ลูกทุ่งสาวเปิดใจเคลียร์ทุกคำครหา หาเงินเลี้ยงผัว-เป็นนักร้องตกอับ?
"ดูแลทุกอย่างเลยค่ะ คนเรามันต้องอะไรบ้างนอกจากแปรงฟัน ทำอาหารเขาก็เป็นคนทำกับข้าว เพราะเราทำกับข้าวไม่เป็นสักอย่าง แปลว่าทำทุกอย่างเหมือนคนอื่น แต่เขาจะทำงานไม่เก่งเหมือนพ่อ ซึ่งเราก็จะมีผู้จัดการส่วนตัวเป็นของตัวเองที่มาทำหน้าที่นี้ไป "
"ส่วนใหญ่พี่เล็กจะดูแลหลังบ้าน ซึ่งเราก็ไม่คิดจะฟาดกลับอะไร คือถ้ามีที่สุดจริงๆ ก็ไม่เคยเลย เพราะเราก็ไม่เคยอะไรกับใครเลย ไม่ว่าจะตั้งแต่ตอนเราอ้วนขึ้นมามีคนหาว่าท้อง หรือตอนเราผอมก็หาว่าเราไปทำแท้งบ้าง มันก็เจอข่าวอะไรที่หนักๆ อยู่ตลอดเวลา พ่อแม่ครอบครัวเราก็ถึงขั้นเข้มแข็งแล้วก็อธิบายว่าคนของประชาชนมันเป็นความคิดเห็นของเขาเราห้ามไม่ได้ จะไปนั่งแก้ตัวบางทีก็จะเป็นข้ออ้างไปอีก "
ผ่านทุกดราม่ามาได้อย่างไร ?
"แล้วผ่านดราม่ามาได้ด้วยความเข้มแข็งของครอบครัว ซึ่งตอนที่เราเริ่มมีอารมณ์หน่อยหรือโมโหข่าวอะไรแบบนี้คือพ่อกับแม่ก็จะนั่งพูดกันตลอดว่าให้มันผ่านไป เหมือนท่านอยู่เคียงข้างเราตลอดเวลา"
ขอถามถึงดราม่า หยอง ลูกหยี ?
"จริงๆ เราถูกทนายสั่งห้ามว่าอย่าให้พูดเยอะ เพราะเดี๋ยวหลุด ซึ่งมันอยู่ในกระบวนการต่างๆ ก็อาจจะต้องขอข้ามไปในเรื่องนี้ แต่ถ้าถามว่ารับมือกับเรื่องแบบนี้ยังไง ในส่วนตัวของเราเองก็ต้องยอมรับความจริงในสิ่งที่จริงก็คือจริง ในสิ่งที่ไม่จริงแล้วก็ไม่ยอมรับ ในหลายอย่างเราก็จำจากพ่อมาทั้งหมดเพราะเค้ามีสมุดไดอารี่ของเค้า ซึ่งเป็นคำสอนของพ่อเขาตอนนี้ก็ยังอยู่"
ย้อนกลับไปชีวิตวัยเด็กเป็นยังไง ?
"ชีวิตเราจะไม่เหมือนเด็กคนอื่นตั้งแต่อยู่โรงลิเกแล้ว เพราะเราต้องร้องลิเกและร้องเพลงตลอด และมันเป็นความชอบของตัวเองด้วยที่อยากจะอยู่แบบนี้ ซึ่งเห็นเพื่อนวิ่งเล่นกันเราก็ต้องมาทำงาน แต่พอถึงเวลาคุณพ่อมารับเราก็ต้องกลับมาทำงาน ตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมาซึ่งพ่อก็จะถามว่าไหวไหมทำไหมถ้าไม่ทำก็ไม่เป็นไร แต่มีความตั้งใจว่าจะต้องเป็นลิเกอยู่แล้วจึงเป็นจุดเริ่มต้นของทำให้คนรู้จัก ยุ้ย ญาติเยอะ"
ล่าสุดผันตัวเองมาขายของ ?
"ตอนนี้มีเพจขายของชื่อว่า ยุ้ยขายเยอะ ก็คือทำค่าเวลาไป แล้วตอนช่วงโควิดเราไม่ได้เดินสายทำคอนเสิร์ตมันก็เหงา เราก็เลยหาอะไรมาขายตอนแรกขายหมูแดดเดียวซึ่งดีมาก แต่พี่เล็กเขาเป็นไทรอยด์แล้วเหนื่อยเลยหยุดไป เลยหาของที่รับมาขายอะไรอย่างนี้ดีกว่า ซึ่งขายทุกอย่างเลยขายกาแฟขายขายบ็อกเซอร์ ขายทั้งหมดเลย ตั้งแต่ของกินยันของใช้ ซึ่งรายได้ก็ถือว่าดีพอสมควร"
จนเกิดดราม่าตกอับ ?
"ก็ต้องมองเป็นเรื่องธรรมดา เพราะเราก็จะมองเป็นอย่างอื่นไม่ได้ที่มันดีกว่านี้ แต่เราก็มีเหตุผลเพราะเราไม่ต้องการเอาเงินที่เก็บไว้มาใช้ เนื่องจากอันเก็บก็เก็บหาใหม่ก็ยังพอได้อยู่ เพราะว่าเงินเก็บก็คือของลูกไปแล้ว ทำงานเพื่อลูกอยู่แล้ว ในส่วนที่เป็นรายจ่ายใหม่ค่าเทอมลูกเราควรหาใหม่ ถ้ามันทำไหวก็ทำไปแล้วเคยมีรายได้ทุกวันไปรำวงไปรับเชิญ พอวันนึงที่มันไม่มีเราก็ใจหายเลยลุกขึ้นมาหาอะไรทำ อย่างน้อยก็ค่าขนมค่าเทอมลูก"
https://www.facebook.com/teeneedotcom