สวนกระแสโควิด! จากนักร้องดัง พลิกบทบาทสู่เจ้าของธุรกิจ 100 ล้าน
หน้าแรกTeeNee บันเทิงดารา ข่าวดารา, ข่าวบันเทิง ดาราไทย สวนกระแสโควิด! จากนักร้องดัง พลิกบทบาทสู่เจ้าของธุรกิจ 100 ล้าน
นักร้องลูกทุ่งแสนสวย หลิว อาจารียา ที่นอกจากจะมีใจรักในเสียงเพลงแล้ว เธอยังมุ่งมั่นที่จะทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จอีกด้วย เมื่อได้มาเยือนรายการ ต้มยำอมรินทร์ ผลิตโดย CHANGE2561 เจ้าตัวได้เปิดใจว่าสำหรับการทำธุรกิจหลายๆอย่างที่ตัวเองได้ทำมาทำให้ตัวเองได้เรียนรู้ และ สอนบทเรียนตัวเองให้รู้จักข้อผิดพลาดไว้เยอะมากเพราะกว่าที่ตัวเองจะประสบความเร็จในวันนี้ หลายธุรกิจที่ผ่านมาก็เจ๊งไม่เป็นท่า แต่สำหรับธุรกิจอาหารเสริมที่กำลังทำอยู่นี้ หลิว ได้ลงไปดูและเรียนรู้เอง 100 เปอร์เซ็นต์ พร้อมเผยปีนี้ตั้งเป้าไว้ทะลุ 100 ล้านเลยทีเดียว
หลิว อาจารียา : จริงก่อนหน้านั้น หลิว เองก็มองหาธุรกิจอยู่แล้วแต่ว่ารอบนี้เราเข้าไปศึกษาแล้วก็จริงจังมากขึ้น มีการทำธุรกิจขึ้นมาเป็นอาหารเสริมออนไลน์ชนิดหนึ่งขึ้นมาซึ่งเป็นสิ่งที่เราคิดมาตั้งแต่ก่อนโควิดอยู่แล้วค่ะ แต่มันมาเสร็จสมบูรณ์ออกมาช่วงโควิดพอดี สำหรับอาหารเสริมตัวนี้เพราะเราคิดจากปัญหาของตัวเองเพราะเราเป็นคนที่ขับถ่ายค่อนข้างยากเราเลยทำตัวนี้ขึ้นมา แล้วเราก็ใช้ตัวเองเป็นตัวทดลองธุรกิจของเราไปเลยเพราะมันเริ่มต้นจากตัวของเรา ต้องบอกว่ากว่าที่จะออกมาได้ คือ หลิว ต้องทดลองของหลายรอบมากๆจนกว่าเราจะได้สิ่งที่ดีที่สุด แต่จริงๆแล้วกว่าที่จะมาทำอาหารเสริมตัวนี้ ตัวของ หลิว ทำมาแล้วนับสิบอย่างเลยค่ะ
ทำมาแล้วนับสิบอย่างทำอะไรมาบ้าง และทุกอย่างที่ทำประสบความสำเร็จไหม
หลิว อาจารียา : ถ้าเริ่มต้นเลยคือ ทำมินิมาร์ทในปั๊มน้ำมันซึ่งเป็นมินิมาร์ทที่เราทำขึ้นมาเอง เพราะว่าเรารู้จักกับอาจารย์แล้วเขาก็เป็นเจ้าของปั๊มน้ำมันแล้วเขาก็บอกว่าที่ปั๊มน้ำมันมาที่ว่างนะมาทำไมเราก็เลยได้ทำดูกับครอบครัว ซึ่งทำแล้วก็ดีนะคะ แต่เพราะว่าเราไม่ได้ลงไปดูเองเพราะว่าช่วงนั้นงานของเราเยอะมากๆด้วยก็มีคนดูแทนเรานะคะ แต่เพราะว่าเขาก็มีงานของแต่ละคนก็เลยไม่สามารถไปต่อได้ พอมินิมาร์ทจบไปเราก็ไปเปิดร้านอาหารแถวศรีนครินทร์ เป็นร้านอาหารแล้วก็มีดนตรีสด แล้วคือสำหรับธุรกิจนี้เรามีหุ้นส่วนแล้วเราก็ไม่ค่อยได้ไปดูแล้วพอเราไม่ได้เข้าไปดูด้วยตัวเองบ้างทีมันก็จะมีรอยรั่ว พอจบจากร้านอาหาร ก็มาต่อที่ครีมทาผิวอย่างที่บอกคือเรามีเงินเราอยากทำแต่เพราะเราไม่มีความรู้แต่อยากทำ ซึ่งพอเราได้ทำคือ ทำให้เรารู้เลยว่ามันไม่ใช่แค่เงินมันต้องมีสมองด้วยนะ พอเราลงเงินไปแล้วเราไม่ได้ศึกษาผลที่ออกมามันก็เลยไม่ได้ผลตอบรับหรือประสบความสำเร็จเหมือนคนอื่น พอจบจากตรงนั้นเราก็ไปเปิดร้านมุกมะล่า ที่ร้านคือจะขายชานมไข่มุกกับหมาล่า ก็เลยเอามาตั้งชื่อว่า มุกมะล่า ร้านนี้เราเปิดให้แม่ ที่ลำพูน แต่แล้วก็เหมือนเดิมเพราะว่าเราไม่ได้มีเวลาไปและด้วยประสบการณ์หลายๆอย่างที่เราทำก็ทำให้เรารู้แล้วว่า หลิว ไม่ใช่แค่จะลงเงินนะ แต่ก็ต้องศึกษาให้ดีด้วย
หลิว อาจารียา : จริงๆเรามีปัญหาในแต่ละธุรกิจที่เราได้ลงไปทำแล้ว คือ หนึ่งเราก็รู้แล้วว่าเราไม่ได้ไปศึกษาเท่าที่ควร สองต้นทุนเราก็ไม่ได้คำนวณ กำไรเราก็ไม่ได้ตั้งเป้าไว้ด้วย แต่ตอนนี้ที่ หลิว ทำคือทำตั้งแต่แรกเริ่มเลยเราหาผลิตภัณฑ์เอง ศึกษารายละเอียดทุกอย่างเองทั้งหมดเลย
กลัวไหมกับการทำธุรกิจเพราะว่าเราก็พลาดไปเยอะมากแล้ว
หลิว อาจารียา : กลัวไหม ก็กลัวนะคะ แต่เราก็มีข้อมูลแล้วว่าสิ่งที่เราจะไม่พลาดต่อไปนี้มันจะทำยังไงไม่ให้พลาดอีก หรือ พลาดน้อยที่สุดเพราะเราก็อยู่บนพื้นฐานข้อมูลที่มันจะไม่พลาดแล้วเพราะว่าถ้าเราลงไปดูรายละเอียดทุกอย่างใส่ใจ ไม่ว่าจะตอบลูกค้าเองคือแรกๆหลิว ทำเองหมดทุกอย่าง วางระบบเองทุกอย่างก็จะทำให้เรารู้ว่าลูกค้าต้องการอะไร
หลิว อาจารียา : ปรับเยอะเหมือนกันนะคะ แต่ หลิว มองว่าทุกงานมันยากหมดแต่ถ้าเราไม่ท้อมีสติเราdแก้ปัญหาไป ซึ่งสำหรับธุรกิจอันนี้ที่ หลิว ทำมาก็น่าจะเกือบปีแล้วค่ะ รวมถึงช่วงที่เราทดลองด้วย ซึ่งเราก็ตั้งเป้าไว้ว่าสิ้นปีนี้จะทำให้ได้ร้อยล้าน คือ ตั้งเป้าไว้ก่อนนะคะ เพื่อเราจะได้หาหนทางเพื่อที่จะทำให้สำเร็จแต่ระยะทางทั้งหมดเราก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพราะ หลิว ตั้งไว้ร้อยล้านมันจะตกลงมาสัก 70 ล้านมันก็ไม่แย่เนอะคะ และสิ่งหนึ่งเรา หลิว อยากเป็นคือเป็นเหมือน แม่บุ๋ม เหมือนพี่อั๋น ช่วยเหลือสังคม
แต่ในช่วงโควิดที่ศลิปินทุกคนไม่สามารถออกไปงานโชว์ตัวได้แต่ก็จัดมินิคอนเสิร์ตเพื่อการกุศล
หลิว อาจารียา : ใช่ค่ะ ทางค่าย มิวสิค ดี เอนเตอร์เทนเมนต์ ได้จัดคอนเสิร์ตออนไลน์ขึ้นมาเพื่อส่งความสุขให้กับทุกคนทางบ้าน เพราะว่าทุกคนต้องเจอกับปัญหาที่เราไม่อยากที่จะเจอกัน ซึ่งคอนเสิร์ตที่จัดขึ้นเป็นการกุศลไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ แต่ว่าเรายังไม่ได้เปิดรับบริจาคนะคะ แต่ในอนาคตอาจจะขึ้นเบอร์ หรือ บัญชีของมูลนิธิต่างๆไว้ด้วยค่ะ
หลิว อาจารียา : ตอนนี้ก็เริ่มๆทำแล้วค่ะ ก็มี COVER เพลงลงไปบ้างแล้วค่ะ ตอนนี้วิวเพลงก็ขึ้นไปเกือบๆสองล้านวิว ตอนนี้ที่เปิดคือ หลิวพาร่อน (หลิวพาเที่ยว) ส่วนในใหญ่คือที่ทำในช่องคือ พาไปเที่ยวเลยค่ะ
นอกจากจะทำทุกสิ่งทุกอย่างแล้วตอนนี้กำลังจะกลายเป็นเจ้าแม่สายมู ที่เชี่ยวชาญการไหว้เทพเจ้า ถือศีลต่างๆทำไมถึงมาสายนี้ได้
หลิว อาจารียา : เอาจริงๆเลยนะคะ เพราะว่าหมอดูทักว่าเรามีองค์เขาทักว่าเรามี พระแม่กาลี พระแม่ลักษมี ตอนแรกเราก็ไม่เชื่อแล้วเพื่อนก็พาเราไปไหว้ พระแม่กาลี ที่พัทยา เราก็รู้สึกขนลุกบางครั้งที่เราสวดมนต์ของพระแม่เราก็น้ำตาไหล ซึ่งเราก็แบบคิดว่าเราเป็นอะไรหรือเปล่า แต่มานึกถึงตรงที่หมอดูทักเราก็เลยคิดว่าเราคงสัมผัสได้
หลิว อาจารียา : เราไม่ได้ศึกษาอะไรลึกมากขนาดนั้นค่ะ แต่ พระแม่กาลี เป็นอีกปรางค์ที่คอยสู้ศึกปกป้องความดีงาม ส่วนเลือดที่เราเห็นติดอยุ่กับปากท่านคือ เพราะว่าท่านฆ่าปีศาจแล้วก็กลืนเลือดเข้าไปไม่งั้นปีศาจก็จะสามารถสร้างอีกตัวขึ้นมาได้ ซึ่งก็เคยมีเหตุการณ์ที่เราได้ไปขอพรไว้ พอได้แล้วเราไม่ไปแก้ ก็มีเหตุการณ์เกิดขึ้นเหมือนท่านมาเตือนเรา คือ อย่างเราเปิดเพลงไว้แล้วอยู่เพลงนั้นกลายเป็นเสียงบทสวดมนต์ของท่านขึ้นมา ส่วนใหญ่ที่เราขอท่านไปก็จะเป็นเรื่องงานเป็นหลักเราก็ขอท่านว่าปีนี้ลูกของเงินจำนวนเท่านี้ก็จะได้ก็จะไปแก้ ไปรำค่ะ ซึ่งที่ไปคือ วิหารพระแม่กาลี ที่พัทยาค่ะ
เห็นว่าใครที่ไปอธิฐานขอพระแม่กาลี คือ จะต้องโสด
หลิว อาจารียา : ไม่จริงค่ะ ก็คนเข้าจีบบ้าง
หลิว อาจารียา : ในเรื่องของเลขเด็ดเราไปเข้าวัดทำบุญถือศีลนั่งสมาธิ หลิว เชื่อว่ามันส่งผลให้เราฝันด้วยฝันว่าได้กลับไปที่บ้านเก่า ที่ลำพูน แล้วเจอยายที่บ้าน พอเราตื่นขึ้นมาเราก็มาถามแม่ว่ายายอายุเท่าไหร่ ฝันแล้วมาตีเป็นเลขเอาค่ะ (หัวเราะ)
แต่เห็นที่ยังสวยสวนทางกับอายุแบบนี้เพราะว่า หลิว ใช้วิธีการอาบน้ำแก้ปีชง
หลิว อาจารียา : ตอนนี้อายุ 35 แล้วค่ะ หมอดูก็ทักเราเขาให้เราอาบน้ำมนต์ ที่วัดป่าพุทธญาณ มีหลวงพ่อแค่องค์เดียวที่นั่น ซึ่งเราก็ไปอาบแก้เคล็ดแล้วน้ำมนต์ที่เราอาบเทียนที่หลวงพ่อหยอดลงน้ำคือ ออกมาเป็นเลขที่ออกไปงวดล่าสุดค่ะ
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
https://www.facebook.com/teeneedotcom