ปุยเมฆ นภสร โอดระบบรับแพทย์ในข้าราชการ ไม่เป็นธรรม!

ความคิดเห็นที่ 1 [อ้างอิง]

ก็คุณเรียนแพทย์ ม.รังสิต เองอ่ะคุณก็รู้ว่ามันเป็นเอกชนจะโทษใครล่ะ_อยากบรรจุทำไมไม่สอบแพทย์ มหิดล_จุฬา_ฯลฯ ล่ะฮ่ะโวยวายให้ใครฟังน้ออออ แสดงว่าหัวไม่ถึงเองจะโทษใคร

ความคิดเห็นที่ 4 [อ้างอิง]

อ่อ_ลืมไป อาชีพครูถ้าอยากบรรจุเป็นข้าราชการตั้งแต่แรก(ตั้งแต่ตอนเรียน)ก็ต้องสอบเข้าโครงการของเค้าที่รับจำนวนจำกัดเช่นกัน แข่งกันทั่วประเทศเช่นกัน หรือโครงการการพิเศษช้างเผือกของแต่ละมหาวิทยาลัยที่เปิดนะครับ ที่รับจำนวนจำกัดแต่ละรุ่นแต่ละมหาวิทยาลัยที่เปิดสอบไม่กี่สาขาวิชา//ห้องละไม่กี่สิบคนเท่านั้น ไม่เห็นเด็กราชภัฏโวยวายเลยว่าจบวิทยาลัยครูมีใบ กว. แต่ไม่ได้บรรจุ

ความคิดเห็นที่ 6 [อ้างอิง]

กฎก็ต้องเป็นกฎนะค่ะ ก่อนจะเรียนควรนึกถึงด้วยอย่าเรียนแล้วมาบ่น หมอม.รัฐน่าจะเรียนลำบากกว่าเอกชนมากมายนะเราว่า

ความคิดเห็นที่ 7 [อ้างอิง]

อธิบายความเห็นที่3 นะครับ ผมไม่ใช่หมอพานิชย์ แต่ทำงานในรพ.รัฐบาล และไม่เคยรับงานรพ.เอกชน และปัจจุบันไม่ได้รับราชการ ทำงานเท่าข้าราชการคนนึง แต่ที่ออกมาแสดงความคิดเห็นเพราะเห็นความเห็นที่ออกมาเหยียดแพทย์ที่จบเอกชน อย่าหลงประเด็นอ่านให้ดีก่อนครับ ว่าผมต้องการสื่ออะไร เอาแต่ได้อะไรครับ แสดงทัศนะดีดีนะครับ ผมก็ไม่ได้ราชการครับ หมอเอกชนก็เรียนหนักนะครับ train ในรพ.รัฐ คนไข้ก็เยอะเหมือนกันหมดนะครับ และไม่ได้มีทัศนะคติเหยียดอาชีพอื่นเลย คุณ คห.3 เดือดร้อนอะไรหรือครับ

ความคิดเห็นที่ 8 [อ้างอิง]

แล้วผมเหยียดหมอเอกชนตรงไหนครับ อย่าเบี่ยงประเด็นครับผมแค่บอกว่าเค้าเรียนมาทางเอกชนแล้วอยากเป็นราชการก็ต้องสอบให้ได้เองในเส้นทางของราชการถ้าสอบไม่ได้ก็คือหัวยังไม่พร้อม_หัวคุณยังไม่ถึงที่จะรับราชการในด้านนี้นะครับตามเกณฑ์ (ซึ่งมันก็มีเยอะที่ยังสอบไม่ผ่านมันเป็นเรื่องปกติ) แล้วจะเรียกร้องอะไรถ้าอยากเรียกร้องคุณก็ต้องรอเค้าแก้กฏหมายรับหมอบรรจุเพิ่ม ขึ้น แล้วคุณเข้ามาพูดอะไรบ่งบอกทัศนคติของผมมันเป็นการดูถูกทัศนคติผู้อื่นนะครับช่วยกลับไปดูคำพูดคุณตั้งแต่แรกดีๆก่อนด้วยนะว่าคำพูดคุณมันเป็นคำพูดที่เหน็บแนมผู้อื่นแบบผู้ดีจอมปลอม(แต่ขอโทษนะเด็กป.6 ยังรู้ความหมายเลย)และที่ผมบอกว่าเอาแต่ได้อ่ะนะผมหมายถึงคนบางคนสอบไม่ได้เองแต่คุณเรียกร้องอยากบรรจุราชการหรืออยากให้เค้าเปิดตำแหน่งเพิ่มจะได้มีโอกาสมากขึ้น ซึ่งคุณก็ต้องรอไม่ใช่จะเอาทันทีทันใด แบบนี้ไม่เรียกเอาแต่ได้ให้เรียกว่าอะไรครับ

ความคิดเห็นที่ 9 [อ้างอิง]

การที่คนที่ไม่ได้เข้าใจเกณฑ์ต่างๆในการสอบ NL แล้วแสดงความเห็นเหมือนผู้รู้ อีกทั้งยังบอกว่า ถ้าไม่ได้บรรจุราชการ ก็หัวไม่ถึงคือคุณเรียนสายนี้หรือเปล่า แล้วการแสดงความเห็นว่า หมอรัฐน่าจะเรียนหนักกว่าหมอเอกชนมากมาย คุณได้เคยเรียนเองหรือยัง ถ้ายัง กรุณาพิจารณาคำพูด กรั่นกรองความคิด ถ้าคุณได้ลองเรียนเองแล้ว ค่อยมาว่ากัน ถ้าไม่รู่จริงก็อย่าพูดออกมาเลยดีกว่า และในแวดวงของนักศึกษาแพทย์ทั้งมหาลัยรัฐและเอกชน ก็เรียกร้องกฎใหม่อันนี้กันทั้งนั้น ไม่ใช่มีแค่เอกชนที่ออกมาเรียกร้อง อ่านข่าวอย่าอ่านแหล่งเดียว

ความคิดเห็นที่ 10 [อ้างอิง]

จากที่คุณ ‘หมอกรุงเก่า’ ได้บอกว่า การที่สอบใบประกอบโรคศิลป์ หรือที่เด็กแพทย์เรียกกันว่า NL ว่าถ้าสอบผ่านก็คือแพทย์เท่าเทียมกัน แล้วมีท่านนึงมาบอกว่า ทัศนคติ เอาแต่ได้ ต้องบอกก่อนว่า ถ้าศึกษามา หรืออยู่ในวงการนี้ ก็จะรู้ว่าแต่ก่อน แพทยสภาเป็นคนบอกเองว่า การสอบ NL เป็นเพียงวัดว่าผ่านไม่ผ่าน อย่าได้เอาคะแนนมาเปรียบเทียบความเก่ง แต่พอมาตอนนี้กลับมาออกกฎเอาคะแนนส่งนนั้นมาคัดเลือก แล้วมันจะยุติธรรมกับนักศึกษาแพทย์ปีสูงๆได้อย่างไร เพราะการสอบ ต้องสอบสามครั้ง ตอนชั้น ปี3 ,ปี5 และปี6 และแน่นอนการสอบ NL นักศึกษาแพทย์มหาลัยรัฐบางคนก็ยังสอบไม่ผ่าน การที่เพิ่งออกกฎใหม่มาแบบนี้ทำให้นักศึกษาแพทย์ปีสูงๆที่เคยสอบมาแล้ว ก็ไม่ทันจะได้เก็บคะแนน เหมือนสะสมคะแนนเผื่อเอาไว้แข่งในการได้บรรจุตามกฎใหม่นี้เลย จึงอยากจะบอกว่า ถ้าไม่รู้จริงก็อย่าพูดเลย

ความคิดเห็นที่ 12 [อ้างอิง]

ขอขอบคุณสำหรับข้อมูล