ตรวจกระเป๋า..นางเอกครึ่งปีแรก ใครรวยกว่ากัน

นอกจากกิจกรรมเล็กๆ ที่เจาะกลุ่มเป้าหมายโดยตรง แต่โชคดีที่มีกิจกรรม “บอล ยูโร 2008” เข้ามาสร้างสีสันการตลาดในเดือนมิถุนายนนี้ในช่วงระยะเวลาสั้นถ้าเทียบกับช่วงต้นปีที่ผ่านมาแล้ว ถือว่าครึ่งปีแรกที่ผ่านมา “ดารา-นักร้อง” ต่างก็ตบเท้ารับทรัพย์ก้อนโตโดยเฉพาะนางเอกดังช่อง 3 และช่อง 7 เนื่องจาก “ค่ายสินค้า” เขามีความต้องการที่จะมาสื่อสารแบรนด์เจาะกลุ่มเป้าหมายโดยตรง

สําหรับปีนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า “ดาราทรงพลังการตลาด” มากสุด ที่ค่ายสินค้าอยากได้ตัวมาสื่อสารแบรนด์ผ่านทางหนังโฆษณามากสุดคือ

“แพนเค้ก-เขมนิจ จามิกรณ์” นางเอกช่องเจ็ดสี ปีนี้มีงานโฆษณาไหลทะลักเข้ามาหลายตัว นับตั้งแต่หลอดไฟ, สินค้า ผ้าอนามัย และหมากฝรั่งเดนทีน

ตอนนี้กําลังอยู่ระหว่างเจรจาอยู่ 2 ตัว ซึ่งต้องยอมรับเหตุผลหนึ่ง คนโฆษณาและค่ายสินค้าอยากได้ “แพนเค้ก” เนื่องจากเขามีผลงานละครออกมาไม่ขาดมือและเรทติ้งดี ประกอบกับมีเรือนร่างที่สวยงาม สามารถสื่อเจาะคนรุ่นใหม่เคียงข้างแบรนด์ให้ดูสดใสควบคู่กันไปด้วย

ที่สําคัญเขายังไม่มีผลงานโฆษณามากมาย ที่ค่ายสินค้าใช้จนช้ำช่วงที่ผ่านมา มีเพียงแค่ไม่กี่ตัว ส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าเกี่ยวกับ “ความสวย ความงาม” และสินค้าวัยรุ่นเท่านั้น เชื่อว่าอนาคตน่าจะ “รวยกับงานโฆษณา” อีกระดับหนึ่ง

แต่ที่มาแรงอีกคนหนึ่งปีนี้ คงหนีไม่พ้น “เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ” นางเอกวิกช่อง 3 ที่ปีนี้เข้ามารวดเดียว 3-4 ชิ้น

นับตั้งแต่สินค้าช็อคโกแลต, ผ้าอนามัย และบรีส ล่าสุดได้เครื่องสําอางแบรนด์อินเตอร์มาอีกตัวหนึ่ง ด้วยความที่เธอมีผลงานละครเข้ามาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

“ทุนชื่อเสียง” ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ส่งผลให้เอเยนซีและค่ายสินค้าสนใจมาเลือกเธอร่วมงาน  ที่สําคัญ “เจนี่” ยังเป็นนางเอกดังที่ดูสดใส และมีพลังทางชื่อเสียงที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าเหมายโดยเร็ว ที่สําคัญ “เจนี่” เป็นดาราที่เข้าถึงกลุ่ม “ตลาดแมส”

ปีนี้ “แอฟ-ทักษอร” นางเอกดัง ช่อง 3 จากละครจําเลยรัก ก็กําลังมาแรงอีกคนหนึ่ง มีงานโฆษณาเข้ามาพร้อมกัน 2 ตัว ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา

ชิ้นแรก น้ำส้มแบรนด์ดัง และครีมอาบน้ำ ต้องยอมรับ “แอฟ” มาแรงที่บรรดาค่ายสินค้าอยากได้ ตัวอีกคนในยุคนี้

แต่ “แอฟ” ค่อนข้างเลือกสินค้า เพื่อที่จะให้เข้ากับ “อิมเมจ” ของตนเองทั้งนี้ เนื่องจากปีนี้งานละครและหนัง ที่เธอแสดงอยู่นั้นมีอยู่หลายตัวที่ออกมาสู่สายตาแฟนๆ อย่างต่อเนื่อง

ซึ่ง “แอฟ” ไม่เคยใช้ชื่อเสียงที่ฟุ่ม เฟือย เรื่องฉาวความรัก ไม่ค่อยจะมากระทบต่อชื่อเสียงและแบรนด์ “อิมเมจ” ของเธอ

ที่สําคัญ “แอฟ” ค่อนข้างวางตัวดี และเป็นดาราที่มีฝีมือการแสดงที่ดีคนหนึ่ง ส่งผลให้แฟนละคร-หนัง ค่อนข้างประทับใจในตัวเธอ จึงส่งผลให้ทุนชื่อเสียงมีผลต่อการทําการตลาดสูงพอสมควร

ขณะเดียวกัน ถ้าเทียบกับเจ้าแม่ “พรีเซนเตอร์” อย่างสาว “อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ” ที่คว้ามาหลายชิ้นเมื่อปีที่ผ่านมา

พอมาเจอกระแส “รักเพื่อน” เมื่อปลายปี ส่งผลให้งานโฆษณา “อั้ม” ต้องชะงักไประยะหนึ่ง พอต้นปีที่ผ่านมา เรื่องราวเริ่มเงียบหาย เพิ่งคว้าโฆษณายาสระผม “ซันซิล” มาชิ้นใหญ่คู่กับ “อ้อม-พิยดา อัครเศรณี” นางเอกชื่อดังแต่ตอนนี้มี “โฆษณา”  ชิ้นใหญ่รอจ่อคิวอยู่ สินค้าหลังสุด “มิสทิน” ที่กลับมาเลือกใช้ “อั้ม” เพื่อสร้างพลังการตลาดช่วงนี้อีกรอบหนึ่ง หลังจากที่เคยใช้ “อั้ม” มาออกแคมเปญโฆษณาหลายชิ้น ส่งผลให้ยอดขายกระเตื้องขึ้น

ส่วน “แอน ทองประสม” นางเอกกระชากเรทติ้งช่อง 3 จาก “ละครสวรรค์เบี่ยง” ที่เคยได้โฆษณา “โซฟี” มานาน

ตอนนี้ตัวล่าสุด “นมตราหมี” ชิ้นเดียวที่เพิ่งได้เข้ามาสดๆ ร้อนๆแต่ด้วยความที่ “แอน” อยู่ในวงการมานาน สินค้าบางตัวยังเลือก “ดาราเด็ก” ที่ดูสดใส เพื่อให้เข้ากับบุคลิก แบรนด์ ทั้งที่ “แอน” นางเอกที่มีแฟนละครรู้จักกันระดับ “รากหญ้า” คนหนึ่ง แต่ “แอน” ค่อนข้างเลือกแบรนด์ เพราะด้วยชื่อเสียงและอิมเมจของตัวเอง จะต้องสอดรับกับ “สินค้า” นั้นด้วย

อย่างไรก็ตาม การที่ค่ายสินค้าเลือกดาราดังมาเป็นพรีเซนเตอร์ เขาค่อนข้างที่จะเลือก “ดารา” ที่มีภาพลักษณ์ที่ดี เรือนร่างสวย และมีชื่อเสียงพอ เพราะต้องการสร้างความจดจําแบรนด์ได้อย่างรวดเร็ว อย่าง “พอลล่า เทเลอร์” ที่ยังขายได้ตลอดกาลอย่าลืมว่า ตอนนี้ค่ายสินค้าต่างๆ เขาค่อนข้างที่จะเลือกหนัง จะไม่ค่อยนิยมเลือก “คนที่ไม่มีชื่อเสียง” มาเป็นพรีเซนเตอร์ เพราะเห็นผลทางการตลาดและสร้างความรับรู้ได้อย่างรวดเร็ว

ยิ่งยุคนี้ “ดารา” คืออาวุธตัวหนึ่งทางการตลาดที่ค่ายสินค้าต้องดึงมาสร้าง “พลัง” ในการปลุกกระแสและดึงดูดความสนใจกับผู้ชมให้ได้

อย่าลืม “ดารา” บางคนนั้น มีแฟนคลับและแฟนละคร-หนังรู้จักเขามากมาย จึงง่ายในการทําตลาดเจาะกลุ่มเป้าหมาย♦