ตลกดังเปิดเส้นทางความรักกว่า30ปี เผยจุดเริ่มต้นสึกพระมาแต่งงาน

ญา : มาสนิทกันตอนแต่งงานแล้ว

ยาว : ไม่ได้จีบกันนะ พ่อแม่รู้จักกันอยู่แล้ว มาติดต่อให้ พ่อของคุณญาเค้าเป็นเพื่อนกับพ่อของผม คุยกันยังไงไม่รู้เค้าบอกว่าให้ลูกเรามาจีบกัน

พ่อกับพ่ออยากจะสมานครอบครัวกัน ตอนนั้นเห็นหน้ากันแล้วปิ๊งมั้ย ?

ญา : ก็ยังไม่ปิ๊ง ไม่ใช่สเป็คเลย

ยาว : สเป็คผมก็คือถ้าแม่บอกว่าโอเค ผมยังไงก็ได้

ตอนที่ครอบครัวจีบพี่ญาให้ตอนนั้นพี่ยาวยังบวชเป็นพระอยู่มั้ย สึกหรือยัง ?

ยาว : สึกแล้วครับ สึกตอนนั้นก็เพราะว่ามาแอบชอบเค้าเนี่ยแหละ มันก็ถึงเวลาสึกแต่ก็ยังไม่ได้ชอบเท่าไหร่หรอก

ความรู้สึกพี่ญาตอนเจอครังแรกรู้สึกยังไง ?

ญา : มีก่อนหน้านี้ที่พี่ยาวมาจีบเรา ซึ่งเป็นผู้ชายคนนึงก็บวชเป็นพระนานเหมือนกัน เค้ามาจีบพี่ญาก่อน พอเค้าสึกออกมาเค้าก็มาคุยว่าพร้อมที่จะแต่งงานแล้วนะให้ว่าสินสอดมา

ญา : คือตามใจพ่อแม่ คุณพ่อบอกว่าคนนี้แหละที่จะเป็นฝั่งเป็นฝาได้ เห็นบวชมานานน่าจะรู้ความ

เห็นว่าแต่งกับเค้าเถอะที่เค้าเยอะ ?

ยาว : ใช่ครับ ที่นาเค้าเยอะมากเลย ข้าวจะเยอะ ญาติฝั่งผมบอกว่าแต่งกับคนนี้เถอะ เค้ามีที่ทางเยอะ แต่งกับคนนี้ไม่จน

ญา : คุณพ่อคุณแม่ฝั่งพี่ญาก็จะมองว่าแต่งกับเค้าเถอะ ดูเป็นคนดีบวชมานาน สึกออกมา น่าจะพาเราไปสู่อนาคตที่ดี

ช่วงเวลาที่จีบ จีบกันยังไง เพราะต่างคนต่างไม่เคยมีแฟนกันมาก่อน ?

ญา : ช่วงเวลาที่จีบกันมันสั้นมาก เหมือนว่าเราแทบจะไม่ผูกพันเลย

ยาว : จีบกัน 2 อาทิตย์แล้วแต่งเลย ตอนที่แต่งงานเค้า 17 ปีเอง พี่ 25 ปี แต่งเสร็จปุ๊ปไม่ใช่ว่าจะมีอะไรกันเลยนะ

ญา : ก็บอกแล้วว่าเราไม่ผูกพันกัน ต้องให้เวลากันก่อน

ยาว : คือพอแต่งไป 2-3 อาทิตย์ เค้าไม่ยอมผม แค่ผมไปสะกิดนิดเดียว วิ่งหนีเลย

แล้วพี่ญาเปลี่ยนใจตอนไหน ?

ญา : เปลี่ยนใจตอนที่สนิทกันมากๆ เชื่อใจกัน ผู้หญิงสมัยก่อนก็เป็นแบบนี้

ยาว : ตอนนั้นเค้าทำงานเย็บผ้าโหล ผ้าปิดจมูก ซื้อจักรเย็บผ้า 14,500 บาท ผมเองก็ขับมอเตอร์ไซด์รับจ้าง ก็ต่อสู้กัน เช่าห้องในสลัมเดือนละ 600 บาท

ตอนที่มากรุงเทพฯ พี่ไม่ได้มาคนเดียว จูงมากันมากับพี่ญาเลย ?

ยาว : ผมมาคนเดียวก่อน มาทำงานเป็นพนักงานห้าง เก็บเงินเก็บทองแล้วค่อยไปสู่ขอเค้า

ตอนที่เค้ามากรุงเทพฯคนเดียวกลัวเค้าจะมีสาวอื่นมั้ย ?

ญา : ก็คิดอยู่นะคะ ด้วยความที่เราห่างกัน สมัยนั้นยังไม่มีโทรศัพท์แต่มีเพจเจอร์ฝากข้อความ ก็แอบคิดเหมือนกัน แต่นชตอนนั้นเราแต่งกัน 2 ปี ค่อยมามีลูกคนแรกประมาณปี 2537 ก็ไม่ได้คิดอะไรมากมาย เพราะช่วงนั้นเค้ายังไม่ได้เข้าวงการ

พี่ญาเคยป่วยด้วย เป็นอะไร ?

ญา : ใช่ค่ะ เป็นไทรอยด์ ต่อมน้ำเหลืองอักเสบ ส่งผลให้นอนไม่หลับ กินอะไรก็เวียนหัว หน้ามืด มีครั้งนึงไม่ไหวจริงๆ เค้าก็เลยบอกว่าให้ไปหาหมอที่คลินิก คุณหมอก็บอกว่าลองให้น้ำเกลือก่อนมั้ยสักกระปุก แต่เราบอกว่างานเร่งมากค่ะ เสียเวลามาตรงนี้ไม่ได้ ต้องทำงานให้เสร็จก่อน หมอก็บอกว่าคุณจะเอาชีวิตของคุณหรือจะเอางาน ก็เลยยอมให้น้ำเกลือ เรารักษาอยู่โรงพยาบาลนึงก็ให้ยากินตลอด วันนึงคุณหมอบอกว่ารักษามานานแล้ว ลองผ่าเอาชิ้นเนื้อไปตรวจมั้ย ก็ปรึกษาเค้าว่า จะไปดีมั้ยพ่อ คิดอยู่นาน ก็ตัดสินใจไม่ไป ก็เลยเอาตัวอย่างยาที่หมอให้ไปซื้อยากินที่ร้านขายยามาตลอด

ทุกวันนี้ไม่ได้ผ่า แล้วหายได้ยังไง ?

ญา : ไม่ได้ผ่า เราไปเจอคนที่กินเจ ก็เลยว่าถ้าทานเจมันหยุดโรคนี้ได้ เราก็ตั้งจิตบอกว่าถ้าทานเจแล้วลูกหายจากโรคนี้ได้ หยุดโรคนี้โดยไม่ต้องรักษาแล้ว จะกินเจตลอดชีวิต ตอนนี้ก็หายเลยไม่เมื่อย ไม่เพลีย

ญา : ปี 51 ฝึกทานมา แล้วก็ไปจุดธูปตั้งปณิธาน ถ้าสุขภาพเราดีขึ้นและหายขาดจะกินตลอดชีวิต ก็กินเป็นสิบปีแล้ว

มีลูกกี่คน ?

ยา : แรกๆ มีผู้ชาย 1 ผู้หญิง 2

แต่ก็ยังไม่หยุดความแซ่บ จนมีลูกเล็กล่าสุด อายุเท่าไหร่ ?

ญา : 5 ขวบค่ะ

ยาว : ต่างคนต่างตกลงว่าพอเหอะ เพราะลูกเยอะแล้ว เค้าก็คุมกำเนิดใส่ห่วง ผมก็ไม่ได้นอนด้วยกันเท่าไหร่ ไปๆมาๆ มีลูกหลงออกมาห่างกัน 13 ปี จากพี่เค้า

ญา : คุณยาวเค้านวดเกี่ยวกับสุขภาพบ่อยๆ ส่วนตัวพี่ญาเองก็กินสมุนไพรคือเรากินทั้งคู่

ตอนมีลูกเล็กเราท้องตอนอายุเท่าไหร่ ?

ญา : ตอนท้อง 43 ค่ะ

อยากให้พูดความในใจกันและกัน ?

ยาว : จากวันนั้นถึงวันนี้ 30 ปี รักและรับผิดชอบต่อกัน มีความหวังดี ความรู้สึกที่ดีต่อกัน เรามีแต่ให้ไม่มีจุดสิ้นสุด ไม่อดไม่อยากมีเงินมีทอง

ญา : อยากบอกว่าอายุ 52-53 แล้วนะพ่อ อยากให้ดูแลสุขภาพ อยากให้กินอาหาเน้นผักบ้าง ไม่อยากให้เค้าทานเนื้อ อยากให้ทานผัก ทานน้ำพริก

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่