Paper Planes เตรียมทำเพลงท่องสูตรคูณเอาใจสาวกฟันน้ำนม

เจ้าของเพลงฮิตของเหล่าวัยรุ่นฟันน้ำนม "ทรงอย่างแบด" ‘ฮาย' และ ‘เซน' วง Paper Planes ที่สร้างปรากฎการณ์ ทำให้เด็กๆ พร้อมใจกันว๊ากเพลง "ทรงอย่างแบด" กันทั่วบ้านทั่วเมือง จนทำให้ วง Paper Planes กลายเป็นขวัญใจวัยรุ่นฟันน้ำนม และถูกยกเป็นหัวแก๊งเด็กเป็นที่เรียบร้อย

ล่าสุดกระแสเพลง ทรงอย่างแบด ของ Paper Planes ยังคงแรงต่อเนื่อง จนทำให้นมถั่วเหลืองแบรนด์ดัง (แลคตาซอย) คว้าตัว 2 หนุ่มวง Paper Planes มาเป็นพรีเซนเตอร์คนใหม่ หวังตีตลาดวัยรุ่นฟันน้ำนมให้มากขึ้น พร้อมเตรียมทำเพลงประกอบโฆษณาตัวใหม่ จากวง Paper Planes มาแทนเพลงเก่า (แลคตาซอย 5 บาท 125 มิลลิลิตร) หลังจากมีการปรับราคาขึ้น 6 บาท

โดย Paper Planes ได้เปิดใจถึงกระแสตอบรับว่า ตอนนี้เริ่มชินกับน้องๆ เด็กๆ มากขึ้น เริ่มรู้สึกว่าทุกที่เวลาที่ไปข้างนอก เหมือนบ้าน เวลาได้ไปเจอน้องๆ ก็รู้สึกว่าเป็นน้อง เป็นหลานของตัวเอง วางตัวเองเป็นเหมือนพี่ชายของน้องๆ รู้สึกเหมือนมีครอบครัวที่ใหญ่ขึ้น รู้สึกอบอุ่นมากขึ้น และมีความสุขมากขึ้น ซึ่งล่าสุดที่ไปเล่นคอนเสิร์ตมา ก็มีคนเอาขวดนมมาให้ถือ คือ มือนึงถือไมค์ อีกมือนึงถือขวดนม ซึ่งก็คิดว่าเป็นแท่งไฟประจำวง บางคนก็เอาขนมมาให้

ส่วนเรื่องการรับงาน ตอนนี้ก็เริ่มรับงานช่วงกลางวันมากขึ้น เช่น งานตามห้างสรรพสินค้า หรืออีเว้นต์ในที่โล่ง ที่เด็กๆ สามารถไปดูได้ ส่วนกลางคืนก็ยังคงเดินสายเล่นคอนเสิร์ตเหมือนเดิม แต่จะลดงานเบื้องหลังลง เพราะจะได้มีเวลาไปพักผ่อนมากขึ้น

ล่าสุด ที่ผู้ปกครองเรียกร้องให้ทำเพลงท่องสูตรคูณนั้น ฮาย และ เซน ก็บอกว่าได้เห็นกระแสนี้แล้ว ก็ยอมรับว่ามีคิดๆ ไว้แล้ว แต่จะขอปรึกษาทางค่ายก่อนว่า จะปล่อยออกมาในรูปแบบไหนได้บ้าง เพราะตอนนี้กำลังโฟกัสเรื่องอัลบั้มใหม่อยู่ แต่ก็ตั้งใจจะทำเป็นเพลงพิเศษเพื่อน้องๆ และผู้ปกครอง อยากจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยขับเคลื่อนได้บ้าง ถามว่าในเพลงท่องสูตรคูณ จะมีท่อนว้ากไหม? ฮาย บอกว่าก็คงต้องมี แต่ก่อนอื่น อาจจะต้องออกมาสอนน้องๆ เรื่องการว๊ากก่อน เพราะเดี๋ยวคอจะอักเสบกันซะก่อน

ซึ่งเพลงพิเศษที่จะทำออกมา ก็ไม่ได้มีแค่เพลงท่องสูตรคูณ แต่คงมีการทำคอนเท้นต์ออกมาเรื่อยๆ ซึ่งไม่ได้เจาะจงว่าจะต้องทำเพื่อเด็กๆ อย่างเดียว แต่จะทำให้กว้างเผื่อไปถึงผู้ปกครองด้วย เพราะสุดท้ายจะได้ย้อนกลับมาที่เด็กๆ

ซึ่งตอนนี้ พี่ฮาย - พี่เซน ก็อยากปลูกฝังน้องๆ เรื่องของการออมเงินด้วย โดยตอนนี้ทั้งสองคนก็เริ่มออมเงินด้วยเหมือนกัน เพื่อเป็นตัวอย่างและเป็นแรงบันดาลใจให้กับน้องๆ และยังฝากบอกไปถึงน้องๆ ที่ไม่อยากไปโรงเรียนด้วยว่า "เราชอบในสิ่งที่ชอบได้ แต่ก็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่น้องๆ ต้องรับผิดชอบด้วยเหมือนกัน

นอกจากนี้ ฮาย ยังได้อัพเดทเรื่องอาการป่วยโรคแพนิคของตัวเองด้วยว่า ตอนนี้อาการดีขึ้นมาก ช่วงต้นเดือนหน้าก็จะเริ่มหยุดยาแล้ว หลังจากทานยามานาน 6 เดือน ส่วนอาการกลัวที่แคบ กลัวการขึ้นเครื่องบิน ก็ดีขึ้น 80 % สามารถนั่งเครื่องบินได้ชิลมากขึ้น แต่ก็ยังต้องพบคุณหมออยู่ ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่มีส่วนช่วยให้อาการป่วยดีขึ้น ก็คือน้องๆ เด็กๆ รวมถึงตัวเอง และบรรยากาศรอบข้างในสังคม ที่รู้สึกสดใสมากๆ ก็เลยทำให้สุขภาพจิตของตัวเองดีขึ้น

และทำให้ย้อนกลับไปคิดได้ว่า เด็กๆ คือจุดเชื่อมทุกๆ อย่าง เป็นสะพานที่เชื่อมให้ผู้ใหญ่ยอมรับตัวตนของตนเองได้ เพราะนึกไม่ออกเลยว่า ถ้าไม่มีเด็กๆ คุณพ่อคุณแม่ หรือผู้ปกครอง จะยอมรับตนเองในทิศทางไหน มองว่าที่ประสบความสำเร็จทุกวันนี้ได้ ก็เป็นเพราะเด็กๆ

เครดิตแหล่งข้อมูล : ch3plus