จับตาข่าวดี! คู่รักมาราธอนคบนาน12ปี ฝ่ายหญิงลั่นถ้าขอก็เซย์เยส
กระติ๊บ : ถ้าจะเอาจริงๆ 2 ปีแรกคุยๆ กัน เลิกกันไปรอบนึง ถ้าคบจริงจัง 10 ปีค่ะ มันเป็นจุดเปลี่ยนชีวิตเหมือนกันนะที่วันนั้นไปให้เบอร์เค้าจนยาวมาถึงวันนี้
คิดว่าผู้ชายโขมยโทรศัพท์?
กระติ๊บ : เป็นปาร์ตี้ของ 2 มหาลัย ซึ่งตัวเองก็ไม่ได้อยู่มหาลัยเหล่านั้น เราก็เต้นๆกินน้ำเก๊กฮวยไปเยอะ เห็นคนนี้นั่งอยู่หน้ากระเป๋าเรา เค้าใช้กระเป๋าตังค์เหมือนเรา โทรศัพท์เหมือนเราทุกอย่างเลย เราก็คิดว่าเค้าโขมย
ปั่น : คิดว่าอะไรวะคนนี้ งงครับ อยู่ดีๆเดินมาชี้หน้าเราเลย แล้วพูดว่าเธอมาโขมยของเรา ผมบอกป่าวนี้ของผม เค้าก็เถียงบอกไม่ใช่นี่ของเราเอามานี่
พอเห็นว่าไม่ใช่ของเราเป็นยังไง?
กระติ๊บ : คือเค้าตัวสูงกว่าหนูก็คว้าเอาแล้วเปิดภาพหน้าจอเป็นหมาเหมือนของเรา กระเป๋าตังค์ของรุ่นเดียวกัน เราเลยแก้เก้อดูสิว่าฟังเพลงแนวไหน ฟังเพลงเดียวกับเรา คิดในใจพรหมลิขิตแน่ๆเราก็เลยสะบัดหน้ากลับไป ไม่คิดจะขอเบอร์เราหรอ
ปั่น : กดให้เองเลยนะ
ปั่น : ไม่ว่าใครเจอผมว่าก็ต้องจำคนนี้ได้ เค้ามาขนาดนี้ หลังจากนั้นเราไปกินข้าวกับเพื่อน ยังไม่ได้ติดต่อเค้าไปโดยตรง เพื่อนก็ถามจำคนวันนั้นได้มั้ย ได้โทรไปหรือยัง
คืนนั้นเค้าสวยมั้ย?
ปั่น : เค้าเด่นครับ เพราะว่าเค้าใส่ชุดราตรีไป แล้วไม่มีใครใส่ชุดราตรี
ไม่รู้ด้วยว่าเป็นดารา?
ปั่น : ไม่รู้ครับ หลังจาดนั้นพอคุยๆไปสักพัก เค้าก็บอกว่าทำงานอะไรอยู่
กระติ๊บ : อวดไง ดารานะเว้ย
ใครเป็นคนจีบใครก่อน?
กระติ๊บ : หนูแค่ให้เบอร์ ถ้าจีบจริงๆเค้าหรือเปล่า เค้าเป็นคนโทรหาหนูนะ
ปั่น : ผมโทรวันที่ไปทานข้าวกับเพื่อน เค้าพูดว่าทำไมเพิ่งโทรมาละ หลังจากนั้นก็นัดเจอที่ร้านอาหาร เป็นร้านที่นั่งคุยได้เรื่อยๆ ยาวๆเปิดจนถึงเช้า
กระติ๊บ : คุยปัญญาอ่อนเลยตอนนั้น ชอบสีอะไร ปั๊ปปี้เลิฟ มหาลัยอ่า
กระติ๊บ : พอฟังหลายๆอย่างเค้าค่อนข้างตรงสเป๊คที่ติ๊บเคยคิดเอาไว้หลายอย่าง เราชอบคนตัวสูง เล่นกีฬา พูดได้หลายภาษา
ชอบอะไรในตัวกระติ๊บ?
ปั่น : เค้ามีความอาร์ตติสเยอะมาก ผมเรียนทางสายศิลป์ และเรียนด้านการเมือง เราจะชินคนแวดวงปกติ แต่เค้ามาไม่เหมือนคนอื่น
ต่างขั้วมาก ต้องปรับจูนยังไง?
กระติ๊บ : จูนเยอะเหมือนกันเพราะติ๊บเป็นคนคิดเร็วทำเร็ว แล้วขี้โมโห แต่ว่าเค้าเป็นคนที่มีอะไรไม่ค่อยพูด วุฒิภาวะดีกว่าเยอะ เวลาทะเลาะอไรเค้าจะไม่ค่อยพูดแล้วเราเป็นคนที่ชอบคำตอบ เค้าก็จะเงียบ
ปั่น : ติ๊บเป็นคนใจร้อน แต่ถ้าอะไรที่เกี่ยวกับศิลปะเค้าจะเป็นคนใจเย็นทันที ถ้าไปเที่ยวกันคือเผื่อไว้เลย 1 วัน เราไม่เข้าใจแต่เค้าจะพยายามอธิบายว่าคืออะไร
เอาแต่ใจมั้ย?
ปั่น : เค้าเป็นคนเลือกมากกว่า เลือกเก่ง เค้าเป็นคนละเอียด
กระติ๊บ : เค้าเป็นคนอะไรก็ได้ จนบางทีเรารู้สึกเหมือนคุยคนเดียว
กระติ๊บ : ติ๊บรู้สึกว่าเราคบกันตั้งแต่ 22 ตอนนี้ 30 กว่า มันผ่านวัยเพ้อฝัน เข้าสู่ความเป็นจริง ว่าจะยังไงต่อชีวิตจะวางแพลนยังไงดี เราเห็นมาครบทุกมุมทุกมิติ ไม่มีอะไรตื่นเต้นกว่านี้ เราต้องรับทั้งข้อดีและข้อเสียของเค้าให้ได้ เพื่อก้าวไปอีกรูปแบบนึง มันไม่ใช่วัยเด็กแล้ว
ปั่น : ปัญหาคือก้าวถัดไปของชีวิตมากกว่ามันคืออะไร
เคยเลิกกันไปแล้วกลับมบกันอีก?
กระติ๊บ : ตอนนั้นที่เริ่มรู้จักกันช่วงจบมหาลัย เค้าไปเรียนต่อที่นิวยิร์ก ไปเจอสาวเกาหลี เค้าก็หายไปเลย
ปั่น : เราไม่ได้คุยกันตั้งแต่ก่อนไป
กระติ๊บ : แต่ก่อนเค้าเป็นคนเจ้าชู้มาก ไม่ใช่นิสัยอย่างนี้เลย สาเหตุที่เลิกกันตอนแรก มันมีอยู่ครั้งนึงที่เค้าโทรมาบอกว่ามาบ้านเรามั้ยวันนี้พ่อกับแม่ไม่อยู่เดี๋ยวเราทำสปาเกตตี้ให้กิน หนูเลยแบบมันมาทรงไม่ดีแล้วคิดไม่ดีแน่ๆ ตอนนั้นคุยกันประมาณครึ่งปี หนูก็ตอบกลับไปถึงเวลาต้องไปกินเส้นกันแล้วหรอ แล้วนางก็คงตกใจพูดตรงมาก ตกใจแล้วหายไปเลย
ปั่น : เค้าไม่ได้พูดกินเส้น เค้าพูดอีกคำนึง
กระติ๊บ : หนุเป็นคนพูดตรง ถ้าคุณต้องการอะไรหรือคุณคิดอะไรพูดกันตรงๆ หนูไม่ชอบคนซับซ้อนหรือเล่นละคร
ปั่น : ก็งง เลยเว้นระยะห่างก่อน หลังจากนั้น็ไปเรียนนิวยอร์ก
แล้วไปรู้ได้ไงว่าเค้าจีบสาวเกาหลี?
กระติ๊บ : นางกลับมาเล่าให้ฟัง เหตุผลที่กลับมาคบกัน เพราะปั่นมีเพื่อนของเพื่อนมาคุยๆกับเรา อารมณ์หวงก้าง เลยขอเบอร์เพื่อนเค้าที่จีบหนูโทรมาเอง หนูไปกดไอจีเค้าด้วยเพื่อนเค้าด้วย สุดท้ายเลยนัดหนูมาคุยกัน
ปั่น : ไม่โกรธแต่ว่าเสียหน้า
กระติ๊บ : ที่เค้าหายไปเราก็ไม่โกรธ ช่วงนั้นวัยกำลังเท่ยว หนูจำได้แม่เคยสอนคำนึงว่า จะคุยกี่คนก็ได้นะ แต่จะใส่อะไรเข้าไปในตัวเองดูให้ดีก่อน หนูก็เซฟตัวเองถ้ายังไม่ใช่ก็จบๆไป
ทำไมถึงกลับมาหากระติ๊บ ?
ปั่น : แวบแรกเรายังชอบในความเป็นอาร์ตติสของเค้าอยู่ อีกอย่างนึงคืออยากเอาชนะกลายๆด้วย
วิธีการง้อคือหลอกจูบ?
ปั่น : ก่อนหน้านั่นคือชวนไปร้านเดิม
กระติ๊บ : ยันเช้าเหมือนเดิม แต่คราวนี้เราเห็นทัศนคติเค้าที่โตขึ้น ไปอยู่ที่โน่นลำบากทำงานรับผิดชอบตัวเอง
ที่เค้าเล่าว่าไปกินรามยอนมาไม่จี๊ดหรอ?
กระติ๊บ : เรารู้สึกว่าเป็นไงมันไม่แซ่บเท่าพริกขี้หนูใช่มั้ย
ปั่น : ตอนนั้นเล่าฉันเพื่อน
ลึกๆยังคิดถึงกันมั้ย?
กระติ๊บ : คนนี้ก็ยังติดอยู่ในใจ เพราะเป็นคนที่ตลกด้วย
ปั่น : ก็คิดเพราะว่าไม่ได้คุยกับใคร
ขอจูบเพื่อลืมแฟนเก่า?
กระติ๊บ : เค้าอยู่ๆก็เสล่ออีกละ เปิดกระเป๋าตังเราคุยกับผู้หญิงคนนี้อยู่นะ เรากำลังเลือกอยู่ระหว่างเธอกับคนนี้จะเลือกใครดี ตอนนั้นพูดว่าอะไร
ปั่น : เธอมาจูบกันหน่อยมั้ย วัดใจด้วย
กระติ๊บ : ไม่เคยเจอคนแบบนี้มาจีบเราอ่ะ มันตลก เราก็ให้ กล้าขอก็กล้าให้ หลังจากนั้นก็พูดว่า เธอให้เราคิด 5 นาทีพอ เป็นแฟนเราก็เป็นไม่เป็นก็ไม่ต้องเป็น พอเรามานั่งคิดถ้าไม่เจ้าชู้เค้าเป็นคนที่น่ารัก แต่พอได้คุยเค้าคงเปลี่ยนแล้วจริงๆก็เลยโอเค
ปั่น : เรารู้จักคนนี้มานานแล้วด้วย ถ้าเป็นแฟนไม่จำเป็นต้องจีบเพราะเรารู้จักกันมานานแล้ว ถ้าเป็นก็เป็นเลย
คบกันมานานทำไมยังไม่ถึงจุดแต่งงาน?
กระติ๊บ : การแต่งงานของติ๊บ ผู้ใหญ่ก็ถามว่าจะเมื่อไหร่ ติ๊บไม่ได้ติดว่าแต่งเมื่อไหร่ แต่ติ๊บรู้สึกว่างานแต่งมันไม่ได้สำคัญ มันสิ้นเปลืองมากเลย งานแต่งในอุดมคติจะเขียนในการ์ดเลยไม่ขอรับซองใดๆ แต่งโบสถ์เล็กๆ
ปั่น : ถ้าเกิดเราจะแต่งเป็นการที่เราบอกกับพระเจ้าว่าเราจะอยู่ด้วยกันแล้วนะ จะใช้ชีวิตไปด้วยกันจนแก่
หรือรอเบบี๋?
กระติ๊บ : ใช่ค่ะ หนูรู้สึกว่าถ้าแต่งมีลูกเลย
ขอแต่งงาน?
ปั่น : คิดไว้ปี -2 ปีนี้
กระติ๊บ : เมื่อวานก้ไปคุยเรื่องฝากไข่กับคุณหมอมาค่ะ
https://www.facebook.com/teeneedotcom