ว่าที่เจ้าบ่าวไต้ฝุ่นเผยสาเหตุที่ไม่เปิดตัวแฟน จนถูกมองว่าเป็นเกย์
เพิ่งขอแต่งงานกันเมื่อเดือนที่แล้ว?
ไต้ฝุ่น : ใช่ครับ
หลังจากคบกันมากี่ปี?
ไต้ฝุ่น : 10 ปีครับ
เพิ่งเปิดตัวครั้งแรกในรายการ คุยแซ่บshow ทำไมเลือกเปิดตัวนิว?
ไต้ฝุ่น : เหมือนเราขอเขาอย่างเป็นทางการ แล้วรู้สึกว่าเป็นการให้เกียรติเขา แล้วอยากให้ทุกคนรู้ว่านี่คือว่าที่ของเราแล้วนะ
บรรยากาศการขอวันนั้นเป็นยังไงบ้าง?
ไต้ฝุ่น : วันนั้นน่ารักแล้วตลกด้วย เราไป 2 ประเทศ ตุรกีกับจอร์เจีย แล้วแผนที่เราตั้งไว้ว่าจะขอวันนี้ ๆ แต่พอไปเที่ยวจริง ๆ มันจะมีหลายอารมณ์เข้ามา เหนื่อย มีนู้น มีนี่ แล้วเราก็บอกเขาไม่ได้ เราก็คิดว่าเขาจะเตรียมพร้อมไหมกับการที่เราจะต้องถ่ายวีดิโอด้วย เราตั้งใจไว้ว่าจะขอที่จอร์เจีย ซึ่งจุดนั้นเราเห็นแค่ในภาพที่เขารีวิวกันแล้วรู้สึกว่ามันเป็นที่ที่น่าประทับใจ
นิว : มันเป็นวันธรรมดาทั่วไปที่ไปเที่ยว แล้วโรงแรมนี้มีทุกอย่างอยู่ในโรงแรมหมดเลย หนูตั้งใจว่าตอนเช้าจะไปแช่ตัวไปว่ายน้ำ ไปถ่ายรูปใด ๆ ภาพที่เห็นคือสภาพที่หนูไม่ได้ทำผมใด ๆ เลย แล้วเขาหลอกหนูว่าก่อนกลับเดี๋ยวเราถ่ายรูปรวม แล้วแว่นอันนั้นก็ยืมแม่ เพราะแดดมันแรง ซึ่งแม่ก็ทำหน้าอึ้งๆ แม่คงอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แบบเดี๋ยวเขาจะขอแต่งงานนะ อย่าใส่แว่นเลย อยากให้เห็นแววตา แต่หนูหน้าก็ไม่ได้แต่งไง เป็นบุญเหมือนกันที่ยืมแว่นแม่
พอเขาคุกเข่ารู้สึกยังไง?
นิว : ตกใจ คือช็อกไปเลย เธอเอาจริงเหรอ เพราะหนูไม่ได้คิดว่ามันจะมีภาพนี้ เพราะหนูคิดน่าจะประมาณอีกสัก 2 ปี
เห็นว่าพอคุกเข่าขอแต่งงาน น้องนิวปฏิเสธ?
นิว : มันไม่ได้เชิงปฏิเสธขนาดนั้น เหมือนแบบเธออย่าทำไปเรื่อย ไม่ ๆ
ไต้ฝุ่น : ถอยไปเรื่อย ๆ พอเราคุกเข่า เขาก็บอกว่าเธอว่าไปเรื่อย ไม่เอา แล้วถอยไปเรื่อย ๆ ในโมเมนต์นั้นเราตกใจเหมือนกันว่า หรือจะเหมือนหลาย ๆ คู่ที่เขาลงกันว่าไม่พร้อม อย่ามาขอ
นิว : แล้วหน้าเขาเสียแล้ว
ไต้ฝุ่น : นึกในใจไม่เอาอะไรวะ แต่เขาแค่ช็อกเฉย ๆ ว่าอะไร
คู่นี้พีคสุดตอนวัดนิ้ว?
ไต้ฝุ่น :ปกติไปวัดที่ร้านแหวน หรือหลอกไปร้านแหวน แล้วเขาเป็นคนไม่ค่อยใส่แหวน ก็เลยสั่งจากออนไลน์มาเป็นเหมือนเข็มขัดรัดแหวน ตอนเขาหลับ เราก็เล็งก่อนแล้ว วันนั้นเป็นใจมากเลย แล้วก็วัด ครั้งแรกแน่นไป ดึงไม่ออก เลยตัดสินใจดึงอีก รอบนี้ตื่นก็ตื่น แต่เขาก็ยังไม่ตื่น ก็เลยเอาออกหน่อย ใส่เข้าไป อ่อโอเค ไซต์นี้
แพลนแต่งงานล่ะ?
ไต้ฝุ่น : ผมคิดว่าน่าจะปีหน้าเป็นต้นไป เราสองคนเหมือนค่อย ๆ สร้างตัว คิดว่าการแต่งงานต้องใช้เงินเยอะ
ไต้ฝุ่น : จริงๆ ไม่ได้ปิดนะครับ แต่ผมอาจจะไม่ได้มีชื่อเสียงมาก เลยไม่ค่อยเป็นข่าว แต่ก็ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดเลย บางทีเขาก็เธอไม่ต้องลงรูปฉันหรอก
นิว : เอาจริง ๆ คนรอบตัวรู้หมด
จริงไหมที่นิวขอไว้เลยว่าไม่ต้องลงโซเชียลก็ได้?
นิว : หนูรู้สึกว่าพื้นที่ส่วนตัวของเขา เขาน่าจะลงเรื่องงานอะไรของเขาดีกว่า คนจะได้โฟกัสตรงนั้น ส่วนพื้นที่ส่วนตัวหนูด้วยความที่หนูเป็นครูเด็กอนุบาล หนูชอบถ่ายรูปเด็ก สตอรี่เด็กก็เลยอยากไพรเวทเด็กนิดนึง อันนี้ในส่วนของตัวหนู
แต่ปกติผู้หญิงบางคนจะแบบทำไมไม่ลงรูปฉัน มีไหม?
นิว : ไม่มีนะคะ เราไม่ทำแบบนั้นตั้งแต่แรก
ไต้ฝุ่น : ผมว่าวันที่เราอยู่ด้วยกันมันก็เติมเต็มแล้ว เราทำหน้าที่ตรงนั้น
ถ้าไม่ติดว่าอาชีพเป็นครู คุณลงไหม?
นิว : ไม่
ไต้ฝุ่น : เราจะลงรูปกันแบบในวันครบรอบ วันเกิด วาเลนไทน์
จริง ๆ เกี่ยวกับเรื่องเรตติ้งด้วยไหม เพราะคนสมัยก่อนเขาจะไม่เปิดตัวแฟนกลัวเรตติ้งตก เรากลัวไหม?
ไต้ฝุ่น : ผมเข้าวงการมาประมาณ 11-12 ปี ตอนแรก ๆ คนก็จะบอกว่า อย่า ๆ มันมีผลต่อเรื่องเรตติ้ง ตอนแรกๆ เราก็เป็นแบบนั้น แต่พออยู่มาเรื่อย ๆ เราก็รู้สึกว่าเราไม่ได้กลัวตรงนั้นแล้ว เราแค่ไม่ได้ทำตั้งแต่แรกเฉยๆ แล้วเขาก็ไม่ได้ต้องการ แต่เราก็ลงได้ ไม่ได้สนใจตรงนั้นแล้ว
ไต้ฝุ่น : ไม่ได้เป็นครับ
ทีมงานบอกว่ามีช่วงหนึ่งมีปัญหาเป็นซึมเศร้าเลยเหรอ?
ไต้ฝุ่น : ผมว่าผมน่าจะมีภาวะอย่างนั้น แต่ผมไม่เคยไปตรวจนะครับว่าถูกยืนยันโดยแพทย์
อะไรที่มันบอกเราว่าเป็นภาวะซึมเศร้า?
ไต้ฝุ่น : มันดาวน์มากเลย แต่ละอย่าง คิดหาวิธีว่าฉันไม่อยากอยู่แล้ว จริง ๆ ผมเป็นมาตั้งแต่อายุ 24 แล้วครับ ผมว่าผมรับไม่ทัน ตอนเข้าวงการช่วงแรก ๆ ผมมีงานเยอะมากเลยจนวันหนึ่งมันพลิก เราก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เราก็ยังเห็นในโซเชียลอยู่ที่แบบว่าคนที่เรารู้จัก เขาสามารถพลิกชีวิตได้เลย แล้วทุกวันนี้ก็ไปได้ดี ตอนนั้นเราจะมีความน้อยใจตรงนั้นเราไม่รู้จะทำยังไง
ตอนที่โดนถอดจากละครใช่ไหม
ไต้ฝุ่น : ใช่ครับ เราได้บทมาแล้ว แล้วเราตั้งใจกับบทนี้ แต่สุดท้ายโดนเปลี่ยน เพื่อไปเล่นเป็นตัวซัพพอร์ตอีกเรื่องนึงแทนในเรื่องย่อย ๆ จนทุกวันนี้คนที่เล่นบทนั้นเปลี่ยนชีวิตดีขึ้นเลย แต่เราไม่ได้ว่าอะไรนะ แค่รู้สึกว่าเป็นเราคงดี แต่ว่ามันผ่านไปแล้ว
แล้วเรามีวิธีการอะไรที่จะปลอบใจตัวเองให้ผ่านตรงนั้นไปได้?
ไต้ฝุ่น : ยากมากเลย
นิว : ตอนที่เขาเริ่มมีภาวะแรก ๆ เราไม่สามารถพูดอะไรได้เลย คือเราพยายามพูดเรื่องบวกหรือใด ๆ คือเขาแบบไม่ฉันไม่ใช่คนนั้น หรืออะไรอย่างนี้ เขาปิดเลย เธอมันไม่เหมือนกัน อย่าไปเทียบ คือมันไม่ใช่
ตอนนั้นไม่เล่นโซเชียลเลย?
ไต้ฝุ่น : ผมเล่นโซเชียลน้อยลงมากเลย มันเกิดเป็นความไม่มั่นใจในตัวเอง ใครชวนไปไหน เราไม่รู้จะไปนั่งคุยอะไรกับใคร
ไต้ฝุ่นเป็นเด็กที่มีความสามารถมากนะ?
นิว : ใช่ เป็นสิ่งที่หนูพูดกับเขา จนเขาไม่ หนูเลยโอเค อยากระบายอะไรมา พูดมาเลย
ไต้ฝุ่น : มันเป็นภาวะที่อยู่มานานมาก
ไต้ฝุ่น : มีอยู่ครับ แต่ว่าผมรับมือกับมันได้ดี มันแป๊บเดียว ผมเข้าใจมันเลยว่ามันเป็นธรรมชาติ เราไม่สามารถให้โลกหมุนรอบตัวเราได้ แต่นี่คือวิถีที่โลกมันเป็นอยู่แล้ว
เรารับมือยังไง?
ไต้ฝุ่น : ผมมองว่าชีวิตเรามันไม่ได้มีด้านเดียว เราหันไปเรายังเจอคนที่เรารัก เราเจอครอบครัว ความสุขเรามันไม่ได้มีอย่างเดียว ผมก็ไปเป็นช่างทำกีต้าร์แฮนเมดด้วย
แต่อีกหนึ่งปัญหาที่เราเจอ คือปัญหาเรื่องเงิน ลองอธิบาย 15,000 บาทหน่อย?
ไต้ฝุ่น : หลายคนชอบมองว่าเป็นนักแสดงเงินเยอะ อย่างของผมพองานน้อย ผมไม่ได้มีเงินเยอะขนาดนั้น กระทั่งมาเข้าช่วงโควิด มีอยู่เดือนหนึ่ง ผมเหลืออยู่ 15,000 บาทไม่พอจ่ายค่าบ้านด้วยซ้ำ แต่เรื่องนี้ผมได้บอกใคร แม้กระทั้ง พ่อ แม่ มันคิดเวิ่นเวอร์มาด จนเราคิดสั้น ตอนนั้นนิวอยู่ข้างเรานะ แต่เรื่องคิดสั้นเขาไม่รู้เราเป็นอะไร เราไม่ชอบบอกใครเราก็ไปนั่งเสิร์ชว่าวิธีไหนมันเจ็บน้อยที่สุด แต่ขอดีของผมคือผมไม่กล้าทำ หันไปเจอแมวตัวเอง แล้วแมวจะอยู่ยังไงแฟนเราล่ะจะอยู่ยังไง
เห็นว่าต้องกินยานอนหลับตลอด?
ไต้ฝุ่น : ใช่ เพราะผมสะดุ้งตื่นตลอด นอนหลับไม่สนิท ตะสะดุ้งตื่นตี 3-4 ไม่ชอบตัวเองว่า เราไม่อยากให้ตัวเองมีความสุขเหรอ มันก็เลยค่อย ๆ เปลี่ยน แล้วมันจะมีความคิดว่าชีวิตเรา 2 หมื่นกว่าวัน เราใช้ไปแล้วหมื่นกว่าวัน มันเสียเวลาเปล่า เราใช้เวลามีความสุขวันนี้เลยดีกว่า
นิวตอนนั้นยากไหม?
นิว : ยากหนูถึงขั้นคิดว่าถ้ามีใครคนใดคนหนึ่งเข้ามาทำให้เขาดีขึ้น หนูก็ยินดี ณ ตอนนั้นหนูไม่รู้ว่าจะใช้วิธีไหนแก้ให้เขาหายจากสิ่งที่เขาเป็น
แสดงว่าในสายตาเรา เขาหนักมาก?
นิว : หนัก เพราะหนูเห็นเขาเปลี่ยนไปทั้งแววตา ความรู้สึก
เห็นว่าเราพยายามพาเขาไปหาหมอด้วย?
นิว : ใช่
แต่ไต้ฝุ่นไม่ยอม?
ไต้ฝุ่น : ถ้าวันนั้นความรู้สึกเราจะรู้สึกว่า เราไม่อยากยอมรับว่าเราเป็น เราอยากให้มันเป็นแบบที่เราหวัง
แล้วทำยังไงให้หาย?
ไต้ฝุ่น : ผมคิดว่าชีวิตเรามันมีหลายมุม มันมีหลายด้านอีกเยอะมาก มีความสุขที่เราสามารถเข้าไปเสพมันได้
ไต้ฝุ่น : เนี่ยแหละครับ ถึงขั้นที่เรานั่งเสิร์ช เราคิดว่าเราทำอะไรอยู่ ทำอะไรถึงอยากจะทำร้ายตัวเองขนาดนี้ แล้วค่อยๆพาตัวเองไปเจอเพื่อน แต่หลักๆ คือคนนี้ หันไปแล้วเขายังอยู่ข้างๆ เรา
แล้ว 2 คนนี้เจอกันได้ยังไง?
ไต้ฝุ่น : เจอที่มหาวิทยาลัย มศว. อยู่สาขา คณะเดียวกัน เป็นดาว เดือน ของเอก ตอนนั้นก็แป็นเพื่อนกัน ปรึกษากันเพราะตอนนั้นต่างคนต่างมีแฟน แต่พอรู้จักเขา ครอบครัวเขามากขึ้น ผมรักครอบครัวเขามากเลย มันเลยเริ่มค่อย ๆ เปลี่ยนความเป็นเพื่อน แต่ว่าเราเคลียร์กับคนก่อนแล้วนะครับ
แสดงว่าน้องนิวรู้จักนิสัยทั้งหมดของเขา?
นิว : ใช่ เพราะว่ามันเป็นเพื่อน
แล้วหลังจากต่างคนต่างไม่มีแฟน ใครจีบใคร?
ไต้ฝุ่น : ผม ผมชอบเขาเพราะเขาเป็นคนที่รักครอบครัวมาก แล้วพอจะจีบมันยากมาก เราจะเผยเลยไม่ได้กลัวเสียเพื่อนเราค่อย ๆ เต๊าะเขา เราอยู่หอเดียวกัน เราก็ชอบไปนั่งเล่นกีจ้าร์กับเพื่อน ๆ ในห้องเขา แต่เราไป เราตั้งใจไปเล่นกีต้าร์เพื่อให้เขา
นิวรู้ไหม?
นิว : ส่ายหน้า
แล้ววันไหนเขารับรู้?
ไต้ฝุ่น : วันสิ้นโลก 20 เดือน 12 ปี 2012 ที่เขาบอกวันสิ้นโลก
นิว : ช่วงนั้นกระแสมันแรงมากว่าโลกจะต้องแตก
ไต้ฝุ่น : แล้วเรารู้สึกว่ามันล้นมากเลย ถ้าโลกต้องแตก แล้วเราต้องตาย ขอบอกก่อนเถอะ ก็อยู่กับเขาแล้วบอกว่า เธอถ้าพรุ่งนี้โลกมันแตกจริง ๆ ฉันขอบอกอะไรเธออย่างนึงได้ไหม ฉันชอบเธอนะ
แล้วนิวว่าไง?
นิว : เธอพูดเสร็จแล้วเธอก็เข้าห้องน้ำไปเลย แล้วฉันก็คิดว่าเธอแกล้งฉัน
ไต้ฝุ่น : ไม่ ฟังผมดีกว่า พอผมบอกไป เขาก็บอกว่าพูดเล่นหรือเปล่า หลังจากนั้นก็ค่อย ๆ จีบกันมาเรื่อย ๆ
ไต้ฝุ่น : ตอนนั้นคบกันได้ประมาณ 4 ปี มันเป็นช่วงแรก ๆ ที่ล้มลุกคลุกคลานกันอยู่ แล้วตอนนั้นงานเราเริ่มเฟดแล้ว พอไปเจออีกคนเขารู้ดีเทลของเรา เราก็เลยแบบเห้ย รู้จักเราเยอะจัง เราเลยรู้สึกว่ามีคนสนใจเรานะ ก็เลยเหมือนไปหลงเขาอยู่ 2-3 อาทิตย์ ดันนัดไปกินข้าวกันที่ห้าง โดนเลย เพื่อนของเพื่อนสนิทของเขาไปเจอ ซึ่งตอนนั้นมันมีน้อยคนมากที่รู้ว่าเราคบกัน เขาก็โทรมาบอกนิว แล้วนิวก็โทรมาหาผม
นิว : ไม่เขาไม่ได้โทร นางโทรไปบอกเพื่อนสนิทหนู แล้วเพื่อนสนิทหนูแชทมาถามว่าตอนนี้ฝุ่นอยู่ไหน ก่อนหน้านั้นเธอบอกฉันว่าอยู่บ้านทำกีต้าร์ ฉันก็โอเค หนูก็ทำงานของหนูไป แล้วทีนี้เพื่อนทักมาถามว่าฝุ่นอยู่ไหน หนูก็บอกว่าอยู่บ้านเพื่อนก็เริ่มงงๆ แล้ว ระหว่างนั้นหนูก็คิดว่ามันต้องมีอะไรสักอย่างแน่เลย หนูก็เลยโทรไปหาเขา
ไต้ฝุ่น : ไม่รับ เพราะว่ารู้เลยโทรมาเวลาแปลก รู้เลยว่าตายแน่ แล้วเราเป็นเพื่อนกันมาก่อน ถ้าเราผิดไปนิดเดียวเขาจะดูออกเลย เราก็รีบกลับเพื่อจะไปรับเขา ก็รีบโทรหาเขา เธอว่าไง ทำตัวปกติ แต่มันไม่ปกติ เขาถามเธออยู่ไหน เราก็บอกนี่กำลังไปรับเธอไง พอไปถึง เขาถามว่าวันนี้เธอไปไหนมา สารภาพทุกอย่างเลย เพราะเรารู้ว่าเขารู้แล้ว ไม่งั้นเขาไม่มาถามอย่างนี้หรอก เรารู้ ณ วินาทีนั้นเลยว่าโลกถล่มด้านหน้ามันเป็นยังไง
ตอนที่เขาบอกทุกอย่างเลย นิวโกรธไหม?
นิว : หนูเหมือนสเต็ปออกมาเลยค่ะ ไม่ได้พูดว่าเลิก แต่พูดว่า
ไต้ฝุ่น : ถ้าเธอไม่รักฉันแล้ว เธออย่าทำร้ายฉันอีกเลย แล้วผมแบบ ด่ายังรู้สึกดีกว่าอีก นี่คือเจ็บมากเลย ผมนอนไม่หลับ ต้องกินยานอนหลับเลย เพราะมันเครียดมาก รู้เลยว่าเราทำบ้าอะไรไป สติกลับมา
แล้วกลับมามีวันนี้ได้ยังไง?
ไต้ฝุ่น : ก็ไปง้อเขา ไปขอโอกาสจากเขาที่ทำงานเขา เป็นคนบ้าไปนั่งอยู่ที่ทำงานเขา ถ้าเธอไม่ให้ฉันมา ฉันก็จะมาอย่างนี้ทุกวัน ถามว่าง้อนานไหม ก็ไม่นานมาก เขาเป็นคนที่ถ้าจะให้โอกาสก็คือให้จะไม่เกี่ยวกับระยะเวลา เขาบอกว่าฉันให้โอกาสเธอนะ แต่ห้ามทำผิดอีก ถ้าทำอีกถือว่าเธอไม่รักฉันแล้ว
น้องนิวน่ารักยังไง?
ไต้ฝุ่น : รักเขามาก ต้องขอบคุณที่เขาไม่เคยปล่อยมือเราเลยในวันที่เราไม่เหลืออะไร ขอบคุณที่อยู่ข้างกัน แล้วเราจะอยู่ข้างกันค่อยๆ โตไปเรื่อยๆ ด้วยกัน ถามว่ารักขนาดไหน นับดวงดาวบนท้องฟ้ายังไม่พอเลย
นิว : รักเขาที่เป็นเขาแบบนี้เขามีความเสมอต้นเสมอปลาย
https://www.facebook.com/teeneedotcom