รุ่นใหญ่ออกโรงเคลียร์ข่าว ใช้เส้นดันลูก2คนเป็นพระเอกช่องดัง?
เอกชัย : อันนี้เขาคิดกันเอง
อันนี้ใครออกแบบชุด เหมือนซุปเปอร์แมนเลยใช่มั้ย?
แน็คกี้ : จริงๆ แล้วการออกแบบนี่มัน.. คือผมดูตั้งแต่เด็กๆ แต่คือสมัยเด็กๆ เราไม่คิดว่าซุปเปอร์ฮีโร่ที่เรารักจะมาทำในงานที่เราชอบ พอเราทำเสร็จก็ใส่ไปให้พ่อดู
เอกชัย : ตอนแรกเรากังวลเรื่องลิขสิทธิ์ แต่เมื่อมาดูดีเทลจริงๆ แล้วเราไม่ได้ไปก็อปปี้ เราแค่เอาเงาและเอากลิ่นเฉยๆ
นีโน่ : คือพ่อจะเป็นคนที่ละเอียดมากทุกเรื่อง เวที การแสดง การรำ แกบังคับให้ฝึกรำตั้งแต่เช้าจนมึด ต้องรำให้ได้ทุกรำ ผ้าห้ามเบี้ยว แล้วเวลาพ่อมาดูลิเกเราก็จะทำอะไรกันไม่ถูกเลย เพราะเสียงจะมาก่อนตัวเสมอ พอเราไปอยู่หน้าเวทีแกก็จะไปอยู่ข้างๆ เวทีคอยบอก
ตัดสินใจยังไงรับเด็กสองคนนี้เป็นลูกบุญธรรม
เอกชัย : คือหลายคนไม่รู้ว่าผมเข้ากรุงเทพฯ ครั้งแรกได้ใส่สูทพ่อของเขา พ่อทั้งสองคนเป็นเพื่อนรักกับผม ผมเข้ามารองเท้าก็ไม่มีอะไรก็ไม่มี แล้วเขามีรถขับสร้อยเพชรคือเป็นพระเอกดังแล้วพ่อเขาคอยสนับสนุน หมายถึงพอเขาได้เงินเขาก็จะพาเราไปเลี้ยง วันที่พ่อแม่เขาไปจีบกันเราก็อยู่ตรงนั้น คือพ่อแม่เขาคบกันแล้วก็เลิก แล้วก็กลับมามีอะไรกันอีก ส่วน 2 คนนี้คือพ่อคนเดียวกันแม่คนเดียวกัน แต่พี่น้องเลยจริงๆ ทั่วโลกมี 9 คน
เอกชัย : ตอนที่เรามาดูแลแม่เขา พ่อเขาไปอยู่ต่างประเทศแล้ว หลังจากพี่มีชื่อเสียงดังขึ้นมาก็กลับไปอยู่ใต้ และขาดการติดต่อกับพ่อเขาไปเลย สองคนนี้แม่เขาก็พาไปฝึกลิเก
นีโน่ : สมัยเด็กๆ พ่อกับแม่จะพูดเสมอว่านี่คือเพื่อนรักพ่อ เราก็ไม่เชื่อเพราะเคยเห็นพ่ออยู่แต่ในทีวี คือเขาก็จะพูดอยู่เสมอ แต่เราก็จะเห็นในกระเป๋าตังค์พ่อที่มีรูปพ่อกับพ่อเอกอยู่ตลอด แล้วเขาก็จะบอกเราว่านี่คือเพื่อนของเขา เราก็ไม่เคยเชื่อ จนมาถึงวันที่เราได้มาเป็นลูกพ่อวันแรก
เอกชัย : คือทั้งสองคนออกจากคณะที่เขาไปเล่นร่วมอยู่ แล้วก็ไม่รู้ไปทางไหนก็มาหา "จิ้ม ชวนชื่น" ซึ่งเขาทำรายการลิเก แล้วเป็นวันสุดท้ายที่จิ้มเขาทำรายการ จิ้มเลยบอกทำไมไม่ไปหาเอก เขาทำวงดนตรี อุปกรณ์เขามี แล้วชอบเรื่องวัฒนธรรม เขาเลยบอกว่ากลัวไม่รู้จักเพราะไม่ได้คุยกันนานแล้ว อยากจะเก็บเพื่อนเอาไว้ในความทรงจำดีๆ กลัวไปทักแล้วเขาไม่รู้จักเขาจะรู้สึกไม่ดี แล้วจิ้มเขาก็โทรหาเรา เราก็รับสายกัน 20 กว่าปีไม่เคยเจอกันเลย รับสายเราก็จำได้ ร้องไห้แล้ววันรุ่งขึ้นเขาก็พาลูกมาฝาก ลูกคนที่มีพระคุณกับเรา แล้วกินนอนมาด้วยกันเราก็เลยรับสองคนนี้เป็นลูก และดูแลกันมาถึงทุกวันนี้
เอกชัย : คือการเป็นพระเอกลิเก การเป็นดารา เรารู้สึกอยากให้คนจับต้องได้ อยากให้ทุกคนมีสิทธิ์ในสองคนนี้ ผมพูดบนเวทีเลยนะ ‘ห้ามมีเมีย'
ห้ามมีแฟนหรือห้ามมีเมีย?
เอกชัย : ห้ามมีแฟนตอนนี้ เมียก็ห้ามใครจะมาเป็นเจ้าของไม่ได้
แล้วห้ามมีแฟนมีเมีย แต่ได้ยินมาว่าพ่ออยากได้ลูก?
เอกชัย : อันนั้นมันเป็นกฎก็จะตั้งคณะ พอตั้งคณะแล้วถ้ามีคนมาเห็นมีแฟนมานั่งพัดให้ใครจะอยากเป็นเจ้าของหล่ะ พอพี่อายุ 60 ละก็เรียกมาคุยบอก ‘แน็คมึงมีลูกให้กูหน่อยได้มั้ยกูอยากได้หลาย' ก็นั่นคือส่งสัญญานให้ลูก ว่าอยากมีหลาน แต่ก็ไม่อยากให้มีเมียนะ แต่ถ้าเข้ากับเราได้ก็โอเค ให้เขาเลือกของเขาเอง
จะช็อกมั้ยถ้าวันนี่บอกว่าลูกทั้งสองคนพาผู้หญิงมา?
เอกชัย : เป็นไปไม่ได้ ไม่มีทาง เปิดมาเลย รู้ เพราะว่าสองคนนี่ปัจจุบันทำแต่งานอย่างเดียว เขาขอซื้อรถเราไม่ให้ซื้อก็ใช้รถคันเดียวกันไปกันเป็นครอบครัว พี่ น้อง พ่อ แม่ เราก็บอกว่าซื้อที่ดินปลูกบ้านก่อนลูก เคยบอกให้ลูกไปดูในอินเตอร์เน็ตที่อุ้มบุญได้
เอกชัย : คิดว่าเป็นไปไม่ได้ แต่แน็คเขาก็จะพูดเสมอว่าเขาไม่ได้กลัวพ่อแต่เขากลัวเราเสียใจ และถ้าอะไรที่เราเสียใจเขาก็จะไม่ทำ
แต่ถ้าได้หลายมาดีใจมั้ย ?
เอกชัย : อันนี้อยากได้
สมมตเลยนะคนที่จะอยู่เคียงข้างลูกเราได้ คิดว่าเป็นคนแบบไหน?
เอกชัย : อย่างแรกต้องใจกว้าง แล้วถ้าคุณมีหน้าที่บริหารจัดการคณะลิเกคุณก็ต้องเก่ง ใจกว้างนักเลง สองไม่มีองค์ความรู้ตรงนี้ก็อยู่บ้านเลี้ยงลูก ถ้าทำได้ก็ให้เขาเป็นหูเป็นตา ไม่ใช่ได้เมียมาแล้ววงแตก ต้องมาบริหารการจัดการได้ แต่ตอนนี้ต้องบอกก่อนเลยว่าแม่ๆ จ๋ายังไม่มีนะ อันนี้พูดถึงเรื่องอนาคต
ชอบผู้หญิงสเปคยังไง?
นีโน่ : ชอบคนเก่งครับ คนสวย ขาว
แน็คกี้ : ส่วนผมจะชอบคนสวย อึ๋ม หมวย อันนี้คือสเปคนะครับ แต่จริงๆ คนที่จะเข้ามาอยู่ในชีวิตเรา เราอาจเลือกสเปคไม่ได้ครับ ผมแค่อยากจะเลือกคนที่อยู่กับเรา พ่อเรา ครอบครัวเราได้
เอกชัย : ตอนนี้รับสมัครเจ้าภาพทั่วประเทศ ลิเกเล่นได้แล้วนะครับ คุณพ่อคุณแม่จ๋า เราจะไปทำสัญญาถึงที่เลย ขอแค่โทรเข้ามาหาเรา
https://www.facebook.com/teeneedotcom