ใบเฟิร์น ถามสังคม เรื่องพิมฐา สิ่งที่เพื่อนดาราทำผิดหรือไม่?
หน้าแรกTeeNee บันเทิงดารา ข่าวดารา, ข่าวบันเทิง ดาราไทย ใบเฟิร์น ถามสังคม เรื่องพิมฐา สิ่งที่เพื่อนดาราทำผิดหรือไม่?
นางเอกสาว ใบเฟิร์น อัญชสา ทวิตข้อความถามแฟนๆและชาวเน็ต ถึงประเด็นของ พิมฐา ฐานิดา เน็ตไอดอลชื่อดัง ที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และถูกชาวเน็ตติติงกรณี ไปจากพื้นที่สีแดง อย่าง กทม. กลับบ้านที่ เชียงใหม่-ลำพูน โดยไม่มีการกักตัว ซึ่งใต้โพสต์ของพิมฐานั้นมีเพื่อนๆดารานักแสดงหลายคนเข้าไปคอมเมนต์ให้กำลังใจซึ่งทำให้ถูกชาวเน็ตติงตามไปด้วย
โดย ใบเฟิร์น ขอความเห็นจากชาวเน็ตว่า
อยากแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับทุกคนนะคะ เข้ามาคุยกันค่ะ ... เรื่อง #พิมฐา เราเข้าใจว่าเค้าผิดที่ไม่กักตัว ซึ่งเค้ารับรู้และเค้าต้องรับผลที่ตามมาแหละ แต่คนรู้จักเค้าที่ไปเม้นให้หายไวๆ อันนี้ในความคิดเห็นทุกคนคือผิดจริงๆ หรอคะ (มีต่อนะคะ ใจเย็นๆนะ อ่านให้จบก่อน)
อันนี้ความคิดเห็นเรานะ การให้กำลังใจและกล่าวตักเตือนเป็นคนละบริบทกัน และสามารถทำได้พร้อมกัน ไม่ได้ย้อนแย้งด้วยนะ ถ้าเห็นคนทำอะไรผิดก็กล่าวตักเตือนแต่ก็ให้กำลังใจไปพร้อม เช่น เห็นเพื่อนประมาทเลยเกิดอุบัติเหตุก็เลยให้กำลังใจเพื่อนให้หายไวๆ แต่คราวหลังอย่าประมาทอีกนะ บลาๆ
แต่เราคิดว่าการกล่าวตักเตือนนั้น โดยมารยาทแล้วอาจจะทำในพื้นที่ส่วนตัวมากกว่า เราเลยคิดว่านี่คือเหตุผลที่ทำไมคนรู้จักถึงเลือกที่จะคอมเม้นให้กำลังใจและ(อาจจะ)ตักเตือนกันในพื้นที่ส่วนตัวแทน
อะ จบไป1เรื่อง แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน คือเราอาจจะบ้งก็ได้ ไม่ได้ถูกตลอด แต่ก็อยากเข้าใจทุกคนทุกฝ่ายเลยมาชวนแลกเปลี่ยนกัน ... อ่อ มีอีกประเด็นที่เราไม่เข้าใจเลย คือเรื่องของการลงไทม์ไลน์
สังเกตว่าในแทบจะทุกที่ที่ไปเราจะต้องสแกน check in กันตลอด แต่พอมีคนติดโควิด (ไม่ว่าจะคนธรรมดาหรือดาราเซเลป) ก็ต้องมาเปิดไทม์ไลน์กัน ทั้งๆที่เรามีแอพกันไว้เพื่อให้มัน Alert ให้คนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงได้รู้ไม่ใช่หรอ
การที่เจ้าตัวไม่ว่าจะใครก็ตามต้องมาเปิดไทม์ไลน์ด้วยตัวเองเราว่ามันมีโอกาสที่จะเสี่ยงกับความปลอดภัยของคนๆนั้น ซึ่งเอาจริงก็มีความน่ากลัวนะ มันเลยควรมีแอพขึ้นมาเพื่อ alert คนที่ไปในสถานที่เดียวกันในวันเดียวกันกับผู้ป่วย ... แต่ก็ยังไม่เคยได้รับการแจ้งเตือนเลย
ซึ่งก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย เช่น
ส่วนตัวคิดว่าที่ดาราเม้นท์ให้กำลังใจไม่ผิดหรอกค่ะ แต่ที่คนด่ากันอาจจะเป็นเพราะมันเกิดการเปรียบเทียบในใจที่ว่า ทำไมพอเป็นปชช.ทั่วไปจะโดนกดดัน โดนด่าแต่พอเป็นดาราเซเลบก็จะมีแต่คนห่วงใยให้กลจ. รีแอคมันต่างกันก็เลยเอามาเป็นอารมณ์น่ะค่ะ,
คือคนที่ติพิมฐาเยอะๆ คือ1 มาจากพื้นที่เสี่ยงสูงสีแดงซึ่งก็รู้ว่าตัวเองมีความเสี่ยงอยู่แล้วยังเลือกที่จะเดินทางไปยังที่สาธารณะ(ร้านต่างๆ บอกไปทำธุรกิจเยี่ยมญาติแต่โผล่คาเฟ่ถ่ายรูปบ้าง ทั้งๆที่รู้ตัวอยู่ว่าตัวเองก็เสี่ยง) สำคัญคือไม่กักตัวเวลาข้ามจังหวัดอะค่ะ,
ซึ่งระหว่างอยู่ด้วยกันจากที่มีรูปมาแบงค์ไม่สวมหน้ากากด้วย ณ ตรงนี้คือเสี่ยงสูงไปแล้ว ซึ่งแบงค์เองเขาก็เคยติดโควิดมาก่อนน่าจะตระหนักถึงตรงนี้แต่กลับเลือกที่จะไม่ยอมรับตอนแรกแล้วค่อยออกมายอมรับอะค่ะซึ่งแบงค์ก็อยู่วงการมานานแล้วไม่น่าทำแบบนี้เลยค่ะ พอคราวนี้มันเลยกลายเป็นพรีวิลเลจไปโดยปริยาย
ว่าสมมติมีคนแก่1คนติดโควิดกับดาราติดโควิด2คนนี้มีความเสี่ยงที่จะเป็นสเปรดเดอร์พอกัน แต่ดารากลับได้เตียง ได้ตรวจ ทั้งๆที่คนแก่คนนั้นต้องคงรอเตียงหรืออาจจะตายได้ระหว่างรอเตียงค่ะ
ทั้งนี้คือร้านที่เขาไปต้องปิด คนในพื้นที่เสี่ยง (ตอนแรกไม่ชี้แจงครบทุกที่ด้วยว่าไปที่ไหนบ้าง)โดยปราศจากการรับผิดชอบใดๆ จากหน่วยงาน และจ.ที่ไปตัวเลขผู้ติดเชื้อคือน้อย-0 แล้วการที่ไปทำให้เขาเสี่ยงอีกอะค่ะ จริงๆช่วงนี้ล็อกดาวน์ด้วยไม่น่าไปตจว เลยอะค่ะ,
คนให้กำลังใจเพราะรู้จักกันนั่นนี่เราว่าไม่ผิดค่ะ แต่ด้วยความที่ถ้าเป็นคนธรรมดาทั่วไปก็จะโดนปฏิบัติต่างกัน คนที่เค้าโดนผลกระทบจะโมโหเค้าก็ไม่แปลกค่ะ ส่วนตัวตอนนี้ถ้าจะให้กำลังใจกันถ้าไม่อยากให้คนเค้าคิดว่าเห็นดีเห็นงามด้วยก็ควรทักส่วนตัวมากกว่าค่ะ
แล้วยิ่งคนที่ไปด้วยอย่าง แบงค์ธิติและน้องเค้าด้วยไม่ยอมออกมาเปิดเผยไทม์ไลน์จนเค้าจับผิดกันเองยิ่งดูแย่ไปอีกค่ะคนที่เค้าไปด่าก็น่าจะหลายๆอย่างรวมกัน
ส่วนตัวคิดว่าที่ดาราเม้นท์ให้กำลังใจไม่ผิดหรอกค่ะ แต่ที่คนด่ากันอาจจะเป็นเพราะมันเกิดการเปรียบเทียบในใจที่ว่า ทำไมพอเป็นปชช.ทั่วไปจะโดนกดดัน โดนด่าแต่พอเป็นดาราเซเลบก็จะมีแต่คนห่วงใยให้กลจ. รีแอคมันต่างกันก็เลยเอามาเป็นอารมณ์น่ะค่ะ,
คือคนที่ติพิมฐาเยอะๆ คือ1 มาจากพื้นที่เสี่ยงสูงสีแดงซึ่งก็รู้ว่าตัวเองมีความเสี่ยงอยู่แล้วยังเลือกที่จะเดินทางไปยังที่สาธารณะ(ร้านต่างๆ บอกไปทำธุรกิจเยี่ยมญาติแต่โผล่คาเฟ่ถ่ายรูปบ้าง ทั้งๆที่รู้ตัวอยู่ว่าตัวเองก็เสี่ยง) สำคัญคือไม่กักตัวเวลาข้ามจังหวัดอะค่ะ,
ซึ่งระหว่างอยู่ด้วยกันจากที่มีรูปมาแบงค์ไม่สวมหน้ากากด้วย ณ ตรงนี้คือเสี่ยงสูงไปแล้ว ซึ่งแบงค์เองเขาก็เคยติดโควิดมาก่อนน่าจะตระหนักถึงตรงนี้แต่กลับเลือกที่จะไม่ยอมรับตอนแรกแล้วค่อยออกมายอมรับอะค่ะซึ่งแบงค์ก็อยู่วงการมานานแล้วไม่น่าทำแบบนี้เลยค่ะ พอคราวนี้มันเลยกลายเป็นพรีวิลเลจไปโดยปริยาย
ว่าสมมติมีคนแก่1คนติดโควิดกับดาราติดโควิด2คนนี้มีความเสี่ยงที่จะเป็นสเปรดเดอร์พอกัน แต่ดารากลับได้เตียง ได้ตรวจ ทั้งๆที่คนแก่คนนั้นต้องคงรอเตียงหรืออาจจะตายได้ระหว่างรอเตียงค่ะ
ทั้งนี้คือร้านที่เขาไปต้องปิด คนในพื้นที่เสี่ยง (ตอนแรกไม่ชี้แจงครบทุกที่ด้วยว่าไปที่ไหนบ้าง)โดยปราศจากการรับผิดชอบใดๆ จากหน่วยงาน และจ.ที่ไปตัวเลขผู้ติดเชื้อคือน้อย-0 แล้วการที่ไปทำให้เขาเสี่ยงอีกอะค่ะ จริงๆช่วงนี้ล็อกดาวน์ด้วยไม่น่าไปตจว เลยอะค่ะ,
คนให้กำลังใจเพราะรู้จักกันนั่นนี่เราว่าไม่ผิดค่ะ แต่ด้วยความที่ถ้าเป็นคนธรรมดาทั่วไปก็จะโดนปฏิบัติต่างกัน คนที่เค้าโดนผลกระทบจะโมโหเค้าก็ไม่แปลกค่ะ ส่วนตัวตอนนี้ถ้าจะให้กำลังใจกันถ้าไม่อยากให้คนเค้าคิดว่าเห็นดีเห็นงามด้วยก็ควรทักส่วนตัวมากกว่าค่ะ
แล้วยิ่งคนที่ไปด้วยอย่าง แบงค์ธิติและน้องเค้าด้วยไม่ยอมออกมาเปิดเผยไทม์ไลน์จนเค้าจับผิดกันเองยิ่งดูแย่ไปอีกค่ะคนที่เค้าไปด่าก็น่าจะหลายๆอย่างรวมกัน
ด้าน ใบเฟิร์น หลังได้อ่านความคิดเห็นของทุกคน ก็เข้ามาตอบกลับ ว่า
หลังจากที่ได้อ่านหลายๆความเห็นน่าจะสรุปได้ประมาณว่า การติเตือนในที่สาธารณะเป็นสิ่งที่ไม่ควร แต่การให้กำลังใจในกรณีนี้ก็มองว่าไม่นึกถึงคนอื่นที่เดือดร้อน อะไรประมาณนี้เราเข้าใจถูกต้องมั้ยคะเครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
https://www.facebook.com/teeneedotcom