ลูกทุ่งสาวแพรวพราวเปิดเส้นทางรักต่างวัย12ปี จากแฟนคลับสู่พ่อของลูก

แพรวพราว : ไม่ถึงกับจีบ แต่เค้าจะทักมาตลอด แล้วเริ่มถี่ๆ เราก็เริ่มไปส่องว่าเค้าเป็นชายแท้หรือปล่าว เราคิดว่าเค้าอาจจะอยากร้องเพลงหรือเปล่า มีโพสตืเราอันนึงเค้าแคปมาถามเราว่าเธอเป็นหยัง แต่ก่อนเรียกเราพี่ แต่เรียกว่าเธอมันก็แปลก ก็ไม่ได้คิดไร แต่เค้าจะส่องเราตลอด แคปมาตลอด เป็นอะไรหรอ เหมือนเค้าแสดงความเป็นห่วง เราเริ่มสงสัยว่าเค้าคิดอะไรกับเราหรือปล่าว

เริ่มชอบเค้าตอนไหน?

แพรวพราว : ตอนที่เค้าโทรมาทุกวัน ตรงเวลาเป๊ะ เลิกเรียนเค้าจะโทรมาเลย แล้วไม่ยอมวาง เป็นวีดีโอคอล เราก็สนุกที่จะคุยกับเค้า เพราะเราก็โสดไม่มีใคร

บิ๊ก : เราคุยกันทุกวัน จนกลายเป็นสนิทขึ้น แต่ไม่เคยเจอหน้ากัน เห็นหน้าทุกวันก็เริ่มชอบ เลยใช้คำสอดแทรกเข้าไปถ้าเค้ามีฟีดแบ้คคงเล่นด้วยกับเรามั้ง

แพรวพราว : จะเป็นมุก ลืมอะไรก็ลืมได้นะแต่เธออย่าลืมฉัน

แพรวพราว : ไม่ได้หรอก พ่อแม่รับไม่ได้แน่นอน แต่คุยเพราะไม่มีเพื่อนคุย เค้าก็คุยมีสาระดีเป็นผู้ใหญ่ แต่ความกังวลคือกลัวพ่อกับแม่รับไม่ได้

เจอกันครั้งแรกที่ไหน?

แพรวพราว : สนามบิน เราไม่ได้บอกว่าจะไปรับ ไปเซอร์ไพรส์มากกว่า

บิ๊ก : เราลงสนามบิน แฟนคลับมารับที่หน้าสนามบิน เราไม่รู้ว่าเค้ามา มีรุ่นน้องเค้ามารับบอกว่าเดินมาที่รถหน่อยแปปนึง เราเดินตามไปที่รถ

แพรวพราว : เพราะเราวางแผน รู้ว่าแฟนลับเค้าเยอะ เราไม่อยากให้แฟนคลับเค้ารู้ว่ารู้จักกัน เราคุยกัน แต่มีแฟนคลับเค้าคนนึงรู้ เราเลยถามเค้าว่าจะทำยังไงให้เค้ามาเจอหนูที่ลานจอดรถ เราก็วางแผน เค้าก็เดินมาที่ลานจอดรถ ตอนนั้นเราทั้งสองรู้สึกดีกันอยู่แล้ว ตื่นเต้นมาก เรายืนรออยู่

บิ๊ก : ตกใจครับ แล้วก็สวัสดีครับเลย แล้วก็กอดกันฟิลฝรั่ง

แพรวพราว : เราก็ส่องกระจกดูตัวเอง เรา 30 แล้ว เค้า 17-18 จะว่าเราแก่มั้ย คือเรารู้สึกดีแล้วแต่ไม่เคยพูดว่าชอบนะเค้าก็ไม่เคยพูด แล้วแยกกันเค้าก็ไม่ทักมาเลย เราก็คิดว่าเค้าว่าเราขี้เหร่หรือปล่าว จนมืดเค้าทักมา เค้าก็คิดเหมือนเราเหมือนกันว่าจะว่าเค้าเด็กมั้ย แล้วเค้าก็เริ่มทัวร์คอนเสิร์ต จังหวะที่เรามีคอนเสิร์ตที่อุดรพอดี เค้าอยู่อุดร เลยถามว่าเธอมาขึ้นคอนเสิร์ตกับฉันมั้ย เค้าก็อยากไป นัดเจอกันก่อนคอนเสิร์ต 1 วัน เพลงคู่เราต้องซ้อม วันนั้นเป็นวันที่เราอยู่ด้วยกัน 2 คนครั้งแรก เค้าเป็นลูกผู้ชายมาก

บิ๊ก : ไปเปิดโรงแรมเพื่อซ้อม นอนด้วยกันคืนแรก แต่ซ้อมร้องเพลงด้วยกัน ซ้อมกันจนดึกก็นอน

แพรวพราว : เค้าถามว่าจะให้นอนตรงไหน เราให้เค้าไปนอนที่เตียงเดี่ยว เราก็นอนตรงเตียงใหญ่ สักพักเค้าลงมานอนกับเรา แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เค้าจับมือเรานอน

แพรวพราว : ก็ไม่มีอะไรนะคะ คือแต่ละคนไม่ยอมพูดปากแข็ง ไม่เคยคำว่าคิดถึงหรือรักออกจากปากคนใดคนหนึ่ง

จนถึงวันไหน?

บิ๊ก : วันนั้นจบคอนเสิร์ตรีบออกไปหลบ หลบแฟนคลับ ขึ้นโรงแรมคนละรอบ

แพรวพราว : เราไปเจอตู้แช่ไวน์ เต้าพูดสองรอบว่าไม่กินหรอ เราก็ทำไมอยากให้เรากินวะ เหมือนเค้าอยากให้ดรากรึ่มหน่อยแล้วพูดออกมาบ้าง เราก็ไม่ยอมพูดว่ารู้สึกยังไงกับเค้า แต่เรารู้ว่าคิดยังไงแต่ไม่ยอมพูด วันนั้นนอนคุยกันเค้าบอกว่าเธอจะพูดอะไรก็พูดเถอะจะตี 4 แล้วนะ นี่ก็ไม่ยอมพูด เราบอกเธอจะพูดอะไรก็พูดสิ แต่ก้พูดกันนั่นแหละ ว่าเธอคิดยังไงกับฉันถามกันเป็นชั่วโมงกว่าจะพูด

แต่มีอุปสรรคของการคบหา?

แพรวพราว : ก็เป็นเรื่องของแฟนคลับ ส่วนมากแฟนคลับของบิ๊กจะเป็นผู้ใหญ่แม่ๆ ป้าๆ พี่

บิ๊ก : ค่อนข้างจะมีปัญหาหน่อย จะมีแม่ๆที่ดูเรามานานตั้งแต่เด็กๆ ไม่อยากให้เรามีแฟน อยากให้คงความน่ารักไว้ปัญหายาวอยู่นะ

แพรวพราว : เราบอกเค้าว่าไม่ต้องอะไร ให้เค้าตัดสินใจเองทุกอย่าง เราแคร์เค้าไม่อยากให้แฟนคลับไปจากเค้า เราไม่ต้องเปิดตัวก็ได้ ตอนแรกก็ยังไม่เปิด เราก็บอกว่าถ้าไปเจอผู้หญิงอื่นที่ดีกว่าไปเลยนะ เพราะเราอายุเยอะแล้ว เพราะเราก็ไม่รู้ว่าเค้าจะรักสนุกมั้ย

แพรวพราว : ยังไม่แต่งเลยค่ะ ตอนนั้นเราบอกเค้าว่าอายุ 30 แล้ว ครอบครัวอยากมีลูก เค้ารับได้แล้วว่าคบกัน ถ้าเค้าไม่พร้อมไม่เป็นไรไปหาคนอื่นได้เลย เพราะเราต้องการมีครอบครัวแล้วถ้าเค้าไม่อยากมีไปได้เลยนะ เค้าก็ไม่พูดอะไรแต่เค้าทำให้เราเห็นว่าไม่ไปไหน เค้ายังจะคบกับเรา

บิ๊ก : เราเลี้ยงเด็กมานานแล้ว เลี้ยงน้องมา 2-3 คนแล้ว ตอนที่ฟินแลนด์ไปเรียนผู้ช่วยพยาบาลเลี้ยงเด็ก เลี้ยงคนชราเราก็เลี้ยงน้องที่บ้านด้วย

แพรวพราว : เราไม่เคยเลี้ยงเด็กเลย แต่เรื่องความละเอียดต้องยกให้เค้า หนูเหมือนเรียนใหม่ น้องนาริตะเลี้ยงง่ายมาก ชื่อมาจากเดทแรกไปญี่ปุ่น ลงสนามบินนาริตะ แต่ที่จริงเค้าอยากให้ลูกชื่อโตเกียวถ้าเป็นผู้ชาย แต่เราชอบชื่อสนามบินถ้าเป็นผู้หญิงจะให้ชื่อนาริตะ

มีข่าวดีมาบอกที่แรก?

แพรวพราว : ได้ลูกชาย 5 เดือนแล้วค่ะ ชื่อโตเกียว ชอบญี่ปุ่นมาก เป็นประเทศในฝันที่เราอยากไป แล้วเค้าชวนเราไปประทับใจมาก

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่