เปิดมิตรภาพ2ดาราสาว จากครั้งแรกไม่ถูกชะตาวันนี้กลายเป็นเพื่อนรัก
เอ๋ : "เพิ่งรู้ตัว ไม่เคยบอก"
นานา : "คือเห็นหน้าแล้วไม่น่าคุยอะ ดูเป็นคนหยิ่ง จะรู้สึกว่าคุยได้เหรอ หน้าดุมาก แล้วเราก็รู้สึกว่าไม่ได้สิ เพราะว่าเราก็เป็นหนึ่งคนในนั้นเหมือนกัน พอเวลามีใครเข้ามาเขาจะชอบบอกว่าไม่กล้าคุยกับนานา ฉันก็เลยให้อภัยมันไว้นิดนึงนางอาจจะเป็นคนที่เฟรนลี่ก็ได้ นางอาจจะคล้ายๆ ฉัน ตอนหลังพอเริ่มได้คุยก็จริงๆ ด้วย คือไม่มีอะไรเลย"
จุดไหนที่ทำให้คลิกแล้วบอกว่าไม่มีอะไรเลย?
นานา : "พอเริ่มคุยไม่เกิน 2-3 ประโยค คือรู้เลยว่าเอ๋ไม่มีอะไรเลย แววตาทุกอย่าง วันนั้นจนถึงวันนี้เหมือนเดิมทุกอย่าง"
เป็นคนไม่เฟค ไม่แอ๊บอะไรทั้งสิ้น?
นานา : "ไม่รู้สึกว่าเอ๋แอ๊บ"
เอ๋ : "เอ๋ว่าถ้าเอ๋แอ๊บ นานาไม่คบเอ๋ คือเขาเป็นคนตรงเหมือนกัน แล้วเขาเป็นคนไม่แอ๊บ ถ้าเขาคบเพื่อนแอ๊บ เอ๋ว่าไปไม่เป็นอะ"
เอ๋ : "ยอมรับว่าเขาเป็นคนสวย แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าเขาหยิ่ง เหมือนเราเจอใครแรกๆ เราก็จะให้เขา แล้วจะเข้าใจด้วยว่าเขาทรงเดียวกับเรา คืออยู่เฉยๆ ก็ดุ ก็พยายามเอาตัวเรามองย้อนกลับมาที่ตัวเรา มันก็จริงๆ ด้วย มันไม่มีอะไร"
นานา : "เราโตแล้วไม่ได้เป็นเพื่อนมัธยมกันแล้ว เป็นตัวเองยังไงก็เป็นแบบนั้นเถอะ ถ้าเราอยากได้ความสัมพันธ์ที่จริงใจ จริงจังไประยะยาวก็คือเป็นตัวเองเลยได้เพื่อนดีๆ"
คบกันมาทั้งหมดนานเท่าไหร่?
เอ๋ : "หลายปีแล้ว"
นานา : "น่าจะประมาณ 7-8 ปี ตั้งแต่ลูกเล็กๆ เลย"
คู่นี้เป็นสายช้อปปิ้งหนักมาก?
เอ๋ : "ต้องบอกก่อนว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนทำให้เอ๋เจ็บตัวเยอะที่สุด และเป็นคนที่ยุเก่งมาก แล้วเราก็เป็นคนที่เชื่อเขาที่สุดด้วย"
ล่าสุดเขายุอะไรคุณ?
เอ๋ : "อ่อ เมื่อวานถือว่าเล็กน้อย คือนี่ยุแบบหมดไปเยอะอ่ะ"
นานา : "เอ๋เขาเป็นคนรูปร่างดี ใส่อะไรก็สวย แกๆ อันนี้มันเหมาะกับแก ไม่ใช่เตี้ยตันอย่างฉัน มันคนละแบบ พอเราเห็นอะไรที่แบบเอ๋ได้ๆ เอาอยู่ๆ เอ๋ต้องเอา นางก็เอา"
เอ๋ : "เป็นคนเชื่อคนง่ายจริงๆ"
เพื่อนเคยแนะนำให้เราช้อปปิ้งสูงสุดอยู่ที่เท่าไหร่?
เอ๋ : "หลักล้านค่ะ"
นานา : "แต่เรื่องสติก็แล้วแต่เพื่อนไง ถูกไหม"
สามีว่าไง?
เอ๋ : "เขาไม่รู้"
ทุกครั้งที่กลับเข้าบ้านต้องให้แม่บ้านเอาของไปซ่อนก่อน?
เอ๋ : "ใช่ซ่อน คือแม่บ้านดีมากนะ ไม่ต้องบอก เป็นที่รู้กัน ที่เดิมนะ เพราะพี่ป๋อจะไม่เข้าห้องแต่งตัวเอ๋"
นานา : "ดิฉันมีชื่อน่ารักๆ อยู่แล้ว น้องเตี้ย หรือ อีเตี้ย"
เอ๋ : "จริงๆ เอ๋ไม่มีข้อบกพร่องอะไรเลยนะ"
หนิง : "น้องห้อย ปากนี่อินเทรนด์มากนะ สมัยก่อนเขานึกว่ากุนเชียงนะ"
ทุกวันนี้พี่ป๋อหึงเอ๋มาก?
เอ๋ : "นั่นนะสิ โลกอะไรเปลี่ยนไปบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้ กินยาผิดหรือเปล่าก็ไม่รู้ คือเอ๋ว่าเป็นเพราะเราดูแลตัวเอง เพราะว่าเมื่อก่อนเอ๋อ้วน ใส่เสื้อผ้าไซซ์ L ถึง XL เอ๋น้ำหนักขึ้นตอนท้อง 22 โล เรารู้สึกว่ามันไม่ได้แล้ว เพราะสามีออกนอกบ้านไปเห็นแต่นางเอกสวยๆ ตัวร้ายสวยๆ แล้วกลับมาบ้าน อุ้ย...ตายแล้วเจอแม่บ้านคนนี้อีก เรารู้สึกแบบเราเห็นใจเขา เราเลยคิดว่าต้องดูแลตัวเองแล้ว ต้องกลับมาเป็นคนเดิมให้ได้"
มันก็เลยกลายเป็นว่าเอ๋ชอบโทรคุยกับนานา ขอเคล็ดลับนานาทุกคืน?
นานา : "มันก็หลายเรื่อง"
หลายเรื่องจนคุณสามีคิดว่าพี่เอ๋โทรคุยกับกิ๊ก?
นานา : "ใช่ ได้ยินเสียงเลย คุยกับใคร เพราะว่าการคุยมันเป็นอะไรที่แบบแปลกๆ ดูกระซิบๆ"
เอ๋ : "คือเอ๋ทำเป็นเดิน เอ๋นั่งดูทีวีกับเขาทุกคืนใช่ป่ะ พอนานาโทรมาปุ๊บก็จะค่อยๆ เดิน แล้วไปเม้าท์อีกห้องนึง แล้วเขาจะเปิดตู้เย็นตรงที่เอ๋นั่งบ่อยมาก เดินเข้า เดินออก เขาแอบฟังว่าคุยกับใคร"
พวกเราจะมีกรุ๊ปนั่งซูมกัน ช่วงโควิดไปไหนไม่ได้ สามีทุกคนไม่มีใครมาโผล่ในหน้าจอซูม แต่คุณป๋อ ณัฐวุฒิ ต้องมา?
เอ๋ : "อันนี้จริง คือเขาก็คงอยากรู้แหละว่าเราคุยกับใคร คุยเรื่องอะไร แต่พอคุย เห้ย...สนุก"
ฝั่งคุณพี่เวย์เวลาคุยโทรศัพท์เขาว่าไงบ้าง?
นานา : "เขาไม่ใส่ใจ บ้านนี้เลี้ยงบุฟเฟ่ต์มาก แต่ถ้าเขามาถึงบ้าน คือไม่ได้เอ๋จะต้องวางตอนนี้แล้ว"
แสดงว่าเขาเกรงใจสามีมาก?
เอ๋ : "ใช่ เขาเกรงใจสามี เขาจะแบบ เห้ย...มาแล้ว แค่นี้นะ ก็วางอะไรอย่างนี้"
นานา : "คือเราเป็นคนใช้โทรศัพท์ระหว่างวันเยอะอยู่แล้ว พอเวลาเขากลับมาบ้าน ยูเอาโทรศัพท์วาง นั่งดูหนังกับเขาทำอะไรกันอย่างนี้"
นานา : "คนเราหาเรื่องรักกัน อันนี้นานาแชร์ให้กับทุกบ้าน จะเป็นสาวง่อยๆ อยู่บ้านหัวกระเซอะกระเซิงไม่ได้ เราก็ต้องมีแบบอยู่ๆ อยากหยิบส้นสูงขึ้นไปห้องแต่งตัว"
แล้วส้นสูงในครัวล่ะ?
นานา : "ไม่ได้เรื่องส้นสูง แต่หมายถึงว่าเราต้องหาอะไรที่หาเรื่องรักกัน"
แล้วการที่เราใส่ส้นสูงเปิดตู้เย็นแล้วหยิบของที่อยู่ชั้นล่างสุดมันหมายความว่าไง?
นานา : "มันเป็นการโชว์ว่าการขาสั้นของเราไม่ใช่ไม่มีประสิทธิภาพ ยังใส่ส้นสูงแล้วหยิบของในตู้เย็นได้"
คุณรู้ไหมวิธีที่คุณแนะนำบ้านอื่นแบบนั้นเกือบทำบ้านแตกมาแล้ว?
หนิง : "เราคุยกันในเรื่องที่ผู้หญิงเขาคุยกัน อิแห้ง บางทีมึงต้องอย่างนี้บ้าง เราก็ทำตาม ปรากฏว่าโดนด่าจ๊ะ เซลลูไลท์ขึ้นขาขนาดนี้ยังจะมาเดินอ่อยอีก เปิดหนังโป๊ดูยังจะดีกว่าไหม"
ใครเตือนใครมากกว่ากัน ใครเป็นสายนอยด์?
นานา : "เอ๋จะนอยด์กว่า"
เอ๋ : "เอ๋จะเป็นคนคิดเยอะ คิดมาก ส่วนนานาเขาจะเป็นคนเตือน เอ๋พอหยุด พอแค่นี้ เลิกคิดได้แล้ว ไม่มีประโยชน์ ไร้สาระ เขาจะคอยบอกทุกอย่าง พูดตรงๆ เขาจะไม่อ้อมค้อม"
เอ๋เป็นคนเชื่อคนง่ายจริงเหรอ?
เอ๋ : "จริงค่ะ ก็ดูจากที่เอ๋ช้อปปิ้ง เอ๋เชื่อคนง่ายไหมล่ะ เชื่อคนง่าย หลอกได้"
เคยโดนอะไรที่แบบเราเชื่ออะไรแบบนี้ นอกจากเพื่อนรักเรา?
เอ๋ : "เอ๋ไม่ถือว่าเป็นการโดนหลอก เพราะเอ๋ตั้งใจที่จะเชื่อเขา ตัดสินใจที่จะเชื่อเขา เอ๋ไม่คิดว่าใครหลอกเอ๋ คือใครชวนทำบุญ เดินซุปเปอร์ก็ทำเยอะด้วย"
คุณนานาเตือนเพื่อนยังไงกับเรื่องนี้?
นานา : ก็บอกเขาให้บาลานซ์แหละ เพราะว่าชีวิตทุกคนมันอยู่ด้วยความบาลานซ์ บางทีสุขบ้าง ทุกข์บ้าง ก็จะบอกเขาแล้วสิ่งที่เขาทำมาพอเราเช็กตัวเองแล้ว เห้ย...เราไม่ได้คิดร้ายนิ เราไม่ได้ตั้งใจไม่ดีนิ แล้วเราจะมานั่งอยู่กับสิ่งนี้ทำไมก็จะบอกเขาแบบนี้
เหมือนนานาแข็งเกร่ง เป็นสติของเพื่อนๆ คุณมีมุมที่ไม่โอเคไหม?
นานา : "ก็มี เป็นคนงอแงอยู่แล้ว ขี้ร้องอันดับ1 นานาคือถ้ารู้สึกคือร้องเลย เป็นคนร้องไห้เก่ง ร้องไห้ง่าย แต่ไม่ค่อยเก็บเพราะรู้สึกว่าการเก็บตอนนี้โรคภัยไข้เจ็บก็เยอะ เป็นคนที่ออกหมด ก็ใช้วิธีคุย ถ้าเราดาวน์บางเรื่องก็ใช้วิธีการโทรหาเพื่อนๆ มันก็ดีขึ้น"
เอ๋ : "ข้อดีของเขาคือเขาสามารถตัดออกได้ในทันที ถ้าเขาเคลียร์ใจตัวเองได้เขาตัดออกไม่เก็บ ซึ่งอันนี้ดีมาก"
แต่เห็นว่ามีเรื่องนึงที่ตัดออกยากเลย นั่นก็คือเรื่องน้อยใจสามี?
นานา : "เรื่องนี้เขารู้อยู่แล้ว บางทีแบบกลับบ้านยัง ถึงยัง ถึงไหนแล้ว ทำไมแต่งตัวอย่างนี้ หึงหวง หรือเป็นห่วงโอเว่อร์หน่อยจะไม่มีเลยคือศูนย์ เขาจะไม่เป็นเลย เราก็แบบส่องกระจกก็ไม่ได้แย่นะ ก็จะบ่นเขาบ่อยๆ ว่าไม่ถามหน่อยเหรออยู่ตรงไหน ทำอะไร ฉันจะไปไหนคือสบายหมด เขาค่อนข้างไว้ใจแหละ"
เอ๋ : "จริง บางทีก็แอบใจร้ายเหมือนกันนะ เขาเป็นคนที่พูดตรงมาก ถ้าเราใส่อะไรแล้วรู้สึกว่าวันนี้ฉันสวยมาก แต่เขาแบบจะไปไหนแต่งตัวป้ามากเลย เราจะแบบเห้ย...จริงเหรอ เสียเซลฟ์เลย คือเขาสามารถพูดอะไรก็ได้ที่แบบฆ่าเราให้ตายเลยก็ได้ พี่ป๋อเขารู้ไงว่าเอ็ทางไหน แต่บางทีเขาก็แกล้งนะ"
พูดถึงเรื่องเงินทองบ้าง นานาเป็นคนไม่ค่อยได้ช้อปหรือว่าช้อป?
นานา : "ช้อป แต่ไม่ได้มากมายถ้าเทียบกับคุณสามี เขาเป็นของเขาอยู่แล้ว ตอนเจอครั้งแรกฉันก็แต่งแบบนี้อยู่แล้วก็เสมอต้น เสมอปลาย แต่เราก็ไม่ได้เป็นคนขนาดนั้น แต่จะซื้ออะไรที่มินิมอลหน่อยแล้วใช้ได้นาน"
บ้านนี้สามีซื้อหนัก แต่บ้านนี้แอบสามีซื้อ ถ้าพี่ป๋อไปเจอทำไง?
เอ๋ : "เคยเจอ ก็บอกอ่อ กล่องเปล่า ตอนนี้รู้แล้ว เมื่อก่อนบอกชาแนลใบละ 5,000 บาทก็เชื่อ แต่เดี๋ยวนี้รู้ดีมากเลย"
เขาต้องรู้สิ เพราะเขาคลั่งรักคุณหนักมาก หลังๆ มาเวลาคุณลงรูปอะไรก็แล้วแต่เขาก็มารีทัชรูปคุณไม่ให้โป๊ เอาจริงมันเกิดอะไรขึ้น ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้เป็นแบบนี้?
เอ๋ : "เมื่อก่อนไม่เป็นเลย เมื่อก่อนพี่ป๋อกับเวย์น่าจะคล้ายๆกัน คือไม่เคยพูดอะไร ไม่เคยชมอะไรทั้งสิ้นเลย แต่เดี๋ยวนี้คือแบบแต่งตัวสวยไม่ได้ จะไปไหน ทำไมต้องแต่งโป๊ขนาดนี้ ทุกอย่างคือหน้ามือเป็นหลังมือ เอ๋ก็ตกใจตัวเองเหมือนกัน"
มันเกี่ยวไหมว่าเราดูแลเขาอย่างดี แล้วเราคือคนที่ดีที่สุดสำหรับเขา?
เอ๋ : "เอ๋ว่าเอ๋ดีที่สุดสำหรับเขานะ เอ๋ทำเต็มที่ เอ็ไม่บกพร่องทุกเรื่อง"
ตอนนี้เขามีกฎว่าจะถ่ายรูปอะไรก็แล้วแต่ต้องขออนุญาตก่อน?
เอ๋ : "ใช่ แต่ไม่ถึงขนาดขออนุญาต แต่เขาจะขอดูถึงความเหมาะสมนิดนึงก่อนจะลง เขาต้องดูก่อนว่ามีลูกแล้วมันได้ขนาดไหน มันได้แค่ไหน อันนี้มันเยอะไปไหม มันเกินงามไหม เขาจะค่อนข้างหัวโบราณ"
นานา : "บ้านนี้ใส่อะไรก็ใส่ นานาว่าเขาแค่สนใจตัวเขา เขาคงเหนื่อยแล้วแหละ เขาเลยไม่ได้กวาดสายตามาดูว่าวันนี้เสื้อเมียเป็นยังไง ที่ทุกคนเห็นว่าเขาใส่เสื้อเยอะๆ อย่างนั้น บางวันมันไม่ได้ชุดเดียวนะ บางวันเช้าไปออฟฟิศ เซ็นเอกสาร เที่ยงต้องเข้าสตูดิโอ การเข้าสตูของเขา ถึงแม้อยู่ใกล้บ้านมากใส่ขาสั้นอะไรก็ได้ ไม่ได้คือมันต้องมา มันต้องเต็มองค์ องค์ต้องลง เปลี่ยนอีกชุด พอกลางคืนมาปุ๊บเขาก็ถอดอีกชุดนึงไปดินเนอร์กับเมีย อย่างน้อย 3 ชุดคือเป็นเรื่องปกติ แล้วสังเกตไม่มีใครได้เห็นชุดนอน เพราะเขาไม่โอเคเลยที่จะให้เขาอยู่ในลุคที่สบายมากไม่ได้ถ่ายโพสต์ก็สั่งลบทันที แต่ไม่ค่อยหลุดหรอก เพราะรู้ว่าเขาไม่ชอบ อย่างน้อยที่สุดเวย์ต้องมีถุงเท้า ยกเว้นเล่นกีฬา คือเข้าใจ คือเขาเป๊ะมาก จนเราต้องทันมาดูแลตัวเอง ในกระเป๋าเขาจะมีไหมขัดฟัน ลิปมัน ทุกอย่างของเขาต้องสะอาดหมด เขาดูแลตัวเองมากๆ สะอาดมาก จนเรารู้สึกฉันอาบน้ำ 5 นาทีเอง"
เอ๋ : "ปกติเอ๋เป็นคนแข็งๆ สำหรับเขา เอ๋ไม่ใช่ผู้หญิงออดอ้อน เอาใจอะไรอย่างนี้ แล้วเอ๋จะไม่รายงานเขาด้วยว่าวันนี้เอ๋ทำอะไร อยู่ที่ไหน จนเขาแบบไม่โทรมาด้วย หายไปนานมากแล้ว เขาก็บอกอยู่ไหน เอ๋บอกอยู่กับเพื่อน เขาบอกอย่าบอกเพื่อนนะ เปิดกล้องเดี๋ยวนี้ ให้เห็นเพื่อนแค่นี้"
แล้วเวลาเอ๋อยู่บ้าน เขาไปถ่ายละคร พักจากถ่ายเขาโทรมาอย่างนี้เหรอ?
เอ๋ : "เขาดูกล้องวงจรปิดจ้า ออกไปไหนเขารู้หมดเลยนะ"
นานา : "อิจฉาเนอะ"
เอ๋ : "แต่มันดูน่ากลัวเหมือนกันนะ ดูกล้องวงจรปิดแบบเอ๋นั่งแหกสบายๆ นางถ่ายรูปมาให้ดูด้วย"
ที่เพื่อนๆ เขาแซวว่าคู่คุณไม่เคยขาด นี่เรื่องจริงเหรอ?
นานา : "ก็เขาบอกไม่บกพร่องอะไรเลย"
เอ๋ : "แต่ก็ไม่ได้เช้าถึง เย็นถึงแบบนานานะ"
นานา : "ไม่ใช่ๆ ไม่ขนาดนั้น"
พี่ป๋อเป็นคนคลั่งรักขนาดนี้ มุมผู้หญิงเราต้องปรับตัวยังไง ให้ทุกอย่างไปกันได้ แล้วกลับมาเติมความหวานได้ขนาดนี้?
เอ๋ : "ข้อดีของพี่ป๋อไม่ว่าจะทะเลาะกันขนาดไหนเขาจะหายเร็ว แล้วเขาจะเป็นคนเดินเข้ามาขอโทษเอ๋ทุกครั้ง เขาจะขอโทษ แล้วบอกว่าพี่จะพยายามไม่ทำแบบนี้แล้ว พี่ขอโทษจริงๆ แล้วก็กอดทุกครั้ง ไม่ว่าทะเลาะขนาดไหน ไม่คุยกัน 3-4 วัน สุดท้ายแล้วเขาจะเป็นคนยอม แต่เอ๋จะเป็นคนแข็ง เอ๋เลยรู้สึกว่าในเมื่อเขาลดทิฐิของเขาลงมาแล้ว เราก็ต้องลดทิฐิของเราลงมาด้วย เพราะว่าการอยู่ด้วยกัน มันเจอกันอยู่แค่นี้ ไม่รู้จะทิฐิไปเพื่ออะไร แต่บางทีเรามีความไม่เข้าใจในตัวเขาเยอะเหมือนกัน บางทีเราก็ต้องตัดมันออกไป"
ของคุณเวย์ล่ะ?
นานา : "ถ้าสมมติทุกคนเห็น เวลาลงไอจีเขาจะรักเมียมาก ก็ขอให้เข้าใจว่านั่นคือเพิ่งทะเลาะกัน อาจจะเป็นสูตรของเขาแหละ คือไม่รู้เหมือนกัน แต่ก็มีลงที่ไม่ทะเลาะกันด้วย แต่ส่วนมาก ก็เหมือนกันเขาคงมีอีโก้ เขาจะเขียนอะไรที่แบบว้าวทุกคนอิจฉานานาจังเลย ถ้าเขียนยาวหน่อยก็เรื่องใหญ่นิดนึง ถ้าเขียนสั้นเรื่องจุกจิก"
นานา : "ส่วนนึงเขาอยากจะทำอยู่แล้ว เขาพูดตั้งแต่แรกแล้วว่าเขาจะสักรูป ถ้ารูปนานากับเขาเหมือนช่วงเวลานั้นของเราในการเป็นสามี ภรรยา เป็นช่วงที่หนักมากที่เราผ่านกันมา ทั้งเรื่องงาน เรื่องอุปสรรค มันเยอะมาก แล้วเราผ่านมาได้ เป็นรูปที่เรากอดกัน วันนั้นมันมีความหมายมาก ทุกครั้งที่เรายืนมองรูปนั้น มีกรอบรูปนี้อยู่ในบ้านด้วย เขาก็เลยเลือกว่าเดี๋ยววันนึงเขาจะสักรูปนี้ เขาพูดแล้วเขาก็ทิ้งไปเลย ฉันไม่รู้เรื่องเลยว่าไปสัก ยังจะไปว่าเขาอีกว่าแก่แล้วยังจะสักอีก คือรอยสักเต็มไปหมดแล้ว ก็คือรูปนั้น ก็เข้าใจ ส่วนรูปลูกเนี่ยเขารู้สึกว่าตอนเด็กๆ มันน่ารักเนอะ อยากจะเก็บโมเมนต์นี้ไว้ เขาก็เลยไปสักรูปเด็กๆ"
พี่ป๋อเกือบมีกิ๊ก จริงเหรอ?
เอ๋ : "จริงเหรอ มีตอนไหน ไม่มี"
ช่วงที่เราอ้วนๆ ?
เอ๋ : "อ่อไม่ใช่ว่ามีกิ๊ก แต่เป็นความไม่มั่นใจในตัวเรา เราก็เลยคิดไปเอง เขาบอกว่าเขารักเรา เขาไม่ได้พูดสิ่งที่เราเป็นอยู่ แต่เราคิดไปเองว่าหรือเขาไปมีคนอื่น เขาถึงรู้สึกว่าไม่ขาด อะไรอย่างนี้"
https://www.facebook.com/teeneedotcom