วุ้นเส้น ขอดังแบบไม่ฉาว

ทั้งๆที่วีเจสาว วุ้นเส้น-วิริฒิพา ภักดีประสงค์ ไม่ค่อยจะมีข่าวค(ร)าว เสีย ๆ หาย ๆ ออกมามากเท่าไหร่
 
แต่ชื่อของเธอกลับเป็นที่ต้องการของบรรดาเจ้าของงานอีเว้นท์ต่าง ๆ จนตอนนี้เจ้าตัวมีฉายาว่า “เจ้าแม่อีเว้นท์” ไปเรียบร้อยแล้ว วันนี้ “ดาวต่างมุม” เลยเชื้อชวนเธอให้มาเปิดใจถึงเรื่องราวต่าง ๆ ในชีวิตของเธอ มาดูกันซิว่าเสน่ห์ของสาววุ้นอยู่ตรงไหนกัน อะไรที่ทำให้เจ้าของงานอยากได้ตัวเธอมาร่วมงานด้วย 

ช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้าง
 
- ก็มีงานทุกวันเหมือนเดิม แต่วุ้นรู้สึกว่ามันดีขึ้นมากกว่าช่วง  แรก ๆ ตอนที่เป็นวีเจก็ทำแต่งานนี้อย่างเดียว แต่พอมีคนรู้จักเราเยอะขึ้นก็ทำให้เรามีงานมากขึ้น พอถึงตอนนี้มันก็อยู่ตัวแล้ว อาจจะมีพักผ่อนน้อยลงไปบ้าง แต่ช่วงนี้เรามีแรงก็ทำไปก่อน

มาทำงานวีเจได้ยังไง
 
- จริง ๆ มันเป็นดวงนะ วุ้นไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมาทำงานในวงการได้ด้วยซ้ำ วุ้นเป็นคนนิ่ง ๆ เฉย ๆ เราคิดว่าเราคงทำงานนี้ไม่ได้ เพราะคนจะทำงานนี้ได้ต้องเป็นคนพูดเก่ง มีไหวพริบ แต่เพื่อนไปสมัครแล้วเขาก็ชวนเราไปด้วย แล้วทีมงานก็อยากให้เราสมัคร แล้วก็เข้ารอบ 200 คน แต่เพื่อนไม่ได้เข้ารอบ เพื่อนก็เชียร์ให้เรามาทำ จนสุดท้ายก็ได้มาทำงานนี้ พอมาทำงานจริงแรก ๆ วุ้นก็ท้อนะ เพราะเราไม่ได้เป็นคนพูดเก่ง แต่เราก็เสียดายถ้าไม่ได้ทำ เราก็ปรึกษา พี่จ๋า-ณัฐฐาวีรนุช ทองมี และ พี่นาเดีย นิมิตรวานิช อย่างพี่จ๋าบอกว่าวันแรกเป็นท่อนไม้มาก ๆ เราก็เลยพยายามอีกครั้ง เอาเทปเก่า ๆ มาดูว่าเราควรปรับเปลี่ยนอะไรตรงไหนบ้าง

คิดว่างานวีเจให้อะไรกับเรา
   
- มันช่วยให้เราโตขึ้น ตอนที่วุ้นมาทำงานตรงนี้เพิ่งจะเรียนอยู่ ปี3 ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เอง และเราก็ได้ทำงานกับคนหลายแบบทำให้เราได้เรียนรู้ที่จะปรับตัวให้เข้ากับคนในสังคม และได้โอกาสที่เยอะเกินไป เช่น เวลามีศิลปินดัง ๆ ต่างประเทศมา เรามีโอกาสได้เจอ วุ้นก็เลยมีความรู้สึกว่าเราโชคดีกว่าคนอื่นแล้วล่ะ

นอกจากงานวีเจ วุ้นก็ไม่ค่อยมีงานอื่น ๆ เลย
   
- ลองมาหมดแล้ว 2 ปีแรกที่เข้ามาเป็นเหมือนช่วงทดลองงานว่าเราชอบงานอะไรมากที่สุดและเราทำอะไรแล้วเวิร์กที่สุด ร้องเพลง, เล่นละคร และถ่ายแบบ แต่พอทำจริง ๆ เราก็รู้สึกว่างานที่เหมาะกับเรามากที่สุดคือ งานวีเจและพิธีกร

แต่เห็นมีอยู่ช่วงหนึ่งเห็นมาเล่นละคร
 
- มันไกลตัววุ้นนะ มันยากนะ เรารู้สึกว่าเราเป็นตัวเองมากไปเกินกว่าที่จะไปเล่นละคร เพราะช่วงนั้นวุ้นมักจะได้บทไกลตัว เช่น บทคุณหญิง ในละคร     “กลิ่นแก้วตำหนักขาว” ทางช่อง 3 เลยคิดว่า    ทำงานวีเจดีกว่า แต่ถ้ามีโอกาสก็อยากเล่นละครหรือหนังอีก อย่างพี่จ๋า-ณัฐฐาวีรนุช ก็มีความสามารถและมีความตั้งใจสูง เขาอยากทำอะไรก็จะทำให้ได้ ในขณะที่วุ้นเป็นคนชิลล์ ๆ มากกว่า  แต่เวลาได้งานอะไรมาวุ้นก็จะทำให้   ดีที่สุด เพียงแต่วุ้นยังชั่วโมงบินน้อยกว่า ก็   ค่อย ๆ ตามไปดีกว่า อย่างตอนนี้ก็มีคนทาบ ทามเยอะเหมือนกัน แต่ก็ยังไม่ลงตัวอะไร

เน้นรับงานอีเว้นท์เพราะรวยกว่า
 
- ก็งงนะมีข่าวออกมาว่ารวย จริง ๆ ไม่ถึงขนาดนั้น วุ้นก็ปกติทั่วไป วุ้นรับงานนี้เรื่อย ๆ เรต  ราคาก็ไม่ได้สูงเท่าไหร่ ส่วนเรื่องที่บอกว่าเป็น “เจ้าแม่อีเว้นท์” รับเงินวันละเป็นแสน ก็ไม่จริงเลย ถ้าวุ้นทำอะไรแบบนั้นวุ้นคงมีอะไรเยอะกว่านั้น ที่มีข่าวแบบนี้ออกมาอาจเป็นเพราะว่าเดือนนึง อาจจะมีสักหนึ่งหรือสองวันที่เรามีงานเข้ามาวันละ 3-4 งาน แต่ส่วนใหญ่วุ้นจะรับวันละงานมากกว่า

ทำไมคนชอบให้เราไปออกงาน ทั้ง ๆ ที่คนที่ออกงานส่วนใหญ่เขามักจะเน้นแต่คนที่กำลังเป็นกระแส
  
- ก็ดีใจนะที่มีคนจ้างเรา วุ้นก็คิดหลายแง่นะ คิดแง่ดีอาจเป็นเพราะดาราคนอื่น ๆ ไม่ว่างก็ได้ และงานนี้เป็นงานที่เราถนัด และเราสามารถทำได้หลากหลายแนวไม่ว่าจะเป็นงานแบบทางการหรือไม่เป็นทางการ ที่สำคัญคือเรตค่าตัววุ้นไม่ได้สูงมาก เรตแบบปกติ

อยากทำงานอื่นที่ดูเป็นงานเป็นการมากกว่านี้มั้ย
  
- ตอนนี้วุ้นก็มีงานพิธีกรอีกรายการหนึ่ง คือรายการ “ไฮไลท์ ไฮเทค” ทางช่อง 5 เป็นรายการเกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ไอที ทำให้เราได้รู้อะไรเยอะขึ้น วุ้นชอบงานพิธีกรตรงนี้นะ เพราะทำให้เราได้ฉลาดขึ้นได้อัพเดทตัวเองเรื่อย ๆ

วกมาเรื่องเพื่อน ๆ ของวุ้นบ้าง เวลาเพื่อนมีข่าวทีไร วุ้นมักจะถูกนักข่าวถามเสมอ
 
- วุ้นมักจะซวยตลอด ก็อยากจะเคลียร์ตรงนี้เหมือนกัน กลุ้มใจมาสักพักนึงแล้ว อย่างเวลาเพื่อนดารามีข่าวไม่ว่าจะเป็น พลอย-เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ หรือ พิตต้า ณ พัทลุง วุ้นก็ไม่ได้ว่าอะไรนะกับพี่ ๆ นักข่าว เราทำงานวงการเดียวกันก็ต้องคุยกัน แล้วสิ่งที่พี่ ๆ อยากรู้อาจเป็นสิ่งที่เพื่อนของวุ้นอาจไม่มีโอกาสออกมาพูด แต่ก็ไม่ใช่ว่าเราจะถึงกับแถลงข่าวให้ วุ้นไม่เคยออกมาเล่ารายละเอียดหรือเอาเพื่อนมาเมาท์เลย แต่ก็ยังเป็นข่าวว่าวุ้นไปยุ่งเรื่องคนอื่น วุ้นเลยรู้สึกว่าต่อไปนี้วุ้นจะทำยังไง พอพูดก็โดนไม่พูดก็โดน ก็เลยกะว่าจะพูดกลาง ๆ แล้วไม่พูดมากแล้ว

เพื่อน ๆ เคยต่อว่าเราหรือเปล่า
 
- เพื่อนจะโทรฯ มาขอโทษทุกคนเลย เพราะช่วงนั้นเวลาใครมีข่าวก็จะมีชื่อวุ้นไปเกี่ยวด้วย แต่วุ้นก็โอเคนะ เราแคร์ความรู้สึกเพื่อนของเรามากกว่า  ถามว่ากลัวคนมองว่าวุ้นเป็นคนขายเพื่อนมั้ย ไม่กลัวเลย เพราะเราไม่ได้เป็นแบบนั้น เรารู้ว่าเราทำอะไร วุ้นแค่ขอให้เพื่อนเข้าใจเราก็พอ นอกนั้นวุ้นไม่คิดมากเลย

ความรักกับ ภูมิ-ณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เป็นอย่างไรบ้าง
  
- วุ้นกับณัฏฐ์รู้จักกันมานานมากแล้ว ตั้งแต่เขาเข้าวงการแรก ๆ  เราทำงานอีเว้นท์ ส่วนเขาก็ทำงานเดินแบบ ประกอบกับเขาเป็นเพื่อนกับวีเจที่ “แชแนล วี” เหมือนกัน เพียงแต่ช่วงหลังเริ่มเจอกันบ่อย ก็เลยคุยกันมาเรื่อย ๆ ซึ่งพอรู้จักกันมากขึ้น ก็รู้สึกดีต่อกัน มีอะไรที่เราประทับใจ ความสัมพันธ์ก็เลยเริ่มพัฒนา

เขาทำอะไรให้เราประทับใจ
 
- เขาดูแลเทคแคร์ดี เป็นสุภาพบุรุษ นิสัยหลายอย่างเข้ากันได้จริง ๆ ก่อนหน้านี้หลังจากเลิกกับ เภา-รัฐพล พรรณเชษฐ์ ไปก็มีดู ๆ คนอื่น ๆ เหมือนกัน แต่ไม่ได้เยอะมาก เขาก็น่ารักกว่าคนอื่น ๆ ที่เราเคยเจอ แต่กว่าจะตกลงที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ วุ้นกับณัฏฐ์ก็ศึกษานิสัยกันอยู่นานนะ เพราะเราไม่อยากจะรีบร้อนคบหากัน อยากศึกษาให้ดีก่อนว่านิสัยใจคอเข้ากันได้หรือเปล่า อย่างตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าเขาเป็นคนที่ใช่หรือเปล่า ก็ต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์

เข้ากันได้ดีมั้ย
 
- ก็ดีนะ เข้ากันได้หลาย ๆ อย่าง แต่ก็มีบ้างที่ดูงง ๆ เพราะไม่คิดว่าเขาจะคิดแบบนั้นแบบนี้ เขาก็มีความเป็นผู้หญิงในตัวสูง แล้ววุ้นก็มีความเป็นผู้ชายในตัวสูงเหมือนกัน วุ้นเป็นคนสบาย ๆ ไม่ค่อยคิดมาก แต่ณัฏฐ์เป็นคนคิดมาก

ช่วงนี้ออกงานกันเป็นแพ็กเกจด้วย
 
- หลัง ๆ ก็จะน้อยลงแล้ว แต่ก็มีบ้างที่บางงานเราสนิทกับเขาจริง ๆ เราก็ต้องทำงานด้วยกัน แต่ช่วงนี้ขอซา ๆ ก่อนแล้วกัน จริง ๆ มีติดต่อมามากกว่านี้ แต่เราขอเลือกงานออกคู่กันนิดนึง อย่างวุ้นกับณัฏฐ์ตอนนี้เราแฮปปี้ที่จะต่างคนต่างทำงานค่ะ

คนจับตามองคู่เราเยอะเหมือนกัน
 
- วุ้นกับณัฏฐ์คิดเหมือนกันว่า ถึงเราจะอยู่ในวงการก็จริง แต่เราก็อย่าลืมความเป็นตัวเองและความเป็นส่วนตัว วุ้นว่าวัยเราตอนนี้เป็นวัยเรียนรู้ จะให้มานั่งดูทีวีอยู่บ้านอย่างเดียวมันก็ไม่ใช่  เราก็ต้องใช้ชีวิตเหมือนวัยรุ่นทั่วไป แต่เราก็ต้องระวังตัว ไม่ทำให้ตัวเองเสียหาย

คบไฮโซกลัวมั้ยว่าคนจะมองว่าเราเป็นของเล่นไฮโซ
  
- ณัฏฐ์เขาก็ไม่อยากให้มองแบบนี้ เพราะเขาก็บอกเสมอว่าเขาไม่ใช่ไฮโซ เรารู้กันอยู่แล้วว่าทุกคนเท่ากัน เราคบกันแบบแฟร์ ๆ อย่างบางทีก็มีคนมาถามวุ้นว่า กลัวมั้ยว่าณัฏฐ์จะมาเกาะวุ้นดัง วุ้นว่าตัวเขาเองก็มีชื่อเสียงมาสักระยะแล้ว และวุ้นก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะสามารถทำให้ใครดังได้ อย่างเรื่องดาราเป็นของเล่นไฮโซนั้น  เอาเป็นว่าเวลาวุ้นคบกับใคร วุ้นไม่เคยคาดหวังอะไร ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร แค่เรารู้สึกดีต่อกันก็พอ

ได้ยินมาว่า พ่อแม่แต่ละฝ่ายได้เจอกันแล้ว
 
- ไม่ถึงขนาดนั้น อาจจะเจอบ้าง เช่น วันเกิดพ่อแม่ของเขาหรือพ่อแม่ของวุ้น ไม่ได้เจอแบบเป็นการเป็นงาน ยังไม่ถึงเวลา เท่าที่คุณพ่อคุณแม่ของวุ้นได้เจอณัฏฐ์ เขาก็ไม่ได้เชียร์หรือว่าอะไร เขาขอเวลาดีกว่า เขาไม่อยากให้รีบร้อน  ส่วนครอบครัวณัฏฐ์ก็มีเจอบ้าง โดยเฉพาะคุณแม่ของณัฏฐ์จะคอยให้คำแนะนำเรื่องความสวยความงาม เพราะแม่ของณัฏฐ์สวยมาก นอกจากดูแลณัฏฐ์แล้วก็ดูแลวุ้นด้วย

ตอนนี้เรียกว่า “แฟน” ได้หรือยัง
 
- เป็นคำถามที่ไม่รู้จะตอบยังไง มันอยู่ที่ความรู้สึกของเรา ไม่ใช่เรื่องของระยะเวลา วุ้นไม่คาดหวังว่าจะใช่หรือไม่ แต่อยากจะทำวันนี้ให้ดีที่สุด เวลาวุ้นคบใครก็ไม่เคยคบเล่น ๆ เพียงแต่ตอนนี้เป็นช่วงที่เราต้องศึกษากันมากกว่า

เป็นเพราะเพื่อน ๆ รอบตัวเรารัก ๆ เลิก ๆ บ่อย ทำให้คิดหนักเรื่องความรัก
 
- วงการนี้มีทั้งด้านดีและไม่ดี ของอย่างนี้เราต้องคิดเองว่าอะไรเป็นยังไง เราอย่าไปคิดว่าเราจะโดนแบบเขา เพียงแต่ว่าถ้าเราจะเจออะไรเราต้องรู้จักยอมรับและรับมือกับเหตุการณ์ต่าง ๆ  มากกว่า อย่างเวลามีข่าวแย่ ๆ เราก็ไม่ต้องไปคิดอะไรมาก เดี๋ยวคนก็ลืมไปเองพอมีข่าวใหม่ ๆ ของคนอื่นเข้ามา วุ้นปรับตัวเองให้เข้ากับวงการบันเทิงได้แล้ว
 
นอกจากเจ้าตัวจะ “ลัคกี้ อิน เกม” แล้วก็ยัง “ลัคกี้ อิน เลิฟ” อีกต่างหาก แหม! เห็นแล้วอดอิจฉาสาวคนนี้ไม่ได้