นักร้องหนุ่มย้อนชีวิตจุดพีคเพลงดังทั่วประเทศ!! มือเติบใช้เงินวันละเกือบล้าน

ครูเต้ย : ตอนแรกที่บ้านบอกให้ทำ เพราะเรายังทำได้อยู่ ทางโรงเรียนก็ให้ทำ เพราะเรายังทำได้อยู่ แต่ว่าช่วงหลังมาเราต้องรับงานกลางวันด้วย เป็นงานถ่ายละคร ซึ่งมันต้องใช้วัน จันทร์-ศุกร์ แต่ก่อนคอนเสิร์ตมันเป็นตอนกลางคืนเรายังไปได้ แต่พอเป็นงานพวกนี้ก็เลยต้องตัดสินใจ แล้วอีกอย่างลูกเลยครับ ตอนนั้นผมคิดถ้ารับราชการและทำงานกลางคืน ผมจะไม่มีเวลาให้ลูกเลย ผมก็เลยตัดสินใจว่าถ้าเราทำงานอีกอย่างหนึ่งเวลาที่เหลือน่าจะมีให้ลูก แต่ผมไม่ได้ทิ้งเลยนะครับ ผมว่าง ผมก็จะเข้าไป แค่ผมออกจากราชการ แต่ถ้าผมว่าง ผมจะเข้าไปช่วยโรงเรียนเหมือนเดิม มันผูกพัน เพราะเราอยู่นั่นประมาณ 4-5 ปี ก็เหมือนบ้านเรา

แซ็คออกจากโรงเรียนไม่บอกใครเลย?

แซ็ค : พื้นฐานของผม ผมไม่ได้เรียนเก่งอยู่แล้ว

คุณเป็นลูกผู้รับเหมา พ่อคุณเป็นช่างไม้?

แซ็ค : ตอนนั้นเรียนอยู่ ปวช.1 พ่ออยากให้เป็นช่างก็เลยจับไปเรียน ปวช.ช่างกลโรงงาน เข้าไปวันแรกให้เปิดคอมพิวเตอร์ เราอยู่บ้านก็ไม่มีคอมพิวเตอร์ ก็ไปงมหาที่เปิดคอมพิวเตอร์ เพื่อนก็เดินมาบอกว่ากดตรงนี้ ก็ดูเพื่อน อาจารย์ก็บอกว่าให้เข้าไปตรงนั้น ตรงนี้นะ ไม่ทันครับ ไม่เอาเลย คือเรียนไปได้คาบเดียว ผมเดินออกมาเลย ไม่เรียนแล้ว ไปอยู่หลังโรงเรียนดีกว่า หลังโรงเรียนมีร้านทำอาหาร ไปเล่นก่อน ไปสนิทกันกับเจ้าของร้าน ป้า กับ ลุง ผมบอกว่าผมชอบทำอาหารมากครับ ผมช่วยตรงนี้ได้ไหม ป้ากับลุงบอกมาเดี๋ยวให้เงินใช้ ก็ไปทำอยู่เทอมนึง ไมาเรียนเลย แม่ไม่รู้เพราะผมออกจากบ้านตอน 7 โมงเช้า แบะกลับถึง 5 โมงตลอด

แซ็ค : ตอนเทอม 2 ครับ ผมรู้ว่าวันนี้แม่ต้องไปเสียค่าเทอมให้ เราไม่ไปโรงเรียนเลย แม่ก็ไปเสียค่าเทอมให้ เขาก็ลิสต์ชื่อขึ้นมา นาย มงคล ไม่มีนะคะ สงสัยน่าจะเวลาเรียนไม่ครบ แม่ผมตกใจ บอกไม่เป็นไรเดี๋ยวกลับไปถามลูกที่บ้าน แม่ก็เลยเข้ามาถาม จากนั้นแกก็หยิบกระเป๋าให้เลย ยัดเสื้อผ้าโยนให้เลย ถ้าไม่เรียนก็ไปทำงานกับพ่อ แค่นั้นผมดีใจเลยครับ เวลาที่รอคอยมาถึงแล้วจับกระเป๋าได้ไปทำงานเลย ตั้งแต่วันนั้นผมไม่ได้อยู่บ้านเลย ก็ยึดช่างไม้ งานก่อสร้างเป็นจริงเป็นจัง

รู้ตัวไหมว่าตัวเองร้องเพลงได้?

แซ็ค : รู้ตัวว่าตัวเองชอบร้องเพลง

คำแพงมาได้ไง?

แซ็ค : ทำเพลงคำแพงอายุ 21 ตอนนั้นผมไปทำงานต่างจังหวัดได้มรโอกาสกลับมาบ้านช่วงอายุ 21 ก็มาประกวดร้องเพลงในรายการหนึ่ง

ใครเป็นคนผลักดันให้ประกวด?

แซ็ค : กลับมาบ้าน น้าอยู่อีกอำเภอหนึ่งเขาขี่รถมาบอกว่า อยากให้แซ็คไปประกวดรายการหนึ่งผมบอกว่าไม่เอา ไม่ประกวด แต่มีนี้ยายบอกว่าทำไมไม่ลองไปทำดู เราก็มีความสามารถไม่ลองสักหน่อยเหรอเผื่อได้เงินมาทำบ้าน

แซ็ค : เปลี่ยนไปหมดเลยครับ ปกเอ็มวีก็เป็นบ้านๆ เลย ตอนนั้นเขาถ่ายอีกวงหนึ่ง ผมเดินผ่านไปส่งไก่ เขาบอกไหนๆ มาแล้ว มาถ่ายโปรไฟล์ ในปกผมใส่เสื้อสีเทา มีผ้าขาวม้าถือกีต้าร์ เขาก็ถ่ายครึ่งตัวเพราะผมใส่กางเกงขาสั้น เขาบอกมาแล้ว มาถ่ายโปรไฟล์สัก 4-5 รูป ผมบอกไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลย เขาบอกเอาแบบนี้แหละง่ายๆ ผมก็ไปดึงผ้าขาวม้าที่มัดกรงไก่หลังรถมา อย่างเหม็นเลย เขาก็บอกเอารูปนี้เป็นโปรไฟล์เลย ง่ายดี

ช่วงนี้ทุกอย่างเปิดหมดแล้ว คอนเสิร์ตกลับมาเล่นกันหรือยัง?

ครูเต้ย : กลับมาแล้วครับ

แซ็ค : เพิ่งไปเล่นมา ของผมน่าจะ 70-80 เปอร์เซ็นต์

ตอนพีคๆ วิ่งวันนึงกี่งาน?

แซ็ค : 7 งานครับ หลังจากนั้นก็แอดมิทไป โหมมากก็ไม่ดี

ครูเต้ย : ของผม 4-5 งาน

ใครที่นอนเยอะๆ จนลืมไปทำงาน?

แซ็ค : ผมครับ เราลืม บางครั้งมันเหนื่อย มันเพลีย สมองมันคิดอะไรไม่ทันเราก็นอนยาวไปเลย นาฬิกาปลุกก็ปลุกไปเลยเวลาที่ผมน็อกก็คือน็อกยาวไปเลย

แซ็ค : เกือบไม่ทันดีกว่า เพราะน้องพังประตูเข้ามาเรียก ไปแบบสภาพแบบนั้นเลย

เวลาเป็นเจ้าของเพลง 100 ล้านวิว พอทำเพลงใหม่มันกดดันไหม?

แซ็ค : สำหรับผม ผมไม่กดดันตั้งแต่เพลงคำแพง ค่ายบอกผมเสมอ ถ้าทำเพลงแรกไม่ดังก็ทำเพลงที่สอง ก็ทำไปเรื่อยๆ จนกว่าเพลงนั้นจะประสบความสำเร็จ

ครูเต้ย : ทุกวันนี้ทำเพราะชอบนะครับ ไม่ได้กดดัน

สองคนนี้ประสบความสำเร็จมากๆ ตอนนี้ซื้อบ้านให้ตัวเองและครอบครัวแล้ว?

ครูเต้ย : ของผมอยู่ขอนแก่นครับ กรุงเทพอยู่บ้านแฟน

แซ็ค : ซื้อเมื่อปีที่แล้ว ซื้อที่ลำลูกกาอยู่กับเพื่อนกับน้อง ส่วนมากจะเป็นนักดนตรี เพราะชีวิตผมอยู่กับใครไม่ค่อยได้

แซ็ค : จริง แต่ก่อนผมถือบัญชีเอง ปี 59-60 ช่วงรุ่งๆ มันไม่ได้เหมือนสมัยนี้ คอนเสิร์ต 15 วันได้เงิน มันเห็นเงินก้อน แป๊บเดียวมันได้จับเงิน 5-6 แสน เราก็เหลิง เพื่อนยืมเอาเท่าไหร่ 2-3 หมื่น โอเค เดี๋ยวค่อยคืนก็ได้ เอาไปลงทุนนี่ 200,000 อะได้ๆ ไม่ถึงเดือนผมหมดเกือบล้าน ไม่ได้คืนด้วย หลังจากนั้นข้อความไปลิ้งค์เข้ากับบัญชีผู้จัดการตกใจเลย ทีนี้แม่ผมยึดไว้หมดเลย

ครูเต้ยเป็นคนคำนวนเรื่องเงินค่อนข้างดี แต่ก็ช้อปปิ้งเก่งชอบซื้อรถหรู?

ครูเต้ย : แต่ก่อนครับ แต่ทุกวันนี้เพื่อลูกหมดแล้วครับ

เมื่อก่อนชอบซื้อรถสปอร์ต?

ครูเต้ย : เป็นคนชอบรถตั้งแต่เด็ก

ตอนนั้นครูซื้อกี่คัน?

ครูเต้ย : ประมาณ 4-5 คัน เราไม่ได้บอกใครด้วย เราไปดู เราชอบ เราก็เอา

ที่บ้านไม่ตกใจเหรอ?

ครูเต้ย : เขาก็ถามว่าออกรถใหม่เหรอ แต่ไม่ได้อะไรมาก เพราะเขาเห็นเราทำงาน แต่เราก็แบ่งไว้นะครับ ไม่ใช่เอาเงินทั้งหมดมาซื้อ

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่