อ.ยิ่งศักดิ์ เดือด! โวยพิษปาร์ตี้โควิด-19 กระทบถึงคุณแม่วัย 90

สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ยังคงเป็นเรื่องราวน่าสนใจ น่าติดตาม เพื่อป้องกันดูแลตัวเอง หลีกเลี่ยงสถานที่สุ่มเสี่ยง อย่างในวงการบันเทิงก็ฮือฮาไม่แพ้กัน หลังจากที่พบว่า ดีเจมะตูม คิดเชื้อโควิด-19 ที่ติดจากงานปาร์ตี้วันเกิดตัวเองในวันที่ 9 ม.ค. 64 คนดังในวงการบันเทิงหลายคนที่ร่วมงานด้วยต่างพากันไปตรวจหาเชื้อ และต้องกักตัว งดรับงานไปสักพัก

อย่างเช่น "อาจารย์ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์" ที่เพิ่งไปถ่ายรายการร่วมกับดีเจมะตูมเมื่อวันที่ 18 ม.ค. 64 ก็ได้ไปตรวจหาเชื้อโควิดมา 2 รอบแล้ว ผลปรากฎเป็นลบ ไม่พบเชื้อโควิด-19 แต่ต้องกักตัว

อ.ยิ่งศักดิ์ เดือด! โวยพิษปาร์ตี้โควิด-19 กระทบถึงคุณแม่วัย 90

โดย อ.ยิ่งศักดิ์ ได้ออกมาเปิดใจถึงสถานการณ์ที่เจอในครั้งนี้ผ่านรายการ แซ่บ108 ว่า ตนได้รับกระทบจากโควิด-19 อาจารย์เป็นคนดูแลรักษาสุขภาพ มีแมสก์ มีแอลกฮอล์ เว้นระยะห่าง ถ้าเรื่องงานก็จะดูว่างานไหนปลอดภัย หลังจากนั้นพบว่าคนร่วมงานด้วยติดโควิด ฉันต้องรีบไปตรวจ ทุกคนต้องมาความรับผิด ทำตามกฎ

อาจารย์ จะไม่โทษว่าใครเอาโรคมาใส่ ฉันว่าไม่มีใครอยากป่วย มะตูมที่ป่วยก็คงไม่อยากป่วย แต่ฉันไม่ใช่คนที่ไปยุ่งเรื่องชาวบ้านว่าติดโรคมาจากไหน ไปปาร์ตี้มาหรอ มันเรื่องของเขา แต่ถ้าตัวฉันเองฉันเจอฉันทนได้ แต่คนรอบข้างฉันมันเดือดร้อนวายวอด

อย่างแม่ของอาจารย์ที่ต้องไปฟอกไตที่โรงพยาบาล คนที่โรงพยาบาลเค้าตกอกตกใจ เค้าเอาแม่ฉันแยกออกไปตรวจ เพราะคิดว่าอาจารย์ยิ่งศักดิ์ติดโควิด แม่ฉัน 90 กว่า ตกใจ โทรศัพท์มาเสียงสั่นว่า ลูก ลูกเป็นอะไรทำไมไม่บอกแม่ แล้วแม่อาจารย์แก่แล้วสุขภาพไม่ดี ต้องถูกแยกออกไปอย่างน้อยต้อง 14 วัน

ความรู้สึกของคนแก่อายุ 90 กว่า จะรู้สึกอย่างไร เรื่องต่อไปคือเรื่องที่โรงเรียนของอาจารย์ พ่อแม่เค้าจะไม่ให้ลูกมาทำงาน เพราะคิดว่าเจ้าของโรงเรียนติดโควิดหรือป่าว โทษนะคะมันจะวายวอดตั้งแต่ยังไม่ได้ถูกตัดสินเลยค่ะ ไม่พอร้านข้าวแกงข้างโรงเรียนก็ไม่มีใครกล้าไปกิน เพราะเค้าคิดว่า อ.ยิ่งศักดิ์ไปซื้อ เค้าต้องมาเจ๊งวายวาดเพราะอาจารย์จะทำยังไง ตลาดสดก็ไม่กล้าไป พนักงานของอาจารย์มีลูกก็เอาไปให้ใครเขาเลี้ยงให้ไม่ได้เพราะแม่เค้าทำงานกับอาจารย์ยิ่งศักดิ์ อาจารย์ต้องพาพนักงานทุกคนไปตรวจกันหมดไปหมื่นกว่าบาท ขอโทษนะคะผลกระทบกับคนรอบข้างมันทำให้อาจารย์ยิ่งศักดิ์ต้องเสียหายมากเลยค่ะ

อาจารย์ไม่โกรธใครหรอก แต่อาจารย์อยากฝากบอกคือสังคมไทยบางส่วนป่วยค่ะ โรคโควิดมันมาถึงเมืองไทย เพื่อให้คนไทยแสดงความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม โรคโควิดไม่มีใครอยากเป็น จิตสำนึกมันเป็นสิ่งที่ไม่สามารถบังคับให้เกิดได้ต้องเกิดจากตนเอง ถ้าเราแก้ไขคนอื่นไม่ได้เราก็ต้องแก้ไขที่ตนเองด้วยการดูแลตัวเองค่ะ สาเหตุของการติดโควิด ไม่ได้เกิดจากการทำงานแบบของเรา หรือไม่ได้เกิดจากคนอื่นๆ ที่เกิดขึ้นโดยไม่เจตนาเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องยอมรับ แต่ ณ วันนี้เรามารู้ว่า ที่เป็นโควิดมันเกิดจากพฤติกรรมส่วนบุคคล ขอโทษนะคะ อันนี้เราคงไม่สามารถไปพูดได้ เพราะว่าเค้าอายุน้อยกว่าฉัน ฉันก็ต้องบอกว่าอ๋อ เพราะว่าเค้าคงยังอายุน้อย เป็นเด็กก็ต้องมีโอกาสพลาด อยู่ในวัยที่กำลังคึกคะนองแล้วก็สุ่มเสี่ยง สังคมไทยต้องเป็นคนยอมรับ ฉันยอมรับค่ะว่าเค้าเป็นคนเอาโรคมาใส่คนโน้นคนนั้นคนนี้ แต่ฉันไม่สามารถก้าวล่วงได้ว่า ทำไมคุณยังจัดปาร์ตี้ ทำไมคุณเป็นโควิด ทำไมคุณยังไม่รู้สึกว่าจะมีจิตสำนึกและรู้สึกรับผิดชอบต่อสังคม ฉันพูดไม่ได้อันนี้เป็นเรื่องของเค้า

อาจารย์ไม่อยากมานั่งพูดหรือโทษว่าใครเป็นคนไปเอาโรคโควิดมาค่ะ มันไม่มีประโยชน์เลยกลับต้องเสียเวลามานั่งพูด อาจารย์คิดว่าเราช่วยกันพูดให้เห็นถึงคำว่าจิตสำนึกและตัวเองต้องรับผิดชอบตัวเองและสังคม บอกได้คำเดียวว่าถ้าคุณรับผิดชอบตัวเองและสังคม ประเทศก็จะเต็มไปด้วยความสังคมที่มีรับผิดชอบ แต่ถ้าคุณไม่เอากฎไม่เอาระเบียบของสังคมอะไรเลย แต่ขอโทษอย่าลืมนะคะมันมีกฎแห่งกรรมค่ะ ใครทำอะไรไว้กับสังคมให้คนทุกข์ยาก กรรมเวรจะเป็นของคุณ