นับไปนับมา นางเอกน้ำดี เอมี่ กลิ่นประทุม ก็โลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงได้นานเป็นปีที่ 10 แล้ว
จากเด็กสาวที่ถูกดูแลประคบประหงมอย่างดี จนวันนี้เธอกลายเป็นผู้ใหญ่เต็มตัววัย 26 ที่สามารถจัดการเรื่องงานและเรื่องรักได้เป็นอย่างดี วันนี้เธอจะมาอัพเดทชีวิตเธอในช่วงนี้ให้แฟน ๆ “ดาวต่างมุม” ได้รู้กัน
เอมี่ รักหวานไม่แคร์หมอดู
ตอนนี้มีงานอะไรอยู่บ้าง?
-ก็เพิ่งจบสะใภ้ก้นครัว ตอนนี้ก็ถ่ายเรื่องเย้ยฟ้าท้าดินอยู่ งานก็ถือว่าโอเคนะคะ ไม่ยุ่งมาก ก็จะมีเวลาสามารถไปโชว์ตัว ถ่ายแบบได้ แล้วก็มีเวลาพักผ่อนให้ตัวเอง ไม่ได้ถึงกับทำงาน 7 วัน ก็พอใจนะคะ อาจจะเป็นเพราะว่าเราก็อยู่วงการมาสักพักใหญ่แล้ว เราก็รู้สึกว่าช่วงไหนที่เรายุ่งมาก เราก็จะไม่มีเวลาให้กับตัวเอง ถ้าเราถ่ายละครสักเรื่องหนึ่ง เราก็จะมีเวลารับงานอื่น แล้วก็มีสักวันหนึ่งให้ตัวเอง มันกำลังพอดี ที่ผ่านมาเอมี่เริ่มทำงานตั้งแต่วัยเรียน ตอนนั้นรู้สึกเหนื่อยมาก แล้วก็เครียด กดดันหลาย ๆ อย่าง พอเราเรียนจบปุ๊บเราก็รับงานเต็มที่ได้ สามารถมีเวลาไปทำอย่างอื่นด้วย
หลัง ๆ จะเห็นเอมี่ร่วมงานกับหลากหลายค่ายมากยิ่งขึ้น?
-ดีใจมากนะ ที่ได้ร่วมงานกับหลาย ๆ ค่าย มันได้ประสบการณ์ ได้เห็นว่าคนอื่นเขาทำงานกันยังไง แล้วก็ได้เจอผู้กำกับหลายคน ได้ความรู้จากผู้กำกับแต่ละคน แล้วก็นำมาประยุกต์ใช้ บางทีเราเล่นกับกันตนามาตั้งแต่เด็ก เราก็จะเคยชิน เราก็จะคิดว่านี่เราเก่งแล้วนะ พอเราได้มาร่วมงานกับข้างนอก เราก็ได้รู้ว่ายังมีอะไรที่เราไม่รู้อีกเยอะ ได้เป็นการพัฒนาตัวเองด้วย ได้เจอนักแสดงหลากหลาย อย่างค่ายเอ็กแซ็กท์ที่เพิ่งร่วมงานกัน เราไม่เคยเจอเลย ก็เป็นอะไรที่แปลกใหม่ดี มันก็ได้ประสบการณ์อีกแบบ
จะได้เห็นงานอะไรใหม่ ๆ ของเอมี่ไหม?
-ก็คงมีละครนี่แหละค่ะ แล้วก็มีถ่ายแบบซึ่งปกติจะไม่ค่อยได้ถ่ายแบบเยอะ มีงานไปต่างจังหวัดค่อนข้างเยอะ เป็นเพราะเรียนจบแล้วก็เลยมีเวลา อย่างเมื่อก่อนทำงานด้วยเรียนด้วย เวลามันไม่ค่อยลงตัว ค่อนข้างเครียด เรียนไม่ทันเพื่อน เวลาว่างของเราก็จะหมดไปกับการอ่านหนังสือ พอเราเรียนจบทุกอย่างก็สบายขึ้น
มีแผนอยากจะกลับไปเรียนต่อไหม?
-จริง ๆ น่ะอยากจะเรียน ก็อยากจะเรียนตั้งแต่จบตรีปุ๊บ แล้วก็ต่อโทเลย แต่มันเหมือนกับมันเหลิง พอเราเรียนจบแล้ว ทำงานแล้วมันสบาย ก็ไม่อยากจะไปเครียดเลย พอเราโตขึ้นเราก็มองว่าถ้าเราจะเรียนโทจริง ๆ เราก็อยากจะเรียนที่เราสามารถเอามาใช้ได้ ไม่อยากจะเรียนไปอย่างนั้นเพื่อให้ได้ปริญญามา เราก็ยังคิดอยู่ว่าเราจะเรียนทางด้านไหน อนาคตอยากจะทำอะไร อาจจะคิดว่าเรียนทางด้านบริหารดีไหม เพื่อที่เราสามารถเปิดธุรกิจอะไรอย่างนี้ได้ ก็ยังคิดอยู่ คงเรียนนะ แต่อาจจะไม่เรียนโท อาจจะเรียนเป็นคอร์สหรืออะไรเงี้ย กำลังดูอยู่ว่าตัวเองจะชอบด้านไหนมากที่สุด
อยู่วงการมานานเท่าไหร่แล้วนี่?
-ปีนี้ปีที่ 10 แล้ว ดูผ่านไปเร็วเนอะ ตอนแรกเราเหมือนเราทำไปเรื่อย ๆ เราไม่ได้คิดอะไร พอตอนนี้ 10 ปีแล้วเหรอ เวลาเราเล่นละครเรื่องใหม่ เปิดกล้องเรื่องใหม่ เราก็จะรู้สึกว่ามันใหม่ตลอดเวลา เมื่อก่อนเราเข้ากองถ่ายเราก็จะเป็นเด็กไหว้ทุกคน แต่ตอนนี้จะมีคนมาไหว้เรา เราต้องรับไหว้แล้ว แรก ๆ ก็ไม่ชิน เพราะไปไหนเราจะเด็กสุดตลอด หลัง ๆ มันไม่ใช่แล้ว แล้วก็จะติดกับการที่เรียกคนอื่นพี่ ปรากฏว่าเขาก็อายุน้อยกว่าเรา
ประสบการณ์ 10 ปีนี้ให้อะไรกับเอมี่บ้าง?
-ให้เยอะเลยนะ ทุกวันนี้ที่เป็นตัวเอมี่ได้ก็เพราะวงการ เราเข้ามาตอนอายุ 16 มันเป็นช่วงวัยรุ่น ก็สอนให้เราโตขึ้น เพื่อน ๆ ก็จะมีหน้าที่เรียนหนังสืออย่างเดียว แต่เราต้องแบ่งเวลา ฉะนั้นมันก็สอนให้เรารับผิดชอบ เวลาเราทำงานกับคนอื่นเราจะเจอคนหลากหลายมาก มันก็ทำให้เราเข้ากับคนได้ง่าย ไม่ว่าเราจะไปอยู่ไหนเราก็อยู่กับใครก็ได้
ถ้าวันหนึ่งต้องกลับไปเรียนจริง ๆ ไม่เสียดายตรงนี้เหรอ?
-ก็เสียดาย ถึงไม่ได้ไปสักที เราก็รู้ว่าทุกวันนี้ดาราเยอะมาก ขึ้นแล้วก็เกิดใหม่ตลอด ถ้าเราหายไปเราอาจจะกลับมาไม่มีงานแล้วก็ได้ เราก็ยังสนุกกับตรงนี้อยู่ เลยรู้สึกว่าเราอาจจะเรียนที่เมืองไทยก่อนดีไหม วันหนึ่งที่มีช่วงระยะเวลาของมันเราค่อยกลับไปเรียน
แต่เอมี่ก็เคยมีช่วงที่หายไปนะ?
-ใช่ ก็ช่วงที่จะเรียนจบ เกือบเรียนไม่จบแน่ะ (หัวเราะ) ตอนนั้นเราไม่ได้คิดว่าเราจะต้องทำงานในวงการต่อไป คิดแต่เพียงว่า ตายแล้ว! จะไม่ได้รับปริญญาพร้อมเพื่อน ไม่อยากจะจบช้า ไม่อยากให้คนพูดถึงว่า เป็นดาราเรียนไม่จบ ก็เครียดมาก เลยขอพี่ตุ๊กตา (จิตรลดา ดิษยนันทน์) ขอเรียนให้จบตรงนี้ก่อน มันเหลืออีกเทอมหนึ่ง ตอนเทอมสุดท้ายของปี 4 ก็แทบไม่ได้เล่นละครเลย พอเรียนจบปุ๊บก็ไปอเมริกา หยุดไปประมาณครึ่งปี พอเรากลับมา กว่าเราจะถ่ายละครเรื่องหนึ่งเสร็จ ก็หายไปเกือบ ๆ ปี
พอกลับมาเล่นละคร คนตอบรับดีกว่าตอนแรก ๆ หรือเปล่า?
-มันก็ด้วย เพราะเราหายไปนาน โตขึ้นด้วย เรากลับมาตอนเล่น “ลูกไม้หลากสี” เราเปลี่ยนบทเป็นดราม่าด้วย ที่ผ่านมาก็จะเป็นแนวแก่น ๆ หวาน ๆ พอเราได้ร้องไห้มาก ๆ เราไม่เคยได้เล่นอย่างนี้มาก่อน มันก็ได้เปลี่ยน คนอาจจะไม่เคยเห็นอะไรอย่างนี้ ตอนนี้ก็เหลือละครบู๊ที่ยังไม่ได้เล่น จริง ๆ อยากเล่นนะ เท่ดี แต่ไม่รู้จะเล่นได้หรือเปล่า เอมี่ไม่เคยเล่นหนัง อยากลองดู อยากรู้ว่ามันต่างจากละครยังไง อ้อแล้วก็มีงานพากย์ที่อยากทำ อย่างพากย์การ์ตูน
แฟนก็มีแล้วมองไปถึงอนาคตยังไงบ้าง?
-ความจริงทุกวันนี้ ที่คบอยู่ก็มีความสุขดีอยู่ คิดว่าถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปเรื่อย ๆ ก็น่าจะลงเอย แต่หลายคนถามว่าเมื่อไหร่จะแต่งงาน ก็คิดว่าเรายังเด็กอยู่ ยังอยากจะเรียนต่อ อยากมีธุรกิจ อยากจะทำอะไรก่อนที่จะมีครอบครัว เราเริ่มต้นด้วยความเป็นเพื่อน ตอนแรก ๆ ก็มีปัญหา กว่าจะปรับตัวได้ ก็มีทะเลาะกัน คนละนิสัยกันเลย แต่พอนาน ๆ เข้า มันเหมือนเข้าใจกันมากขึ้น เวลาปรึกษามันเหมือนเป็นแนวเพื่อนกันไป เวลาคบกันมันก็สบายใจ
ที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีข่าวกับใครก็เพิ่งจะเป็นซี?
-อาจจะโตขึ้นด้วย ที่ผ่านมาเราก็เด็ก ๆ ก็อาจจะไม่รู้ว่าคนนี้ใช่หรือเปล่า มันเป็นความรักแบบเด็ก ๆ พ่อแม่ก็ยังหวง แต่พอจังหวะที่เราเรียนจบ พ่อแม่ก็เริ่มเปิด แล้วก็ได้เจอกับตัวซีด้วย พ่อแม่ก็ไว้ใจเขา มันก็เลยแบบว่าสบายขึ้น ที่เราจะไปไหนมาไหนด้วยกัน ปกติพ่อแม่จะหวง จะคบใครเราก็ไม่ได้จริงจัง มันอยู่ที่จังหวะด้วย เขาเข้ามาช่วงที่ดีพอดี ถ้าเข้ามาก่อนหน้านั้นก็คงจะยาก
มุมมองการมีชีวิตคู่ของเอมี่เป็นยังไง?
-เราเห็นกลุ่มเพื่อนรุ่นพี่ เขาแต่งงานไปแล้ว มันก็ไม่ได้ยากนะ แต่ก็ไม่ง่ายด้วย ก็จะถามเขาว่าตอนแต่งงานกับตอนเป็นแฟนมันเหมือนกันไหม จริง ๆ แล้วความรักและความรู้สึกมันก็เหมือนเดิมนั่นแหละ แต่ความรับผิดชอบมันมากขึ้น เรารู้ว่าคนนี้นิสัยเป็นยังไง เราก็ต้องยอมรับได้ ทุกคนไม่ได้เพอร์เฟกต์ ตอนเด็ก ๆ เราจะคิดว่าการแต่งงานมันยิ่งใหญ่มาก พี่ ๆ ก็บอกว่าเหมือนเดิม บางคนก็บอกว่ารักกันมากขึ้น
คบกันมาตอนนี้โอเคมากน้อยแค่ไหน?
-ก็ 3 ปีแล้ว มันอาจจะเป็นช่วงที่มีความสุขที่สุด ต่างคนก็เป็นตัวเองมาก ถ้าเป็นปีที่ 2 มันยังรู้สึกว่า มันรำคาญ มันเบื่อ กับนิสัยของเขา เมื่อก่อนจะรู้สึกว่า ทำไมไม่โทรฯมา ทำไมไม่ถามว่าฉันเหนื่อยไหม แต่พอ 3 ปี ก็รู้ว่าเขาเป็นอย่างนี้ เราก็จะไม่ทะเลาะกันเหมือนเมื่อก่อน ไม่อารมณ์เสีย ไม่รู้ปีที่ 4 ปืที่ 5 จะเป็นยังไงนะ แต่ปีนี้มันยังโอเคอยู่
แต่ก็ไม่วายมีข่าวหมอดูทักว่าต้องเลิกกัน?
-อืม ก็เยอะเหมือนกัน คือจริง ๆ ทั้งเอมี่กับซี ไม่เคยดูหมอดูเลย แล้วก็มีคนมาพูด คบกันปีนี้ต้องแต่ง ไม่งั้นจะเลิก แต่ก็ไม่ได้ซีเรียส เพราะว่าซีเขาก็เป็นคนไม่ค่อยทำตาม ไม่ได้ดูดวง เขาก็จะบอกว่ามันอยู่ที่สองคน ยังไงเราก็ไม่แต่งปีนี้อยู่แล้ว ถ้าเราแต่งไปตามดวงมันก็ไม่พร้อม คิดว่ามันก็ไม่ดี แต่การที่หมอดูมาทักแบบนี้ มันก็ทำให้เราระวังกันมากขึ้น พอเขาบอกว่าเนี่ยเดี๋ยวปีนี้จะเลิกกัน ก็จะระวังใจเย็นกันมากขึ้น พยายามเก็บอารมณ์กัน ก็คิดว่าเป็นเรื่องปกติ ที่เราอยู่ตรงนี้แล้วจะมีคนมาดูดวงเรา เราเป็นคนของประชาชน ก็ค่อนข้างจะเฉย ๆ มากกว่า
อึดอัดหรือเปล่าที่ความรักถูกจับตามอง?
-จริง ๆ ไม่นะ เอมี่เป็นคนเฉย ๆ ถึงเปิดเผยไง บางคนก็เลือกที่จะมีความรักแบบเป็นของเขา แต่ยิ่งปิดก็ยิ่งอยากรู้ เราไม่ได้มีอะไรปิด ซี-เอมี่ ใคร ๆ ก็รู้ ถ้าถามว่ากลัวเรตติ้งตกไหม คือเราไม่กลัว ถ้าเราจะคบคนนี้เวลาไปไหนเราสบายใจก็ไม่กลัว เราคบกันผู้ใหญ่ก็รับรู้ ตอนแรกที่เปิด ก็คุยกับคุณพ่อคุณแม่ไว้ก่อนด้วย ซีเขาก็แคร์คุณพ่อคุณแม่จะว่าไหม เขาก็เข้ามาคุยมาถามว่าจะเป็นอะไรไหม ถ้ามีคนมาถามเขา แล้วเขาจะพูด
แสดงว่าที่บ้านเอมี่ก็แฮปปี้กับซี?
-ใช่ค่ะ ซีเขาเป็นคนที่คุยกับผู้ใหญ่ได้เรื่อย ๆ ไม่ใช่ว่าเข้ามาคุยเพื่อที่จะมาจีบลูกสาวอย่างเดียว เขาคุยจริงใจ คุยได้โดยที่เราไม่ต้องนั่งด้วย เขาก็เข้ากับที่บ้านได้ดี
มีคนถามเรื่องแต่งงานบ่อย ๆ เบื่อหรือเปล่า?
-ไม่เบื่อนะ มันชินมากกว่า เราก็ตอบว่า เรายังไม่พร้อม เมื่อไหร่จะลงเอย เรายังตอบไม่ได้ ตอนที่เราอายุน้อยกว่านี้ เราก็คิดว่าอายุ 26 เราอยากแต่งแล้ว พอเรา 26 แล้ว ก็อุ๊ย! ยังไม่อยากแต่ง การคบกันแบบนี้มันก็มีความสุขดี แต่ถ้าเราต้องแต่งงานมันเป็นอีกขั้นหนึ่ง ต้องมีลูก ต้องมีครอบครัว คือเรายังไม่พร้อมที่จะสร้างตรงนั้น
คติความรักที่ทั้งคู่ยึดถือคืออะไร?
-มันเปิดเผยกัน เราเหมือนเป็นเพื่อนกัน เหมือนเขาเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดของเรา มีอะไรเราก็จะปรึกษา ไม่โกหกกัน ทำอะไรก็บอกเลย ก็ค่อนข้างเชื่อใจ ไม่ตามหึง ตามหวง ตามถามจู้จี้ เหมือนกับว่าเราก็เคารพในสิทธิของเขา ให้เขามีช่องว่างของเขา เวลาทำงานก็จะไม่ยุ่งกัน ทำงานเสร็จค่อยว่ากัน
น้องเอมี่ คนดี ตอบทุกคำถามแบบไม่มีปิดบัง เพราะคบกันจริงใจไม่จิงโจ้ เข้าตามตรอกออกตามประตูถูกต้องตามขนบ ไม่สมัยใหม่จนเกินงาม แหม...ว่าแต่ว่า รักหวานไม่มีใครเกินเชียวนะ.
Love Attack เทศกาลความรักแบบนี้ บอกอ้อมๆให้เขารู้กัน
Chocolate Dreams สาวชั่งฝันและช็อคโกแลต กับหนุ่มหล่อ ไม่แน่คุณอาจจะได้เจอแบบนี้ก็ได้
Love You Like Crazy เพลงเพราะๆ ที่ถ้าส่งให้คนที่เรารัก โลกนี้ก็สีชมพูกันทีเดียว
https://www.facebook.com/teeneedotcom