พลังบุปผาชน คนหนุ่ม-สาวกับการเมือง

กำลังเข้มข้นร้อนระอุไปทั่วหนแห่ง สำหรับประเด็นการเมืองของไทยในขณะนี้ เพราะล่าสุดกลุ่มนิสิตนักศึกษาจากหลายสถาบันรวมพลกันลุกฮือขึ้นมาประท้วงร่วมกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

โดยใช้ชื่อว่า กลุ่มเยาวชนกู้ชาติ (YOUNG PAD) ซึ่งจากสถานการณ์ในครั้งนี้"คม ชัด ลึก" เลยไปสัมภาษณ์เหล่าคนในวงการบันเทิง ที่อยู่ในวัยเรียนว่ามีความคิดเห็นกับเรื่องนี้อย่างไรบ้างเริ่มจาก"เบสท์" อธิชา พงษ์ศิลป์พิพัฒน์ ในฐานะที่เป็นนิสิตได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการที่มีกลุ่มนิสิตนักศึกษามาประท้วงว่า เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยมาก กลัวว่าจะได้รับอันตรายจากการไปประท้วง ไม่อยากให้เสี่ยงมากไป อย่างที่มหาวิทยาลัย (มหาวิทยาลัยศรีนครินวิโรฒ) ก็มีการประชุมกันว่าจะให้หยุดการเรียนดีหรือไม่ 

"แต่หนูก็ดีใจนะที่กลุ่มปัญญาชนลุกขึ้นมาให้ความสนใจเรื่องของเหตุบ้านการเมือง ไม่ใช่จะมีคนมาบอกว่ากลุ่มคนที่ไปประท้วงเป็นคนจัดตั้ง ดังนั้นการลุกขึ้นมาของกลุ่มนิสิตนักศึกษา โดยส่วนตัวหนูเชื่อว่า ในการปกคองระบอบประชาธิปไตยนะ 

ฉะนั้นจึงอยากให้รัฐบาลฟังเสียงของประชาชนส่วนใหญ่ด้วยว่า พวกเราต้องการอะไร ประเทศชาติไม่ใช่เป็นของใครเพียงกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หนูไม่อยากให้ใครคนใดคนหนึ่งมาหาผลประโยชน์จากประชาชน ใช้พลังบริสุทธิ์ของพวกเขาเป็นเครื่องมือ ก็อยากให้ทุกคนมองผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก

แต่ที่หนูออกมาพูดอย่างนี้ไม่ใช่ว่าเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรอกนะ แค่อยากให้รัฐบาลทำอะไรให้บริสุทธิ์ เพื่อประเทศชาติ ไม่มีการแบ่งพรรคแบ่งพวก จริงๆ หนูอยากเห็นบทสรุปจากเหตุการณ์ความขัดแย้งการเมือง จบแบบสันติ เศรษฐกิจของประเทศชาติกลับมาดีเหมือนเดิม อย่างในเรื่องการท่องเที่ยวตอนนี้ก็ค่อนข้างซบเซา ฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นใครขึ้นมาบริหารประเทศ หนูก็อยากทำให้ประเทศชาติสงบสุข ช่วยมาพัฒนาประเทศชาติฟื้นฟูประเทศชาติ" นางเอกความลับของซุปเปอร์สตาร์ 

ส่วนเรื่องที่ฝ่ายพันธมิตรเสนอให้มีการปกครอง70 : 30 (รัฐบาลมาจากการแต่งตั้ง แต่แต่งตั้งด้วยวิธีไหนนั้นยังไม่ระบุชัดเจน ส่วนอีก 30% นั้นมาจากประชาชน) เบสท์ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง เนื่องจากคิดว่าประชาชนในประเทศไทยมีตั้ง 60 กว่าล้านคน จะให้คนเพียงไม่กี่คนมามีอำนาจในการเลือกตัวแทนของคนทั้งชาติได้อย่างไร 

"มันไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย และดูไม่เป็นประชาธิปไตยด้วย เพราะประชาชนสามารถลงคะแนนแค่ 30% มันน้อยไปไหม อีกอย่างประชาชนก็เป็นเจ้าของประเทศเหมือนกันนะ ทว่า หากถึงที่สุดจริงๆ ไม่มีทางเลือกแล้ว ขอเป็น 50 : 50 คนละครึ่งแล้วกัน ให้ประชาชนมีสิทธิ์สักครึ่งหนึ่งก็ยังดี" เบสท์แสดงความคิดเห็น

ด้าน"ว่าน" รัชชุ สุระจรัส กล่าวว่าปกติโดยส่วนตัวก็ไม่ค่อยได้ติดตามข่าวสารการเมืองสักเท่าไร แต่ถ้าถามในฐานะที่เป็นนักศึกษาคนหนึ่ง อยากจะบอกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า ไม่มีคำตอบที่ถูกหรือผิด เนื่องจากต่างคนก็ต่างมีความคิดของตัวเอง จึงสามารถที่จะคิดเห็นแตกต่างกันได้ ฉะนั้นการที่นักศึกษามาประท้วงก็เป็นการแสดงจุดยืนความเชื่อมั่นในสิ่งที่พวกเขาคิดเท่านั้นเอง 

ฟากดีเจ"เด" ดาวิเด โดริโก้ บอกว่าไม่เห็นด้วยกับกลุ่มนักศึกษาที่ไปประท้วง อยากให้เอาเวลาไปเรียนหนังสือมากกว่า เพราะไม่รู้จะทำไปทำไม อีกอย่างไม่อยากให้คนในชาติต้องมาทะเลาะกันเอง มันไม่มีอะไรดีขึ้นมา อยากให้เกิดความสันติกันได้แล้ว แต่ก็อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง อยากให้รัฐบาลชุดเก่าๆ ออกไป แล้วมีการเลือกตั้งใหม่เกิดขึ้น โดยที่ไม่ใช้ความรุนแรงกัน 

"ผมอยากให้คนทั้งสองฝ่าย คือ พันธมิตร กับรัฐบาล ยอมถอยกันคนละก้าว เพราะไม่อย่างนั้นเหตุการณ์นองเลือดก็อาจเกิดขึ้นมาก็ได้ ส่วนตัวผมก็เชื่อในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอยู่นะ แต่ไม่เชื่อในการใช้ความรุนแรงที่คนลุกขึ้นมาประท้วงกัน อย่างการที่ฝ่ายพันธมิตรให้มีการเมือง 70 : 30 ผมก็ไม่เห็นด้วยนะ เพราะสุดท้ายอย่างไรเสียพวกเดียวกันก็เลือกกันขึ้นมาปกครองประเทศเหมือนเดิม" ดีเจเดกล่าวปิดท้าย