เจนนี่-ยิว ควงคู่เคลียร์ทุกดราม่า ถูกทักทันทีท้อง-ไม่ท้อง?

เจนนี่ : มีเวลาพักผ่อนมากขึ้น แล้วก็เพิ่งไปทำศัลยกรรมมา ค่ะ ก็เลยทำให้ดูดีขึ้นสักนิดนึง

ในข่าวบอกว่าท้อง ตกลงเรื่องจริงท้องหรือไม่ท้อง?

เจนนี่ : ล่าสุดยังไม่ท้องนะคะ แต่ว่าต่อไปก็ต้องรอดูกันอีกที เพราะจริงๆ ก็รออยู่เหมือนกัน กลัวว่าวันนี้บอกไม่ท้อง แล้วท้องขึ้นมา เดี๋ยวจะเป็นเรื่องได้ จริงๆ คือรออยู่ เพราะว่าคุณแม่อยากให้มี อันนี้พูดตรงๆ เลยเพราะว่าเราก็อยากมีด้วย

คือเราไม่ซีเรียส?

เจนนี่ : ไม่ค่ะ ถ้าท้องก็เอาเลย อยากมีลูกค่ะ ถ้าวันนี้ตรวจแล้วท้อง ก็คือบอกเลย เป็นคนเก็บความลับไม่อยู่

แล้วที่คนมาว่ามีน้ำมีนวลเหมือนคนท้องสรุปแล้วก็คือ?

เจนนี่ : บวมน้ำเกลือค่ะ แล้วคุณหมอบอกห้ามออกกำลังกาย 3 เดือนซึ่งตอนนี้ก็เพิ่งครบ 3 เดือน ได้ 2 วัน แล้วอีกอย่างช่วงนี้นอนหลับพักผ่อนเยอะขึ้น ไม่มีคอนเสิร์ตก็เลยทำให้ดูอ้วนขึ้น

เพิ่งอายุ 26 แล้วอยากมีลูก มันจะไม่เร็วเกินไปเหรอ?

เจนนี่ : จริงๆ หนูอยากมีลูกก่อนอายุ 30 อยากมี 2-3 คน แล้วหนูก็คุยกับคุณแม่มาโดยตลอด แล้วคุณแม่เราร่างกายก็แก่ลงทุกวัน เราก็อยากมีอะไรซักอย่างที่เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจให้กับคุณแม่ ให้คุณแม่อยากมีชีวิตต่อ และใช้ชีวิตอย่างสนุกสนาน ก็เลยวางแผนไว้ว่าอยากมีลูก

เราไม่ได้ซีเรียสกับเรื่องแต่งงานเหรอ?

เจนนี่ : ไม่ได้ซีเรียสค่ะ หนูมองว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติ สมมุติว่าถ้าวันนึงท้องจริงๆ อาจจะต้องมานั่งคิดอีกที ว่าจะแต่งกันเลย หรือว่ารอให้ลูกโตก่อน คืออยู่ที่สถานการณ์ด้วยค่ะ เพราะว่าถ้าแต่งงานกันช่วงนี้ มันโควิดด้วย มันก็อยู่ที่เราเลือกอนาคตมากกว่าค่ะ

ยิว : 22 ปีครับ ผมว่าเรื่องอายุมันไม่น่าจะเกี่ยวครับ เพราะว่ามันแล้วแต่บุคคลมากกว่า ถ้าเรา 2 คนพร้อม ก็คือพร้อมครับ

เจอกันที่กองถ่ายเอ็มวี ใครเป็นฝ่ายจีบใครก่อน?

เจนนี่ : ในเอ็มวีคือยังไม่ได้จีบกัน ตอนนั้นมาทำงานด้วยกันเฉยๆ แต่ว่าพอไปสักพักนึง เรามีปัญหาส่วนตัว เราก็เลยเลือกเขาเป็นที่ปรึกษา ปรึกษาไปปรึกษามา เราก็รู้สึกว่าสบายใจ รู้สึกดีขึ้น ชอบก็เลยเป็นแฟนกัน

ก่อนหน้านี้เห็นบอกว่ามักปรึกษาแม่กับลิลลี่?

เจนนี่ : คือบางเรื่อง เราไม่สามารถคุยกับแม่กับลิลลี่ได้ เราไม่อยากให้เขาเครียด เพราะลิลลี่ก็ทั้งเรียนและทำงาน คุณแม่ร่างกายก็ไม่ค่อยจะดีอยู่แล้ว หนูก็เลยรู้สึกว่าต้องมีที่ปรึกษา อย่างวันที่ถ่ายเอ็มวีเราก็สนิทกันพอสมควร ในแบบมิตรภาพที่ดีต่อกัน เราก็เลือกทักไปหาเขา เขาบอกให้เรานิ่ง เราทำตามที่เขาบอกทุกอย่าง มันก็ดีขึ้นเรื่อยๆ เราก็เลยเลือกที่จะบอก จะปรึกษาเขาเรื่อยๆ มันเลยทำให้ความสัมพันธ์ของเรามันเร็วขึ้น

เป็นเพราะเขาหล่อด้วยหรือเปล่า?

เจนนี่ : ก็มีส่วนค่ะ

ยิวประทับใจอะไรในตัวเจนนี่?

ยิว : เขาเป็นคนดังคนแรกที่ผมได้คุยด้วย และเขาไม่ถือตัวเลย เขาเป็นกันเอง ทำให้ผมไม่ตื่นเต้น แต่พอเขาเริ่มมาปรึกษา เราก็รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้น่าสงสาร เขาเล่าให้ฟังว่า เขาตั้งตัวมายังไง ตอนเด็กๆเป็นยังไง เราก็รู้สึกว่าอยากดูแลผู้หญิงคนนี้จัง พอได้คุยกันเรื่อยๆ เราก็รู้สึกว่าเราดูแลผู้หญิงคนนี้ได้

เจนนี่แอบกลัวรักครั้งนี้หรือไม่?

เจนนี่ : ไม่ค่อยกลัวค่ะ หนูรู้สึกว่าถ้ามันใช่ก็ใช่ ถ้ามันไม่ใช่ก็ค่อยว่ากัน มีความสุขทุกวันมันก็โอเคแล้ว คือเอาจริงๆโควิดมันก็เยอะ เราก็ไม่รู้ว่าจะจากกันวันไหน เราควรที่จะสร้างความสุขให้กันและกัน ให้ครอบครัวมีความสุข ทั้งสองฝั่งก็โอเคแล้ว

ยิว : ถ้าเราทำตัวดีอยู่แล้ว เขาก็คงไม่มีเหตุผลที่ต้องไปหาคนอื่น ผมก็บอกเขาตลอดว่า ถ้าผมไม่ดีพอก็หาคนอื่นได้เลย

ยิว : ผมเอง คือเรื่องของเรามันไม่ได้ซับซ้อนขนาดนั้น มันเรียบง่ายกว่านั้นมาก เหมือนเราคุยกัน เราก็สนิทกันเห็นใจซึ่งกันและกัน เราก็เลยคุยกันว่า เราพัฒนาความสัมพันธ์ของเราไปอีกขั้นดีไหม ผมจะได้ดูแลเขา
เจนนี่ : ครั้งหนึ่งที่เขาชวนไปกินข้าว ถ้าเราไม่ได้บอกใครว่าเราเป็นอะไรกัน แล้วถ้ามีภาพหลุดออกมามันก็จะเสียหายทีหลังได้ และรู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่ไม่ผิดด้วย กับการที่เราจะบอกใคร เราก็เลยตัดสินใจบอกให้ชัดเจนไปเลย แล้วยิวเขาก็ขอเราเป็นแฟน เราก็เลยตั้งสถานะบนเฟซบุ๊ก

หลายคนมองว่าเรามูฟออนเร็ว?

เจนนี่ : อย่างที่บอก หนูเป็นคนชอบความชัดเจน ก็ไม่อยากปิดบังอะไรแฟนคลับ การเปลี่ยนแฟนก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าอาย แต่มันจะน่าอายมากกว่า ถ้าเกิดเราแอบคบกัน แล้วไม่บอกความจริง เราก็เลยตัดสินใจ ถ้าเราคบกัน เราก็บอกทุกคน เรื่องมูฟออนเร็ว ถ้าเกิดมันใช่ มันมีความสุข เราก็ไม่อยากปล่อยเขาไป

รอบข้างว่ายังไงบ้าง?

เจนนี่ : ครอบครัวโอเคแฮปปี้ แต่ถ้าเป็นในส่วนของแฟนคลับ เขาก็จะมีแอนตี้บ้าง รับไม่ได้บ้าง เราก็มานั่งคุยกันว่า เราต้องทำใจนะ ก็ให้เวลาเขาหน่อย ยังไงเรา 2 คน ก็ค่อยพิสูจน์กันไป ว่าทำไมเราถึงต้องรักกัน

แล้วเรื่องคบซ้อนล่ะ?

เจนนี่ : อันนี้ไม่ใช่แน่นอนค่ะ เพราะว่าหนูไม่ใช่คนเจ้าชู้ ตอนนี้คบกันมา 4 เดือนแล้วกำลังจะเข้าเดือนที่ 5

คบกัน 5 เดือนแล้วบอกอยากมีลูก เอาความมั่นใจมาจากไหน?

เจนนี่ : ตอนที่เขาบอกขอเป็นแฟน หนูก็คุยกับเขาเลย ว่าหนูเป็นคนอยากมีลูกนะ จะรับได้ไหมถ้าเราอยากมีลูก ถ้าเกิดคบกันเกิน 3 เดือนแล้วโอเค ขอปล่อยตามธรรมชาติเลยได้ไหม เพราะว่าอยากมี คือถ้าใช่ก็ใช่ ถ้าไม่ใช่ก็ค่อยว่ากัน แต่ในใจคือเราอยากมีลูก

คบเจนนี่โดนกระแสอะไรบ้าง?

ยิว : ก็โดนหาว่าคบซ้อนหรือเปล่า หรือว่ามาเกาะกระแสเจนนี่หรือเปล่า ผมว่ายากนะครับ เพราะเขาเป็นคนฉลาด เรื่องดราม่าผมไม่อยากใส่ใจมาก เพราะคนที่เขาพูด เขาไม่รู้จักเราจริงๆ

เจนนี่ : เมื่อก่อนเราเป็นผู้นำ เราแข็งแรง ต้องต่อสู้ต้องปกป้อง แต่พอมีเขาเข้ามา เรารู้สึกว่าเรากลายเป็นเด็กผู้หญิงคนนึง ได้เป็นเด็กผู้หญิงที่ต้องการใครสักคนมาดูแล ปกติอยู่ต่อหน้าแม่หรือต่อหน้าลิลลี่ เราต้องเป็นหัวหน้าครอบครัว เราต้องดูแล 2 คนนี้ เราต้องดูแลลูกน้องอีกมากมาย แต่พอมีเขาเข้ามา เราไม่เคยเป็นแบบนี้ เราไม่เคยได้ยินคำว่าเหนื่อยไหมให้เขาทำให้ไหม

เจนนี่ : โปรโมชั่นมีทุกคู่อยู่แล้ว แต่หนูบอกอนาคตไม่ได้ ต่อให้ยิวเขาสาบาน สัญญาเราก็บอกไม่ได้ อย่างที่บอกทุกคน ต่อให้อนาคตจะเป็นยังไง หนูรับได้หมด ต่อให้เขาเหลวไหล นอกใจต้องเลี้ยงลูกคนเดียวเราก็รับได้ ขอให้ทุกวันนี้มีความสุขก็พอ

เจอคุณแม่ทั้ง 2 ฝ่ายมาแล้ว?

เจนนี่ : ก็เซอร์ไพรส์นิดนึงค่ะ เพราะไม่รู้ว่าบ้านเขาทำธุรกิจร้านอาหาร ครั้งแรกเขาชวนไปกินข้าวที่ร้านเขาก็ไม่บอกเรา เขาก็ไปแนะนำว่านี่แม่เรานี่พ่อเรา ก็ดีใจ ไม่ดีใจที่เขามีฐานะ แต่มันจะสามารถลบคำสบประมาทบางคำได้ ที่บอกว่ายิวมาเกาะเรา ไม่มีหน้าที่การงาน ครั้งแรกแม่บอกว่าเป็นเอฟซีเรา ตัวจริงน่าเอ็นดู ตอนแรกเราก็กลัวๆ

ยิว : เจอแม่กับลิลลี่แรกๆ ก็ตื่นเต้นเพราะเขาดังกันทั้งบ้าน เจอแม่เกดครั้งแรกรู้เลยว่าเจนนี่ได้ความใจดีมาจากใคร แม่เกดใจดีมาก

แม่เกด : คนนี้ผ่านค่า แม่เจอครั้งแรกก็รู้สึกชอบชอบเขาเหมือนลูก เขาชอบอ้อน
ลิลลี่ : ตอนแรกก็รู้สึกหวง แต่เราก็ตามใจพี่ กลัวเขาดูแลพี่เจนไม่ดี

วางแผนแต่งงานแล้วเหรอ?

แม่เกด : คิดไว้แล้วค่ะ ฤกษ์ดูไว้หลายเดือนแล้วค่ะ

เจนนี่ : วางไว้ 3 ครั้งแล้วค่ะ ครั้งแรกคือเดือนสิงหาคม อย่างที่บอกถ้าแต่งก่อนแล้วมีน้องจะได้ไม่เสียหายเยอะแต่ว่าตอนนั้นสิงหาคมโควิดหนักมาก ก็เลยเลื่อนมาเรื่อยๆ ก็วางไว้ปีหน้าแต่ยังไม่ชัดเจน

ยิว : พร้อมครับ ที่บ้านผมให้เรียนรู้ด้วยตัวเอง ให้ลูกตัดสินใจด้วยตัวเองถ้าลูกโอเค

วางแผนยังไงบ้าง?

เจนนี่ : ที่มีข่าวบอกว่าเราท้อง เราบอกว่าเราอ้วนแต่เอาตรงๆนะ เดือนนี้ประจำเดือนหนูยังไม่มา ซึ่งเรายังไม่ได้ตรวจ หนูก็เลยไปบอกแม่ แม่ก็เลยบอกว่าถ้าใช่ก็เดี๋ยวจัดงานแต่งงาน แต่ถ้าไม่ใช่ก็ทำงานกันต่อ ซึ่งตอนนี้เราก็ยังไม่กล้าตอบต้องรอผลตรวจออกมาชัดเจน ถ้าท้องเราบอกแน่นอน พอคนทักมากๆเราก็แอบคิด จริงๆสัปดาห์นี้ ประจำเดือนต้องมา แต่พอมันไม่มา เลยปรึกษาแม่ แต่ว่าเรายังไม่ตรวจ คิดว่าเราต้องออกรายการให้เสร็จเรียบร้อยก่อน ไม่งั้นเดี๋ยวเจอดราม่าใหม่ เราจะไม่ทันตั้งตัว แต่ถ้าใช่ขึ้นมาเราบอกแน่นอน

อาจารย์เป็นหนึ่ง : ฤกษ์แต่งขอให้ก่อนเดือน 6 ปีหน้า จะเป็นฤกษ์ที่ดี เพราะปีเกิด ปีหมูกับปีเถาะ ของทั้งคู่เติมเต็มเร็วมาก

กระแสแอนตี้เป็นไงบ้าง?

เจนนี่ : ก็ลดลงค่ะ วันแรกเปิดตัว คอมเมนต์เป็น 100,000 ด่า 8-9 หมื่น เราก็เสียใจนะเสียใจที่ทำให้ครอบครัวเขาไม่สบายใจ ตอนนี้เราก็พิสูจน์กันไปเรื่อยๆ ตอนนี้กระแสก็ดีขึ้น

วันเกิดเจนนี่ให้อะไร?

ยิว : ให้เค้กแล้วก็เงินครับ เป็นเงินก้อนแรกที่ผมทำงานในวงการบันเทิง

เจนนี่ : ดีใจค่ะ ทุกวันนี้เงิน ที่ได้จากการทำงานเขาจะเอาไว้ที่หนูหมดเลย ดีใจค่ะที่รักเขาใส่ใจเรา อยากให้เรา ทั้งที่เราไม่ต้องการ

ยิว : เขาน่ารักมาก รีดชุดทำงานให้ใส่ ชาร์จแบตโทรศัพท์มือถือให้ ทำอาหารให้ เตรียมทุกอย่างให้ผมเรียบร้อย

เจนนี่ : เรารู้สึกว่าเราได้มาก่อน ถ้าเราไม่ให้กลับไปวันนึงเขาอาจจะไปก็ได้ ถ้าซื้อของใหญ่ให้ของพวกนี้ให้เมื่อไหร่ก็ได้

ประเด็นบูลลี่ที่โดนเปรียบเทียบกับลิซ่า BLACKPINK?

เจนนี่ : จริงๆหนูไม่ได้ร้องไห้มานานแล้ว เพราะก็ผ่านอะไรมาเยอะ แต่วันนั้นเป็นวันที่เราเหนื่อยจากการทำงานมาก แล้วมาเจอคลิปน้องคนนึง อัดคลิปว่าเราเป็นสัมภเวสี เป็นไส้เดือนดิน แล้วเราหลงไปอ่านคอมเมนต์ประมาณ 10 นาที โดยที่เราไม่ได้บอกใคร ซึ่งจริงๆเราไม่ค่อยได้อ่านคอมเมนต์แล้ว แต่วันนั้นมันลงไป แล้วน้ำตามันก็ไหลเรื่อยๆ คิดในใจว่าเราไปทำอะไรให้เขา ทำไมเขาต้องอะไรกับเราขนาดนี้ คือมันเป็นอารมณ์ชั่ววูบที่เรารู้สึกไม่ไหว

คำพูดไหนแรงที่สุด?

เจนนี่ : สำเหนียกตัวเองหน่อยนะ มึงมันแค่สัมภเวสีไม่มีทางระดับเขาหรอก ไม่โกรธแต่เสียใจ เราก็อยู่ในพื้นที่ของเรา เราก็พยายามทำตัวเองให้ดีขึ้น ไม่มีใครกล้าเอาตัวเองไปเทียบกับน้องลิซ่าหรอก เราก็รู้ตัวว่าเราอยู่ในระดับไหน เราทำงานตรงไหนเพลงเรามันก็แค่เพลงใต้ ของเขาระดับโลก ซึ่งมันเทียบกันไม่ได้

พอเรารู้ปั๊บ เราโกรธด้วยไหม?

ยิว : โกรธมากครับพี่ แต่เราก็พยายามใจเย็นและอธิบายให้เขาฟังว่าเดี๋ยวนี้ใครๆ ก็มีโทรศัพท์ ใครๆ ก็สามารถอัดคลิปพูดได้ พูดเรื่องอะไรก็ได้ เราอย่าไปเก็บมาใส่ใจเลย มาโฟกัสงานของเราดีกว่า

เจนนี่ : เราก็เก็บโทรศัพท์เลย แล้วก็พาไปกินหมูกระทะ

เจนนี่ : เรื่องตัดหน้าม้า หนูตัดหน้ามาตั้งแต่เข้าวงการใหม่ๆ เขาหาว่าเราไปตัดตามน้อง แล้วก็มีอยู่รูปหนึ่งเป็นรูปที่หนูถ่ายแบบไว้เมื่อปีที่แล้ว เขาบอกว่าน้องลิซ่าตัดชุดเลียนแบบหนู ซึ่งหนูมองว่าคนที่โพสต์น่าจะเป็นคนปั่น เพราะเขารู้อยู่แล้วว่า ถ้าเขาโพสต์แบบนี้ แฟนคลับของน้องต้องโกรธหนูต้องเกลียดหนู ตั้งใจโพสต์ให้คนทัวร์ลงหนู

การโดนใส่ร้ายอะไรเราถึงไม่ยอม?

เจนนี่ : บางทีเรื่องบางเรื่อง ถ้ามันไม่ถึงเรา เราก็ปล่อยผ่านได้ เพราะเราเคยต่อสู้แล้ว มันไม่ได้ผลดีเลย เราก็เลยเลือกที่จะนิ่งเงียบ แต่เรื่องที่นิ่งไม่ได้ คือมีคนมาใส่ร้ายว่าแม่หนูเป็นมะเร็งทิพย์ ซึ่งเรื่องนี้เรารับไม่ได้ คือคุณแม่เราป่วยจริง มีการรักษา แต่คุณเอาไปโพสต์ แล้วก็มีคนเข้ามาด่าว่ามันตอแหลทั้งแม่ทั้งลูก อย่างเราไปเล่นคอนเสิร์ตที่จังหวัดกาญจนบุรี มีภาพยืนยันว่ามีคนดูคอนเสิร์ตเรา 5,000 อัพ แต่เขาไปโพสต์ว่ามีคนดูแค่ 5 คน เจ้าภาพเห็นก็เลยทักมาบอกว่าทำไมคอนเสิร์ตไม่มีคน จะขอแคนเซิลงาน ซึ่งจริงๆแล้วมันไม่ใช่ เขาใส่ร้ายเราเพื่อให้เราโดนยกเลิกงาน เราก็ต้องมีฟ้องร้องบ้างเพื่อให้เป็นกรณีตัวอย่าง

เราได้มีการฟ้องไปเรียบร้อยแล้ว?

เจนนี่ : ใช่ ถ้าคอมเมนต์เบาๆ ด่าไม่สวยพอรับได้ อันนี้เราโอเค

รับเป็นเงินอย่างเดียวไม่รับคำขอโทษ?

เจนนี่ : ก็มีรับเป็นเงินสดและขอโทษ 15 วันในโซเชียล