เปิดชีวิตดาราสาวดั่งเจ้าหญิง สามีเด็กเปย์หนักเดือนละเป็นล้าน!?
นก ศิขรินธาร : 2 ปีได้แล้วนะคะ เพราะว่าไปเดือนพฤศจิกา 2020 จริง ๆ ตกหลุมค่ะ ไม่ได้ตั้งใจไปโดนหลอกไป (หัวเราะ) คือตอนแรกเลยเราไม่ได้ตั้งใจจะไปอยู่ฮ่องกง เพราะคิดว่าฉันสวย ชีวิตฉันมีงานทำ มีธุรกิจ มีเพื่อน อยู่ที่นี่แล้วบินไปบินมาให้ผู้ชายคิดถึงดีกว่า แต่ทีนี้ที่ต้องไปเพราะว่าไปทำฮ่องกงไอดีไว้แล้วต้องบินกลับไปเอา สามีก็บอกให้บินกลับมาด่วนเลย ไม่รู้ตัวเลยว่าโดนหลอกไป แล้วประเทศไทยก็ล็อกดาวน์ ที่ฮ่องกงก็ปิดประเทศ งานนี้ก็จะทำยังไงล่ะ ฉันยังไม่ได้ลางานเลย จัดรายการวิทยุอยู่ งานก็ยังมีต้องทำ ละครก็ติดต่อมา แม่อีก ฉันจะทำยังไง พอดีผู้ชายซัพพอร์ตเรื่องเงินให้ฉันเลยอยู่จ้า (หัวเราะ)
เงินเยอะไหมคะ ?
นก ศิขรินธาร : คือเงินซื้อฉันไม่ได้หรอกค่ะถ้ามันน้อยไป คือตอนนั้น คุณหนิง ปณิตา ยังติดต่อเล่นละครอยู่เลย บินมาได้มั้ย คือตอนนั้นเราก็คิดว่าจะทำยังไง และถ้าไม่มีไอดีตอนนั้นคือจะเข้าฮ่องกงไม่ได้เลย แต่ทีนี้สามีเขาก็บอกว่าอย่าไปเลย เขาให้เธอเท่าไหร่ ฉันให้เธอสองเท่า เราก็เลยบอกว่ามันจะดีหรอ ฉันทำงานได้เรื่อย ๆ นะ (หัวเราะ) คือจริง ๆ แล้วเราจดทะเบียนกันแล้วแต่ยังไม่ได้จัดพิธีแต่งงาน เพราะตอนนั้นล้มไปตอนนั้นจะจัดงานที่อิตาลี ก่อนหน้านี้ก็ใช้ชีวิตเหมือนโสดไม่ได้บินไปดูแลสามี เราก็คิดว่าถึงเวลาแล้วล่ะที่จะเปลี่ยนบทบาทใหม่จากที่เป็นนักแสดงมาโดยตลอด ก็ตัดสินใจเปลี่ยนบทบาทเพราะเราแต่งงานมีสามี ก็ต้องมาดูแลสามี
ตอนแรกชวนกันอยู่เลยว่างานแต่งจะจัดขึ้นที่อิตาลี เป็นงานใหญ่ ตอนนี้ยังจะมีแพลนจัดงานที่อิตาลีอยู่ไหม ชุดก็ซื้อแล้วด้วย ?
นก ศิขรินธาร : ใช่ ๆ (หัวเราะ) คือชุดเราซื้อไว้แล้วด้วย แล้วทุกวันนี้ทำใจไม่ได้ว่าจะเอายังไงเก็บหรือว่าจะขาย ทุกวันนี้ก็เช่าบริษัทเปิดแอร์ให้ชุดอยู่ เพราะชุดราคาหลักล้าน (หัวเราะ) อย่าให้พูดเลย แล้วจะไปขายต่อใครเพราะชุดมันก็แก้แล้วด้วย
นก ศิขรินธาร : ใช่ค่ะ เดี๋ยวเปลี่ยนเป็นจัดธีมวินเทจไปเลย จะได้นำชุดที่ตัดไว้แล้วมาใส่ใหม่ค่ะ
แสดงว่ายังมีแพลนที่จะจัดงานแต่งงาน ?
นก ศิขรินธาร : คือเราก็ยังอยากใส่ชุดแต่งงาน แต่คงไม่ใหญ่เท่าครั้งแรก คงต้องลดสเกลงานลงมา เพราะแรงเราไม่เท่าตอนแรกแล้ว ตอนนั้นใช้เวลา 1 ปีที่เลือกทุกอย่าง แต่ตอนนี้แค่ได้แต่งก็บุญแล้ว
รู้สึกยังไงที่งานถูกเลื่อนออกไป ?
ไรอัน : รู้สึกเศร้า แต่ถ้าถามว่างานจะจัดใหญ่เหมือนเดิมไหม คงต้องแล้วแต่คุณภรรยา
ถ้าต้องแต่งงานอีกครั้งหนึ่งชุดต้องเปลี่ยนคอลเล็กชั่นไหม ?
นก ศิขรินธาร : คือเอาจริง ๆ อยากใส่ชุดเดิมนะที่ตั้งใจไว้ เราคิดว่าจะใส่ชุดเดิมแม้จะผ่านคอลเล็กชั่นนั้นมาแล้ว
ไรอันเขาเป็นสายเปย์ ใจดีใช่ไหม ?
นก ศิขรินธาร : จริง ๆ เขาก็ใจดีกับทุกคนนะ
หลายคนสงสัยว่า ไรอัน เขารวยขนาดนี้ เขาทำอะไรอยู่ที่ฮ่องกง ?
นก ศิขรินธาร : เอ่ออ.. คือเขาทำบริษัทไดร์คลีนนิ่งที่มาจาก UK เป็นรุ่นที่ 2 ที่ทำแฟรนไชส์ คือคุณแม่เขาตอนไปอยู่อังกฤษเขาก็จะใส่เสื้อผ้าแฟชั่นแบรนด์ แล้วทีนี้ย้ายมาอยู่ฮ่องกงแล้วไม่มีคนคลีนให้ เขา เขาก็ไปคุยกับเจ้าของแบรนด์นี้ เขาก็เลยได้แฟรนไชส์มา
เป็นนักธุรกิจระดับพันล้านจริงไหม ?
นก ศิขรินธาร : คือเราก็ไม่ได้จัดหมวดหมู่อะไรขนาดนั้น ถามว่าเรามีความสุขไหม เรามีความสุขมาก
นก ศิขรินธาร : ได้เป็นเงินเดือนค่ะ กินตำแหน่งภรรยาค่ะ (หัวเราะ) วัน ๆ ก็ดูแลสามี ที่ปรึกษา เป็นเด็กนั่งดริ้งก์
คนเมาท์ว่าได้เป็นหลักล้านต่อเดือน ?
นก ศิขรินธาร : คือไม่ขอพูดเรื่องนี้ได้ไหมคะ (หัวเราะ) เรารับหลายทาง ทั้งเงินเดือนภรรยา และสามีเพิ่งให้ตำแหน่ง ซึ่งเขาเป็นอะไรไปฉันก็ฮุบอะค่ะ โชคดี เราเป็นคนดีไซต์สามีนะ อยากมีสามีเป็นคนฮ่องกง ทำธุรกิจ คือแพลนไว้ตั้งแต่เด็ก ๆ เราชอบอยู่กับคนสองวัฒนธรรม แล้วไรอันเขาเคยอยู่เมืองไทยเขาก็จะเข้าใจวัฒนธรรม เขาใจเราได้ เราชอบแฟชั่น แฟชั่นแบรนด์ แล้วได้สามีเป็นคนซักผ้าให้อีกอ่ะ คิดมาตั้งแต่เด็ก ๆ ก็ได้จริง ก่อนหน้านี้ก็มีผู้ชายขอแต่งงานตลอดนะ สวยอ่ะ (หัวเราะ)
ไรอัน : ภรรยาก็เคยบอกว่าอยากได้คนแบบนี้มาเป็นสามี
เมื่อกี้บอกได้ตำแหน่งมาตั้งทำหน้าที่อะไรบ้าง ?
นก ศิขรินธาร : คือเราจะช่วยดูหลังบ้าน เป็นคนที่ไกด์สามีมาตลอดเพราะเราชอบเรื่องแฟชั่น เรามีมุมมองด้านแฟชั่น คือมันลงตัวของเราสองคน ซึ่งหลังจากที่ได้รับตำแหน่งมาปีหน้าก็จะเข้ามาดูมากขึ้นธุรกิจส่งเสริมบริษัท ส่วนหน้าที่ภรรยาก็ต้องหาร้านอาหารรอสามีเพราะเขาทำงานเหนื่อย เมื่อก่อนเขาจะหาร้านอาหารเซอร์ไพรส์เราตลอด ตอนนี้เราก็เลยแบ่งเบาเขาด้วยการจองร้านอาหารแทน สามีคือเพอร์เฟกต์มากทุกอย่าง กินข้าวก็รอให้เรากินก่อน เปิดประตูรถให้ แต่มีอย่างเดียวดิฉันขอฟ้องค่ะ คือเขาเดินเร็วมาก เดินไม่รอภรรยา มีเรื่องเดียวจริง ๆ เราก็สับขาไม่ทันเลยค่ะ เราก็บอกเขาเรื่องนี้นะ
ไรอัน : คือมันอยู่ในสายเลือด ชาวฮ่องกงจะเร่งรีบตลอดเวลาเหมือนเดินบนถ่านร้อน
ในแต่ละวันตื่นมาทำอะไรบ้าง ?
นก ศิขรินธาร : คือเรียนค่ะ เมื่อก่อนเรียน 4 วันแต่ตอนนี้เหลือแค่ 3 วัน เรียนภาษา จีน แมนดารินด้วย แล้วก็เรียนภาษาอังกฤษเพิ่มเติมด้วย ปกติเราคุยกับฝรั่งชวนแต่ไปเที่ยว แต่เดี๋ยวนี้สามีพาออกงานด้วยทุกครั้ง ก็เลยต้องคุยเรื่องประเทืองปัญญา เพราะเราคุยไม่ค่อยมีสาระ ก็ไปหาสาระเพิ่มมากขึ้น เราก็แฮปปี้ เรียน 3 วัน ดูแลสามี ดูแลบ้าน พอมาดูแลบ้าน บ้านก็ต้องเรียบร้อย รักความสะอาด
ไรอัน : ภูมิใจในภรรยามาก และดีใจที่ภรรยาไปอยู่ด้วยที่ฮ่องกง
มีเรื่องหนึ่งที่พี่นกไม่เคยบอกใครที่ไหน ว่าเคยผ่าหัวใจที่ฮ่องกง ?
นก ศิขรินธาร : ผ่าแล้วสินะ คือไม่รู้ตัวเอง เนื่องจากเรานำสามีไปแล้ว สามีก็ชอบจับเราไปแสกนตัวตลอดเวลา พอเราไปตรวจร่างกายหมอก็จับทำนู่นนี่ แล้วก็บอกว่าเซลส์ตัวนึงแทรกแซงหัวใจต้องกินยาตลอดชีวิต ไม่ก็ผ่าตัด เราก็เลยแบบจะบ้าหรอ ก็เลยกินยาไปก่อน ช่วงที่รับวัคซีนก็รู้สึกอึดอัด ก็เลยผ่าตัด 8 ชม. ใส่กล้องไปทางขวา คือตอนจี้เซลล์ตัวนั้นออกเราก็รู้สึก คือตื่นตลอดเวลา ทำเสร็จก็ต้องนอนนิ่ง ๆ คืออาการมันอยู่กับเรามาแบบไม่รู้ตัว ถ้าไม่เอาออกมันก็จะอยู่แบบนั้น ก็ต้องขอบคุณสามีที่พาไปตรวจ
ไรอัน : พอทราบก็กังวล ก็ไปหาความรู้เรื่องนี้ แต่เขาก็บอกว่ามันไม่ได้เป็นอะไรมาก แต่ก็เป็นห่วงและซีเรียสอยู่ดี
นก ศิขรินธาร : ใช่ค่ะ วันละล้าน คือเป็นห้องรวมไม่ให้คนเฝ้า ถ้าจะเฝ้าต้องไปเช่าเก้าอี้อีก ถ้าเป็นห้องพิเศษก็จะแพงกว่า 2 เท่า ตอนนั้นเรานอนไป 1 คืน พอผ่าตัดส่องกล้องอีกวันก็กลับบ้านได้เลยไม่มีอะไรขาแค่เขียว 6 เดือน ก็จะหายขาดเลย ตอนนั้นเราก็งงว่าเกิดขึ้นได้ยังไง กินอาหารดีดูแลตัวเอง ออกกำลังกาย แต่เขาบอกว่าบางคนเกิดมากับเซลส์ตัวนี้ไม่รู้ตัว คือสามีชอบดูแลเรา พาไปเปลี่ยนอะไหล่ตลอด ไปสแกนทุก ๆ 6 เดือน จนคุณหมอบอกให้มา 1 ปีครั้ง
นก ศิขรินธาร
อะไรในตัวที่ทำให้เขารักขนาดนี้ เคยถามเขาไหม ?
ไรอัน : คือเกิดมาคู่กัน ทำทุกอย่างด้วยกัน ทุก ๆ อย่างทำด้วยกันได้หมด เหมือนเกิดมาคู่กัน
ล่าสุดเกือบต้องผ่าตัดอีกรอบเพราะมะเร็ง ?
นก ศิขรินธาร : เดือนที่แล้วเครียดมาก เพิ่งผ่าตัดได้ 20 วัน ผ่าตัดส่องกล้อง คือด้วยความที่เขาชอบพาเราไปแสกนกรรม ล่าสุดก็ไปเจอต่อมน้ำเหลืองโต หมอก็บอกว่ามันเป็นจุดที่อันตราย อยู่ติดกับเส้นเลือดใหญ่ใต้ไต แล้วเขาก็ส่งเราไปตรวจหามะเร็ง ตอนนั้นอยู่ฮ่องกงเราก็เครียดมากเลย 1 อาทิตย์ ต้องฟังผล ไปฟังผลหมอบอกว่าคิดว่า 60% เป็นแล้วบอกต้องผ่าประมาน 20 ซม. กลางตัว เราก็ชอบใส่เสื้อเอวลอยด้วย ตอนนั้นก็บินกลับไทย เพราะที่นี่ผ่าตัดส่องกล้องได้ เราก็เลยต้องผ่าตัดเอาชิ้นเนื้อก้อนนั้นมาตรวจ พอตรวจคุณหมอบอกไม่ใช่มะเร็ง มันติดเชื้อภายใน คือรอดตายมาอย่างหวุดหวิด ก็ถือว่าโชคดีอยู่ แต่ก่อนหน้านั้น 1 เดือน ก็เครียดมาก ตอนนี้ก็เลยต้องดูแลตัวของเราให้ดีที่สุด
ไรอัน : ร้องไห้กันทั้งคู่ กังวล
พอเจอเหตุการณ์แบบสวีตมากกว่าเดิมไหม ?
นก ศิขรินธาร : สวีตมากกว่าเดิม (จูบกับสามี) คือเราจะจูบกันตลอดเวลา
https://www.facebook.com/teeneedotcom