนูจะกล้าเอาลูกไปตรวจหรือ คงไม่กล้าเอาอนาคตลูกไปเสี่ยงแบบนั้นหรอกถ้าไม่แน่ใจจริงๆ"

"ตอนไปตรวจเขาก็ขอร้องไม่ให้หนูบอกนักข่าว บอกทางโน้นขอความร่วมมือมา หนูก็เชื่อ ทำตามไปโดยไม่บอกใคร แต่พอผลออกมาว่าไม่ใช่ เขากลับนัดแถลงข่าวโดยที่ไม่บอกหนูสักคำ หนูรู้คนสุดท้าย"

ฝ้ายบอกต่อไปว่าเมื่อผลออกมาเป็นเช่นนี้ตนก็คงจะไม่มีสิทธิ์ที่จะทำอะไรทั้งที่อยากให้มีการตรวจอีกครั้งแบบไปพร้อมกัน 3 คน พ่อ แม่ ลูก ส่วนเรื่องคดีความทั้ง 2 คดี (พรากบุคคลอายุกว่า 15 ปี ไม่เกิน 18 ปี ไปจากบิดามารดาเพื่อการอนาจารและข้อหาพาบุคคลอายุกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปีไปเพื่ออนาจารแม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม) ก็คงจะปล่อยให้เป็นหน้าที่การพิจารณาของศาล ก่อนจะยืนยันว่า"น้องจัสติน" เป็นลูกของนักร้องดังอย่างแน่นอนไม่เชื่อให้มาดูหน้าได้เลย

"ตอนนี้ยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำอย่างไร เครียดมากๆ ใจจริงอยากให้มีการตรวจอีกครั้ง นัดไปพร้อมกันทั้งสามคนเลย แต่ไม่รู้เขาจะยอมหรือเปล่า ถ้าเขาไม่ยอมมันก็น่าคิดอยู่ว่าเขากลัวความจริงหรือเปล่า แต่ถึงเขาไม่ยอมหนูก็คงไม่มีสิทธิ์ทำอะไรเขาได้ เหมือนหนูโดนรังแก แบบนี้ก็เหมือนหนูโดนประณาม หนูก็ต้องโดนสังคมประณามว่าหนูพูดโกหกเพราะผลมันออกมาเป็นอย่างนั้น"

"หนูสงสารลูก เกิดมาหน้าเหมือนพ่อเลย แต่ผลตรวจกลับบอกว่าไม่ใช่ พูดมากก็ไม่ได้ จะหาว่าไปกล่าวหาเขาอีก หนูไม่รู้ว่า เขาเอาเลือดแด๊กไปตรวจจริงหรือเปล่า หรือเขาอาจจะเปลี่ยนเลือดหนูกับลูกก็ได้ อันนี้หนูพูดตามความคิดหนูนะ แต่ถ้าพูดอะไรออกไปก็จะหาว่าหนูเรื่องมากอีก"

"หนูไม่รู้จะเชื่อใครได้ ผลที่ออกมามันยุติธรรมกับหนูหรือเปล่า เป็นจริงหรือเปล่าหนูยังไม่รู้เลย แล้วใครยืนยันกับหนูได้บ้างล่ะ ตอนนี้ก็คงแล้วแต่ใครจะมองแล้วล่ะ เลือดมันบอกไม่ใช่ แต่มาดูหน้าจัสตินเองเหมือนพ่อเป๊ะ ไม่รู้ว่าคนอื่นคิดยังไง เขาจะเชื่อหนูหรือเปล่าตอนนี้ก็ไม่แน่ใจแล้ว หนูกดดันมากเลยตอนนี้ ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไปดี ก่อนหน้านี้มีแต่คนห้ามไม่ให้หนูพูด บอกให้เงียบ พอหนูเงียบก็หาว่าหนูหนี พอถึงวันนี้ จะลุกขึ้นมาพูดจะมีใครเชื่อหรือเปล่าก็ไม่รู้"


´ฝ้าย´ ขอตรวจดีเอ็นเอใหม่ วอนอย่าป้องคนผิด ด้าน "แด๊ก บิ๊กแอส" รับคำ เผยรู้สึกโล่งใจสุดๆ

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 10 พฤษภาคม 2549 19:55 น.

นางแบบสาวไม่ยอมรับผลการตรวจดีเอ็นเอจากตำรวจระบุ "น้องจัสติน" ไม่ใช่ลูกชาย "แด๊ก บิ๊กแอส" วอนขอความเห็นใจอย่าปกป้องคนผิดก่อนเผยอยากตรวจใหม่พร้อมกัน 3 คน เจ้าตัวแฉนักร้องดังสุดเจ้าชู้จูบสาวต่อหน้าต่อตายังบอกไม่มีอะไร ลั่นใครเป็นอย่างไรย่อมรู้อยู่แก่ใจ ด้านนักร้องดังรับคำท้า เผยรู้สึกโล่งใจหลังตกเป็นจำเลยสังคมมานาน ส่วนแกรมมี่ฯ โต้ จะเอาเงินที่ไหนไปล็อบบี้

ภายหลังการออกมาแถลงข่าวของเจ้าหน้าที่ตำรวจในช่วงเช้าที่ผ่านมาของวันนี้(10)นำโดย พล.ต.ท.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช ผช.ผบ.ตำรวจแห่งชาติ พร้อมทั้ง พล.ต.ต.นพ.สมยศ ดีมาก โฆษก รพ.ตำรวจ และผอ.นิติเวช ถึงผลการตรวจดีเอ็นเอของนักร้องชื่อดัง แด๊ก บิ๊กแอส และ น้องฝ้าย ฟารีดา หรือ สุวรรณรี ไชยมงคล และ น้องจัสติน บุตรชาย โดยระบุว่านักร้องดังนั้นไม่ได้เป็นพ่อของเด็กตามข้อสงสัยของนางแบบสาวแต่อย่างใดนั้น

ในส่วนของนางแบบสาวเอง ซึ่งวันวาน(9)ที่ผ่านมาได้ให้สัมภาษณ์อย่างไม่ยอมรับผลการตรวจที่ออกมาก็ยังคงยืนยันเช่นเดิม โดยเจ้าตัวบอกว่าอยากให้มีการตรวจดีเอ็นเออีกครั้งพร้อมๆ กัน 3 คน พ่อ แม่ ลูก ซึ่งหากผลออกมาเหมือนเดิมตนเองก็พร้อมที่จะยอมรับ

"หนูไม่เชื่อ คิดว่าครั้งนี้มันไม่ยุติธรรม เพราะไม่ได้ตรวจพร้อมกัน 3 คน พี่ที่สถาบันเป็นคนบอกหนูจะรู้ผลเป็นคนแรก แต่สุดท้ายหนูกลับเป็นคนสุดท้ายที่รู้ วันที่ 10 แด๊กจะต้องรับฟังข้อกล่าวหา แต่มันเหมือนเค้าเจตนาให้ผลออกก่อน คือให้มาออกวันที่ 9 พวกเค้าทำอะไรกัน หนูอยากจะขอร้องผู้ใหญ่น่ะคะ อย่าปกป้องคนผิดเลย สงสารหนูกับลูกเถอะ หนูอยากพาจัสตินไปตรวจอีกครั้งหนึ่ง ถ้าถึงวันนั้นหนูกล้าที่รับความจริงแล้ว

"อยากตรวจพร้อมกัน 3 คน และขอให้พี่สื่อมวลชนมาเป็นพยานให้หนูด้วย และไม่อยากตรวจที่นิติเวชแล้ว...ถ้าผลตรวจออกมาไม่ใช่อีกหนูก็พร้อมจะรับตรงนั้น กล้าที่จะเผชิญความจริง แล้วหนูก็คงจะต้องก้มหน้าก้มตาเลี้ยงจัสตินต่อไป เลี้ยงลูกของหนูให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้

"อยากให้เร็วๆ นี้ เพราะหนูก็อยากพิสูจน์ความจริงให้ทุกคนรู้ แต่ยังไงก็ขอตรวจ 3 คน ถ้าเกิดไม่ยอมหนูก็สุดแท้แต่บุญวาสนาของกันนะลูกนะแม่ก็ทำดีที่สุดแล้ว...(ก้มลงไปจูบลูกพูดกับลูก) หนูสงสารลูกอยากจะบอกว่าสิ่งที่หนูกำลังทำอยู่ สิ่งที่หนูพูดออกไป มันคือความจริงแต่ไม่มีใครเชื่อหนูเลย...(ร้องไห้) หนูก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน

ส่วนเรื่องที่ฝ่ายชายเคยบอกเอาไว้ว่าหากผลที่ออกมาไม่ใช่ลูก ตนเองก็พร้อมที่จะรับผิดชอบนั้นเรื่องนี้ฝ้ายบอกว่าไม่จำเป็น ส่วนเรื่องคดีความก็คงจะต้องว่ากันไปตามพยานหลักฐาน

"ไม่เป็นไรค่ะ...(กระแทกเสียง) เก็บความหวังดีของเค้าไว้เถอะ มันสายไปแล้ว มันไม่จำเป็นสำหรับชีวิตหนูแล้ว ถึงแม้จะใช่หนูก็ไม่ต้องการแล้ว ที่ออกมาทุกวนนี้ไม่เคยต้องการเงินจากเค้าซักบาทเดียว เพราที่ผ่านมาก็ไม่เคยได้รับเงินจากเค้าอยู่แล้ว"

"เรื่องคดีก็ต้องดำเนินต่อไป แต่หนูก็ไม่ทราบเหมือนกันมีผลต่อรูปคดีหรือเปล่า แต่หนูก็ไม่เข้าใจอยู่ดีว่าเจตนาให้ออกวันที่ 9 ด้วย ทีตอนนั้นหนูขอให้เร่งตรวจให้หนูหน่อย เค้าก็บอกว่า 3 อาทิตย์ แต่อยู่ๆ ผลมาออกวันที่ 9 โดยไม่แจ้งหนูเลย พวกพี่นักข่าวรู้ก่อนหนูด้วยซ้ำ แล้วทำไมดีเอ็นเอที่ตรวจบอกว่าใช่ 7 จุด ไม่ใช่ 9 จุด หนูก็ไม่รู้มันหมายถึงอะไร หนูไม่ได้เป็นแพทย์ หนูก็ไม่รู้ว่ามันหมายถึงอะไร ถ้าไม่ใช่ลูกเขามันก็น่าจะไม่ใช่ซักจุดไม่ใช่เหรอ หนูก็ไม่เข้าใจเหมือนกันตรงนี้ เพราะตอนไปตรวจเจ้าหน้าที่ก็ไม่อธิบายอะไรเลย

"แต่นี่หนูก็ไม่ได้กล่าวหาใครนะคะ หนูก็ไม่โทษใคร แต่หนูขอแค่ความยุติธรรม ถึงตอนนี้ความจริงเป็นไงหนูก็ไม่รู้แต่มันเป็นความคิดของเด็กโง่ๆ คนหนึ่งคือหนูก็คิดของหนูแบบนี้ค่ะ ถ้าจะต้องไปตรวจอีกทีก็คงต้องปรึกษาเร็วๆ นี้

ยืนยันที่ผ่านมาตนคบกับหนุ่มแด๊กเพียงคนเดียว และที่ทำทั้งหมดนี้ก็เพื่อเรียกร้องหาความยุติธรรมกับความถูกต้อง
"มีแด๊กคนเดียวค่ะ ทุกวันนี้หนูทำเพื่อความถูกต้อง ถึงแม้ความจริงของหนูมันจะไม่สวยงามเท่าไหร่ (มีข่าวออกมาว่าช่วงคบกับแด๊กก็มีหนุ่มคนอื่นเหมือนกัน จริงหรือเปล่า?)...นั่นมันคืออดีตของหนู แต่หนูยืนยันนะว่าตอนคบกับแด๊กหนูอยู่กับแด๊กคนเดียว ไม่เคยมีความสัมพันธ์กับชายคนไหนเลย

"ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำไปมันคือความจริง ถ้าไม่มั่นใจไม่แน่ใจหนูไม่เอาอนาคตหนูกับลูกไปแลกหรอก ถ้าแลกไปแล้วไม่ได้อะไรกลับมากับชีวิต หนูก็คงไม่ทำ ส่วนที่ทางสถาบันบอกว่าถ้าผลตรวจครั้งนี้ผิดพลาดจะขอปิดสถาบัน หนูก็ไม่ได้คิดยังไง หนูบอกแค่ว่าหนูไม่ได้กล่าวหาว่าสถาบันเค้าตรวจผิดพลาดนะคะ หนูแค่อยากขอความยุติธรรม อยากขอตรวจพร้อมกัน 3 คนอีกครั้ง เรื่องผิดพลาดหรือไม่ผิดพลาดนั้นหนูไม่ได้กล่าวหาเลย หนูแค่อยากตรวจพร้อมกัน 3 คนขอความชัดเจนเท่านั้นเอง

เผยไม่เคยคิดจะเข้าวงการบันเทิงเพราะกลัว ส่วนมูลนิธิปวีณาที่ออกมาเป็นธุระให้ในเบื้องต้นตอนนี้ก็ไม่ได้ช่วยเหลืออะไรมากมาย แต่มั่นใจไม่โดนลอยแพแน่
ไม่ค่ะ ไม่เอาแล้ว กลัวเจ็บมากๆ ขออยู่ของหนูเงียบๆ ดีกว่า กลัววงการนี้ ตอนนี้หนูยังไม่ได้ทำงาน แม่ทำคนเดียวแต่ก็พอเลี้ยงจัสตินได้ ไม่เหลือบ่ากว่าแรง ส่วนมูลนิธิ ตอนนี้ยังไม่ได้ช่วยเหลืออะไร แต่มีโทรมาถามบ้าง แล้วตัวหนูเองก็ยังไม่ได้โทรไปปรึกษาทางโน้นด้วยเหมือนกัน เขาจะทิ้งมั้ย หนูไม่ได้คิดถึงขนาดนั้น ไม่ได้คิดว่าเค้าจะปล่อยเราขนาดนั้น เพราะที่ผ่านมาเค้าก็ช่วยเหลือเรามาตลอด

กับเรื่องที่ได้มีการเผยแพร่ภาพของฝ่ายชายพัวพันอยู่กับสาวคนหนึ่งนั้นฝ้ายบอกว่าโดยส่วนตัวรู้จักผู้หญิงคนนั้นดี พร้อมแฉความเจ้าชู้ของฝ่ายชายเคยจูบหญิงต่อหน้าต่อตา ก่อนทิ้งท้ายฝากท้าหนุ่มแด๊กออกมาตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอใหม่พร้อมๆ กัน 3 คน ลั่นใครทำอะไรย่อมรู้อยู่แก่ใจดี

"รู้จักตั้งนานแล้วว่าเขามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกัน รู้จักดีด้วย รู้สึกว่าจะเป็นดีเจที่ร้านกระฉูด ชื่อจ๋า ตอนที่เขาจีบกันวันแรกฝ้ายก็อยู่ด้วย รับรู้ทุกอย่างในสิ่งที่เขากระทำ แต่ตอนนั้นบอกตัวเองว่าไม่เป็นไร เพราะเรารักเขา เคยเห็นเขาเคยจีบกันระหว่างคบเป็นแฟนกับฝ้ายอยู่ แต่ก็เพราะรู้ว่านิสัยเค้าเป็นแบบนี้

"ตอนนี้รู้สึกเฉยๆ แล้ว เหมือนแก้วที่มันร้าวจะมาติดมาประกอบใหม่ไม่ได้แล้ว...ไม่ถึงกลับเกลียด เพียงแต่ว่าไม่อยากเจอกันอีกต่อไปเลย มันเสียใจคนเคยรักกันเคยบอกว่ารักอย่างโน่น รักอย่างนี้ ไม่มีผู้หญิงคนไหนหรอก ที่จะทนยืนเห็นพี่แด๊กจูบปากกับผู้หญิงคนอื่น ตอนนั้นเขาจูบกันหน้าร้านกาแฟหรือร้านนมอะไรซักอย่างที่ลาดพร้าวซอย 2 ผู้หญิงคนนั้นขับวอลโว่ รู้สึกจะเป็นลูกนายพลหรือลูกตำรวจนี่แหละ"

"วันนั้นพี่ตูน (บอดี้สแลม) ก็ไปด้วย ฝ้ายยังยืนดูเขาจูบกันอยู่เลย ทั้งจูบทั้งกอดฟัดเหวี่ยงกัน เพื่อนในวง (บิ๊กแอส)เขาก็เห็น ร่ำลากันเสร็จแล้วเขาก็เดินมากอดฝ้ายบอกว่าอย่าคิดมากนะเรารักเธอนะ เธอจะรักเราได้เหรอ เราเกเรขนาดนี้ แต่ก็ไม่เป็นไร เรารักเขาก็ทนได้ เขาเจ้าชู้ เขาเห็นแก่ตัวเองมากกว่าเห็นแก่คนอื่น

"คือถ้าแน่จริงก็ออกมาตรวจพร้อมกันเลย 3 คนดีกว่าคุณพูดอยู่แบบนั้นแต่ไม่ยอมออกมาซักที มันไม่ได้ช่วยอะไรเลย ถ้าคุณมั่นใจว่าคุณไม่ใช่พ่อของเด็ก คุณก็ออกมาเลย...หนูไม่เรียกร้องอะไรทั้งนั้น แค่อยากให้สังคมรับรู้ ในเมื่อในจิตใจเขาไม่ต้องการหนูกับลูกหนูก็ไม่ต้องการเขาเหมือนกัน ที่ออกมาก็ไม่ใช่เพราะเขาเป็นบิ๊กแอสด้วย"

"ถ้าแด๊กไม่ใช่บิ๊กแอสเขาก็เป็นผู้ชายธรรมดาๆ คนหนึ่งนี่แหละ ชีวิตหนูน่าจะมีค่ามากกว่านี้ ไม่น่าต้องมานั่งเป็นข่าวแบบนี้ แต่ถ้าไม่ใช่ก็ถือว่าเป็นเวรกรรมของหนูก็ยินดีที่จะรับผลนั้น ขออย่างเดียวอย่ามาพูดข้างๆ คูๆ ว่ามีความสัมพันธ์อะไรกัน คนอื่นไม่รู้ แต่ตัวคุณน่ะรู้ดีอยู่แก่ใจ"

ทั้งนี้ในส่วนของนักร้องดัง "แด๊ก บิ๊กแอส" ซึ่งได้จัดแถลงข่าวที่ตึกจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ฯ ตันสังกัดในช่วงเย็นที่ผ่านมาเปิดเผยว่า ที่ผ่านมาตนต้องตกเป็นจำเลยของสังคมมาโดยตลอดว่าเป็นผู้ชายที่ไม่มีความรับผิดชอบบ้าง เป็นพ่อที่ไม่รักลูกบ้าง ซึ่งเมื่อการตรวจออกมาเช่นนี้จึงทำให้ตนเองรู้สึกสบายใจมากๆ ส่วนกรณีที่อีกฝ่ายต้องการอยากจะให้มีการตรวจใหม่นั้น นักร้องดังเผยว่าตนยินดีและพร้อมเสมอเพื่อความสบายใจของทุกๆ ฝ่าย

คำตอบที่ได้ก็ดูจากข่าวก็มีอย่างหนึ่งที่คาใจ ข้อเท็จจริงมันเป็นยังไง ยินดีเพื่อความสบายใจของทุกๆฝ่ายจะไปตรวจที่ไหนยังไงก็รออีกทีหนึ่งแต่ผมยินดีทุกที่แหละ จริงๆ ไม่ต้องหมอพรทิพย์ก็ได้ ผมว่านิติเวชก็เป็นหนึ่งในกระบวนการยุติธรรมที่น่าเชื่อถือ ตรวจที่ไหนก็ได้ ผมยินดีเพื่อความสบายใจของทุกคน

จริงๆ ผมก็เห็นใจน้องฝ้ายเค้านะครับ ถ้าจะให้ช่วยเหลืออะไรก็บอกมาแล้วกัน ผมไม่ใช่คนใจร้ายใจดำอะไรขนาดนั้น (จะโดนมองว่าสร้างภาพรึเปล่า?) พูดจริงๆ หน้าตาผมยังงี้ผมไม่ได้ชั่วร้ายนะครับ ไม่รู้จะตอบยังไง หลายๆ คนที่รู้จักผมก็น่าจะรู้ว่าผมเป็นคนยังไง การช่วยเหลือกันมันเป็นสิ่งที่ดีที่ควรช่วยเหลือกกันครับ

ส่วนกรณีที่ว่าทำไมการตรวจครั้งนี้ ทั้งแด๊ก, ฝ้ายและน้องจัสตินถึงไม่ไปเจาะเลือดพร้อมๆ กันกระทั่งกลายเป็นประเด็นที่หลายคนสงสัยว่าผลของการตรวจดีเอ็นเอในครั้งนี้ดูจะไม่โปร่งใสนั้น เรื่องนี้นักร้องหนุ่มบอกว่าเป็นเพราะการนัดหมายที่คลาดเคลื่อน ขณะที่นาย วิเชียร เลิศไพศาล กรรมการผู้จัดการบริษัทจีนี่เรคคอร์ดบอกว่าเรื่องที่ทางแกรมมี่เองจะไปจ่ายเงินเพื่อล็อบบี้ผลนั้นเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน

"เท่าที่ฟังการแถลงข่าวก็จะเป็นว่าเค้าเอาตัวสถาบันเค้ามารับประกัน มันเป็นเรื่องที่ตลกมาก ถ้ามีคนคิดแบบนั้น นิติเวช เป็นสถาบันที่เราเชื่อถือเราก็ไปตรวจ สถาบันตอบไปแล้วว่ายังไงผมคงไม่อยากพูดซ้ำอีก เอาเงินมากเท่าไหร่ล่ะครับไปซื้อสถาบันนิติเวช แล้วถ้าตรวจอีกครั้งเป็นลูกแด๊กจริงๆ ทางสถาบันนิติเวชก็ต้องผิดก่อน

สำหรับภาพของนักร้องดังกับสาวในผับนั้นหนุ่มแด๊กยืนยันว่าเป็นแค่แฟนเพื่อน ส่วนคดีพรากผู้เยาว์ยังก็อยู่ในขั้นตอนของศาล ก่อนจะบอกว่าภายในปีนี้อาจจะได้ฟังเพลงที่มาจากจากมุมหนึ่งของชีวิตตนกับเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน
จากในหนังสือพิมพ์ใช่มั้ยครับ จริงๆ วันนั้นมันเป็นวันเกิดของร้านย่านนวมินทร์ น้องคนนั้นเค้าเป็นแฟนเพื่อนผม มันเป็นจังหวะที่เราอยู่ในงาน จะให้พูดมันก็แค่นั้นแหละครับ เค้าเป็นแฟนเพื่อนที่ทำงานที่นั่น เรื่องคดี ตอนนี้เป็นทางกระบานการทางนั้น ผมไม่รู้ ก็คงต้องไปทางนั้นแหละครับ มอบหมายให้เค้าทำ สำหรับตัวผมผมว่ามันคลี่คลายแล้ว ทุกอย่างเป็นสิ่งที่ทุกคนอยากรู้มากกว่า สำหรับผมผมรู้แล้วว่ายังไง หลายๆ คนเข้าใจผม ยืนข้างผม ผมมายืนจุดนี้ ผมเจออะไรมาเยอะ รู้ว่ามันต้องเจออะไรบ้าง ผมโชคดีที่มีกำลังใจหลายสิ่งอย่างล้อมรอบ เวลาลำบากเราจะรู้ว่าใครดีกับเรา

ส่วนที่อีกฝ่ายไม่เชื่อผลการตรวจ ก็หลายสิ่งหลายอย่างก็ฝากพี่ๆ ทุกคนด้วยแล้วกัน และก็น่าเห็นใจน้องเขา...เรื่องตรวจใหม่ ไม่มีปัญหาครับ ผมยินดีจะทำทุกอย่างให้มันดีต่อทุกฝ่ายถ้าจะตรวจอีกครั้งเพื่อความสบายใจผมก็สามารถทำได้...เรื่องฟ้องจะฟ้องกลับผมเคยพูดหลายครั้งแล้วไม่ว่าผลจะเป็นยังไง ผมก็แค่อยากรู้ว่ามันเป็นอย่างไร แค่นั้นครับ

หลังจากสบายใจผลงานก็ต้องเดินหน้าต่อไป มีอะไรหลายอย่างอยากจะเล่าในเพลง คงเป็นมุมมองในช่วงชีวิตที่ผ่านมา คงได้ฟังกันแน่นอน คงปีนี้แหละครับ


ตำรวจแห่งชาติแถลงเอง ยันตรวจดีเอ็นเอ "แด๊ก" โปร่งใส

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 10 พฤษภาคม 2549 12:53 น.

ตำรวจแถลงข่าวผลตรวจดีเอ็นเอนักร้องดังค่ายแกรมมี่ฯ "แด๊ก บิ๊กแอส" อย่างเป็นทางการระบุไม่ได้เป็นพ่อ "น้องจัสติน" ลูกชายนางแบบสาววัย 17 "ฝ้าย สุวรรณรี" ยืนยันการทำงานเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ไม่มีการล็อบบี้ พร้อมท้าพิสูจน์จะตรวจกี่ครั้งผลก็ออกมาเหมือนเดิมอย่างแน่นอน

เช้าวันนี้ (10พ.ค.) เวลา 10.00 น. พล.ต.ท.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช ผช.ผบ.ตำรวจแห่งชาติ พร้อมทั้ง พล.ต.ต.นพ.สมยศ ดีมาก โฆษก รพ.ตำรวจ และผอ.นิติเวช ได้ออกแถลงข่าวอย่างเป็นทางการถึงผลการตรวจดีเอ็นเอของนักร้องชื่อดัง แด๊ก บิ๊กแอส และ น้องฝ้าย ฟารีดา หรือ สุวรรณรี ไชยมงคล และ น้องจัสติน บุตรชาย โดยผลที่ออกมาระบุว่านักร้องดังนั้นไม่ได้เป็นพ่อของเด็กตามข้อสงสัยของนางแบบสาวแต่อย่างใด

จากการที่ตรวจดีเอ็นเอ 6 ตำแหน่งของเด็กชายธนโชติ ไชยมงคล กับนาวสาวสุวรรณรี ไชยมงคล ตรวจตรง 16 จุด และนายเอกรัตน์ วงศ์ฉลาด ตรงแค่ 7 จุดไม่ตรง 9 จุด ทางนิติวิทยาศาสตร์ไม่ยอมรับเป็นพ่อแม่ลูกกัน"

ส่วนกรณีที่ทางฝ่ายนางแบบสาวได้ออกมาตั้งข้อสงสัยถึงผลการตรวจในครั้งนี้ว่ามีพิรุธตั้งแต่เรื่องที่แยกกันตรวจเลือดคนละวัน การแจ้งผลการตรวจที่เร็วกกว่าปกตินั้น เรื่องนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่าการทำงานนั้นเป็นไปตามขั้นตอนทุกอย่าง พร้อมกับยังบอกด้วยว่าหากฝ่ายไหนมีความต้องการที่จะให้ตรวจอีกครั้งทางสถาบันนิติเวชก็พร้อมที่จะยินดี

"พนักงานสอบสวนไม่ได้ส่งเข้ามาตรวจเอง เป็นทาง ปดส. ส่งมาตรวจ เค้ามีสิทธิ์ที่จะมาตรวจเมื่อไหร่ก็ได้ 10 ปีก็ยังได้ผลเหมือนกัน ไปตรวจที่ไหนก็เหมือนกัน ถ้าเค้าจะไปตรวจที่อื่นเราก็ยินดี สถาบันนิติเวชต้องการให้ความยุติธรรมกับประชาชน แต่ถ้าเค้าอยากไปตรวจกับสถาบันอื่นไม่ว่าจะเป็นสถาบันที่เป็นมหาวิทยาลัย หรือ นิติวิทยาศาสตร์ก็ได้ จะเอา 3 คนนี้มาตรวจต่อหน้าสื่อมวลชนก็ยินดี เลือดนี้เป็นของนักร้องคนนั้นแน่นอน เราสามารถพิสูจน์ต่อหน้าเลยก็ได้

นายเอกรัตน์เอาเลือดมาตรวจตั้งแต่ มีนาคม เราส่งผลตรวจนั้นไปให้กับแกรมมี่ ก่อนที่นางสาวสุวรรณรีจะเข้ามาตรวจกับเราเมื่อวันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา ฉะนั้นเลือดนี้เป็นเลือดของแด๊กแน่นอน ในการตรวจเลือดก็สามารถใช้เวลา 1 วันก็สามารถทราบผลได้ เราได้ทำการตรวจซ้ำถึง 3 ครั้งยังไงผลไปตรวจที่อื่นก็ยังจะออกมาแบบนี้

สำหรับกรณีล็อบบี้ผลหรือการติดสินบนนั้นทางสถาบันนิตเวชยืนยันหนักแน่นว่าเป็นไปไม่ได้แน่นอน พร้อมท้าหากไปตรวจที่อื่นผลก็ต้องออกมาเป็นเช่นนี้ ก่อนชี้แจงผลการตรวจในครั้งนี้จะไม่มีผลต่อคดีพรากผู้เยาวว์ของนักร้องดังอย่างแน่นอน
"ในขณะนี้สถาบันนิติเวช กำลังเป็นสถาบันที่มีความเป็นเลิศทางวิทยาการ สิ่งใดที่ขัดข้องหมองใจประชาชนไม่พอใจสามารถร้องเรียนได้ ยืนยันได้ว่าบุคลากรสถาบันนิติเวชทุกคนมีความบริสุทธิ์ เราไม่มีความจำเป็นไปรับสินบนของใคร ไปตรวจที่ไหนผลก็ต้องออกมาแบบนี้ ถ้าไม่ออกแบบนี้ก็ต้องเปลี่ยนสถาบันกันไปเลย

มันมีผลทางคดีแน่นอน แต่ในเชิงผลพ่อแม่ลูก ส่วนกับคดีพรากผู้เยาว์มันคนละกรน๊ กรณีพิสูจน์พ่อแม่ลูกมันกรณีทางแพ่งมันต้องมีค่าเลี้ยงดู แต่พรากผู้เยาว์เป็นอาญา ขอเรียนซ้ำว่าทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยินดีให้ทั้ง 3 คนมาตรวจดีเอ็นเอพร้อมกัน จะมาเมื่อไหร่ก็ได้ ถ้าพร้อมจะตรวจพร้อมๆ กันครับ


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์