เปิดตัวตนอีกด้านของ หมอเจี๊ยบ ลลนา ช็อกไม่คิดว่าจะเป็นคนแบบนี้
เรียกได้ว่าเป็นสาวหล่อที่ฮอตติดอันดับต้นๆของเมืองไทยเลยก็ว่าได้ สำหรับหมอเจี๊ยบ ลลนา ก้องธรนินทร์ ที่ได้มาเยือนรายการ ต้มยำอมรินทร์ ผลิตโดย CHANGE2561 เจ้าตัวก็ได้เคลียร์ชัดกับข่าวเมาท์ว่าตัวเองเป็นสายหื่น แต่ก็ยืดอกยอมรับตรงๆว่าเจ้าชู้หนักมากเมื่ออดีตก่อนจะเจอรักแท้ที่หยุดไว้ที่ น้องเดียร์ คนเดียว ตอนนี้พร้อมเดินหน้าทำมูลนิธิช่วยเหลือสังคม
เจี๊ยบ คือ หมอทางด้านไหน
หมอเจี๊ยบ : เจี๊ยบ เป็นหมอฉุกเฉิน แต่คนชอบเข้าใจผิดคิดว่า เจี๊ยบ มาเล่นเป็นหมอ ซึ่งเราเป็นหมอจริงๆแล้ว เจี๊ยบ ก็จบเฉพาะทางด้วย ที่เลือกด้านนี้เพราะ เจี๊ยบ รู้สึกว่าการทำงานในฉุกเฉิน สมัยก่อนเขาคิดว่าเอาใครมาอยู่ที่ห้องฉุกเฉินก็ได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วเราต้องเอาหมอที่มีคุณภาพมาอยู่ในห้องฉุกเฉิน เพื่อที่จะได้คัดกรองโรคให้ถูกต้องรักษาให้ถูกต้องแล้วมันเป็นช่วงเวลาเสี่ยววินาทีที่สามารถช่วยชีวิตคนไข้ได้ เปลี่ยนคุณภาพชีวิตคนไข้ คือ ถ้าเราไปผิดทางคนไข้ก็ไปผิดทางกับเรา ถ้าเราไปถูกคนไข้ก็มีโอกาสในการรอดชีวิตที่จะกลับมามีสุขภาพที่ดีเหมือนเดิม
หมอเจี๊ยบ : อย่างอะไรก็ตามที่เป็นอันตรายต่อชีวิตก็คือเข้าสู่ภาวะฉุกเฉินหมดใช่ไหม ทีนี้ ถูกกูกัด ตบตีกระทืบเลือดออกในสมองก็ต้องมาห้องฉุกเฉิน หรือว่าอะไรก็ตามอย่างคนไข้มีสภาวะเป็น Stroke เส้นเลือดอุดตันในสมองก็ต้องมาห้องฉุกเฉิน ซึ่งถ้าเกิด เจี๊ยบ ไม่ได้เรียนต่อเชี่ยวชาญพอก็อาจจะวินิจฉัยว่าสงสัยจะตกหมอน นอนไม่พอปากเลยเบี้ยวก็อาจจะเกิดการวินิจฉัยโรคผิดไปได้ คนไข้ก็จะกลับไปแล้วกลายเป็นอัมพาตไปเลย แต่ถ้ามาถึงวินิจฉัยโรคถูกแล้วให้ทานยาร่างกายก็จะกลับมาเป็นปกติได้
เพราะฉะนั้นเวลาที่ หมอเจี๊ยบ อยู่ในห้องฉุกเฉินเคยเจออะไรที่เราหนักที่สุดไหม
หมอเจี๊ยบ : อยากจะบอกว่า เจี๊ยบ ทำงานในห้องฉุกเฉินเพราะฉะนั้นเราจะอยู่กับความเป็นความตายก็คือ เราเสียชีวิตแต่ว่าในหลายๆรูปแบบแต่สิ่งที่ถามว่าหนักที่สุด เจี๊ยบ ว่าทำงานมาตรงนี้ เจี๊ยบ เชื่อว่าหมอทุกคนจะมีการปรับตัว จะเห็นความตายเป็นเรื่องธรรมชาติแต่สิ่งหนึ่งเลยที่ยังไง เจี๊ยบ ก็ไม่ชินคือญาติที่มาหา คือ คนที่ยังอยู่ทรมานกว่าคนที่เขาเสียชีวิต บางทีการเสียชีวิตไปแล้วเป็นการที่หมดความทุกข์ของเขา แล้วก็เป็นสัจธรรมของชีวิตเพราะเราได้ทำเต็มที่แล้วแต่เราก็ฟื้นสัจธรรมตรงนั้นไม่ได้ แล้วคนที่ยังอยู่เขาทำใจไม่ได้มาไหว้เรา หมอช่วยเถอะค่ะ ขอร้อง แล้วเรารู้ว่าเราทำอะไรไม่ได้แล้วมันเกินไปที่เราจะทำได้ แล้วบางทีเขาทำใจไม่ได้เขาก็จะมาแบบตื่นสิ อย่าทิ้งกัน แล้วมีเคสหนึ่ง เจี๊ยบ ตำได้เลยก่อนที่ เจี๊ยบ จะไปเรียนต่อ เป็นผู้ชายถูกไฟฟ้าช็อตมาเราก็ปั้มๆ แล้วเราก็ต้องออกมาคุยกับญาติว่ารู้ไหมว่าหัวใจเขาหยุดเต้นอยู่นะ แต่หมอกำลังช่วยอยู่ ซึ่งเราก็ออกมาบอกเขาเป็นระยะๆ แล้ววันนั้นที่เราออกมาบอกคือ เป็นผู้หญิงอุ้มท้องมาเราก็แบบเราจะบอกเขายังไงและ วิธีการออกมาบอกญาติๆของผู้ป่วย เป็นส่วนหนึ่งในวิชาที่ต้องเรียนคือ อย่างที่คนถามว่า เจี๊ยบ อยู่ในวงการกับทำงานหมอมันดูต่างแตกกันมาก แต่ เจี๊ยบ จะบอกเลยว่ามันไม่แตกต่างกันนะ เพราะว่ามันเป็นศิลปะการแสดงอย่างหนึ่งเพราะว่าหมอมีใบประกอบโรคศิลปะในการรักษาคนไข้คนก็จะต้องรู้ว่าเราต้องมาบอกกับเขายังไงให้มันอ่อนโยนที่สุด หรือ การซักประวัติร่างกาย ถ้าเราถามตรงๆไปเขาก็ไม่กล้าบอก อย่างเวลาที่เราจะซักประวัติหรือถามเรื่องข้อมูลส่วนตัวของคนไข้เราก็ต้องมีพื้นที่ส่วนตัวให้เขาได้พูด
หมอเจี๊ยบ : ไม่จริงๆเลยค่ะ ก็รู้ๆกันอยู่ คือ การแสดงทั้งหมดในการทำงาน จริงๆเป็นคนเรียบร้อย แต่เพื่อความสนุกสนานของคนที่อยู่รอบตัวของเราเขาเลยมองว่าเราเป็นแบบนั้น แต่ถ้าถามว่าตัวเองเป็นคนเจ้าชู้ไหมยอมรับเลยว่าตัวเองเป็นคนเจ้าชู้ (สมัยก่อน) แต่ไม่หว่านเสน่ห์นะคะ แต่เป็นคนที่เห็นคนแล้วถูกใจน่ารัก สมัยก่อนเราก็เป็นคนจิจ๊ะ คือ อย่างเวลาไปเที่ยวเราก็จะเดินตั้งแต่หน้าร้านยันท้ายร้านจริงๆ แต่ตั้งแต่เจอน้องเดียร์ เราก็เปลี่ยนไปเขาทำให้เรารู้ว่าไม่มีใครที่จะเพอร์เฟคหรอก น้องเดียร์ เป็นคนน่ารักสุภาพ
กับ น้องเดียร์ คบกันมากี่ปีแล้ว
หมอเจี๊ยบ : คบกันมา 5 ปีแล้วค่ะ แต่เป็นแฟนกันมา 4 ปีแล้วค่ะ ที่เปลี่ยนเพื่อเขาอาจจะเป็นเพราะที่ไป คลับฟรายเดย์โชว์ เพราะเราเคยเป็นคนเลวมาก่อนทำให้คนอื่นเสียใจแล้วสุดท้ายเราก็เสียใจเอง แล้วมันรู้ว่าความเสียใจอย่างนั้นมันเจ็บปวดมาก มันเลยทำให้เรารู้สึกว่าไม่อยากทำให้ใครเสียใจอีก ร่วมทั้งตัวของเราด้วย เพราะเราเคยทำให้คนอื่นเสียใจมาแล้วพอเรามาเสียใจเองโทรศัพท์หาตั้งแต่แฟนคนแรกจนกิ๊กคนสุดท้ายให้เขาขอโทษ อโหสิกรรมให้เรา ซึ่งทุกคนก็ยอมให้เราขอโทษ และอโหสิกรรมให้เราเพราะทุกคนที่เราเลิกก็เลิกด้วยดี แล้วเราก็รู้สึกว่าของพวกนี้กรรมมันตามทันจริงๆเพราะเราไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งเราต้องมาเจ็บปวดเรื่องความรัก ขนาดเราเป็นหมอเรายังรู้สึกว่าถ้าเราไม่สบายเรากินตัวไหนเราหายได้ แต่เรื่องใจมันไม่มีนะเจ็บ เศร้า นอนไม่หลับไปเอายาตัวนี้มากินคือมันไม่มีมันต้องใช้เวลาจริงๆเราเลยรู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่ทรมานมาก การป่วยใจเป็นอะไรที่ทรมึที่สุดเราเลยตั้งเป้าว่าถ้าเกิดจะมีแฟนคนถนัดไปเราจะต้องมั่นใจมากๆว่าจะไม่มีคนอื่นอีก จะมีเขาเป็นคนสุดท้ายวางเป้าหมายไว้เลยว่าเราต้องเป็นคนดีเรื่องนี้แล้ว เพราะเมื่อก่อนเราเป็นคนดีในเรื่องงอื่นๆ แต่เรื่องความรักตอนนั้นเรายังไม่ได้เป็นคนดีที่แท้จริง แต่ว่าวันนี้ น้องเดียร์ ทำให้เราเป็นคนได้ครบทุกด้าน
หมอเจี๊ยบ : เป็นช่วงแรกๆมากกว่าเรื่องทะเลาะคิดว่าทุกคู่มันต้องทะเลาะอยู่แล้วแต่ว่า เพราะด้วยความที่เราเป็นเด็กงอแงแล้วอยู่ในช่วงเปลี่ยนถ่ายถ้ารักฉันฉันต้องสำคัญที่สุด ต้องเลือกฉัน ซึ่งคนที่จะมาเป็นแฟนสมัยก่อนคือ เจี๊ยบ ไม่ให้ทำงานเลยเพราะเราอยากให้เขาอยู่กับเราเพราะเราสามารถดูแลเขาได้ แต่พอเขาจะไปทำงานเราก็งี่เง่าคือจะทำก็ต้องมีเวลาให้เรา ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นกับ น้องเดียร์ ในตอนแรกๆเรียกว่า งอแงเลยเพราะว่า น้องเดียร์ บ้างานมาก แต่สุดท้ายแล้วก็คือปรับตัวเข้าหากัน แล้วเราคบกับ น้องเดียร์ เราก็โตขึ้น เพราะเขาทำให้เรามั่นใจว่าเขาจะไม่ไปไหน แต่เขาจะไปไหนทำอะไรเราก็พร้อมที่จะซัพพอร์ตเขาเต็มที่เพราะเรารู้ว่าสิ่งที่เราทำกับคนที่ผ่านมาเป็นสิ่งที่ผิดเราก็ได้ขอโทษกับทุกคนๆขอโทษอีกรอบนะคะ
หมอเจี๊ยบ : คือ เขาทำให้เราเปลี่ยนเยอะมากเพราะเมื่อก่อนคือเรามีก็ใช้เพราะว่าเราไม่รู้ว่าเราจะตายวันไหน เห็นอะไรที่ชอบเราก็ซื้อหมด แล้วพอเราเจอคนที่เรารัก เราก็ต้องวางแผนว่าเราจะใช้ชีวิตคู่กับเขายังไงเพราะเขาคือคู่ชีวิตของเราและเราก็อยากใช้ชีวิตกับเขาไปจนแก่เราไม่ได้มีแค่ตัวคนเดียวที่จะใช้อะไรก็ได้ไม่สนคนอื่น แต่ตอนนี้เรามีครอบครัวมีภาระที่ต้องรับผิดชอบเรามองการไกลมากขึ้น น้องเดียร์ เขาเป็นคนที่ใช้เงินเขาจะคิด เราเลยต้องเปลี่ยนชีวิต หนึ่งเรื่องการใช้เงินคือ ใช้น้อยลง ใช้จะคิดมากขึ้น สองทำบ้านแหละ ตอนแรกที่เราทำบ้านเพราะเราอยากหาที่เก็บของเยอะๆ (แล้วคือช่วงที่เราทำบ้านก็ได้ไปดูสาระคดีเกี่ยวกับการใช้เงิน อยู่ดีๆเราดูแล้วเราคลิกกับแนวคืดนั้นจริงๆ) เพราะเขาได้สื่อให้เราเห็นว่าการที่เราไปซื้อสิ่งของตลอดเวลา คุณคิดว่าคุณมีสิ่งของที่ซื้อมาแล้วมันทำให้คุณมีความสุขจริงๆเหรอ ซึ่งจริงๆแล้วมันไม่ถาวรเพราะสุดท้ายเราก็อยากไปได้สิ่งใหม่ๆอะไรใหม่ๆไปเรื่อยๆเมื่อเราอยากได้ของเราก็จะเป็นทาสของการทำงานแบบนี้ตลอดไป เพื่อที่จะได้มีเงินไปซื้อเพื่อที่จะมาบำบัดความต้องการของเรามันก็ไม่มีที่สิ้นสุด แล้วประกอบกับว่า เจี๊ยบ ทำงานเป็นหมอฉุกเฉินด้วยทำให้ เจี๊ยบ การที่จะมีเงินทองมีชื่อเสียงอะไรก็ตามมันซื้อเวลาไม่ได้เราไม่รู้ว่าเราจะตายวันไหน ซึ่งบางทีเราซื้อๆเราก็จะกลายเป็นทาสของเงิน และเราก็ต้องทำงานเพื่อให้ได้เงินมา แต่ถ้าเราลดความต้องการให้น้อยลง แล้วมีความสุขกับสิ่งที่เรามีอยู่การที่เราทำงานหนักแบบนั้นก็จะลดลง เป้าหมายของ เจี๊ยบ คือ เจี๊ยบ อยากปลดเกษียณแล้ว เจี๊ยบ อยากทำงานเพราะว่าเราอยากไปช่วยคนจริงๆ
ซึ่ง เจี๊ยบ พูดเสมอว่าอยากทำคลินิกของตัวเอง ซึ่งตอนนี้ เจี๊ยบ ก็ทำเป็นมูลนิธิ
หมอเจี๊ยบ : ซึ่งคนถามเมื่อก่อนว่า อยากเป็นหมอทำไม เป็นนางงามทำไม เพราะว่าเราอยากมีฟรีคลินิกเพราะเมื่อเราโตขึ้นเราไม่ได้เห็นว่ามีแค่คนแล้วที่ต้องการความช่วยเหลือ มันมีทั้งสัตว์ เจี๊ยบ เลยได้รวมรวบไอเดียกับเพื่อนๆเปิดเป็นมูลนิธิ Let's Be HEROES ทุกคนสามารถเป็นฮีโร่ได้เราไม่จำกัดด้วยว่าเราจะช่วยแต่คน หรืออะไร แต่เราช่วยทุกคนที่เราเห็นว่าเขากำลังต้องการความช่วยเหลือ ซึ่งถ้ามูลนิธิของเราถ้ามีศักยภาพในการช่วยเหลือมากพอเราก็จะเข้าไปช่วย ดูข้อมูลของมูลนิธิได้ในเฟสบุ๊ค และ IG : Let's be heroes foundation
https://www.facebook.com/teeneedotcom