ตั๊ก มยุรา กลั้นน้ำตาไม่อยู่ สงสารลูกเลือกคู่ผิด เชื่อเป็นวิบากกรรม

หน้าแรกTeeNee บันเทิงดารา ข่าวดารา, ข่าวบันเทิง ดาราไทย ตั๊ก มยุรา กลั้นน้ำตาไม่อยู่ สงสารลูกเลือกคู่ผิด เชื่อเป็นวิบากกรรม

จากกรณี น้ำตาล ลูกสาว ตั๊ก มยุรา ออกมาชี้แจงการตั้งท้องและคลอดลูกชาย ไม่ใช่ท้องไม่มีพ่อ พร้อมทั้งประกาศเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว โดยได้แยกทางกับอดีตคนรักชาวฮ่องกง 3 เดือนแล้วด้วยปัญหาที่รับไม่ได้ซึ่งไม่ใช่เรื่องผู้หญิง

ก่อนจะออกมาให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องที่อดีตคนรักตามรังควาน ปลอมไอจี และเขียนแคปชั่นสร้างความเสียหาย รวมถึงโพสต์ภาพใบลงบันทึกประจำวันแจ้งความอดีตสามีเกี่ยวกับการเเย่งลูกเเละการทำร้ายร่างกาย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันที่ 1 มิ.ย.2564 ตั๊ก มยุรา เศวตศิลา ดาราและพิธีกรชื่อดัง เปิดใจกับทาง "ข่าวสดบันเทิงออนไลน์" ถึงเหตุการณ์ที่ลูกสาวถูกอดีตสามีรังควานจนทนไม่ไหว รวมถึงกังวลว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นไม่มีทีท่าว่าจะจบ ทำให้เป็นห่วงหลาน ก่อนจะร่ำไห้ออกมาด้วยความเสียใจและสงสารที่ลูกสาวเลือกคู่ชีวิตผิด

เรื่องราวเหมือนไปกันใหญ่ ในความเป็นแม่รู้สึกยังไง?
"ในความคิดของเราก็คิดว่ามันไปกันใหญ่ จริงๆ ไม่อยากให้สัมภาษณ์อะไร อยากให้ทุกอย่างมันเงียบๆ มันจบ เพราะพี่มีความรู้สึกว่าวุฒิภาวะของผู้ชายไม่น่าจะเวิร์กแล้วล่ะ คนเราถ้าพูดกันรู้เรื่องมีการศึกษาเราจะไม่ใช้โซเชี่ยลมาตีกันอย่างนี้ น้ำตาลเขาบอกว่าเขาขอปกป้องตัวเอง ซึ่งคุณพ่อคุณแม่มีความเห็นว่าลูกต้องหยุดแล้วล่ะ ส่วนถ้าทางนั้นจะบ้าคนเดียวก็ทำไป ดูก็เหมือนว่าลูกจะฟังเราอยู่ค่ะ"

ตอนนี้ห่วงอะไรที่สุด?
"จริงๆ ห่วงหลาน ห่วงทีเค เรื่องความปลอดภัยก็ห่วงระดับหนึ่งแต่ไม่ห่วงหรอกเพราะเรามีคนที่จะช่วยป้องกันตรงนี้อยู่ แต่เราห่วงหลานเพราะว่าเขายังเด็กอยู่ แล้วคนก็เห็นหน้าเห็นตาในสื่อเยอะแยะ ซึ่งก็มีทั้งที่หวังดีและไม่หวังดี เราก็ไม่อยากพูดอะไรมากเพราะว่าห่วงทีเคมากกว่า"

ล่าสุดน้ำตาลออกมาให้สัมภาษณ์ ได้เห็นหรือยัง?
"เชื่อไหมว่าเขาให้สัมภาษณ์อะไรเราก็ไม่เคยเห็นหรอก นอกจากจะตามดู แต่ว่าเราก็ไม่ค่อยตามดูเพราะว่าต้องทำงาน บางทีเขาก็เล่าให้ฟังบ้างไปเล่าให้ฟังบ้าง"

น้ำตาลบอกว่าทนไม่ไหวที่โดนรังควาน เลยต้องออกมาพูด?
"เราก็บอกลูกว่าพูดได้ แต่ว่ามันเหมือนเป็นเรื่องในครอบครัวเนาะ เราก็คุยกันเองดีกว่ามั้ย แล้วก็หาวิธีที่จะทำให้ฝั่งโน้นหยุด คือถ้าพูดถึงในแง่กฎหมายน้ำตาลเขาชนะอยู่แล้ว เพราะน้ำตาลไม่ได้จดทะเบียน ลูกก็เป็นสิทธิ์ของเรา ฉะนั้นก็ปล่อยให้เขาโวยวายไปดีกว่ามั้ย แล้วเรามาคุยกันเองดีกว่ามั้ยลูก"

"คนอื่นเขาก็ฟังเราสนุกสนานคอมเมนต์กันไป แต่เขาก็ไม่ได้มาเป็นคนในครอบครัว ดังนั้นเราคุยกันเงียบๆ ดีกว่า แต่เหมือนว่าเด็กรุ่นใหม่เขาก็จะเข้าใจในแบบของเขา วิธีตอบโต้จะไม่เหมือนผู้ใหญ่ที่จะนิ่งกว่า เขาอาจจะรู้สึกว่าเขาเสียเปรียบหรือว่าโดนทำร้ายก็จะต้องตอบโต้ซึ่งก็ไม่ผิดที่เขาจะคิดอย่างนั้น แต่เราก็ได้แค่ประคองกันไปว่าลูกต้องใจเย็นๆ เพราะว่าเรื่องแบบนี้มันละเอียดอ่อน"

เรื่องที่น้ำตาลโดนอดีตสามีรังหวาน พี่ตั๊กพอจะทราบมาก่อนไหม?
"ไม่รู้ รู้แต่ว่าล่าสุดที่เขากลับมาอยู่กับเรา ตอนนั้นก็ถามว่าทำไมไม่คุยกัน เพราะว่าพอเราตัดสินใจให้เขาไปใช้ชีวิตของเขาแล้วเรายุ่งมากไม่ได้ มันเป็นเรื่องครอบครัวของเขา วันที่เขากลับมาเราก็ถามลูกว่าทำไมมันทนไม่ไหวเหรอลูก ทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้เหรอ เราต้องอดทนนะ สมัยคุณพ่อคุณแม่ก็มีเรื่องมากมายแม่ก็ต้องอดทนเหมือนกัน เพราะเราถูกสอนมาอย่างนั้น"

"เขาบอกว่ามันมีมากเกินกว่าที่คุณแม่จะเข้าใจและที่คุณแม่จะคิด ตอนนั้นเราก็แบบเรื่องอะไรเนี่ย ได้ทราบแค่ว่าผู้ชายเป็นคนที่ชอบกด...กดดัน อยู่ด้วยแล้วมันไม่แฮปปี้ มัน Toxic นอนไม่หลับ ตอนแรกเขาก็คิดว่าเขาเลือกถูกแต่เขาเลือกผิด เขาพูดกับเราอย่างนี้ แล้วมันมีอะไรมากกว่านั้นแต่น้ำตาลเป็นคนไม่เล่าให้ฟัง"

"จนวันที่อุ้มลูกกลับมาบ้าน เราก็ยินดีพร้อมเสมอ ห้องเขาก็ยังมีอยู่ เดี๋ยวมานอนคุยกันว่าเกิดอะไรขึ้น เขาก็ไม่เล่า แต่ว่าก่อนที่เขาจะใช้ชีวิตคู่กันธรรมชาติของน้ำตาลคือเป็นคนที่พูดน้อยอยู่แล้ว ยังไงก็ได้ ชิลแบบเด็กสมัยใหม่ ไม่ได้จะต้องมีวินัยหรือเป๊ะ บางทีเขาก็จะมีอึดอัดเราว่าเรามีวินัยมากเกินไปเขาก็อาจจะไม่ชอบ เพราะฉะนั้นไปเจอคนที่มันแรงๆ ไปกดขี่ หรือพูดจาไม่ดีกับเขา เขาอาจจะไม่ชอบ"

"แต่เราเคยเจออยู่หนเดียวที่ทางผู้ชายพูด วันที่เราไปเยี่ยมหลานก็ถามน้ำตาลว่าทีเคขลิบผมมั้ย 2 เดือนแล้วนะลูก ไปหาพระกันเนอะ น้ำตาลก็ไม่รู้เรื่องอะไรพวกนี้หรอก แต่ก็โอเคๆ แฟนเขาก็ฟังโอเคด้วย แต่พอลับหลังได้ยินว่าเขาไม่อยากให้ทำ ถ้าเอาลูกไอไปโกนหัว ไอด่าจริงๆ นะ เขาใช้คำนี้เลย"

"เราไม่ได้ยินแต่มีญาติคนหนึ่งเล่า คำว่าด่าเนี่ย...คือด่าเราซึ่งหัวหงอก ถ้าเป็นเราเราก็จะบอกว่าโกนหัวโกนหมดหรือเปล่าเดี๋ยวลูกไม่หล่อนะลูกหัวล้านอะไรก็พูดไป แต่เขาใช้คำว่า...ถ้าโกนหัวหมดไอด่าจริงๆ คือหมายถึงว่าไม่ไว้หัวหงอกหัวดำ ตอนนั้นเราก็ยังบอกคุณหนุ่ยว่าอย่าเอาไปโกนเลยเดี๋ยวมันด่าเรา เลยไม่ได้โกน"

"จนกระทั่งหลานมาอยู่กับเรา แล้วก็อุ้มไปวัดสุวรรณภูมิให้ท่านเจ้าคุณขลิบผมให้กระจุกเดียว โกนเดี๋ยวมันรู้เข้ามันด่าเราอีก เนี่ย! คือเขาก็แรงแค่นี้ที่เราได้ยิน เพราะฉะนั้นมันก็มีแนวอยู่แล้วว่าเขาจะแรงๆ แต่เราไม่เคยเห็น จนมาได้เห็นพร้อมกับทุกคนในสตอรี่ก็แบบลูกทนได้ยังไง สงสารลูกเนอะเพราะว่าเราไม่รู้เรื่องเลย"

เลี้ยงน้องน้ำตาลมาอย่างดี พอลูกเราต้องมาเจออะไรแบบนี้ หัวอกแม่เสียใจขนาดไหน?
"มาก เราบอกเลยว่ามากเลยแหละ คนเข้ามาคอมเมนต์บอกว่าไหนบอกลูกไงว่าให้เลือกผู้ชายให้ดีที่สุด บอกเลยว่าเราทำทุกสิ่งที่แม่ที่ดีจะพึงกระทำ ทำมาหมดแล้ว เราเลี้ยงน้ำตาลมาเราทำมาหมดแล้ว(ร้องไห้)สอนลูกแต่ว่าเขาอยากจะเลือกชีวิตเขาก็ต้องยอม มีคนดีๆ เข้ามาเยอะแยะแต่น้ำตาลไม่เลือกก็เป็นวิบากกรรมของเขา"

"เราถึงบอกว่าโอเคถ้าลูกเลือกก็ให้เขาไปตัดสินใจชีวิตเอง ถามว่าเสียใจมั้ยเสียใจตั้งแต่แรกแล้วเพราะเราบอกลูกว่าคนนี้ไม่ใช่ เราเลี้ยงน้ำตาลมาก็มีดุมีตีก้นเป็นเรื่องปกติ แต่พอเจอเรื่องนี้ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เรากลัวมากที่สุดในเรื่องการเลือกคู่แต่มันเจอ ถึงตอนนี้เราก็เสียใจแต่ถามว่าทำอะไรมากได้มากมั้ยก็แก้กันไป (น้ำตาลเคยเห็นน้ำตาคุณแม่กับเหตุการณ์นี้ไหม?) ไม่นะ ไม่เคยค่ะ"

เรื่องที่น้ำตาลโดนอดีตสามีตามรังควาน คิดอยากใช้กฎหมายเข้ามาช่วยจัดการไหม?
"จริงๆ แล้วผู้ชายกวนมาตั้งแต่ตอนที่น้ำตาลย้ายกลับมาวันแรก กวนมาตั้งแต่ตอนนั้นแต่เราไม่ได้บอกใคร เขาเข้ามาในไอจีเรา เราก็ไล่บล็อกไป รังควานจนเราต้องไปสวดมนต์และอโหสิกรรมให้เขา ซึ่งเขาก็เงียบไปมันก็ได้ผลเหมือนกันนะ(ยิ้ม) แล้วอยู่ดีๆ ก็โผล่มาอีก"

"ในแง่กฎหมายตอนนี้เราคุยกับคุณหนุ่ย(สามี)แล้ว คำว่ากฎหมายเราไม่ได้ทำอะไรเขา อาจจะเป็นเรื่องของพรบ.คอมฯ เรื่องการคุกคาม ทนายคนนี้เป็นคนเดียวกับที่จดทะเบียนเรื่องให้เราดูแลน้ำตาลมาตั้งแต่เด็กๆ แต่ยืนยันว่าเราไม่ทำอะไรเขา ไม่ทำในสิ่งที่บางคนอาจจะบอกว่าจัดการแรงๆ เราไม่จองเวรกันแบบนี้ แต่ใช้วิธีตามความถูกต้องของเราดีกว่า"

บางครอบครัวถ้าลูกเจอแบบนี้ พ่อแม่ต้องออกมาโวยวายแล้ว แต่ทำไมเราเลือกที่จะไม่ทำแบบนั้น?
"ครอบครัวเราไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้ เราก็เคยเห็นน้องๆ ในวงการที่เคยมีเรื่อง เราว่าพอไปตอบโต้มันก็จะแรงไป เดี๋ยวก็ฟ้องกัน เราไม่อยากมีเรื่องกับใคร น้องหมาเรายังเก็บข้างถนนมาเลี้ยงเต็มบ้าน แสดงว่าเราก็ต้องมีจิตใจที่ระดับหนึ่ง ฉะนั้นเอาให้มันไปตามความถูกต้องดีกว่าว่าจะทำยังไงให้เขาหยุด"

อยู่วงการมาตั้งหลายสิบปี ถือเป็นครั้งแรกไหมที่เจอข่าวอะไรหนักแบบนี้?
"น่าจะเป็นอย่างนั้น น่าจะแรงที่สุดมั้ง อย่างบางเรื่องเรามีเราก็ไม่ได้บอกใคร ล่าสุดคุณแม่ก็เข้าไอซียู แต่เวลามองเราจะมองว่าทุกคนมีเรื่องทั้งนั้นอยู่ที่ว่าใครจะรู้มั้ยเท่านั้นแหละ"

อยากให้เรื่องจบยังไง?
"ตอนแรกเราคิดกันว่าถ้าผู้ชายไม่ได้พูดอะไร น้ำตาลอุ้มลูกกลับมาแล้วรอให้ใจเย็นๆ เราว่าเขายังไม่ฉลาดถ้าฉลาดเขาต้องอยู่นิ่งๆ อย่างคุณหนุ่ยเป็นคนดีมากยังถามน้ำตาลเลยว่าไม่ให้พ่อเขาเจอลูกเหรอ ซึ่งน้ำตาลก็บอกว่าคุณพ่อเดี๋ยวก่อนอย่าเพิ่งเพราะว่าเขาแรงมาก อย่างแม่ผู้ชายที่ฮ่องกงเขาวิดีโอคอลคุยกับน้ำตาลดูหลานกัน"

"ถ้าผู้ชายนิ่งๆ พอเรื่องมันสงบ น้ำตาลหายโมโหก็คุยกันได้ อุ้มลูกไปคุยกัน เราไม่ได้ไม่ให้ลูกเจอแต่ตอนนี้จังหวะเวลามันยังไม่ได้เพราะเพิ่ง 2-3 เดือนเอง แต่เรากำลังมองว่าที่เขาตอบโต้เพราะต้องการจะเอาชนะหรือเปล่า ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องลูกหรอก"

น้ำตาลก็ดูเข้มแข็ง?
"ดีก็เป็นบททดสอบให้เขาผ่านตรงนี้ไปเพราะว่าเขาไม่เคยมาปรึกษาเรา ไม่เคยมาโวยวายร้องไห้อะไรเลย แค่บอกว่าคุณแม่หนูโอเค เขาก็มีเลือดนักสู้ระดับหนึ่ง เขาแค่ต้องการให้คนรู้ว่าหนูไม่ได้ผิด หนูถูกทำร้ายด่าทอ"

"แต่มันเป็นบทเรียนว่า...อันนี้ฝากเอาไว้กับทุกคนเลยการที่เราจะเลือกคู่สักที ต้องดูเยอะๆ ต้องดูกระทั่งถึงเทือกเถาเหล่ากอ อย่าเห็นแค่ฉาบฉวยแล้วก็โอเค ตรงนี้เป็นบทเรียนเลยว่าเลือกผู้ชายต้องเลือกอย่างดีที่สุด ไม่อย่างนั้นก็จะเป็นแบบนี้"