เจ๊มอยขยี้ต่อ ปมข่าวลูกกอล์ฟตกใส่ชาวบ้าน ที่แท้เป็นของครอบครัวนักร้องดัง

กลายเป็นประเด็นที่โลกออนไลน์แห่แชร์กันรัวๆ เมื่อมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์เรื่อวราวหลังทนทุกข์มานาน นับ10 ปี โดยระบุไว้ดังนี้

.....ชีวิตนี้ จะต้องอยู่กับลูกกอล์ฟตกใส่บ้านเสมอ เจ้าของ ก็คือ****** (ไม่ได้สน เพราะเลิกติดตามตั้งแต่ทำธุรกิจแบบไม่มีจริยธรรม) คาดเดาไม่ได้จะตกวันไหน คุยกับ****** ก็จัดการอะไรไม่ได้ ตาข่ายขาด เราบอกให้หยุดซ่อมก่อน นางบอกธุรกิจนางก็หยุดไม่ได้ หากโดนหัวคน หัวเด็ก ก็คือไม่น่ารอด ..... แต่ นางไม่สนใครจะตุย นางต้องดำเนินธุรกิจ โทรคุยกันมาเป็นสิบปี ไม่มีอะไรดีขึ้น ตกเหมือนเดิม ตกแม่งทั้งวัน ..... ทำธุรกิจแบบไม่มีจริยธรรม ใครเป็นไง ก็เป็นไป ..... ตกแล้วไง มาซ่อมแบบแกนๆ พอบอกตกเฉียดหัวคนไปนิดเดียว... ก็ไม่สนจ้าาา แม่บอกปุ้ป ไม่เกินห้านาที ตกอีกจ้า ตีไม่เก่ง หรือ ตาข่ายไม่มีคุณภาพ งงมาก ไม่รู้จะให้รู้สึกถึงความเดือดร้อนยัง tag ก็แล้วกัน

ตอนแรกที่โทรไปคอมเพลน คิดเสมอว่าคอมเพลนกับ ผจก. เลยคิดว่าวันนึง เจ้าของคงได้รู้ สรุปที่คุยมาตลอด เจ้าของจ้าาาา เนียนๆ ไปอีก ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น บอกว่าจะไปคุยกับเจ้าของให้ .... เป็นวิชาการแสดงที่ ..... เค้าเรียกไร มรดกตกทอด กูปลง ไปอีก วันดีคืนดี เจ็ดโมงเช้า พนักงานเก็บลูกกอล์ฟจ้าเอาลำโพงตั้งกลางสนาม เปิดเพลงแบบหมุนสุดปุ่ม ปลุกแม่งทั้งบาง ฟังหมอลำกับมันไปอีก ....ต้องเปิดหน้าต่างตะโกนให้หยุด แบบไร้อารยธรรมไปอีก

" มีคนร้องเรียนว่า.. นี่คือสนามกอล์ฟของครอบครัวนักร้องชื่อดัง มีลูก ครอบครัวอบอุ่น
-ลูกกอล์ฟ ตกใส่บ้าน ตกใส่รถจนพัง บางทีก็เกือบตกใส่หัวคนระแวกนั้น
-เจ้าทุกข์บอกว่า..ลูกๆ เล่นนอกบ้านไม่ได้ นับ 10 ปี ทางครอบครัวนักร้องดังไม่แก้ปัญหาอะไรเลย
-ลูกกอล์ฟเข้าบ้านมาหลายเข่งแล้ว ปรึกษาทนายก็บอกฟ้องไปก็เสียเวลา
-ถ้าจะต้องไปแจ้งความตลอดก็ไม่มีเวลาไปทำงานทำการพอดี อยู่จนเอือม จนคิดจะย้ายบ้านหนี แต่ว่ามันไม่ใช่การแก้ปัญหา
-บ้านคือsafezone มันก็ควรจะเป็น safezone สิ ไม่ใช่จะต้องระแวงลูกกอล์ฟตลอด
อ่ะ..เรื่องจริงเป็นยังไง กูขอไปจ่อไมค์สัมมาให้นะ"