แก้มบุ๋ม เอาจริง! ฟ้องหมิ่นชาวเน็ต เรียกค่าเสียหายกว่า 7 หลัก

วันนี้ (20 เมษายน 2564) เวลาประมาณ 09.30 น. สาว แก้มบุ๋ม ปรียาดา ก็ได้เดินทางมายังศาลมีนบุรี พร้อมกับคุณพ่อ โดยได้เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ฟังว่า เมื่อประมาณ 1 ปีก่อนช่วงสถานการณ์โควิด 19 รอบแรก มีชาวเน็ตรายหนึ่งโพสต์ภาพพร้อมข้อความที่สื่อถึงคาเฟ่สัตว์ของตัวเองว่า "ขอแรงทุกคนที่รักหมา นี่เป็นคาเฟ่หมา ที่ต้องปิดชั่วคราวเนื่องจากสถานการณ์โควิด ทิ้งหมาไว้ที่คาเฟ่ หมาคลอดลูก หมาไม่มีข้าวกินจนต้องกินขี้ตัวเอง คาเฟ่กระจกร้อนมากๆ ช่วยแชร์โพสต์ออกไป หมาตอนเห็นคนดีใจมากๆ เหมือนขอความช่วยเหลือตลอดเวลา ขอให้ทุกคนช่วยกันหน่อยนะ #คนรักหมา #ทาสหมา"

สาวแก้มบุ๋ม เผยต่อว่า เรื่องราวทั้งหมดที่ถูกชาวเน็ตรายนี้เขียนขึ้นไม่เป็นความจริง เพราะตนดูแลสัตว์เลี้ยงในคาเฟ่เป็นอย่างดี โดยวันรุ่งขึ้นหลังจากโพสต์นี้ถูกแชร์ไป ก็มีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานหนึ่งเข้ามาตรวจสอบที่ร้านของตัวเอง ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็มีการลงรายละเอียดเป็นลายลักษณ์อักษรว่า ไม่พบการทารุณกรรมสัตว์ แถมยังบอกด้วยว่า ที่นี่สะอาดกว่าที่อื่นที่เคยไปตรวจสอบมา

ทั้งนี้ หลังจากเกิดเรื่องขึ้นและมีการตรวจสอบแล้วว่าสิ่งที่ถูกโพสต์ลงไปไม่เป็นความจริง ก็ไม่ได้รับการขอโทษจากคู่กรณี สาวแก้มบุ๋ม จึงเดินหน้าฟ้องร้องดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาททันที และยังมีการเรียกค่าเสียหายด้วยเป็นเงินจำนวน 1 ล้านบาท ซึ่งเงินที่ได้ก็จะนำไปบริจาคให้กับการช่วยเหลือสัตว์ทั้งหมด

โดยการมาศาลอาญาในวันนี้เป็นการมาฟังคำไต่สวน แต่ก่อนหน้านี้เคยมาขึ้นศาลแล้ว 2 ครั้ง ซึ่งสาวแก้มบุ๋ม เผยว่า จากการได้เจอกับคู่กรณีใน 2 ครั้งที่ผ่านมา เขาไม่ได้มีทีท่าสำนึกผิดเลย และไม่เคยเอ่ยคำขอโทษตนสักคำเดียว จึงยืนยันว่าจะดำเนินคดีจนถึงที่สุด เพราะเกินกว่าจะยอมความกันได้แล้ว ซึ่งทุกวันนี้ตนไม่กล้าไปงานอีเว้นท์เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงแล้ว เพราะกลัวสายตาคนอื่นที่มองว่าตนเป็นคนทารุณกรรมสัตว์

คุณพ่อของสาวแก้มบุ๋ม พูดเสริมว่า สิ่งที่คู่กรณีทำส่งผลให้ลูกสาวของตนเสื่อมเสียชื่อเสียงอย่างมาก เหมือนเป็นการกลั่นแกล้งเพราะลูกสาวตนช่วยเหลือสัตว์มาโดยตลอด แต่กลับมาถูกตราหน้าว่าเป็นคนทารุณกรรมสัตว์ ตนเลยจะต้องขอออกมาปกป้องลูกของตัวเอง ซึ่งจริงๆตนก็ไม่ได้ต้องการเงินอะไร แต่อยากให้เป็นบรรทัดฐานและเป็นตัวอย่างให้เห็นว่า การจะโพสต์อะไรลงโซเชี่ยลควรต้องไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วน

สาวแก้มบุ๋ม เผยต่อว่า ด้านคู่กรณีได้มีการยอมรับในชั้นศาลแล้วว่าเป็นผู้โพสต์ข้อความดังกล่าวจริง และจะขอจ่ายเงินค่าเสียหายให้ตนเพียง 70,000 บาทเท่านั้น ซึ่งตนก็จะขอสู้ต่อเพราะคิดว่าความเสียหายในชื่อเสียงของตนมีมูลค่ามากกว่านั้น

อย่างไรก็ตาม สาวแก้มบุ๋ม บอกว่าไม่เคยรู้จักคู่กรณีมาก่อน เขาแค่เป็นคนๆหนึ่งที่เดินผ่านร้านตน และสร้างเรื่องขึ้นมา ซึ่งทางเพจร้านของตนก็โดนโจมตีเยอะมาก หลังจากที่คู่กรณีโพสต์ข้อความดังกล่าว เรียกว่านอกจากตนจะเสื่อมเสียชื่อเสียงแล้ว ทางร้านก็ได้รับผลกระทบไม่น้อย ตนจึงยืนยันอีกครั้งว่า จะไม่มีการยอมความในคดีนี้แน่นอน