ฟ้าใส เสียดายแอนนา เสือ เชื่อสิ่งนี้มีส่วนไม่ถูกใจกรรมการจนชวดมง
หน้าแรกTeeNee บันเทิงดารา ข่าวดารา, ข่าวบันเทิง ดาราไทย ฟ้าใส เสียดายแอนนา เสือ เชื่อสิ่งนี้มีส่วนไม่ถูกใจกรรมการจนชวดมง
"ฟ้าใส ปวีณสุดา" Miss Universe Thailand 2019 ได้มาเปิดใจในรายการโต๊ะหนูแหม่ม กับพิธีกรตัวแม่ หนูแหม่ม สุริวิภา ถึงเวทีนางงามที่เธอชวดมงอย่างน่าเสียดาย ที่สามารถเข้ารอบลึกสู่ TOP5 รวมถึงของนางงามรุ่นน้อง แอนนา เสืองามเอี่ยม ที่ผ่านมาว่ารู้สึกอย่างไร ทำไมถึงเสียดายขนาดนั้น
การเขียนประวัติส่งกองสำคัญแค่ไหน?
คือเราก็อยากแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ซึ่งพนักงานทุกคนต้องเขียนไบโอหรือคำถามต่างๆ ส่งกองประกวดเหมือนเวลาที่เราสมัคร ซึ่งทางกองเค้าก็จะถามมาในการที่เราประกวดเราก็จะเขียนส่งเหมือนกัน มันเป็นเรื่องราวของแต่ละผู้เข้าประกวดที่ต้องเขียนเรื่องราวของตัวเองซึ่งทุกคนต้องเขียน
ไบโอประวัติมีผลขนาดไหนต่อตำแหน่ง?
คือสำหรับเรามองว่าไบโอมันไม่ได้เกี่ยวข้องกับคะแนนแบบโดยตรง แต่มันมีทางอ้อมในที่นี้ก็คือถ้าเราเขียนไบโอน่าสนใจหรือมีอะไรที่เค้าอยากจะรู้เกี่ยวกับผู้หญิงคนนี้จัง เขาก็จะถามต่อในห้องดำ แต่ถ้าสมมติเราเขียนมาแล้วมันไม่มีอะไรในห้องดำ เขาก็จะไม่ถามอะไรเกี่ยวกับตัวเรา และเราก็จะไม่สามารถโชว์ศักยภาพของเราได้ ซึ่งทุกคนต้องเข้าห้องดำ เพราะห้องดำเป็นการสัมภาษณ์ตัวต่อตัว ซึ่งจะมีคณะกรรมการประมาณ 4-5 คน
เราเขียนประวัติเองไหม?
คือแล้วแต่ค่ะ ทุกคนสามารถเลือกได้ว่าจะเขียนเองหรือให้ทางกองประกวดเขียนให้แต่ในส่วนฟ้าใสเราเลือกที่จะเขียนเองเพราะว่าถ้าเราอยู่ในห้องดำเราก็จะสามารถที่จะตอบออกมาจากใจได้ว่าเราเป็นคนเขียนเอง ซึ่งเรื่องราวนี้สามารถเขียนเองก็ได้หรือให้ทีมช่วยเขียนก็ได้ เพราะฉะนั้นไม่มีอะไรผิด
แต่ถ้าเมื่อไหร่เราได้เขียนเองมันก็จะรู้สึกว่าเราได้ตอบที่ตัวของเราเอง แต่สมมติถ้าเราไม่ได้เขียนเองแล้วกรรมการถามเรามาอยากให้เราช่วยอธิบายเพิ่มเติม บางทีถ้าเราไม่ได้เขียนเองแล้วก็จะอึกอักตอบ และความมั่นใจมันจะโชว์ออกมาในการสื่อสารในสายตา ซึ่งมันก็จะมีผลต่อคะแนน
ถ้าย้อนกลับไปได้เราจะเขียนให้ "แอนนาเสือ" ว่าอย่างไร?
คือสำหรับหนู หนูแค่รู้สึกว่าเวลาที่น้องเขียนออกมาแล้วมันไม่สามารถส่งพลังหรือแรงบันดาลใจต่อคนที่อ่านอยู่ ซึ่งน้องมีเรื่องราวที่น่าสนใจมาก เพราะเค้าก็เติบโตมาในฐานะที่ค่อนข้างยากจน และเขาก็ไปเติบโตในวัดและมีการเรียนโรงเรียนวัด สามารถผลักตัวเองเข้าไปในรั้วมหาลัยจนจบเกียรตินิยม ซึ่งมันเป็นเรื่องราวที่เวลาใครฟังจะรู้สึกว่าคุณไม่เอาอุปสรรคหรือฐานะของพื้นฐานมาปิดกั้นคุณและก้าวต่อไปในชีวิต
ใครก็ได้สามารถเล่าเรื่องราวของตัวเองและสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนอื่นได้ เพราะทุกคนมีเรื่องราวที่น่าสนใจหมด แต่วิธีการเล่านั่นก็คือสิ่งที่สำคัญ ดังนั้นสำหรับเรา เราก็จะเชื่อมโยงแบบนี้ว่าพื้นฐานเราอาจจะยากจน แต่ว่าสามารถสร้างโอกาสให้กับตัวเองได้ ถ้าเกิดเรามีความพยายาม และหลังจากนั้นเมื่อเราได้รับโอกาสแล้ว เราก็อยากจะสานต่อให้กับเด็กๆ ที่อยู่ในสังคมนั้น
ดูเหมือนว่าอยากปรับให้เขาเยอะมาก?
เรารู้สึกว่าเราเสียดาย
ยูนิเวิร์สปีนี้เหมาะสมหรือไม่?
คือใจจริงเราเชียร์เวเนซุเอลา แต่ถ้าย้อนกลับไปฟังคำตอบของมิสยูเอสเอเราต้องยอมรับว่าเค้าตอบแบบดีที่สุดและเป๊ะที่สุดในรายละเอียดคือมันใช่ที่สุด แต่ ณ ตอนนั้นที่เราดูอยู่คือเค้าตอบเกินเวลา เราก็เลยรู้สึกว่าเมื่อคนอื่นที่ตอบตรงเวลาเราก็จะเลือกคนนั้น ซึ่งย้อนกลับไปฟังคำตอบของเขาแล้วต้องยอมรับว่าเค้าตอบตรงคำถามมากที่สุดแต่มันเกินเวลา
เวทีนางงามมีการเมืองไหม?
อันนี้หนูตอบไม่ได้นะคะ ต้องยอมรับว่าทุกปีคนที่ชนะเค้าจะมีความเหมาะสมกับตำแหน่งในปีนั้นๆ อย่างเช่นปีนี้ก็ต้องยอมรับว่ามิสยูเอสเอเค้าก็เตรียมตัวมาเต็มที่มาก เค้าเป็นคนที่เปลี่ยนชุดราตรีมาเองและตัดชุดราตรีมาเองตั้งแต่ชุดเก็บตัวจนกระทั่งชุดที่เห็นในนั้น ก็คือชุดที่เค้าตัดเองเพราะเขาเป็นดีไซเนอร์
ดังนั้นต้องยอมรับและเวลาที่เขามาพูดคำตอบของเขามันก็คือมีการเชื่อมโยงว่าฉันตัดชุดและฉันก็จะสามารถมีโครงการสานต่อให้กับเปิดโอกาสสำหรับคนอื่นๆ คือมันมีการสานต่อได้ ทุกอย่างมันลงตัวหมดเลย เรียกว่าครบองค์ประกอบ
https://www.facebook.com/teeneedotcom