"ป้อ-บุญสิทธิ์"เผยเดลินิวส์ยืนยันไม่เคยคิดหย่า"นุก-สุทธิดา"เผยยังรักนุก รักลูกเหมือนเดิม อยากขอคืนดีให้เหมือนเดิม
ทุกวันนี้รู้สึกกลุ้มใจ ไม่สนคนนอกจะคิดอย่างไร ชี้ แคร์แค่ตัวเองและครอบครัวเท่านั้น ระบุ นุกกับลูกไม่อยู่บ้าน ตนเองก็ไม่รู้จะอยู่กับใคร เป็นใครก็คงทนไม่ได้ที่จะอยู่ที่เดิม มันเหงา เครียด ย้ำอยากมีชีวิตครอบครัวที่อบอุ่น
จากกรณีที่อดีตนักร้อง-ดารานักแสดงชื่อดัง นุก-สุทธิดา ธรรมโรจน์พินิจ หรือ เกษมสันต์ ณ อยุธยา ที่เพิ่งเลิกรากับสามี ป้อ-บุญสิทธิ์ ธรรมโรจน์พินิจ ลูกชายปอประตูน้ำ ได้หอบหิ้วลูกชาย 2 คน คือ น้องปิ๊ปโป้-ด.ช.ฐปนต ธรรมโรจน์พินิจ และ น้องปาแปง-ด.ช.อินทัช ธรรมโรจน์พินิจ พร้อมคุณแม่ของนุก นางแสงดาว เกษมสันต์ ณ อยุธยา มาเปิดใจถึงสาเหตุการหย่ากับสามี ในรายการดังทางไทยทีวีสีช่อง 3
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสัมภาษณ์ ป้อ-บุญสิทธิ์ ทางโทรศัพท์ โดย สามีหนุ่ม เปิดใจกับ “เดลินิวส์” ด้วยน้ำเสียงซึมเศร้าว่า
หลังจากที่ นุก ย้ายบ้านไปอยู่กับคุณแม่แล้ว ตนก็ยังโทรศัพท์คุยกันทุกวัน ตอนไปทำธุระสำคัญก็ยังเจอกันอยู่ ความจริงตนยังรักลูก และนุก มากเหมือนเดิม อยากขอคืนดีเหมือนเดิม ทุกวันนี้ก็รู้สึกกลุ้มใจ ที่จริงตนก็ไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้กับสื่อ ตนไม่สนใจหรอก ว่าคนภายนอกจะคิดอย่างไร ตนแคร์แค่ตัวเองและครอบครัว ตนไม่ใช่ดารา จะออกมาพูดเหมือนนุกได้ยังไง ด้านผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายก็คุยกันตลอด
ผู้สื่อข่าวถามถึงสาเหตุที่ทำให้ นุก ต้องแยกบ้าน และขอหย่าจริง ๆ คืออะไร ป้อ ตอบทันทีว่า ตนคงเป็นสาเหตุทั้งหมด มันมีหลายปัจจัยที่พูดยากครับ เมื่อถามว่า ทางภรรยาสาวแยกบ้านไปแล้ว เรื่องลูกจะจัดการอย่างไร ป้อ ตอบว่า นุกเขาเพิ่งย้ายออกไปอยู่บ้านคุณแม่เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมานี่เอง ส่วนลูกนั้นปกติตนก็จะไปรับน้องปิ๊ปโป้ ลูกชายคนโตมาอยู่ด้วย มากิน มานอน มาเที่ยวด้วยกัน อีกทั้งคนโต ก็โตแล้วพูดจารู้เรื่องแล้ว แต่ก็คิดถึงลูกคนเล็ก น้องปาแปงนะ เพียงแต่ตนสะดวกรับแต่คนโตมาดูแล เนื่องจากที่บ้านไม่ได้มีแม่บ้านคอยดูแล เกรงว่าจะดูแลไม่ทั่วถึง เลยปล่อยให้ลูกคนเล็กอยู่กับนุก ซึ่งตนก็รู้สึกคิดถึงน้องปาแปงนะ
ป้อเปิดใจไม่เคยคิดหย่านุก
ผู้สื่อข่าวถามต่ออีกว่า ที่ยังไม่หย่า แสดง ว่าตอนนี้ยังตื๊อขอคืนดีอยู่รึเปล่า ป้อ ตอบว่า อย่าเรียกว่าตื๊อเลย
ทุกวันนี้ยังคุยกัน ซึ่งตนบอกว่าให้พยายามดู ๆ กันไปก่อน เรื่องที่คนทั่วไปคิดว่าตนผิดหรือบกพร่องนั้น ตนไม่เคยบกพร่องนะ อาจมีตามประสาตามวัยบ้างครับ ตอนนี้อายุ 29 ปีแล้ว ตนแต่งงานมาตั้งแต่อายุ 25 ปีนะ ทางฝั่ง นุก เองบางทีเขาก็มีความเป็นเด็กเหมือนกัน อย่างไรก็ตามตนกล้ายืนยันตรงนี้ได้เลยว่า ตนยังรักนุกมากที่สุด ในชีวิตนี้ตนไม่รู้จะรักใครได้มากเท่านุก อีกแล้ว ใจจริงตนไม่อยากจะหย่ากับเขาเลยนะ แต่อีกทางก็พร้อมจะหย่าถ้าเขาต้องการ ผู้ชายอย่างเราจะมานั่งร้องไห้เสียใจได้อย่างไร ความเสียใจที่เกิดขึ้นยังไงก็ต้องเก็บไว้ข้างใน ในความคิดของตนจะอยู่หรือหย่า ต่อให้การหย่าดีกว่า การอยู่ด้วยกันคือ สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตน
ป้อ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามต้องขึ้น อยู่กับนุกด้วย ให้เขาสบายใจก่อน นี่เขาย้ายออก จากบ้าน 2 เดือน 10 วันแล้ว
หลังจากที่ นุก ย้ายออกไป ตนก็ไม่ได้อยู่บ้านหลังนั้นเลย เพราะที่นั่นไม่มีใคร คนงานก็ไม่มี เขากับลูกก็ไม่อยู่ แล้วจะให้ตนอยู่กับใคร ก็ย้ายไปนอนที่อื่น เป็นใครก็คงทนไม่ได้ที่จะอยู่ที่เดิม มันรู้สึกเหงา ๆ เครียดนะ ตอนที่ นุกอยู่บ้านตนก็กลับบ้านทุกวัน ต่อให้มีปัญหา ตนก็ไม่เคยคิดจะหันไปพึ่งเหล้าด้วย เนื่องจากตนไม่ใช่คนดื่มเหล้า ไม่เที่ยวด้วย
“ในชีวิตนี้ ลูก คือสิ่งสำคัญที่สุด เรื่องนี้ผมซีเรียสมากนะ ปกติเคยอยู่ครอบครัวแบบพร้อมหน้า 4 คน หากขาดคนใดคนหนึ่งไป ย่อมรู้สึกเป็นของธรรมดา เอาจริง ๆ เลยนะตั้งแต่แต่งงานมาเนี่ย ผมไม่เคยคิดเรื่องหย่าเลย ผมอยากมีชีวิตครอบครัวที่อบอุ่น และผมคิดว่าครอบครัวคือ สิ่งสำคัญสำหรับตัวเองด้วย” ป้อ กล่าวทิ้งท้าย.
ทุกวันนี้ยังคุยกัน ซึ่งตนบอกว่าให้พยายามดู ๆ กันไปก่อน เรื่องที่คนทั่วไปคิดว่าตนผิดหรือบกพร่องนั้น ตนไม่เคยบกพร่องนะ อาจมีตามประสาตามวัยบ้างครับ ตอนนี้อายุ 29 ปีแล้ว ตนแต่งงานมาตั้งแต่อายุ 25 ปีนะ ทางฝั่ง นุก เองบางทีเขาก็มีความเป็นเด็กเหมือนกัน อย่างไรก็ตามตนกล้ายืนยันตรงนี้ได้เลยว่า ตนยังรักนุกมากที่สุด ในชีวิตนี้ตนไม่รู้จะรักใครได้มากเท่านุก อีกแล้ว ใจจริงตนไม่อยากจะหย่ากับเขาเลยนะ แต่อีกทางก็พร้อมจะหย่าถ้าเขาต้องการ ผู้ชายอย่างเราจะมานั่งร้องไห้เสียใจได้อย่างไร ความเสียใจที่เกิดขึ้นยังไงก็ต้องเก็บไว้ข้างใน ในความคิดของตนจะอยู่หรือหย่า ต่อให้การหย่าดีกว่า การอยู่ด้วยกันคือ สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตน
ป้อ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามต้องขึ้น อยู่กับนุกด้วย ให้เขาสบายใจก่อน นี่เขาย้ายออก จากบ้าน 2 เดือน 10 วันแล้ว
หลังจากที่ นุก ย้ายออกไป ตนก็ไม่ได้อยู่บ้านหลังนั้นเลย เพราะที่นั่นไม่มีใคร คนงานก็ไม่มี เขากับลูกก็ไม่อยู่ แล้วจะให้ตนอยู่กับใคร ก็ย้ายไปนอนที่อื่น เป็นใครก็คงทนไม่ได้ที่จะอยู่ที่เดิม มันรู้สึกเหงา ๆ เครียดนะ ตอนที่ นุกอยู่บ้านตนก็กลับบ้านทุกวัน ต่อให้มีปัญหา ตนก็ไม่เคยคิดจะหันไปพึ่งเหล้าด้วย เนื่องจากตนไม่ใช่คนดื่มเหล้า ไม่เที่ยวด้วย
“ในชีวิตนี้ ลูก คือสิ่งสำคัญที่สุด เรื่องนี้ผมซีเรียสมากนะ ปกติเคยอยู่ครอบครัวแบบพร้อมหน้า 4 คน หากขาดคนใดคนหนึ่งไป ย่อมรู้สึกเป็นของธรรมดา เอาจริง ๆ เลยนะตั้งแต่แต่งงานมาเนี่ย ผมไม่เคยคิดเรื่องหย่าเลย ผมอยากมีชีวิตครอบครัวที่อบอุ่น และผมคิดว่าครอบครัวคือ สิ่งสำคัญสำหรับตัวเองด้วย” ป้อ กล่าวทิ้งท้าย.
https://www.facebook.com/teeneedotcom