น้ำฝน+สเตฟานไม่หวานเหมือนใคร แต่สุขล้นเต็มหัวใจ

เป็นคู่รักในวงการบันเทิงที่ไม่ได้โชว์หวือหวาเหมือนคู่รักดาราคู่อื่นๆ แต่ความรักของนางเอก “น้ำฝน-กุณณัฏฐ์ กุลปรียาวัฒน์” กับ “สเตฟาน-สันติ วีระบุญชัย” ก็ไปได้ด้วยดี

นอกจากจะรักกันหวานหยดยังควงคู่กันมาเมคมันนี่ทำธุรกิจหนังสือ ‘สุขภาพดี’ ที่กำลังวางแผงอยู่ทั่วประเทศในขณะนี้ ‘อินฟราเรดซูม’ ขอตามกระแสทำหวานด้วยการจับคู่รักคู่นี้ มานั่งพูดคุย นอกจากเรื่องธุรกิจแล้ว ยังมาเปิดใจถึงความรักในครั้งนี้ ไม่มีบทสรุปว่า ต่อไปข้างหน้าความรักของทั้งคู่จะเป็นอย่างไร รู้แค่เพียงว่า ณ ตอนนี้ ทั้ง ‘น้ำฝน’ และ ‘สเตฟาน’ แฮปปี้กับความรักเป็นอย่างดี

ถามถึงธุรกิจนิตยสาร ‘สุขภาพดี’ มีที่มาที่ไปยังไง ?

น้ำฝน : “สิ่งแรกที่อยากทำธุรกิจ คือ อยากมั่นคง อยากหาอะไรทำที่เหมาะกับตัวเอง แล้วก็น่าจะเป็นประสบการณ์ที่ดี เลยตัดสินใจมาทำหนังสือดีกว่า เพราะว่า ทำรายการคู่แข่งก็เยอะอยู่ ที่เป็นดาราก็เยอะ ที่มีพาวเวอร์มากกว่าเราก็เยอะ ไปไหนมีแต่ดาราทำรายการ ดาราทำละคร ประสบการณ์ของเราก็ยังไม่ถึงอะไรตรงนั้น ยังไม่ถึงขั้นเป็นผู้จัด ผู้ผลิตรายการ ที่เรามาทำหนังสือ เพราะเรารู้จักคนที่เขาพอจะช่วยเหลือ ให้คำแนะนำ ให้คำปรึกษากับเราได้ โดยที่ไม่ต้องไปนั่งเริ่มต้น ไม่ต้องไปนั่งหาใหม่”

เป็นความสมัครใจของทั้งสองคน ?

น้ำฝน : “ใช่ค่ะ”

สเตฟาน : “นี่คือครั้งแรกที่ทำด้วยกันครับ”

เป็นแฟนกัน ทำธุรกิจด้วยกัน จะทะเลาะหรือ ผิดใจกัน ?

น้ำฝน : “ไม่เป็นแฟนกันก็ทะเลาะ เป็นเพื่อนกันก็ทะเลาะกันได้ โกงกันได้ ทุกอย่างเกิดขึ้นได้”

สเตฟาน : “พี่น้องยังได้เลย”

น้ำฝน : “ฝน ว่ามันไม่เกี่ยว จะใช้คำว่าทะเลาะกันไม่ได้ บางทีอาจจะมีความคิดเห็นไม่ตรงกัน เราต้องเอามาแชร์กัน มันเป็นเรื่องปกติของการทำงาน ถ้าจะไม่ให้ทะเลาะกันเลย ก็ต้องมีความคิดอยู่คนเดียว อีกคนก็เป็นฝ่ายตาม แต่นั่นมันก็จะไม่ได้สิ่งใหม่ๆ จะไม่พัฒนาขึ้น เราทำหนังสือให้หลายๆ คนอ่าน ไม่ได้ทำให้คนเดียวอ่าน ถ้าเราทำให้หลายคนอ่าน เราก็ต้องคิดกันหลายๆ คน แม้กระทั่งทีมงานที่อยู่ข้างล่าง เราก็จะฟังเขานะ”

สเตฟาน : “ผมว่าดีนะครับ เราจะได้มาชั่งดู ถ้าเราทำคนเดียว ไม่ฟังคนอื่น มันก็จะอยู่แค่ความรู้ของเรา”

พูดถึงหนังสือเล่มนี้แล้วดูมีความสุข ?

น้ำฝน : “ฝน เคยทำธุรกิจมาเยอะ เวลที่เราคาดหวังกับมันมากๆ มันเจ็บ พอมันไม่ได้ก็เจ็บ ทำไมมันเป็นอย่างนั้น ทำไมไม่เป็นอย่างนี้ แต่พอทำแล่มนี้ กับ ฟาน ไม่รู้หรอกว่า จะออกหัวหรือก้อย มานั่งคุยกันว่า คิดซะว่าซื้อประสบการณ์ ถ้าวันนึงมันไม่ประสบผลสำเร็จก็ปล่อย แต่ไม่อยากคาดหวังมาก ทำๆไปก่อน สนุกๆๆทำไปๆๆ ถ้าวันนึงดีมันก็จะดีเอง”

สเตฟาน : “มันเหมือนเกม แล้วผมก็จะไม่ยอมแพ้ ผมเชื่อว่า มันดี ผมเชื่อว่ามันให้อะไรกับคนจริงๆ หนังสือสุขภาพเราก็จะทำทุกอย่างให้มันดีกับสุขภาพ ทุกอย่างตั้งใจที่จะทำให้คนสุขภาพดีจริงๆ”

พูดถึงความรักบ้าง ยังเป็นคู่ที่คนจับตามอง ?

น้ำฝน : “ฝน ว่าเขาเลิกมองแล้วนะคะ เพราะว่า ตอนนี้ดาราเป็นคู่กันเยอะมาก”

สเตฟาน : “แต่ตอนที่เราคบกันใหม่ๆ ไม่ค่อยมีคู่เลยนะ ไม่เยอะแบบนี้ เดี๋ยวนี้เขาเปิดเผยดีนะ (หันไปถาม ฝน) แต่ก่อนคนก็รู้นะว่า เป็นแฟนกัน แต่ที่ไม่ยอมเปิดเผย เพราะไม่รู้ว่า เราจะคบกันนานขนาดไหน”

เปิดเผยแบบนี้ก็ดี ?

สเตฟาน : “สบายใจครับ ไม่ต้องลับๆ ล่อๆ เวลาไปเที่ยวด้วยกัน”

เวลาที่ ฟาน มีข่าวต่างๆ ในทางลบ บั่นทอนความรู้สึกที่มีต่อกันมั้ย ?

น้ำฝน : “ในบรรดาที่มีข่าวทั้งหมด เหมือน ฝน รู้อยู่แล้วว่า มันไม่ใช่ อย่างเที่ยวอาบอบนวดเนี่ย ฟาน ไม่เที่ยว ไม่ชอบเที่ยวแบบนั้น”
สเตฟาน : “ไม่มีเวลา ไม่รู้จะไปตอนไหน”

น้ำฝน : “เขาไม่ได้เป็นแนวเที่ยวอย่างนั้น แต่ถ้าเป็นแนวไปจีบเด็กใหม่ อันนั้นโอเค หรือข่าวไปเฝ้าแพนเค้ก จะเอาเวลาที่ไหน อย่างที่มีข่าวออก ฟาน ถามว่า ม.เกษตร อยู่ไหน ฝน ต้องอธิบายทางให้ฟังว่า อยู่ตรงนี้ๆ จากนั้นก็มีนักข่าวมาถามเรา เขาไม่ได้เป็นคนรู้ทางที่ต้องไปนั่งรอใคร ใช้คำว่าเกาะรั้ว แล้วเราก็รู้ว่า รั้วกับตึกมันไกลกันมาก ถ้าเป็นโรงเรียนพาณิชย์ยังโอเค อย่างไปเดินกับผู้หญิงที่ห้าง ถ้าเขาฉลาดพอ ควรจะเลือกแถวบางบัวทอง (หัวเราะ)”

สเตฟาน : “ฝน ไปเปลี่ยนยางรถ เปลี่ยนที่พระราม 4 ยังดันไปเจอแฟนเพื่อน แล้วดูด้วยว่า มากับผู้หญิงคนอื่นหรือเปล่า ถ้าคนนั้นพากิ๊กมาด้วยนะ ซวยเลย (หัวเราะ)”

น้ำฝน : “อย่าง ฟาน เวลาไปเดินห้าง เพื่อนเราก็คอยสอดส่องให้ เฮ้ย ฝน วันนี้ ฟาน ไปไหน จะคอยเช็คให้ พอมีปาปาราซซี่ก็ดีอย่างนึง มันได้อย่างเสียอย่าง”

ทุกวันนี้ไว้ใจกันในระดับนึง ?

น้ำฝน : “ใช่ค่ะ น่าจะเป็น ฟาน ที่ล่อแหลมมีคนอื่นเข้ามา เราก็เชื่อในสิ่งที่เห็นค่ะ ที่ไม่เห็นเดี๋ยวค่อยไปสืบ (หัวเราะ)”

ตั้งแต่วันแรกที่รู้จักกัน จนถึงวันนี้ เสมอต้นเสมอปลายดีมั้ย ?

สเตฟาน : “ส่วนมากเขาจะเสมอ ผมจะไม่ค่อยเสมอเท่าไหร่”

น้ำฝน : “ไม่จริงๆ ค่ะ พอๆ กันแหละ จะถามว่า มันดีเหมือนตอนคบกันตอนแรก จุดเปลี่ยนของความไม่ดี มันไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น มันแค่รู้สึกว่า ทุกคนต่างมีความเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น”

สเตฟาน : “คบกันเดือนแรก ไม่มีใครเป็นตัวของตัวเองหรอก”

น้ำฝน : “มันเป็นปกติของทุกคู่แหละ ถามถึง ณ วันนี้ก็ไม่ได้แย่ ไม่ได้เป็นจุดเปลี่ยนที่เลวร้าย เพียงแต่ว่า เห็นอะไรที่มันชัดขึ้น เขาเห็นนิสัยฝนมากขึ้น ฝนเห็นนิสัยเขามากขึ้น จริงๆแล้วมันก็คือนิสัยของเค้า พอเวลามันผ่านไป ก็เป็นตัวของตัวเอง แม้แต่เราก็ตาม”

สเตฟาน : “โปรโมชั่นหมด (หัวเราะ)”

ในความเป็นตัวของตัวเอง ก็ยังรับกันได้ ?

น้ำฝน : “ถามว่า ทะเลาะกันมั้ย ก็ทะเลาะกันนะคะ ถามว่าพอใจทุกอย่างมั้ย มันก็ไม่ใช่ แต่มันขี้เกียจพูด”

สเตฟาน : “รับได้ครับ มันต้องเจอกัน 50-50 อย่างเวลาเขาโกรธผม แต่เขาไม่บอก ผมรู้ เขาจะนิ่งๆ ดูรู้”

ดูเป็นคู่ที่ไม่ได้หวือหวา ?

น้ำฝน : “ไม่ค่ะ ไม่หวือหวาขนาดนั้น ปกติ ไปกินข้าว ดูหนัง เราไม่มีครบรอบนะ”

สเตฟาน : “มี”

น้ำฝน : “ไม่มี วันเกิดพี่ตุ๊กตาเหรอ วันเกิดพี่ตุ๊กตาก็เฉยๆ ไม่มีอะไร”

สเตฟาน : “คือเป็นวันที่ต้องไปอยู่แล้ว เขาก็เลี้ยงเรา ผมว่า มันเชย อุ้ย ครบรอบ”

น้ำฝน : “มันก็สไตล์ใครสไตล์มัน ถ้าสิ่งเหล่านั้น มันเติมเต็มความรักให้สดชื่นขึ้นก็ดี”

ไม่ได้หวานกันมากมาย?

สเตฟาน : “ไม่หรอกครับ เป็นดารา ความเป็นส่วนตัวมันก็น้อย ออกไปข้างนอก บางวันรู้สึกเหมือนตัวเองทำอะไรผิดๆ เพราะมีแต่คนมอง มองแล้วก็กระซิบๆกัน บางวันก็ชิน บางวันไม่ชิน แล้วแต่วัน”

น้ำฝน : “บางทีเห็นเหมือนเราหน้าเชิ่ด หน้าหยิ่ง แต่จริงๆ มันไม่ใช่ เราต้องทำเหมือนมองไม่เห็น ไม่สนใจ”

สเตฟาน : “คนที่ไม่ได้เป็นดารา จะชอบพูดว่า เป็นคนของประชาชนต้องยิ้มตลอด ลองยิ้มทั้งวันดิ ทำได้ไหม ทะเลาะกับแฟน งอน มีเรื่องที่บ้าน เขาจะยิ้มได้ไหม บางทีเราหงุดหงิด รถติด จะเข้าห้องน้ำ มาขอถ่ายรูป มันยิ้มไม่ได้ เหมือนเราคบกัน เราทำให้มันเป็นธรรมดาๆ ดีกว่า”

มีวิธีดูแลกันยังไงบ้าง ?

สเตฟาน : “ไม่สบายเขาก็พาไปหาหมอ”

น้ำฝน : “ แล้วแต่สถานการณ์ว่า ตอนนั้นต้องดูแลยังไง ผู้ชายก็คือผู้ชายค่ะ ผู้หญิงก็คือผู้หญิง เวลาที่ผู้หญิงป่วย ไม่สบายอยากงอแง ทำไมไม่ดูชั้นเลย เวลาเราเป็น เราพูดแบบนั้นทุกครั้ง ไม่เข้าใจเหมือนกัน ในขณะที่ผู้ชาย ก็คือผู้ชาย เล่นเกม (หัวเราะ) มันเป็นเรื่องธรรมดา เวลาที่เราไม่สบาย เราก็อยากให้เขาดูแล อยากอ้อนบ้าง มันเป็นปกติ”

สเตฟาน : “ผู้หญิงก็ง้องแง้ง ตลอด”

อนาคตมองไกลขนาดไหน ถึงขั้นแต่งงานเลยมั้ย ?

น้ำฝน : “ไม่ค่ะ ไม่ได้คิดขนาดนั้น ไม่รู้ซิ ถามตอนนี้ ไม่ แต่อนาคตไม่รู้นะ”

สเตฟาน : “สำหรับบางคน การแต่งงาน คือ สุดยอดของชีวิต เหมือนนิยาย ผมไม่อยากแฮปปี้เอ็นดิ้งด้วยการแต่งงานกับเจ้าหญิง ผมไม่อยากเป็นเจ้าชายขี่ม้าขาวมารับฝนไปแต่งงานอย่างมีความสุข มีลูก 1-2 คน ส่งลูกไปเรียน ไม่เอา ไม่ใช่ชีวิตของผม”

น้ำฝน : “มันเป็นอะไรที่ตายตัวเกินไป ที่ผู้หญิงพออายุ 30 ต้องแต่งงาน 32 ต้องมีลูก 30 ไม่ได้แต่งงานจะขึ้นคาน แต่ผู้ชายถึง 30 ไม่แต่งงานไม่เป็นไร หรือ ผู้ชายไปเที่ยวผู้หญิง เป็นนักล่า ไม่ผิด ใครเป็นคนคิดเรื่องนี้ ฝน ไม่เชื่อเรื่องนี้ ค่านิยมของคนแต่ละสมัยมันเปลี่ยนไป แล้วใครมานั่งคิดว่า 30 เราต้องแต่งงาน ปล่อยไปค่ะ ถ้าสมมุติอยากแต่งก็แต่ง”

สเตฟาน : “ไม่ได้พูดว่า จะไม่แต่งนะ ถ้าเกิดตอนนั้นอยากแต่งก็แต่ง สำหรับผม ไม่ได้เป็นจุดหมายสูงสุดของชีวิต”

มีอะไรอยากจะให้ปรับกันอีก ?

น้ำฝน : “ปรับตลอด จริงๆ ชีวิตคนเรามันต้องปรับไปเรื่อยๆ แต่ละช่วงของชีวิต วันนึงฝนอายุ 35 ฝน อาจจะมีชีวิตอีกแบบ ฟาน ก็ต้องปรับตัวเข้าหาฝน ในอีก 5 ปีข้างหน้า ฟาน อาจจะมีความคิดอีกแบบ ฝนก็ต้องปรับตัวเข้าหาเขา ชีวิตคนเรามันจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ไม่ได้เป็นแบบนี้ไปจนตาย แต่ละคนมันจะมีมุมมองที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ค่ะ”

สเตฟาน : “ที่จริงไม่อยากให้ปรับอะไร แค่อย่าทำหน้าบึ้งตอนโกรธ ผมเป็นคนเครียด ตอนคนหน้าบึ้ง คนหน้าบึ้งแล้วผมจะเครียด รู้สึกว่า โลกจะระเบิด แค่นั้นแหละครับ นอกนั้นเขาเพอร์เฟคแล้ว” 

      ปากก็บอกว่า ไม่ใช่คู่หวาน แต่ก็แอบหยอดกันไปมา เล่นเอาคนอ่านหน้าแดงเป็นลูกตำลึง