หม้ายสาวเข็ดกับการแต่งงาน ตอบชัดทำไมเลือกเปย์ผู้ชาย?

คนไทยที่ทักมาในวงการหรือนอกวงการ?

ฌาร์ม : "นอกวงการ ส่วนใหญนักธุรกิจ อายุมากว่า"

อายุมากกว่าสเปคเรามั้ย?

ฌาร์ม : "ชอบผู้ใหญ่ หลังจากที่โตขึ้นมาแล้ว ตอนเด็กๆ จะมีสเปคของเราที่วางไว้ ชอบคนผิวเข้ม จะมีสิ่งที่เราต้องการตั้งแต่สมัยเด็ก คิดว่านี่แหละมันเป็นอุปสรรคที่ทำให้เราเจอความรักที่ดีได้ เพราะว่าการที่เรามีสเปค เรามองภาพว่าจะต้องดีวิมานในอากาศของเรา นี่คือสิ่งที่เราต้องการ แต่ว่าถ้าอีกคนเข้ามาในชีวิตแล้วเค้าไม่ได้ตรงสเปค แต่เค้ามีความเป็นไปได้ที่เป็นคนดีและเหมาะกับเรามาก แต่เราไม่มองเค้า มันคือการที่เราปิดกั้นโอกาสที่เราจะได้เจอคนดีๆอคนนึงเพียงแค่คำว่าเค้าไม่ตรงสเปคเรา"

คิดว่าอะไรที่ทำให้คนไม่กล้าเข้าหาเรา?

ฌาร์ม : "ไม่รู้อ่า ก็นั่งรออยู่เนี่ย ไม่ปิดกั้น แต่จะมีความกลัวอยู่นิดนึง"

ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ จะบอกตัวเองว่าให้ตัดสเปคไป?

ฌาร์ม : "เราจะบอก แต่ว่าเราคงไม่เชื่อ เพราะว่าเราก็ต้องลองผิดลองถูกก่อน อยากเจอด้วยตัวเอง เจ็บเอง เรียนรู้ไปตอนนี้พร้อมเปิดโอกาสเลยไม่ต้องผู้ใหญ่ก็ได้ เด็กก็ได้"

ฌาร์ม : "ได้ค่ะ เวลาที่อยู่ไหนเราพูดถึงคนของเราแล้วมีความสุขที่เล่าให้คนอื่นฟัง เราอยากได้แบบนี้ เมื่อก่อนแล้วโดยรวมมันจะไม่มีความรู้สึกเป็นธรรมชาติแบบนี้ ทุกอย่างมันเกิดขึ้นจากการที่เรารักตัวเอง เราถึงจะส่งต่อความรักนั้นให้คนอื่นได้"

รักคนอื่นมากกว่าตัวเอง?

ฌาร์ม : "ตอนนี้ยังไม่ได้รักใครก็โสดมานาน ตอนนี้รักตัวเองอยู่ สมัยก่อนไม่ใช่แค่ความรัก เรียกว่าเอาใจดีกว่า ฌาร์มเป็นคนสุดโต่งเราจะทำเต็มที่ จนลืมไปว่าบางครั้งมันไม่ใช่ตัวเอง เราปรุงแต่งสิ่งที่เรากำลังเป็นอยู่เพื่อให้เค้ามีความสุข แต่เวลาเห็นเค้ามีความสุขเราก็มีความสุขด้วย แต่เวลาที่เกิดปัญหาอะไรขึ้นมาความอดทนของเรามันจะมีขีดที่น้อยกว่า ถ้าเราเป็นตัวของตัวเองแฮปปี้ไปเลยมันสามารถที่จะทนได้ยาวกว่าหรือเปล่า อันนี้ที่คิดนะ"

รักและสายเปย์?

ฌาร์ม : "เรียกว่าเอาใจ ในชีวิตก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยจ่าย อย่างเค้าใส่แว่นสวย เค้าไม่ได้อยากได้ด้วย แต่เราวกกลับไปละซื้อ"

ทำไมถึงเลือกเปย์ผู้ชาย?

ฌาร์ม : "เราคิดว่าอยากให้เค้าจดจำมั้ง อยากให้คนรอบข้างมีความสุข อะไรที่ทำได้ก็ทำ"

พ่อแม่ว่าไงบ้าง ลูกสาวเปย์หนุ่ม?

ฌาร์ม : "ก็เรื่อยๆ ค่ะ ใครจะโอเคละ อย่าว่าแต่พ่อแม่เลย เพื่อนทุกคนก็พูดกันหมดละ"

ฌาร์ม : "สถานการณ์พาไป เราคิดว่ามันเป็นความรักของคนสองคน แต่มันมีองค์ประกอบหลายอย่าง ครอบครัวหรืออะไร ปัจจัยมันเยอะ ไม่ได้พูดถึงเคสล่าสุดนะ ฌาร์มรู้สึกว่าสิ่งที่จุกที่สุดคือการที่จะเดินถอยออกไปทั้งๆ ที่ยังไม่อยากถอย ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ เพราะบางครั้งถึงสุดทางแล้วมันได้ องค์ประกอบรอบข้างไม่ได้แล้วมันไปต่อยาก"

แนะนำคนที่มาถึงทางตันแล้วไปต่อไม่ได้?

ฌาร์ม : "ไปให้สุดลูก หลายๆ คนที่อยู่ในจุดนั้นถ้าไปไม่สุดจะคาใจ อีกใจนึงอยากจะบอกว่าถอยเถอะ มันไม่มีกฎตายตัวสำหรับความรัก"

ณ ตอนนี้ความรักยังสวยงามอยู่มั้ย?

ฌาร์ม : "ควรที่จะสวยงาม สวยได้ถ้าเราเลือกที่จะรักให้เป็น"

ถ้ามองกลับไปเสียดายมั้ยที่ตัดสินใจแต่งงาน?

ฌาร์ม : "คิดว่าเสียดาย แต่พอเราอยู่ในจุดนั้นเราก็คงจะทำแบบนั้นแหละ เพราะว่าเราสุดโต่ง เด็กจะมองวินาทีเดียวนี้ชั้นโอเค ไม่ได้มองอีกยาวไกลว่าเป็นยังไง แต่ถ้าทุกวันนี้เราจะมองยาว"

ตอนนี้อยากได้คนแบบไหนในชีวิต?

ฌาร์ม : "อยากได้คนที่เข้ากับเราได้โดยที่เราไม่ต้องเหนื่อย มันไม่จำเป็นต้องากขนาดนั้นถ้ามันจะใช่มันก็ใช่ ไม่ต้องบุกไปตามหา"

ฌาร์ม : "ไม่ค่ะ ตอนเด็กๆ คิดยังงั้นเลยสร้างด้วยกัน มีหน่อยก็ดีมันเป็นองค์ประกอบ ความหล่อไม่เกี่ยวแล้ว ตอนเด็กๆ ต้องหล่อนำมาก่อน ตอนนี้ขอแค่พูดกันรู้เรื่อง อายุก็ไม่ต้องมากกว่าแล้ว"

ถึงแม้จะเจอคนที่ใช่ ยังไงก็ไม่แต่งงานแล้ว?

ฌาร์ม : "ณ ตอนนี้ไม่ได้รู้สึกว่าอยากจะแต่ง มันผ่านมาแล้วอ่ะ มันยังเข็ดอยู่"

ชอบเรื่องพญานาค?

ฌาร์ม : "เป็นคนที่ไม่ลบหลู่อะไรอู่แล้ว พญานาคก็นับถืออยู่แล้ว แต่มีครั้งนึงเคยไปทำงานที่กระบี่พักที่โรงแรมนึง ช่างแต่งหน้ามาแต่งที่โรงแรมบอกว่าดีใจจังเลยที่ได้มาแต่งเราที่นี่เพราะว่าได้มีโอกาสมาไหว้สะดือพญานาค เค้าก็คะยั้ยคะยอ บอกต้องมาไหว้ของานที่นี่เลยนะ เราก็ฟังไว้ เค้าพูดหลายทีมาก"

"เราก็ถามอยู่ไหนเค้าบอกอยู่หน้าโรงแรมเดินไป 10 ก้าวถึงเลย เราก็โอเคได้ พอทำงานเสร็จเราก็ไปกราบ ไปมือเปล่ายกมือไหว้ ไม่ได้เล่นละครมานานมากรู้สึกคิดถึงมากอยากเล่นละคร เลยบอกท่านถ้ามีโอกาสอยากได้ละครบทดีๆสักเรื่อง แอบรีบขอภายในสิ้นเดือนนี้นะคะ เราก็ไม่ได้คิดอะไร กลับมาถึงกรุงเทพไม่ถึง 20 วันมีบทละคนติดต่อมา จากที่หายไปนาน หลายคนคิดว่าฌาร์มไม่รับละครและละครนี้เกี่ยวกับพญานาค"

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่