โควิดเป็นเหตุ!! คู่รักต่างวัยคบนาน10ปีตัดสินใจไม่มีลูกแล้ว
อนิล : 6 ปีค่ะแต่ว่ารู้จักกันประมาณ 10 ปีรู้จักกันหนูไปร้องเพลงที่ดันดาราไปออดิชั่นเจอครั้งแรกก็ยังไม่ได้คุยกันมากเพียงแต่มองเค้าแล้วทำไมผู้ชายคนนี้ดูอบอุ่นจังเลยแต่ตอนนั้นเรา 2 คนต่างไม่ว่าง
ปุ๊ย : ครั้งที่ 2 มาออกอีกครั้งนึงเหมือนแซวกันไปแซวกันมาพอได้มาออกรายการก็มีการแลกไลน์กันแต่ยังไม่มีอะไรแค่การคุยที่ถูกชะตากันตอนเห็นครั้งแรกรู้สึกเหมือนกันว่าผู้หญิงคนนี้มีอะไรที่น่าสนใจอยู่แต่เราไม่ได้คิดอะไรเพราะไม่อยากเป็นสมภารกินไก่วัดเราเคยตั้งปณิธานไว้
แล้วสานต่อกัน?
อนิล : หนูจีบเค้าค่ะเราว่างแล้วตอนที่เราไปออกรายการครั้งที่ 2
ปุ๊ย : เราก็กำลังจะว่าง
ปุ๊ย : จะว่ารู้ก้รู้แต่ยังไม่แน่ใจเราไม่ำด้ศึกษากันเต็มที่แต่พอเริ่มคุยกันไลน์กันมันมีเรื่องแปลกๆบางทีเรากำลังจะทักไลน์ไปเค้าก็ทักมาส่งสติกเกอร์ตัวเดียวกันคำพูดคำเดียวกันเลยรู้สึกว่ามันไม่มีอะไรที่ปกติละเรียกว่าเป็นพรหมลิขิตได้เลย
อนิล : หนูชวนพี่ปุ๊ยไปดื่มที่ร้านที่หนูร้องเพลงแต่มีทีมงานไปนะคะหนูชอบเค้าดูอบอุ่นดีค่ะเห็นหน้าจอตั้งแต่เด็กๆดูมีเสน่ห์มากๆ
ปุ๊ย : ไปนั่งกินข้าวก็มีเรื่องอื่นๆให้คุยมากขึ้นบางเรื่องก็ปัญหาของเค้าบางเรื่องก็ปัญห่ของเราแต่ปรึกษากันได้ช่วยเป็นที่ปรึกษาให้กันและกันได้
ชอบเลยมั้ย?
ปุ๊ย : ถือว่าชอบแล้วนะครับแต่เรายังไม่แน่ใจว่าเราจะจีบเค้าได้มั้ยหรือเค้าจะชอบเราจริงมั้ย
อนิล : เส้นเลือดในสมองแตกค่ะหนึ่งในล้านคนก็ได้ที่จะเป็นหลอดเลือดผิดปกติโดยกำเนิดตอนนั้นปวดหัวแบบทนไม่ได้ต้องไปโรงพยาบาลสักพักตามองไม่เห็นมัวไปหมดโชคดีที่ผ่าศิริราชทัน
ปุ๊ย : ผมไปหาเค้าที่โรงพยาบาลไปถึงพยาบาลฟ้องเลยไม่ถามหาพ่อหาแม่ถามหาพี่ปุ๊ยอยู่ไหน
พี่ปุ๊ยดูแลยังไง?
อนิล : มันทำให้หนูรู้สึกดีกับเค้าตอนนั้นหนูโกนหัวค้าเดินจูงมือเราโดยที่ไม่อายคนเลยเราเป็นคนธรรมดาโกนหัวแล้วขี้เหร่มากเค้าเป็นดาราเค้าไม่แคร์สายตาใครเลยดูแลมากๆพี่ปุ๊ยกายภาพบำบัดจนหนูเดินได้เป็นปี
แต่ตั้งปณิธานสมภารไม่กินไก่วัด?
ปุ๊ย : ช่วงนั้นเราออกมาแล้วพอดีด้วยก็เลยปลดล็อคประโยคนี้ไปซะเราออกจากวัดแล้ว
ระหว่างที่รักษาตัวที่โรงพยาบาลรักเค้ามากขึ้น?
ปุ๊ย : ใช่ครับมันมีหลายๆอย่างที่ทำให้เรารู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ความรู้สึกจากการคุยคำพูดของเค้ามันจริงทั้งนั้นเลยเราสามารถพูดเรื่องจริงได้ทุกเรื่อง
ดูแลนานแค่ไหนตัดสินใจคบกัน?
อนิล : ตอนที่ดูแลกันนั่นก็คือคบกันแล้วนะคะ
ปุ๊ย : มันนัวๆไปไม่เป็นทางการเริ่มมีการเปลี่ยนสรรพนามไปไหนมาไหนด้วยกัน
ปุ๊ย : ตอนแรกคิดว่าจะจูนยากเพราะอายุห่างกันเป็นรอบเลยแต่พอเอาเข้าจริงๆง่ายมากเพราะอนิลเองเหมือนเป็นคนที่กลับไปหาความเก่าเค้าทำงานตั้งแต่เด็กฟังเพลงเก่ารู้จักคนเก่าๆเราไม่ต้องปรับตัวเค้าสามารถปรับมาหาเราได้เลยในขณะที่เราเองวนไปหาความใหม่เหมือนกันมีจุดร่วมที่ค่อนข้างไปกันได้โดยที่ไม่ต้องปรับตัวไรมาก
อนิล : ไม่มีค่ะพี่ปุ๊ยเป็นคนที่เข้าใจง่ายมากๆ คุยอะไรก็เข้าใจกันง่าย 14 ปีคิดว่าจะทันกัน
คบกันเพื่อต่างฝ่ายต่างหาประโยชน์เพราะรู้จักคนเยอะด้วยกันทั้งคู่?
ปุ๊ย : ช่วยกันทำมาหากินมากกว่าแนะนำคอนเนคชั่นให้กันเอื้อกัน
เคยแต่งงานมาก่อนแล้วไม่สำเร็จประโยคไหนที่พูดแล้วทำอนิลหน้าชา?
อนิล : ต่อหน้าก็เคยในโซเชียลก็เคยนั่งทานข้าวอยู่ได้ยินก็มีค่ะ
ปุ๊ย : เค้ามีภาพจำแต่งออกทีวีด้วยตอนนั้น
ปลอบยังไง?
ปุ๊ย : ผมบอกว่าเป็นเรื่องในอดีตอะไรที่ไม่ดีก็ปล่อยมันบางทีผมใช้คำว่าไม่มีใครจำเรื่องแย่ๆของเราไปถึง 100 ปีหรอก
ปุ๊ย : มันไปต่อด้วยกันไม่ได้จบแบบต่างคนต่างไปตามทางตัวเองยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้
ตอนนั้นกลัวมั้ยจะเริ่มต้นใหม่?
ปุ๊ย : ไม่กลัวเลยครับทุกชีวิตย่อมมีดารเปลี่ยนแปลงอยู่แล้วไม่ว่าเรื่องอะไรก็แล้วแต่ถ้าเราไปกลัวเราจะไม่รู้ว่ามีอะไรเปลี่ยนบ้างแล้วไปแก้ปัญหาเอาว่ามีอะไรให้เราแก้บ้างและแก้ได้มั้ยทุกปัญหามันมีทางแก้หมดทำให้เข้าใจโลกมากขึ้นบ้างเรื่องเริ่มปลงเริ่มมีสวดมนต์ละคำติฉินคำวิจารณ์ปล่อยหูซ้ายทะลุหูขวาบ้างก็ได้
อนิล : หนูยังไม่มากกับวงการพออยู่กับพี่ปุ๊ยเริ่มมีคอมเมนท์ใหม่ๆ หนูร้องไห้มีนอยด์แต่พี่ปุ๊ยจะปลอบเสมอให้สนใจคนที่รักเราไม่ต้องไปฟังคนอื่นตอนนี้ดีขึ้นมากแล้วค่ะ
ปุ๊ย : ยอมรับว่าเค้าใหม่กับการต้องไปเจอสังคมพอมาเป็นแฟนเราก็มีผลพวกนี้ตามมาบ้าง
คบเค้าแล้วเราเฟดออกจากทีวี?
ปุ๊ย : ไม่น่าจะเกี่ยวไปโทษเค้ามันก็ไม่ใช่ไม่คิดว่าคำพูดพวกนี้ตะทำอะไรเราได้
ความหวาน?
อนิล : เป็นการกระทำมากกว่าค่ะเค้าจะไม่พูดหวานแต่ดูแลเราทุกอย่าง
มีแพลนจะมีลูกมั้ย?
ปุ๊ย : ก็เคยคุยกันนะมีลูกกันมั้ยอยากรู้ว่าจะเป็นเด็กยังไงแต่พอช่วงโควิดเปลี่ยนความคิดเลยมันไม่ได้อยู่แปปเดียว
อนิล : ด้วยเศรษฐกิจด้วยโรคภัยไข้เจ็บมันเยอะอีกอย่างพี่ปุ๊ย 52-53 แล้วเลยเปลี่ยนความคิดไปหมดเลยแต่อยากมีนะคะแต่ไม่มีดีกว่า
https://www.facebook.com/teeneedotcom