เพิ่งนึกออก ฟิล์ม น้ำตาซึมเปิดใจคบ เสี่ยอู๊ด จริง

เพิ่งนึกออก "ฟิล์ม" น้ำตาซึมเปิดใจคบ "เสี่ยอู๊ด" จริง

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 20 เมษายน 2549 18:08 น.

"ฟิล์ม รัฐภูมิ" เปิดใจยอมรับรู้จัก "เสี่ยอู๊ด" จริง เผยชีวิตครอบครัวเคยตกอับเลยต้องขอความช่วยเหลือ เจ้าตัวพร้อมแทนคุณทุกอย่างในรูปเงินหากอีกฝ่ายต้องการ หลั่งน้ำตารู้สึกเสียใจที่ทำให้แฟนเพลงผิดหวัง

เก็บตัวเงียบหลังปฏิเสธไม่รู้จักเสี่ยวงการพระเครื่องชื่อดัง "อู๊ด สิทธิกร บุญฉิม" ที่ออกมาเปิดเผยถึงความสัมพันธ์กระทั่งอีกฝ่ายต้องออกมาแฉพร้อมขนเอาหลักฐานทั้งภาพถ่ายและเอกสารต่างๆ มายืนยันก่อนยื่นคำขาดให้นักร้องหนุ่ม "ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์" จากค่ายอาร์เอสฯ ออกมาชี้แจงถึงความจริงภายใน 7 วันหากไม่ต้องการมีเรื่องราวฟ้องร้อง ในที่สุดหนุ่มฟิล์มก็ได้ออกมาเปิดใจถึงเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นแล้วในช่วงบ่ายที่ผ่านมาของวันนี้ (20 เม.ย.) ณ อาคารเชษฐ์โชติศักดิ์ ย่านลาดพร้าว

ทั้งนี้นักร้องหนุ่มได้เปิดเผยว่าตนรู้จักกับเสี่ยหนุ่มและยอมรับว่าอีกฝ่ายเคยให้ความช่วยเหลือจริงซึ่งตนก็พร้อมที่จะคืนเงินให้หากอีกฝ่ายต้องการ

สวัสดีครับพี่ๆ ทุกคน วันนี้จะมาพูดเรื่องข่าวที่เกิดขึ้นตอนนี้ ตอนนี้ข่าวก็มีทั้งจริงและไม่จริง อยากให้พี่ๆ เข้าใจกันด้วย และขอบคุณมากๆ ที่ติดตามข่าวผมมาตลอด คือพี่สิทธิกรเขาออกมาพูดแล้วว่าเขาเป็นใคร ถ้าเกิดถามว่าฟิล์มรู้จักจริงมั้ย รู้จักจริงครับ ที่รู้จักตอนนั้นเขาจ้างฟิล์มไปเล่นคอนเสิร์ตที่ จ.ระยอง ตอนนั้นเพิ่งออกเทป มารู้จักที่เขาเดินมาหาผมที่หลังเวที แล้วก็มีคนบอกว่าพี่เขาเป็นคนดีเกี่ยวกับเรื่องพระ

อีกฝ่ายช่วยเหลือถึง 7-8ล้านเลยจริงมั้ย?
7 - 8 ล้านคงไม่ขนาดนั้น ตอนที่พี่เขาช่วยตอนนั้นผมลำบากมาก ผมเพิ่งเข้าวงการใหม่ๆ ทางครอบครัวผมค่อนข้างมีหนี้สินเยอะ แล้วพอดีตอนนั้นบ้านผมประสบปัญหาบ้านถูกยึดพี่เค้าเลยยื่นมาเข้ามาช่วย จำนวนเงินตรงตามที่เค้าพูดหมดเลย ตอนนั้นคิดว่าผมโตแล้ว เลยตัดสินใจในการแก้ปัญหาโดยที่ไม่ได้บอกอาร์เอส ไม่อยากให้พ่อแม่ลำบาก ไม่อยากให้คนที่ผมรักลำบาก อย่างเฮียผมก็รักมาก ผมก็เลยไม่อยากให้เฮียเค้าลำบาก เลยแก้ปัญหาข้างต้นด้วยตัวเองก่อน

ข่าวออกมาว่าฟิล์มพูดว่าเขาเป็นแค่เพื่อนแม่?
ไม่เคยพูดเลยครับ ผมยอมรับมาตลอด แต่ตอนนั้นมันมีหลายกระแส แล้วก็มีหลายข่าวออกมามากเลย ทั้งเรื่องจริงและเรื่องไม่จริง แล้วตอนนั้นพี่เขายังไม่เปิดเผยตัว บอกแค่ว่าเป็นนักธุรกิจ เลยคิดแค่ว่าเป็นคนแอบอ้างเพราะโดนมามากมาย แต่ก็มีคนที่เข้ามาช่วยเหลือผมเยอะ ทุกคนผมจำได้หมด จนถึงทุกวันนี้


ยืนยันตนเองไม่เคยออกปากขออะไรจากอีกฝ่ายเลย มีแต่เปรยๆ ส่วนเรื่องที่ว่าตนหลบหน้านั้นฟิล์มบอกว่าไม่เข้าใจเหมือนกันว่าอีกฝ่ายพูดเช่นนั้นไปเพื่ออะไรก่อนจะปฏิเสธถึงพฤติกรรมดังกล่าว

ไม่เคยเอ่ยปากขอ มีซื้อให้บ้าง ผมไม่เคยเอ่ยปากขออย่างแน่นอน แค่บอกว่าผมอยากมีกลองเอามาฝึกเอามาเล่นเองแค่นั้นเอง ครั้งที่บอกว่าอยากได้รถ ผมปรึกษากับพี่สิทธิกรว่าตอนนั้นผมเริ่มมีตังค์แล้วอยากได้รถขับ อยากได้รถมินิเท่านั้นเอง ตามที่ฝันไว้

ผมว่าตรงนั้นคงเป็นการเข้าใจผิดมากกว่า ไม่เข้าใจว่าคุณสิทธิกรต้องการอะไร คือที่เค้าบอกว่าผมไม่มีเวลาพบเค้า ไม่มีเวลาไปเจอเค้า พูดตรงๆ ว่าเวลานอนผมยังไม่มีเลย นอนแค่ 2 - 3 ชั่วโมงเอง หาว่าผมปิดเครื่องบ้าง การทำงานของผมแทบจะครบ 24 ชั่วโมงเลย ทำมาเกือบ 2 - 3 ปีแล้ว คงเข้าใจผิดกันมากกว่า ผมไม่เคยหนี ใช้ชีวิตตามปกติ ตื่นมาก็ทำงาน บางคนหาว่าฟิล์มทำไมต้องหนีปัญหาคงไม่ถึงอย่างนั้นผมก็ใช้ชีวิตปกติเหมือนเดิม

ผมไม่เคยลืมบุญคุณนะครับ ทุกวันนี้ผมก็ยังจำว่าพี่เขามีบุญคุณแล้วผมก็อยากขอบคุณเขามาก ที่มีบุญคุณกับครอบครัวผมกับผม แต่ถ้ามาบอกว่าผมลืมบุญคุณหรือเปล่า คงไม่ถึงขั้นนั้น"

กรณี "เสี่ยอู๊ด" เอารูปที่เคยไปทำบุญร่วมกันมาแฉถึงความสัมพันธ์ ฟิล์มปฏิเสธว่าเวลาไปทำบุญนั้นจะมีครอบครัวไปด้วย แต่ยอมรับไปเที่ยวกันสองต่อสองที่ฮ่องกงและนอนห้องเดียวกันจริง แต่ไม่ใช่เตียงเดียวกัน พร้อมแจงความสัมพันธ์นั้นแค่พี่ที่เคารพเท่านั้น ส่วนเรื่องที่ยอมรับความช่วยเหลือจากเสี่ยอู๊ดก็เพราะครอบครัวลำบากจริงๆ

"ตอนนั้นมันถึงวิกฤติพอดี ปัญหาต่างๆ ที่ครอบครัวทำมามันรุมเร้า ในฐานะเป็นลูกชายก็ออกมารับปัญหาแทน ไม่มีเรื่องชู้สาว ไม่มีเลย ถ้าให้สรุปความสัมพันธ์ พี่เขาเป็นพี่ที่มีบุญคุณ เป็นพี่ที่นับถือเสมอ อยู่ฮ่องกงนอนห้องเดียวกัน แต่ไม่ใช่นอนเตียงเดียวกัน คงไม่ใช่"

"ที่ไปทำบุญผมไปครอบครัว มีครอบครัวไปด้วยตลอด แต่ถ้าเกิดที่ฮ่องกงไปกัน 2 คน ก็ไว้ใจนะครับเพราะพี่เค้าเป็นคนดีตอนผมรู้จัก เค้าทำเกี่ยวกับพระ ครอบครัวก็ว่าเค้าเป็นคนดี ตอนนี้ก็ยังเหมือนเดิม ผมไม่ได้คิดอะไรเลย ไม่เคยโกรธใคร ทุกวันนี้ผมก็ยังเหมือนเดิม ไม่ได้มาบั่นทอนอะไรผมเลย ผมเคยปฏิเสธสิ่งที่พี่เค้าให้ แต่พี่เค้าบอกว่าอยากช่วยจริงๆ ผมเห็นว่าเค้าปรารถนาดีอยากช่วยจริงๆ ตอนนั้นผมยังเด็ก จะปฏิเสธเลยก็คงไม่ได้ครับ"


สำหรับการแถลงข่าวในครั้งนี้ก็ได้มีบรรดาแฟนคลับของนักร้องหนุ่มเดินทางมาให้กำลังใจอย่างคับคั่ง โดยในตอนท้ายของการแถลงข่าวหนุ่มฟิล์มถึงกับหลั่งน้ำตาเผยความรู้สึกของตนออกมาว่าเสียใจที่แฟนเพลงบางส่วนเข้าใจผิดคิดว่าตนอยากได้ของของคนอื่น ส่วนเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น เจ้าตัวยืนยันว่าไม่โกรธเสี่ยอู๊ดแต่อย่างใดและพร้อมใช้เงินคืนทันทีหากต้องการ

"ไม่โกรธพี่เค้าเลยที่เค้าออกมาแฉ ก็เฉยๆ เพราะผมก็ใช้ชีวิตปกติ มีคนกลุ่มหนึ่งที่รอคอยชมผลงานผมอยู่ เค้าไม่เคยขออะไรจากฟิล์ม ผมอยากจากใจมากกว่า ถ้ามีงานที่บริษัทเค้า ผมก็ไปช่วย ผมไม่ได้เอะใจอะไร คนอื่นก็ช่วยผมเยอะเหมือนกัน"

"เรื่องที่รูดบัตรเครดิตก็มีเอาเงินไปคืนเท่าจำนวนที่รูดไป ถ้าเกิดพี่เค้าต้องการคืนเท่าไหร่ตอนนี้ผมก็พร้อมแล้วยินดี...นัดเคลียร์คงไม่ เพราะผมได้พูดไปหมดแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างที่พูดออกมาพูดความจริงหมดแล้ว คงไม่มีเวลาถึงขนาดนั้น เพราะต้องถ่ายหนัง"

จะทำยังไงต่อ?
"ฟิล์มไม่ได้จะทำอะไร ฟิล์มไม่ได้ออกมาพูดอะไรว่าเค้าเป็นเพื่อนแม่ มันคงเป็นการเข้าใจผิดมากกว่า การฟ้องกลับคงขึ้นอยู่กับบริษัทมากกว่า เพราะผมก็ยังทำตัวเหมือนเดิม"

"ผมพูดมาตลอดว่าจะทำงานให้ดีที่สุดเพื่อไม่ให้คนดูผิดหวัง แต่จริงๆ แล้วเรื่องราวที่เกิดขึ้น ฟิล์มไม่ได้ดูดาย มีแฟนคลับให้กำลังใจเยอะมาก ทั้งที่บ้านและที่กองถ่าย ผมพูดตรงๆ ว่าเค้าทำให้มีพลังก้าวต่อไป ผมทำงานทุกวันนี้ไม่เคยเหนื่อยเลย ผมไม่นอน 4 - 5 วันไม่เคยเหนื่อย เจอใครผมยิ้มหมด มีความสุขมากๆ ที่ทำงานตรงนี้.... (ร้องไห้) ผมรักพวกเค้าทุกคนมาก ผมแคร์ความรู้สึกที่บางคนมาหาว่าผมอยากได้-ของเค้าเหรอ ผมมีเงินอยู่แล้วทำไมต้องอยากได้ ผมแคร์แฟนเพลงที่มองผมผิดเท่านั้นเอง"

อีกฝ่ายบอกว่าบอกว่าถ้าไม่ออกมาชี้แจง 7 วันจะฟ้อง ฟิล์มว่ายังไง?
ไม่ได้อ่าน ไม่ได้สนใจอะไรเลย ผมทำงานตลอดเลย ถ้าเกิดเค้าขอเงินคืนตอนนี้ผมก็พร้อมนะ เพราะว่าจริงๆ แล้ว ผมก็มีงานทำ ตัวเลขที่เค้าบอก 7 ล้านคงไม่ตรง"

หมายเหตุ : ในวันพรุ่งนี้(22 เม.ย.)เวลาประมาณ 11.00 น.เสี่ยอู๊ด สิทธิกร จะมีการแถลงข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่ง รายละเอียดเป็นอย่างไรบันเทิงออนไลน์จะนำมารายงานให้ทราบต่อไป ...


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์