ตลกชื่อดังก็ไม่ไหว โดนพิษโควิด-19 ไร้งานกว่าครึ่งปี
ป๊อบ : "ด้วยความคาดหวังของเราตอนแรกด้วยค่ะ เราคาดหวังว่าเขาชิมแล้วต้องซื้อ เราเลยต้องเรียนรู้ไปกับการค้าขาย เพราะบางครั้งที่เขาชิมไม่ใช่เขาไม่กลับมาซื้อนะคะ เพราะว่าบางคนเขาก็กลับมาซื้อทีหลัง"
ณ ตอนนี้พูดได้เต็มปากเลยว่า นี่คือรายได้หลักของครอบครัว เพราะไม่มีรายได้จากงานในวงการบันเทิงมานานแค่ไหน?
สุเทพ : "ประมาณตั้งแต่มกราคมมาแล้วครับ หนังที่จะปิดกล้องก็เลื่อน แล้วอีกเรื่องกำลังจะเปิดกล้องก็เลื่อนอีกจนพับโปรเจ็กต์ไป ส่วนงานต่างๆ ที่ว่าจะมีก็เลื่อนเหมือนกันจนพับโปรเจ็กต์ไปเรียบร้อยอันนี้คือรอบสองนะครับ แต่รอบสามนี้คือหนักเลย อย่างหนังคุณหม่ำที่กำลังถ่ายทำอยู่ก็ยังไม่ได้ถ่ายต่อเลย ต้องบอกว่าเรายังโชคดีที่เรายังมีอีกอาชีพที่สามารถเลี้ยงครอบครัวจนกลายเป็นรายได้หลักของเรา"
กะปิโหว่สูตรโบราณ แล้วยิ่งบอกว่าเป็นโฮมเมด สูตรนี้นำมาจากไหน?
ป๊อบ : "จากคุณแม่ของป๊อบเองค่ะ สูตรนี้ไม่จำเป็นต้องทานกับมะม่วงเท่านั้นนะคะ สามารถทานได้กับผลไม้ทุกชนิดเลยค่ะ เพียงแต่ว่าที่เราเอาเป็นมะม่วงเบาเพราะคนกรุงเทพฯ ไม่ค่อยได้ทาน เป็นมะม่วงของทางภาคใต้ เราก็เลยเอาตัวมะม่วงมาช่วยเป็นการตลาดเสริมเพิ่มเติมกะปิของเราไปอีกทางหนึ่งด้วย"
สุเทพ : "ซึ่งกะปิของเราสูตรโบราณแท้ เพราะไม่เค็ม ไม่คาว ไม่เผ็ด เป็นกะปิโหว่จากคลองโคน ที่ใช้เวลาหมักหนึ่งปีครึ่งเอามาผสมผสานกับน้ำตาลมะพร้าวแท้ และเราจะไม่ใส่น้ำตาลทรายเลย ไม่ใส่สารกันบูด ไม่ใส่ผงชูรส สามารถเก็บแบบไม่ใส่ตู้เย็นก็ได้หรือใส่ตู้เย็นก็ได้ สามารถเก็บได้ถึง 5-6 เดือนราคาที่สั่งจะอยู่ในไลน์นะครับ @POPVERS49 แต่เรายังมีอีกตัวนะครับ มะม่วงเบาแท้แช่อิ่มของเราจะไม่ใส่สารกรอบเลยจะเป็นแบบธรรมชาติเลย"
ป๊อบ : "ซึ่งมีลูกค้าของเราที่ติดใจแล้วเขาอยู่ที่ออสเตรเลีย เขาก็รับกะปิของเราไปขายที่โน้นกึ่งๆ เป็นตัวแทนนำไปขาย แล้วมีคนที่สั่งกับเขาก็ไลน์กลับมาสั่งที่เรา"
สุเทพ : "ซึ่งในช่วงโควิดนี้เราก็ยังเอากะปิของเราไปเป็นกำลังใจให้กับบุคลากรทางการแพทย์ 14 โรงพยาบาล ปลอกมะม่วงแล้วเราก็แพ็กกันสองคนเพื่อนำไปให้โรงพยาบาลละ 100 ชุด เพราะว่าเราไม่มีสิ่งไหนที่ช่วยได้ แต่เราพอทำสิ่งนี้ที่ช่วยได้เพื่อเป็นกำลังใจ เราก็ทำเต็มที่"
เห็นว่าในช่วงแบบนี้มีโปรโมชั่นลดค่าตัวด้วยเหรอ?
สุเทพ : "อย่างมีรายการต่างๆ ที่เสนอมา แล้วเขาก็คุยกับเราว่าขนาดนี้ได้ไหมเท่านี้ได้หรือเปล่า เราก็ได้เพราะว่ามันจำเป็นต้องเอา เพราะถ้าเราไม่เอางานไว้เขาก็จะไปเลือกคนอื่นเดี๋ยวนี้มีนักแสดงใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นมาให้เขาเลือกมากมายด้วย"
ในเรื่องร้ายๆ ที่มาจากโควิด ก็ยังมีเรื่องดีๆ อยู่ข้อหนึ่ง เพิ่งจะมีเวลาอยู่กับครอบครัว อยู่กับลูกได้เต็มๆ เวลาก็ช่วงนี้ เพราะ 20 ปีที่ผ่านมาทำงานเยอะมากจนไม่มีเวลา?
สุเทพ : "ใช่ครับ แต่ก็จะอยู่กับลูกได้เต็มๆ เวลาก็ได้ประมาณหนึ่ง แต่เราก็ขอให้โควิดมันไปเร็วๆ เถอะ เราต้องช่วยกันการ์ดอย่าตกเท่านั้นเองครับ"
กี่ปีแล้วที่แต่งงานกันมา?
สุเทพ : "เข้าปีที่ 23 แล้วครับ" ป๊อบ : "ถ้าถามว่าย้อนกลับไปวันที่พี่เทพเข้ามาจีบ เราไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขาเลยค่ะ ไม่ได้คิดที่จะเอามาเป็นแฟน"
สุเทพ : "ตอนนั้นที่เราจีบเขาตามตื๊อนานมาก การที่จะชวนเขาออกมาทานข้าว เราใช้เวลาเป็นปีเป็นเดือนเลยกว่าจะออกมาได้ กว่าเขาจะหลงคารมเรา สำหรับเขาคือคนพิเศษของเราจริงๆ เราขยันโทรศัพท์หาเขามากๆ แต่อย่างผู้หญิงคนอื่นเราก็เจอเขาแค่ตามคาเฟ่ก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษเพราะแค่เราเจอๆ คุยๆ แล้วก็หายไป แต่สำหรับป๊อบ ผมโทรศัพท์หาเขาทุกวันฮาโลสบายดีไหม ทานข้าวหรือยัง เขาไปทำงานก่อนนะ"
ป๊อบ : "เราก็รับสายเขาทุกวันค่ะ เพราะว่าเป็นโทรศัพท์ที่ห้องไงมันไม่รู้ เขาก็จะโทรมาทุกวันแต่คุยแบบสั้นๆ ไม่ได้ยาวมากเหมือนแค่รายงานเราว่าเขาทำอะไรยังไง ถามเราว่าเราเป็นยังไงสบายดีไหมสั้นๆ ตอนนั้นเราก็รู้สึกว่าทำไมต้องโทรมาบอกเราไม่ได้คุยอะไรยาวมากไม่ได้จีบเรา ถามว่ามีรำคาญไหม แรกๆ มีบ้างค่ะ แต่เพราะว่าเขาคุยไม่นานไงคะ ถ้าลองเขามาจีบแล้วคุยนานๆ บอกตรงเราคงไม่คุยด้วย"
สุเทพ : "เราคุยวันละนิดวันละหน่อย ที่ผมไม่คุยยาวเพราะอะไรรู้ไหมเปลืองค่าโทรศัพท์ (หัวเราะ) ป๊อบ : "ที่เราไม่ได้คิดอะไรตั้งแต่แรก เพราะว่าตลกเมื่อก่อนขึ้นชื่อมากเรื่องความเจ้าชู้ และเขาค่อนข้างจะงานเยอะ"
ป๊อบ : "ตอนนั้นเราก็เริ่มใจอ่อนแล้ว เพราะว่าเราคุยกับเขา เขาบอกเราทุกอย่างทุกที่ที่เขาไป พอเขาชวนเราไปดูเขาทำงาน เราก็ไปเพราะว่าช่วงนั้นเป็นช่วงที่รองาน ถามว่ามันก็ยังไม่ได้รู้สึกว่ารักนะคะ แต่รู้สึกแค่เป็นเพื่อนคนหนึ่งที่ต่างอาชีพ เราก็ได้ไปเห็นการทำงานของเขาว่าทำยังไงกองเขาเป็นยังไง"
สุเทพ : "มันเป็นการจุดประกายนะครับ ที่เขาไปเห็นเราทำงานเพราะเขาเริ่มเห็นใจ เริ่มสงสารผม เพราะความสงสารมันค่อยๆ กลับกลายมาเป็นความรัก"
แต่ทั้งคู่ที่รักกันแบบนี้ อยู่ด้วยกัน เจอกันที่ผ่านมา ไม่เคยมีโมเมนต์ที่ขอกันเป็นแฟนเลย?
สุเทพ : "ไม่มีเลยครับ ไม่เคยขอเป็นแฟนเพราะเรามีความรู้สึกที่ดีที่เราเข้าใจกัน มันก็เลยไม่ได้มีวันครบรอบอะไร แต่เราก็อยู่ด้วยกันมาตลอดระยะเวลา 23 ปี เราอยู่ด้วยความเข้าใจกัน ซึ่งความเข้าใจที่เราอยู่ด้วยกันมา มันข้ามคำว่าเป็นแฟนกันไหม แต่งงานกันนะมาแล้วครับ"
ป๊อบ : "แล้วมาถามว่ารักตอนไหน บอกไม่ได้เลยนะคะ มันเหมือนที่เราอยู่ด้วยกันมามันกลืนทุกอย่างไปหมดเลย มันกลายเป็นความผูกพันกันมากกว่า อย่างในบางเรื่องบางครั้งอายุเขาห่างจากเราเยอะมาก 15 ปีเลย บางครั้งเขาสอนเราโดยที่เขาไม่ได้พูด"
เทียบกันแล้วใครที่หวานแล้วก็สวีตมากกว่ากัน?
ป๊อบ : "ไม่มีเลยค่ะ เมื่อก่อนจะเป็นพี่เทพ แต่หลังๆ คือไม่มีแล้ว" สุเทพ : "พอหลังๆ ตั้งแต่มีลูก เขาก็ทำหน้าที่ดูลูก ผมก็ทำหน้าที่ทำงาน เพราะว่าความหวานที่เรามีให้กันมา 23 ปี ที่เราเติมให้กันมา เราก็คิดว่ามันเยอะมากพอแล้ว แต่ว่าก่อนไปทำงานทุกวันเราก็จะหอมเขาแบบครบเซ็ตเลย แล้วก็ทำแบบนี้กับลูกด้วย"
ป๊อบ : "ซึ่งตัวของลูกสาวก็เป็นแบบเขาเหมือนกัน ถ้าจะออกไปเรียน ถ้าพ่อยังนอนอยู่เขาก็ต้องไปปลุกแล้วก็ไปหอมพ่อของเขาแบบนี้ตลอดทุกครั้ง"
หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้ ห่วงหล่อมาก ตั้งแต่หน้าผม และการแต่งตัว?
สุเทพ : "ครั้งแรกที่ป๊อบไปเห็นเขายังงงเลยนะว่าห้องผมตอนนั้นยังอยู่อพาร์ตเมนต์ ทุกอย่างเนี้ยบมาก ผมจะวางทุกอย่างไว้เป๊ะมากเป็นระเบียบร้อยเรียบร้อยมากจนถึงทุกวันนี้ นิสัยผมไม่ว่าจะหยิบอะไรมาใช้ผมจะวางไว้ที่เก่าหมดเลย"
ป๊อบ : "แล้วเขาตอนที่ยังไม่โควิด ต้องไปทำหน้า นวดหน้า ทำเล็บทุกอาทิตย์ (หัวเราะ)"
สุเทพ : "ถึงเราจะหน้าตาแบบนี้ เราก็ต้องยิ่งดูแลตัวเราเองให้ดี เพราะสภาพหน้าเราแย่อยู่แล้วถ้าไม่ได้ไปทำอะไรเลยเดี๋ยวมันจะแย่ไปกันใหญ่"
ป๊อบ : "ส่วนในเรื่องของการแต่งตัว ป๊อบเคยซื้อให้เขาตอนวันเกิดซึ่งนั่นก็เป็นครั้งเดียว พอเขาเปิดกล่องมาเขาบอกเราว่า ป๊อบต่อจากนี้ไปไม่ต้องซื้อแล้วนะ เขาบอกเขาไม่เอา"
สุเทพ : "ที่เราไม่ให้เขาซื้อเพราะเราคิดว่าซื้อมาเราก็ไม่ได้ใช้ เพราะว่าเราจะชอบในแบบสไตล์ของเราที่เราซื้อเอง"
สุเทพ : "ที่เราหยุดใช้เพราะว่าเราเป็นเสาหลักของครอบครัว เราคิดว่าอย่างน้อยที่เราจะเอาเงินไปใช้ตรงนั้นเราเก็บเอาไว้เพื่อครอบครัวดีกว่า"
ป๊อบ : "และอีกสิ่งหนึ่งที่เขาเปลี่ยนไปคือ เป็นคนที่ขี้น้อยใจเรียกร้องความสนใจจากลูก เรียกว่าเข้าสู่วัยชราเลยก็ว่าได้ค่ะ (หัวเราะ) อันนี้ที่เขาเริ่มเป็นคือช่วงที่ลูกเริ่มเข้าวัยรุ่นจนเขาน้อยใจที่เขาพูดมาเลยว่า ลูกแม่สิ อะไรก็แม่ๆ เราเข้าใจแหละเพราะว่าเขาไม่ได้เข้าใกล้ลูกเลย เพราะว่ามีช่วงที่เขาทำงานหนักมาก เขาเลยไม่ได้มีเวลาที่จะดูแลเลี้ยงดูลูก เราก็ทำทุกอย่างเพื่อประคองให้ลูกไม่ได้รู้สึกขาดความอบอุ่น เพราะว่าเขาไม่ได้เจอหน้าพ่อเขาเลย เราเลยต้องมีวิธีคุยกับลูกตลอด ถามว่าหนักไหมก็หนักนะคะที่จะทำให้ลูกเข้าใจ ซึ่งลูกก็จะมีวิธีการปฏิเสธในรูปแบบของเขา เมื่อทางโรงเรียนถามว่า น้องฟลุ๊ค งานนี้คุณพ่อสามารถมางานที่โรงเรียนได้ไหม เพราะว่าน้องฟลุ๊คเขาก็จะรู้ตารางคุณพ่อทั้งหมดเลย"
สุเทพ : "ติดลูกมากครับ แต่ตอนนี้เขาเรียนจบแล้ว แล้วเขาก็ได้รับเข้าทำงานเลย"
ป๊อบ : "เป็นศูนย์วิจัยโรคอุบัติใหม่ของสภากาชาดไทย แล้วเราก็เพิ่งรู้ตอนที่ลูกสาวมาบอกว่าเขาได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่งของคณะวิทยาศาสตร์ แต่พ่อเขาอยากให้เรียนต่อ ซึ่งจริงๆ แล้วถ้าไม่ติดโควิดเขาได้ทุนปริญญาโทที่เกาหลี แล้วซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์เลย แต่พอติดโควิดก็พลิกทุกอย่างเลย เราก็บอกลูกว่า ฟลุ๊คก็เปลี่ยนวิธีการคิดอย่าไปเสียดายเริ่มใหม่ เขาก็เลยตัดสินใจทำงานไปก่อน"
VV
V
https://www.facebook.com/teeneedotcom