เปิดชีวิตหม้ายสาวลูกสอง เคลียร์มรสุมรุมเมาท์เป็นแม่เล้า-รับงานเอ็น
ซาร่า : "เป็นข่าวช่วงที่เราเพิ่งคลอดลูกได้ 2 เดือน แล้วมันมีภาวะซึมเศร้าหลังคลอด แล้วข่าวมันแรงมากๆ แรงขณะที่ว่าเวลาเราเดินไปซื้อของกินสายตาคนที่มองเรามา หรือเราไปซื้อชานมไข่มุก พอร้านเห็นหน้าเรา เขาไม่ขาย เขาบอกหมดแล้ว พอเราเดินออกมาปุ๊บเขาก็ขายคนนั้นต่อ เหมือนมันกระทบหนักมาก แล้วเหมือนข่าวจากช่อง รายการต่างๆในโซเชียล พอเราเสพเข้ามาเยอะๆ มันมีอยู่จุดจุดหนึ่งมันมีแว๊บเข้ามาในหัว หรือว่าเราจะต้องไม่อยู่เหรอ"
หมายถึงคิดสั้น?
ซาร่า : "ใช่ มันหนักมาก มันเป็นปัญหาเขาเรียกเคมีในสมองด้วยในช่วงนั้น ภาวะหลังคลอดไง เราก็คิดแบบว่าหรือเราเป็นคนไม่ดีเหรอ เป็นแม่ที่ไม่ดีเหรอ ทำไมคนถึงมารุมประนามด่าเราขนาดนี้ เราไปทำอะไรให้ใคร หรือมันเป็นชาติที่แล้ว เหมือนมันคิดวนไป วนมา จรเรารู้สึกว่าหรือเราต้องไปถึงจะพอใจทุกคน ทุกคนถึงจะได้รู้ว่าความเป็นจริงแล้วมันคืออะไร"
แล้วอะไรทำให้เราหยุดได้?
ซาร่า : "ตอนนั้นที่คิดเยอะว่าเราจะไปแล้ว เราตัดสินใจเดินไปหาแม็กซ์เวลล์ ถ้าย้อนกลับไปได้ไม่อยากทำเลย คือเราเดินไปบอกกับลูกว่า แม่จะไม่อยู่แล้วนะ แม็กซ์ดูแลตัวเองนะ ดูแลน้องด้วยนะ เราก็พูดเยอะ ก่อนเราจะไป เราก็กอดเขาแล้วเขาก็พูดว่าแม็กซ์ไม่ให้ไป คือคำเดียว เหมือนความรู้สึกมันตีกลับมาแล้วเราก็ร้องไห้ แล้วเราก็ขอโทษเขา ก็เลยผ่านจุดนั้นได้ แล้วจากนั้นมาเราก็ไม่คิดอีกแล้ว"
หนิง : "อยากจะบอกคนดูที่ดูตอนนี้บางทีในการจะวิพากษ์วิจารณ์ใครสักคน เราไม่รู้หรอกว่าเรื่องราวของเขามันตื้นลึกหนาบางจริงๆ มันคืออะไร เราอยากจะให้เป็นอย่างนี้ แต่เรื่องจริงๆ มันคืออะไรไม่รู้ แต่มันเป็นผลกระทบกับคนคนหนึ่งที่ถ้าวันนั้นเขาตัดสินใจอะไรก็แล้วแต่ ชีวิตของลูกๆ เขา อนาคต หรืออะไรก็แล้วแต่ที่มันจะต้องเดินต่อไปอย่างสวยงามมันคืออะไร คือตอนนี้สังคมมันบูลลี่กันหนักมาก"
พอเรากลับไปแข็งแรงแล้ว ใจเราแข็งแรงแล้ว การเงินเราดีด้วยไหม?
ซาร่า : "มันเป็นช่วงที่เราต้องทำมาหากินหนักแหละ เพราะลูกเราก็ต้อง 2 คน กว่าเขาจะโต ทั้งการเรียน ทั้งอะไรอย่างนี้บางคนก็ถามว่าเราใช้เดือนหนึ่งเท่าไหร่ถึงจะพอ สำหรับซาร่ามองว่าอย่าถามว่าเท่าไหร่ถึงจะพอ เราต้องบอกตัวเองว่าเราต้องหาเงินให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะอนาคตมันเป็นอะไรที่ไม่แน่ไม่นอน ด้วยอายุที่มากขึ้นเรื่อยๆเศรษฐกิจโลก ด้วยอะไรหลายๆ อย่าง ทุกวันนี้ถ้าเรามีแรง มีกำลัง เรายังมีความสามารถ เราก็ทำทุกวันให้มันดีที่สุดพยายามหาเงินให้ได้มากที่สุด"
ค่าเลี้ยงดูต่อเดือนของแม็กซ์เวลล์และเอมมิลี่?
ซาร่า : "เราก็ไม่ได้คิดเป็นตัวเลขขนาดนั้น แต่เราก็พยายามหาให้ได้มากที่สุดเพื่อจะซัพพอร์ตทุกอย่าง เพราะในพาสของเอมมิลี่เราก็ดูแลอยู่คนเดียว ส่วนในพาสของแม็กซ์เวลล์ก็มีคุณพ่อน้องมาช่วยคนละครึ่งในค่าใช้จ่ายของน้อง ซึ่งความเป็นแม่ เหมือนลูกก็ต้องเลี้ยง เงินก็ต้องหา มันจะต่างกับคนที่ไม่ต้องเลี้ยงลูกไปทำงาน100% เลย แต่เหมือนเราลูกก็ต้องเลี้ยง เงินก็ต้องหา เพราะฉะนั้นการหาเงินของเรามันไม่ได้มีเวลาทั้งหมด 100% เพราะเราต้องแบ่งทั้งสองอย่าง เพราะฉะนั้นอะไรที่เราทำได้ ไม่ว่าจะเป็นงานในวงการหรือว่าธุรกิจส่วนตัวเราก็เต็มที่กับทุกอย่าง"
เห็นบอกว่ามีครั้งหนึ่งลูกอยากกินขนม แต่เงินในกระเป๋า?
ซาร่า : "มี 20 บาท คือเรามีเงินในธนาคาร แต่ช่วงนั้นเหมือนเป็นภาวะที่เรามีเรื่องเครียด เหมือนเป็นจังหวะที่เขาชี้ไปที่มาการองในห้าง ซึ่งมันร้อยกว่าบาท เราก็บอกโอเคแป๊นหนึ่งลูก เราก็เปิดกระเป๋ามี 20 บาท อยู่ดีๆ ก็รู้สึกสะท้อนชีวิตมากว่าแบบถ้าวันนี้เราไม่เหลือแล้ว ถ้าในบัญชีเราไม่มี แล้วมีแค่ 20 บาทเราไม่สามารถซื้อมาการองที่อยู่อยากกินได้เลย มันเหมือนจุกอยู่ในใจ เรากลัวมากที่จะไม่มี เราต้องทำทุกวันให้มันดีที่สุด เพื่อที่แบบ เราอดได้ เราไม่มี มาม่า ไข่ต้ม เรากินได้นะ แต่ถ้าลูกไม่ได้กินไม่ได้ ลูกอยากกินอะไร เราก็อยากให้ลูกได้กิน"
ทุกวันนี้ลูกโอเคหรือยังเรื่องกิน?
ซาร่า : "โอเค เขาเป็นเด็กที่กินง่ายมากๆ แบบข้าวเหนียว หมูปิ้ง ไก่ทอด ไข่เจียว ไข่ดาว เมนูไข่คือเมนูที่มีประจำติดบ้าน เขาก็จะเป็นเด็กที่กินอะไรง่ายๆ"
หลายคนคิดว่าสวยอย่างนี้ ชีวิตหรู สบาย แต่จริงๆ ไม่ใช่เลย?
ซาร่า : "มันจะเป็นพาสของการทำงานมากกว่า ออกงานเราก็จะรู้แล้ว เราจะมีสปอนเซอร์ บางทีเราถ่ายรูปเราก็ต้องดูสวยงาม คนที่สนิทกับเราจะรู้ว่าเราเป็นคนที่ติดดินมากๆ บางทีเราทำงานได้เงินเยอะๆ เราสามารถใช้เวลาที่จะไปฉลองกับลูก พาลูกไปกินมื้อดีๆ วันครบรอบ วันเกิดก็เป็นตามบางโอกาส แต่ไม่ใช่ทุกวันเราต้องกินหรู อยู่แพงขนาดนั้น"
ซาร่า : "เราไม่ควรติดกับภาพที่เราเห็น แล้วสุดท้ายแล้วต่อให้คนนั้นเขาจะใช้ชีวิตที่ติดดิน หรือกิน อยู่หรู แพง ถ้าเขาหามาได้ แล้วใช้เงินของตัวเอง ไม่ไปเดือดร้อนคนอื่น ไม่ได้ไปทำใครเดือดร้อน ไม่ได้ไปคตโกงใครเหมือนหามาด้วยเงินสุจริต มันเป็นเรื่องปกติที่คนเราหามาได้ ก็อยากจะมีความสุขกับสิ่งนั้น พูดง่ายๆ เพราะเราไม่รู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นวันนี้เราได้มา เราก็อยากจะใช้ความสุขกับลูก ทุกคนก็น่าจะเข้าใจ สุดท้ายแล้วไม่ว่าเขาใช้ชีวิตแบบไหน ความพอดีของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน พื้นฐานครอบครัวของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน มันเป็นข้อแตกต่างที่เราอย่าเอามาเทียบอย่าไปดูถูกคนว่าต้องเป็นแบบนั้น ต้องเป็นแบบนี้"
แล้วเวลาที่เราเอาลูกมาถ่ายรูปขายของต่างๆ เรามีแอบกลัวคนเม้าท์เราไหมว่าเอาลูกมาหากินหรือเปล่า?
ซาร่า : "เราไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นเลย ถามว่ามันมีเข้ามาให้เห็นไหม บางคอมเมนต์ที่แบบเอาลูกมาหากิน นู้น นี่นั่น แต่ในมุมเรามองว่าเขาเห็นเราในทุกๆ วัน ในการเป็นแม่ค้าออนไลน์ ขายของ เขาเห็นแล้วเขาอยากมาจอยกับเรา เขาอยากมาช่วยเรา เราไม่ได้แบบลูกมาทำอันนี้ให้แม่ เหมือนเขาเต็มใจที่จะช่วย แล้วเป็นการที่เราได้ฝึกลูกเรา ได้รู้จักวิธีการทำมาหากินตั้งแต่เล็กๆ"
มีข่าวออกมาว่าซาร่ารับงานเอ็นฯ ซาร่าเป็นแม่เล้า เขียนกันต่างๆ นานา จนเกิดทำให้เข้าใจผิดในตัวซาร่า ซาร่าอยากจะเคลียร์อะไรกับประเด็นนี้?
ซาร่า : "ตอนนั้นด้วยกระแสข่าวที่มันดราม่าแล้วมันก็แรงมาก มันเหมือนมีกรุ๊ปหนึ่ง เป็นกรุ๊ป VIP ทักมาถามผู้จัดการว่าซาร่ารับงานเอ็นฯ อะไรหรือเปล่า เราก็ถามผู้จัดการว่าอะไรงานเอ็นฯ เขาก็อธิบายให้ฟังว่าเหมือนมีคนพยายามจะดิสเครดิตเรา เหมือนว่าถ้าสมมติหาภาพโป๊ หรือหาอะไรสักอย่าง จะได้เข้าไปอยู่ในกรุ๊ป VIP ตอนนั้นผู้จัดการเห็นก็ได้มีการดำเนินเรื่อง ฟ้องเป็นเรื่องเป็นราว"
ผู้จัดการ : "เป็นกรุ๊ปปิด"
ผู้จัดการ : "คือมีเพื่อนส่งข้อความมาว่าทำไมมีคนทำอย่างนี้กับศิลปินของเราด้วย เราอ่าน เราก็ตกใจ เพราะเขาแคปแชทส่งมา ประมาณว่าถ้าหาภาพโป๊ของซาร่า หรือหาคลิปโป๊ของซาร่า หรือมาเมนต์ในเชิงเสื่อมเสียได้ คนคนนั้นจะได้เป็นเมมเบอร์วีไอพีของกรุ๊ปนั้น แล้วในนั้นก็ส่งรูปโป๊กัน เราโอเครับทราบ เราก็เตรียมแล้วว่าเราจะเอ็กชั่นกลับยังไงเสร็จปุ๊บพอวันรุ่งขึ้นทักมาเลย เป็นโปรไฟล์ชุดข้าราชการ เราไม่รู้หรอกว่าเป็นข้าราชการจริงหรือเปล่า ก็ทักมาว่าน้องซาร่ารับงานโป๊ไหม ถ่ายแบบคู่กับชายหนุ่ม เราก็บอกว่าเป็นงานประเภทไหน เขาบอกว่าเป็นงานแบบไพรเวท เราก็แบบเอาแล้ว...พิมพ์รายละเอียดเข้ามาเลยนะคะว่ายังไง เพราะเราต้องการดูหลักฐานว่ามันมีข้อความจริงๆ ซึ่งทุกอย่างเราก็แคปเก็บเอาไว้ แล้วเราก็ปิดประเด็นไปว่าถ้าเป็นงานแนงเอนเตอร์เทน ไพรเวทไม่รับ"
เอนเตอร์เทนไม่เอา ไปกินข้าวไม่เอาเลยแล้วทุกวันนี้เรารับงานแบบไหนบ้าง?
ซาร่า : "เป็นงานรีวิวสินค้าต่างๆ นานา งานในวงการ ละคร พิธีกร คือได้หมด แล้วก็ธุรกิจส้วนตัว"
รู้สึกยังไงบ้างที่คนพูดถึงเราแบบนั้น แล้วไปตั้งกรุ๊ปเพื่อดิสเครดิสเรา?
ซาร่า : "เราก็รู้สึกไม่ดีแหละ พอมันมีประเด็นนั้นมาคนมาถามเราเยอะ เรารู้สึกว่าต้องทำอะไรสักอย่างที่ปกป้องตัวเองเราก็เลยดำเนินตามกฎหมายให้มันเคลียร์เป็นเรื่องไป พอเราเดินเรื่องเสร็จปุ๊บ ฝั่งทางเขาที่เหมือนสร้างเรื่อง เขาก็เหมือนมีคดีติดตัวเยอะด้วย เขาก็เงียบหายไปเลย ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น"
แสดงว่าเรื่องนั้นให้กฎหมายเป็นคนดำเนินการ?
ซาร่า : "ใช่ค่ะ"
ได้มีโอกาสคุยกับผู้จัดการดาราคนอื่นๆ ไหมว่าโดนอย่างนี้เยอะไหม?
ผู้จัดการ : "เราก็คุย มันก็มีข่าวแบบนี้มาตลอดอยู่แล้ว เราว่าศิลปินสวยๆ ทุกคนจะมีข่าวในเชิงเสื่อมเสียแบบนี้มาตลอดแต่ว่าเราจะมีหน้าที่ยืนยันว่าศิลปินของเราเขาไม่ได้รับงานประเภทนั้น"
https://www.facebook.com/teeneedotcom