เปิดเส้นทางวงการบันเทิง-การเมืองของ สมบัติ เมทะนี ที่หลายคนไม่เคยรู้
วงการบันเทิง
สมบัติ ได้รับพระราชทานรางวัลตุ๊กตาทองครั้งแรกในฐานะดารานำฝ่ายชายยอดเยี่ยมจากเรื่อง ศึกบางระจัน (2509 พิศมัย) ของ สุพรรณ พราหมณ์พันธุ์ ทำให้มีงานแสดงเพิ่มมากขึ้นกระทั่งสิ้นยุค มิตร ชัยบัญชา เข้าปี 2514 สมบัติก็ได้แสดงเป็นพระเอกมากถึงปีละ 40 เรื่อง
ฝากฝีมือกำกับการแสดง
สมบัติได้ ลงทุนสร้างและกำกับภาพยนตร์ด้วยตนเองครั้งแรกในชื่อ เมทะนีฟิล์ม โดยมี กาญจนา เมทะนี ภรรยาเป็นผู้อำนวยการสร้าง เริ่มจากภาพยนตร์ 35 มม. เรื่อง ไม่มีคำตอบจากสวรรค์ (2516 สมบัติ-อรัญญา) แต่รายได้ไม่ดีนัก
จึงเปลี่ยนมาสร้างแนวบู๊เอาใจตลาดในยุคนั้น เริ่มจากเรื่อง นักเลงเทวดา (2518 สมบัติ-อรัญญา) ท้ามฤตยู (2519 สมบัติ-อรัญญา) แหย่หนวดเสือ (2520 สมบัติ-อรัญญา) มหาภัยพันหน้า (2521 สมบัติ-อรัญญา) สลักจิต (2522 สมบัติ-จารุณี) ในจำนวนนี้ นักเลงเทวดา ถือเป็นภาพยนตร์ที่สร้างชื่อเสียงและแจ้งเกิดด้านการกำกับการแสดงให้แก่สมบัติเป็นผลสำเร็จ แต่ภาพยนตร์ที่ทำรายได้มากที่สุดคือเรื่อง สลักจิต ทั้งยังฝากผลงานการกำกับไว้อีกหลายเรื่อง
พระเอกผู้มีผลงานมากที่สุดในโลก
"ผมเป็นนักแสดงที่มีผลงานมากที่สุดในโลก เพราะพระเอกอินเดียที่บันทึกไว้ยังมีแค่ 500 กว่าเรื่อง นางเอกที่เล่นด้วยมีหลายคน ตอนนี้ก็ยังมีติดต่อกับนางเอกเก่าๆ บ้างเพราะบางคนยังมีชีวิตอยู่ อย่างอมรา (อมรา อัศวนนท์) เปี๊ยก อรัญญา (อรัญญา นามวงศ์), มี๊ พิศมัย (พิศมัย วิไลศักดิ์) แล้วก็มีอี๊ด เพชรา (เพชรา เชาวราษฎร์)"
ทั้งยัง พูดถึงเทคนิคในการแสดงว่า "ส่วนมากจำตอนที่พ่อพาไปดูหนัง โดยเฉพาะหนังฝรั่งยุคเก่าๆ พระเอกเท่มาก เราจะดูว่าเขาฟันดาบอย่างไร เขาเข้าพระเข้านางอย่างไร เราก็ได้เรียนรู้จากฉากหนังฝรั่งเยอะ เรียกว่าเขาเป็นครูเราก็ได้"
เส้นทางการเมือง
ในปี 2550 สมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาราช โดยได้รับแต่งตั้งให้เป็นรองหัวหน้าพรรค ลงสมัครเลือกตั้งทั่วไป แบบสัดส่วน ในกลุ่มที่ 6 ลำดับที่ 1 แต่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง จากนั้นย้ายเข้าพรรคเพื่อไทย และลงสมัครรับเลือกตั้งในการเลือกตั้งในปี 2554 แบบบัญชีรายชื่อ ลำดับ 102 แต่ไม่ได้รับเลือกตั้งอีกเช่นกัน
https://www.facebook.com/teeneedotcom