ส่องชีวิตเอ็กซ์ จาตุรงค์ จริงหรือไม่มีงานออกจากวงการไปขายประกัน
เอ็กซ์ : "เอิ๊กอ๊าก มันคือเรื่องเสียงหัวเราะ แล้วตระกูลผมมัน อ. แม่ชื่ออุ้ม พ่อชื่อเอ็กซ์ ลูกชื่อ เอิ๊ก ก็เป็น เอิ๊กอ๊าก ดีกว่าเป็นเสียงหัวเราะและมีความสุข"
เอิ๊กอ๊าก : "ตอนนี้เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี อยู่วิศวกรรมเครื่องกล ปี 3 ขึ้นปี 4 กำลังฝึกงานอยู่ ตอนแรกหนูตั้งเป้าว่าอยากเรียนสายวิทย์-คณิต ตอนแรกอยากเข้าคณะเกี่ยวกับเกษตรศาสตร์ เพราะว่าเห็นพ่อปลูกผัก ซึมซับอยากปลูกผักด้วย พอเรียนไปเรื่อยๆ หนูไม่ค่อยชอบชีวะ แล้วได้ไปค่ายต่างๆ จนค้นพบตัวเองว่าทางวิศวะมันเหมาะกับเราอยู่นะ ด้วยสไตล์เราด้วยที่ไม่ใช่สาวหวานขนาดนั้น น่าจะไปทางวิศวะได้"
เขาชอบ แต่ที่บ้านเขาไม่ชอบ?
เอ็กซ์ : "ทีแรกผมปูทางให้ลูกสาวผมมาเรียนทางสายศิลป์ เพราะพ่อกับแม่ เรียนสายศิลป์ร้อยเปอร์เซ็นต์อยู่แล้ว เราก็เลยปูทางให้ลูกเรียนบัลเล่ต์ตั้งแต่เด็ก สุดท้ายลูกมาบอกพ่อหนูอยากเรียนนี่ สายวิทย์ เราก็บอกว่าไหวเหรอ อย่าเรียนเลย ปวดหัว เครียด เราเป็นห่วงไง เพราะเราสายบันเทิง ผมบอกว่าลูกเรียนอะไรก็เรียนได้ขอให้สนุก ถ้าไม่สนุกอย่าเรียน"
ตอนนี้ไปฝึกงานที่ไหน?
เอิ๊กอ๊าก : "การรถไฟแห่งประเทศไทย ก็มีทั้งปฏิบัติและทฤษฎี มีให้ลงไปดูงานกับช่างเทคนิคบ้าง คือก่อนที่เราจะไปนำคนอื่นจะต้องรู้ก่อนว่าต้องทำอะไรบ้าง"
คุณพ่ออยากให้ลูกเป็นดาราเด็ก?
เอ็กซ์ : "เราอยู่วงการบันเทิง แล้วในช่วงที่เรามีตัวเล็กอยู่ นักแสดงเด็กก็น้อยนะ ช่วงนั้นแต่มีโอกาสขอแค่ก้าวไปก้าวนึงก็แล้วกัน เพราะเราอยู่ในวงการด้วย อยากให้เขามาในสายนี้ แล้วตอนนั้นมีละครอยู่เรื่องนึงที่เขากำลังหานักแสดงเด็ก แล้วเขาเห็นลูกสาวเรา เขาก็สนใจอยู่ เรากะดันเต็มที่ เขาขอบท เราบอกว่าหนูต้องร้องไห้นะ ลูกปฏิเสธเลย ไม่เอาๆ"
เอิ๊กอ๊าก : "ทำไมหนูต้องร้องไห้ด้วย ถ้าหนูได้เล่น หนูก็มีความสุข หนูจะร้องไห้ทำไม"
พี่เอ็กซ์อยู่ในวงการบันเทิงมานาน แต่มีช่วงนึงที่พี่หายจากหน้าจอไป หลายคนอยากรู้ว่าพี่มีปัญหาเรื่องสุขภาพหรือเปล่า?
เอ็กซ์ : "มีอยู่ช่วงนึง งานปกติแหละ แล้วก็มีกิจกรรมอื่น ไม่ว่าเป็นการแสดงก็ดี กิจกรรมเกี่ยวกับกีฬาด้วย เราก็ประสบอุบัติเหตุนิดหน่อย มีการเข้าผ่าตัดหัวเข่า เอ็นขาด ตอนแรกจะไม่ผ่า ฟื้นฟูร่างกายกายภาพช่วย แต่สุดท้ายถึงเวลาผ่าก็ต้องผ่า พอผ่าเสร็จมันก็ทำงานไม่ได้ วงการบันเทิงมันต้องใช้ร่างกายทุกอย่าง"
หลังจากผ่าใช้เวลาพักฟื้นนานเท่าไหร่?
เอ็กซ์ : "ถ้าเรากายภาพถูกต้องมันก็ไม่นาน แต่เราไม่ได้สายนั้นอยู่แล้ว รู้สึกว่าขอให้มันหายก็พอ เดินได้ วิ่งได้ประมาณปีนึง แต่ว่ากว่าจะมาเข้ารูป เข้ารอย กว่าจะทำงานได้ประมาณ 3 ปี แต่ในช่วงเวลาปีนึงที่เดินได้ คือเดินเหมือนนกแพนกวิน ช่วงนี้ไม่รู้ทำไงก็ต้องหาอาชีพ นอกจากเป็นนักแสดงก็ต้องหาอาชีพเสริมที่เราสามารถทำได้ ก็ไปทำอาชีพขายประกัน"
เอ็กซ์ : "เข้าใจถึงคนที่ประสบอุบัติเหตุเลย ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุต่างๆ นานา ที่บางคนต้องเสียแขน เสียขา รู้ซึ้งเลยขนาดเราเป็นแค่นิดเดียวนะ มันทรมานมาก"
ช่วงนั้นพี่ทำยังไง?
เอ็กซ์ : "ก็เรามีเป้าหมาย ไหนๆ เราเจ็บจากสาเหตุนี้ เราต้องกลับมาเหมือนเดิมให้ได้ โดยการวิ่ง เล่นกีฬาให้ได้ มันก็ค่อยๆ ฟื้นร่างกายเรามา เมื่อก่อนขาเล็ก ลีบเลยนะ แต่เราต้องฝืน พอเรามีความเชื่อมั่นแล้วว่าทุกอย่างเราพร้อมแล้วจิตใจเราพร้อม เราก็ต้องลุยแล้วค่อยๆ ฟื้นกลับมาปกติ"
ยังมีอีกเรื่องที่เป็นเหมือนหลุมดำในชีวิตพี่ นอกจากเรื่องนี้แล้วมีเรื่องอะไรอีก?
เอ็กซ์ : "มันมีในช่วงชีวิตนึงของนักแสดง มีพี่เขาแนะนำบอกว่า เอ็กซ์มันมีอยู่ช่วงนึงนะของอาชีพนักแสดง มันมีช่วงเวลา เกี่ยวกับอายุ บางบทอาจจะหายไป อย่าไปซีเรียสนะทำอะไรให้เต็มที่ที่สุด รับเชิญได้ก็รับเชิญไป"
เอ็กซ์ : "เข้าใจครับ มันต้องปรับตัวให้ได้ ส่วนใหญ่ผมโตมาจากคนเบื้องหลัง ผมเลยรู้สึกว่าการทำงานทุกอย่างมันมีช่วงเวลาของมัน เราก็ทำใจในส่วนนึง อย่างที่บอกเราเจ็บทางด้านนี้ปุ๊บเรามีทางรอดอย่างอื่น ผมก็ไปหาทางออกทางอื่นทำนู้น ทำนี่ อย่างน้อยจิตใจเราไม่ว่าง"
แล้วจากช่วงนั้นเราใช่เวลานานขนาดไหนที่เราไม่มีละครเล่น?
เอ็กซ์ : "มันก็มีเรื่อยๆ แต่มันไม่เฟื่องเหมือนช่วงแรกๆ ตอนแรก 7 วันทำงานทุกวัน หลังๆ เดือนนึง ทำงาน 3-4 วันอย่างนี้ มันก็หายไปเยอะ"
ช่วงนั้นเห็นทำกับข้าว ทำปิ่นโตให้น้องไปโรงเรียนด้วย?
เอ็กซ์ : "ก็ช่วงประหยัดครับ เงินมันจ่ายทุกวัน แต่มันไม่เข้าทุกวัน มันก็ต้องจัดสรร แล้ว่ามีครอบครัว ลูกต้องดูแล ค่าใช้จ่ายมีทุกวันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นค่าหนังสือค่าชุดนักเรียน ค่าอาหารการกิน เราก็ต้องเซฟคอร์ส ประหยัดขึ้น สิ่งที่ผมพูด ผมจะสร้างบางสิ่ง บางอย่างให้ลูกเขาคิดได้ว่าบางทีเราออกไปกินอาหารนอกบ้านทุกวัน บางทีมันก็น่าเบื่อนะ เราก็เลยเปลี่ยนความคิดใหม่"
เห็นว่าคู่นี้สนิทกันแบบสุดๆ ไปเลย?
เอ็กซ์ : "ครับผม ก็นอนด้วยกันปกติ ตอนนี้ก็ยังนอนด้วยกัน เตียงเดียวกันด้วย"
เอ็กซ์ : "จริงๆ เราสายดื่มอยู่แล้ว แล้วเราก็เห็นสังคมทั่วๆ ไป เรามีลูกสาวก็ต้องหาภูมิคุ้มกันให้กับลูกสาวเราพฤติกรรมของการดื่มแอลกอฮอล์มันมีหลายประเภท ผู้หญิงบางคนดื่มก็ร้องไห้ บางคนดื่มไปคุยกับต้นไม้บ้าง บางคนดื่มนอนไปดิ้นมั้ง บางคนดื่มแล้วหลับ แล้วแต่ ผมอยากเห็นพฤติกรรมลูกสาวผมเวลาดื่มแอลกอฮอล์แล้วเป็นยังไง ก็เลยมาๆ มานั่งกินกับพ่อ ผมเรียกเขากินตอนประถม ป.4 ได้ ให้จิบๆ เบียร์ก่อน แล้วค่อยจิบไวท์เบาๆ"
เขาอยู่ในโซนไหน?
เอ็กซ์ : "เขาอยู่ในโซนไม่เอาเลย สายหน้า ก็ถือว่าเราโชคดี ดีใจมากเลยลูกไม่เอา ต่อไปในอนาคตสบายเราแล้ว ไม่ต้องห่วงแล้วเรื่องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แล้วตอนนี้เป็นไงบ้าง"
เอิ๊กอ๊าก : "ก็ไม่เหลือ แต่หนูเป็นสายกินให้รู้ตัว หนูเป็นห่วงเพื่อนมากกว่า ด้วยความที่เป็นวิศวะด้วยมั้งผู้หญิงมันน้อยอย่างน้อยเราดูแลเพื่อนด้วย ดูแลตัวเองด้วย เราไม่รู้ว่าคนรอบนอกจะเป็นยังไงก็ต้องเอาตัวเองให้รอดไว้ก่อน"
เขาไม่ได้คิดแค่ว่าเมาแล้วดูแลตัวเอง ดูแลเพื่อนนะ เขาคิดว่าต้องดูแลพ่อด้วย?
เอิ๊กอ๊าก : "คือพ่อหนูค่อนข้างดื่มบ่อย อาจจะวันเว้นวัน จะมีถือแบบกระป๋องหรือเป็นขวดบ้าง จนหนูรู้สึกว่ามันเยอะไปแล้ว มันจะเสียสุขภาพแล้ว ก็เลยตั้งข้อสัญญากับพ่อ 1 อย่าง เพราะช่วงนั้นหนูกินน้ำหวานบ่อยเหมือนกัน เอางี้พ่อ พ่อเลิกกินเบียร์ให้ได้ เดี๋ยวหนูจะเลิกกินน้ำหวาน จนผ่านไปเป็นเดือนหนูเลิกได้หมดแล้ว แต่พ่อก็ยังไม่เลิกให้หนู บางทีพ่อซื้อมาติดตู้เย็น ตอนแรกเอาไปแอบก่อน ก็ยังซื้อได้อยู่ วันนั้นไม่ไหวแล้วฟิวขาด ก็เลยดึงกระป๋องเบียร์จากพ่อออกมาเทต่อหน้าพ่อ แล้วบีบกระป๋องกับมือตัวเองปาทิ้ง แล้วมีปากเสียงกับพ่อนิดหน่อย หนูก็ร้องไห้แล้วเดินจากไปให้พ่อคิด"
เอ็กซ์ : "ใช่ วันนั้นก็ช็อกเหมือนกันนะ ผมแบบลูกเป็นไรวะเนี่ย อารมณ์ไหน ผมก็งง อึ้ง ไม่พูดแล้วสะบัดหน้าเดินหนีไปในห้อง ผมก็นั่งเหวอพูดไรไม่ถูก"
ตั้งแต่วันนั้นหยุดไหม?
เอ็กซ์ : "ไม่ครับ แต่หลังจากวันนั้น เมื่อก่อนผมดื่มทุกวันนะ แต่หลังจากนั้นผมก็ดื่มวันเว้นวัน ค่อยๆ เฟดลง ตอนนี้ก็ดื่มอาทิตย์ละครั้ง"
ทำไมถึงห้ามเบียร์?
เอิ๊กอ๊าก : "ตอนนั้นเขากินเยอะเป็นพิเศษก็เลยห้ามเบียร์"
เอ็กซ์ : "เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตอนสมัยเด็กๆ ตั้งแต่เขาเพิ่งเกิดได้ไม่กี่เดือน บ้านผมมีบ่อน้ำใหญ่มาก เลี้ยงปลาคราฟ จะฝันบ่อยมากเกี่ยวกับน้ำ เกี่ยวกับลูก แล้วยายก็ฝันเหมือนกันหมด เรื่องเดียวกันหมดทั้งบ้านเลย เกี่ยวกับลูกสาวผมคุณยายบอกว่า เนี่ยรู้ไหม เขาเป็นพญายมราชกลับมาเกิด ต้องบูชา ทำพิธีให้เขา คุณยายก็เอาผ้าแดงมาผืนนึง มามอบให้กับที่บ้าน แล้วบูชา แล้วขอท่าน เนี่ยพญายมราชมาเกิดนะ ดูแลดีๆ ผมก็แบบอะไร จริงเหรอ แต่ผมก็ฝันนะ ฝันว่าลูกสาวจมน้ำตลอด ผมก็คิดอีกแบบนึงหรือเป็นเพราะว่าเรามีบ่อน้ำในบ้านหรือเปล่า ประกอบกับหลายๆ บ้านมาบอกว่าฝันเกี่ยวกับเอิ๊กจมน้ำ แล้วแฟนผมเอาเรื่องที่คุณยายมาบอกเนี่ย อย่างน้อยดีกว่าไม่ได้ทำ ก็เอาผ้าแดงผืนนี้ไปบูชา จุดธูปขอทุกวันๆ เสร็จผมก็มีหน้าที่สั่งดินมาถมน้ำให้หมด ไม่มีน้ำแล้ว เป็นที่เรียบ ปลอดภัยแล้ว เสร็จไปสักระยะนึง ก็โอเค ดีขึ้น ในส่วนนึงเราก็สบายใจเรื่องน้ำ พอผ่านไปแฟนผมสอนรำไทย แล้วเผอิญลูกศิษย์ของแฟนผมมาแล้วลืมเอาผ้าแดงมา แล้วปัจจุบันผ้าแดงผืนนั้นไม่รู้อยู่ไหน เด็กเอาไป"
แล้วเกิดอะไรขึ้น ตอนที่ผ้าแดงไม่อยู่?
เอ็กซ์ : "ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น คงเป็นเรื่องบูชาแล้วผ่านไป แต่อีกเรื่องที่แปลก ในช่วงเขาเด็กๆ ผมก็ฝันส่วนนึง ส่วนนึงผมได้บูชาพระพิฆเนศด้วย ผมก็เอาพระพิฆเนศไว้ที่หัวนอน แล้วลูกผมจะละเมอเล่นแต่กับช้างตลอด 3-4 วันติด ผมอาจจะไว้ผิดตำแหน่ง ผมเลยบูชาท่านไปไว้ที่หิ้งพระ ก็เลยเงียบหายไป"
https://www.facebook.com/teeneedotcom