ฟ้าหลังฝน มดยิ้มร่า ผ่านวิกฤติ

เป็นสาวน้อยที่อยู่ในกระแสตลอดเวลาเลยก็ว่าได้ สำหรับ “มด-คุณัชญา ชัยรัตน์”

เจ้าของอัลบั้ม ‘Four-Mod In Wonderland’ กระแสข่าวที่ออกมาส่วนใหญ่จะเป็นข่าวในด้านลบ ทำให้เจ้าตัวต้องออกมาแก้ข่าวให้สัมภาษณ์อยู่หลายครั้งหลายครา ถึงขนาดปล่อยร้องไห้โฮ เพราะความอัดอั้นตันใจกับสื่อฯ มาแล้ว ครั้งนี้ก็เป็นอีกโอกาสดีๆ ที่เราจะได้พูดคุยกับ ‘มด’ แบบส่วนตัว เพื่อให้เธอได้มีโอกาสบอกเล่าเรื่องราวที่ผ่านมาเกี่ยวกับตัวเธอ เผื่อว่า หลายๆ คนที่มองเธอในทางที่ผิดไป จะลองหันกลับมามองสาวน้อยวัยใสคนนี้อีกครั้ง

เสียงตอบรับอัลบั้มชุดนี้ ?

“ดีมากค่ะ คนเจอก็จะบอก ละลายๆ โอเคค่ะ ด้วยความที่มันเป็น โฟร์-มด มันต้องสดใส น่ารัก ถ้าฟังเพลงช้าจะเห็นว่า ดูโตขึ้นด้วย วิธีการร้อง และ มุมมองความรักจะดูโตขึ้น”

กดดันบ้างมั้ย ในการทำงานแต่ละอัลบั้ม ?

“มันกดดันตอนทำงานค่ะ เพราะทุกชุดที่ผ่านมาติดหูหมดเลย เราจะทำยังไงให้ติดเหมือนเดิม แต่ดูโตขึ้น มันกดดัน เราทำออกมาเยอะมาก แล้วต้องคัดให้เหลือ 5 เพลงเท่านั้น ร้องก็หลายรอบหลายครั้ง ไม่ผ่าน ผู้ใหญ่ไม่ชอบ ดูเรียบร้อยเกินไป ชุดนี้ดูแก่เกินไป ไม่ลงตัวซักที ถ่ายปกไปก็หลายรอบ ผมเปลี่ยนหลายรอบ เดี๋ยวผมตรง ผมฟู ผมหยิก จนมาลงตัวแบบนี้”

ชุดนี้มีส่วนร่วมอะไรบ้าง ?

“ช่วยเลือกเพลง คุยกับโปรดิวเซอร์ว่า ต้องการคอนเซปต์อะไร ยังไง คุยกับผู้ใหญ่ว่า เราชอบแนวนี้”

มาเรื่องข่าวบ้าง จากที่ปล่อยโฮวันนั้น ?

“มันก็มีทั้ง 2 ด้าน ด้านนึงคนจะบอกว่า ดูรักแม่ อีกด้านนึงขโมยซีน ไม่เข้าใจเลยว่า ทำไมคนเราไม่มองกันในแง่บวกบ้าง ลูกอยากแสดงความกตัญญูให้แม่เห็น ยังมีคนคิดร้ายอีกเหรอ เข้าใจว่า มีคนรักก็ต้องมีคนเกลียด ทำไมคนเราไม่คิดในแง่บวกกันมั่ง ตอนนี้ชินแล้วค่ะ ปล่อยวางแล้ว”

“คนจะมองเราในแง่ลบยังไง ก็ต้องเป็นแง่ลบอยู่ดี เราไปเปลี่ยนทัศนคติเขาไม่ได้หรอก ต้องยอมรับตรงนี้ให้ได้เท่านั้นเอง ตอนนั้นความรู้สึกของ มด ยังรู้สึกผิดต่อแม่อยู่ ยังรู้สึกแย่อยู่ แล้วพอโดนถามแบบนั้น มันก็เลยออกมาโดยที่ไม่รู้ตัว มดเชื่อว่า ใครที่เป็นแบบมด ก็ต้องเป็นแบบนี้ทุกคนแหละ”

ตอนนี้ความสัมพันธ์กับแม่เป็นยังไงบ้าง ?

“โอเคค่ะ ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะ มีอะไรก็คุยกันเลย”

แม่เริ่มปล่อยมากขึ้นมั้ย ?

“ไม่ปล่อยนะ เพียงแต่ว่า เวลาจะทำอะไร มดจะตัดสินใจเอง ตัดสินใจแล้วถามแม่ เห็นด้วยมั้ย ถ้าแม่เห็นด้วยก็โอเค แต่ถามว่าปล่อยมั้ย ไม่ปล่อยหรอก มด 17 เอง ใครจะปล่อย ดูอย่างหลายคน 20 กว่า โตขนาดไหน แม่ ยังไม่ปล่อยเลย ด้วยความที่เป็นลูกคนเดียว เป็นผู้หญิง แม่เลยจะห่วง เราเข้าใจนะว่า เขาเป็นห่วง ไม่อยากให้ไปไหนตามลำพัง กลัวโน่นกลัวนี่”

ข่าวเกาเหลากับ ‘โฟร์’ ยังมีตลอดเวลา ?

“ชินแล้ว เริ่มกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว ไม่รู้สึกอะไรแล้ว เราก็คุยกัน พี่โฟร์ ก็บอกทำอะไรกันล่ะ ไม่เห็นมีอะไรเลย พอมีข่าวเรื่อยๆๆๆ ก็ช่างมันเถอะ เราจะออกมาพูดยังไงก็มีข่าวนี้ออกมาอยู่ดี ไม่พูดดีกว่า”

เคยมีข่าวเกาเหลากัน ถึงขั้นต้องไปเคลียร์กันหลังเวที ?

“มันไม่มีเรื่องอะไรเลยจริงๆ คนที่มาจากต่างครอบครัว ต่างนิสัย มาเจอกัน มันต้องมีอะไรที่ปรับเข้าหากันบ้าง แต่ตอนนี้เข้าใจแล้วว่า ใครต้องการอะไร ยังไง ตอนนี้มองตาก็รู้แล้วว่า คิดอะไรกันอยู่”

โตขึ้น มีแต่ข่าวแย่ๆ ตามมา ?

“ เพราะตอนนั้นยังเด็กอยู่ ยังไม่โต เลยไม่มีอะไรแบบนี้ แต่เราก็ไม่อะไรแล้ว อยู่อย่างนี้ของเรา ไม่อยากไปคิดมาก พอคิดมากแล้วไม่เป็นอันทำงาน”

ตั้งแต่ไปทำจมูกมา คนทักเยอะหรือเปล่า ?

“โหงวเฮ้งดีมาก งานเยอะมาก คิดว่า คิดถูกที่เราไปเสริมโหงวเฮ้งมา แรกๆ มันบวมไง คนอื่นก็จะบอกทำไมมันบวมแบบนี้ ก็บอกมันต้องใช้เวลา แต่ตอนนี้มันโอเคนะ”

ช่วงที่ทำจมูกมาใหม่ๆ ทำไมไม่ยอมรับว่า ไปทำศัลยกรรม ?

“อายค่ะ ไม่กล้าพูด อาย ถึงเราจะเป็นคนตรงๆ ก็เถอะ แต่เราก็พูดไม่ถูก แล้วตอนนั้นก็ผ่าฟันคุดอยู่ ซึ่งหนูผ่ามาจริงๆ ค่ะ”

ข่าว (คาว) เรื่องผู้ชายเยอะมาก ?

“เป็นผู้หญิงก็ต้องมีข่าวกับผู้ชาย จะให้มีข่าวกับใคร”

แต่เปรียบเทียบกับ ‘โฟร์’ ดูเหมือน ‘มด’ จะโดนเยอะกว่า ?

“มด เด็กกว่าไง คนก็เพ่งเล็ง”

เครียดมั้ย ทำอะไรก็ถูกจับตามองตลอดเวลา ?

“หายแล้ว พอหายแล้วเริ่มปลง ตอนนี้ได้แต่ทำใจ ทำอะไรได้ เราเข้ามาในวงการ รู้แล้วว่า เข้ามาแล้วต้องเจออะไร”

แฟนคลับว่ายังไง ?

“เขาก็จะเข้าไปในเว็บ ให้กำลังใจ เขาเข้าใจเรา เพราะรู้ว่า ตัวตนที่แท้จริงของ มด เป็นยังไง ไม่จำเป็นที่ต้องพูดมากหรอก ยิ่งพูดมากเหมือนยิ่งแก้ตัว หนูเชื่อว่า แฟนคลับทุกคนมีวิจารณญาณมากพอที่จะแบ่งแยกระหว่างดีกับไม่ดี บางอย่างที่ไม่ดีเขาคงไม่ทำตามหรอก”

สบายใจขึ้นเกี่ยวกับข่าวต่างๆ ?

“มองโลกในแง่ดี มากกว่า”

มีช่วงท้อมั้ย ?

“ช่วงที่ทะเลาะกับแม่นี่แหละ ท้อจนอยากจะกลับไปเรียหนังสือ มีความรู้สึกว่า อยากใช้ชีวิตเหมือนเดิม เรียนหนังสือ อยู่กับเพื่อนๆ สนุกกว่าเยอะ”

คิดจะออกจากวงการ ?

“ใช่ แต่มาคิดอีกที จะมีเด็กอายุ 17 กี่คนที่เข้าวงการมา ได้ออกอัลบั้มที่คนชอบขนาดนี้ เลยรู้สึกว่า ควรจะคว้าโอกาสไว้ดีกว่า ปล่อยไปแล้วก็คว้ากลับมาไม่ได้แล้ว ไม่รู้มันจะมาอีกเมื่อไหร่”

เคยมีงอแงถึงขั้นขอแม่ว่า วันนี้ไม่ไหวแล้ว อยากหยุดงาน มีบ้างมั้ย ?

“ไม่ถึงขั้นหยุดงานค่ะ เพราะว่า มด รู้ตัวเองว่า ถ้าไม่ไหว อยู่ที่กองก็แอบหลับได้ บางทีเราไปร้องเพลง เราอยู่ในรถตู้ก็หลับได้ มดคงไม่ถึงขั้นงอแง เรื่องมาก เหนื่อย ไม่อยากไป ไม่ถึงขนาดนั้น รู้สึกว่า ทำงานให้สนุกดีกว่า ดีกว่าทำงานแบบถูกบังคับ การที่อยู่ในวงการมันมีทั้งข้อดี และ ข้อเสีย ข้อดี คือ เราได้มีโอกาสแบบที่คนอื่นไม่มี ข้อเสีย คือ เราไม่มีเวลาส่วนตัว ซึ่งเวลาส่วนตัวแค่อยู่บ้านกับคุณพ่อ - คุณแม่ โทรหาเพื่อน เจอเพื่อนที่โรงเรียนแค่นั้นก็พอแล้ว ช่วงนี้คงไม่ได้ไปไหนกับเพื่อนหรอก เพื่อนอ่านหนังสือเอ็นทรานซ์กัน”

ผ่านเรื่องร้ายๆมาเยอะมีผลที่ทำให้ต้องเปลี่ยนชื่อ ?

“ก็จริงๆ ค่ะ เพราะตลอดมาหนูเจอแต่เรื่องแย่ๆ การเปลี่ยนชื่อถือว่า เปลี่ยนแปลงชีวิตมดด้วย เรื่องแย่ๆจะได้ออกไป”

เปลี่ยนมาแล้วชีวิตเป็นยังไงบ้าง ?

“ดีค่ะ งานเข้ามาเยอะมาก”

เคยคิดบ้างมั้ย แยกไปทำอัลบั้มเดี่ยว เมื่อ ‘โฟร์-มด’ ถึงจุดอิ่มตัว ?

“มันต้องมีจุดนึงที่ครบร้อยเปอร์เซ็นต์ ทุกอย่างต้องเริ่มจากศูนย์ พอครบร้อยเปอร์เซ็นต์ปุ๊บ เราจะทำยังไงต่อไปล่ะ ต้องอยู่ที่อนาคตว่า เราจะทำอะไรต่อไป ตอนนั้นเราคิดอะไรอยู่ ต้องพิจารณาอย่างหนัก ต้องถามใจตัวเอง แล้วต้องดูองค์ประกอบอื่นๆ อีกมากมาย แต่ถ้าถามมดว่า ถ้าถึงจุดนั้นจะทำอะไร ถ้าถามตอนนี้คงอยากจะเรียน อยากเรียนให้จบ แล้วไปต่อโทที่เมืองนอก นี่คือที่วางแผนเอาไว้ แต่มดไม่รู้ว่า ในอนาคตมันจะเป็นยังไง”

แล้วคิดอยากออกเดี่ยวบ้างมั้ย ?

“ถ้ามีโอกาสก็ดี ถือว่า เป็นโอกาสที่ดี ตอนนี้ยังสรุปอะไรไม่ได้ ณ จุดๆนั้น อาจจะไม่อยากร้องเพลงแล้วก็ได้ อาจจะอยากเรียน หรือ มดอาจจะชอบงานแสดงมากกว่าก็ได้ หรือ อยากเดินแบบ ไม่อยากทำอะไร มดอาจจะออกจากวงการเพื่อเรียนอย่างเดียวก็ได้ ตอนนี้ยังไม่รู้หรอก ต้องให้ถึงตอนนั้นก่อนจริงๆ ถึงจะให้คำตอบได้” 

     ถ้าต้องแยกกันดังเมื่อไหร่ มีหวัง หนุ่มๆ ได้ร้องกันเป็นแถว