เผยสาเหตุที่ ลาล่า ถึงโพสต์ ลูลู่ ความจริงแล้วเรื่องเป็นแบบนี้!

ถือเป็นเพื่อนซี้และแจ้งเกิดพร้อมกัน อย่าง สองสาวสายฮา ลูลู่ - ลาล่า อาร์สยาม เรียกได้ว่าอยู้กันในทุกช่วงชีวิต และล่าสุดกับสถานการณ์ตึงเครียดเมื่อผลตรวจโควิดเบื้องต้นของสาวลูลู่นั้นมีความเสี่ยง เจ้าตัวเครียดถึงขั้ยร้องไห้ ระหว่างรอคอยผล ด้านเพื่อนสาวระบายความในใจ ที่ปลอบใจเพื่อนไม่ได้ ในรายการคุยแซ่บSHOW ทางช่องวัน 31 ที่มีธัญญ่า ธัญญาเรศ, เป็กกี้ ศรีธัญญา และอาจารย์เป็นหนึ่ง เป็นพิธีกร

ลาล่า : มันเป็นสิ่งที่อึดอัดมาก เราเห็นเขาวินาทีนั้นไม่รู้จะปลอบใจอะไรเขา ตอนแรกเรายังเล่นๆ กับเขาหันมาอีกทีน้ำหูน้ำตามา มันกลายเป็นเรื่องที่ซีเรียสไปเลย สิ่งหนึ่งที่ทุกคนกลัวในภาวะนี้คือโควิด แล้วเขาก็ยิ่งกลัวขี้หดตดหาย ถ้าเขาป็นไข้หรืออะไรเรายังพอเข้าไปกอดได้

เล่าย้อนเหตุการณ์วันนั้นหน่อย?

ลาล่า : วันนั้นต้องไปทำงานด้วยกัน แล้วการตรวจคัดกรองของหลายๆ ที่มันมีการตรวจเข้มข้นมาก เพื่อความปลอดภัย บางทีใช้ยิง บางที่ใช้ตรวจเลือด ซึ่งเรายังไม่เคยตรวจแบบนั้นก็ยังขำๆ กับเขาอยู่ แบบขึ้น 2 ขีดท้องป่าววะ

ลูลู่ : เราตรวจก่อนเพราะว่าเราไปถึงก่อน แบบล่าฉันขึ้น2ขีดไม่รู้ฉันจะรอดหรือเปล่ายังขำกันอยู่

ลาล่า : แต่พอเขามาอธิบายให้ฟังว่ามันหมายความว่าไง หันไปเจอเขาร้องไห้

ลูลู่ : วันนั้นแค่ 5 นาทีเราก็ว่านาน ขับรถกลับบ้านก็ร้องไห้ตลอด หลานเอาข้าวมาให้หน้าห้องก็กินไม่ลง

เพื่อนไม่ผ่านเรากลัวมั้ย?
ลาล่า : ล่าผ่านรอบแรกที่เป็นจุดพีคที่สุดไปแล้ว เราเป็นห่วงเพื่อนว่าจะไปหาเขาได้ยังไง กอดไม่ได้ จะให้กำลังใจแบบไหนให้เขารู้สึกดีขึ้น แต่เราผ่านตอนนั้นมาแล้ว

ลูลู่ : สวดมนต์นั่งสมาธิ แต่ก็ไม่มีสมาธิ หัวมันคิดอยู่แบบนั้น หลานเอากับข้าวมาดมก่อน อร่อยมั้ย แต่เรากินไม่ได้แค่นั้น เรายังวนไปว่ามันติดง่ายไม่แสดงอาการหรือเปล่า ก็แผ่เมตตาให้เจ้ากรรมนายเวร จิตตกแต่ไม่คิดสั้น เราไปตรวจบ่ายสาม จนห้าโมงของอีกวันก็ยังไม่ส่งมา เราก็คิดมาก จนโทรหาที่โรงพยาบาลเขาบอกระบบล่ม ระหว่างรอนั่งสวดมนต์ขอพร มีบนบาน ถ้าผลตรวจเป็นศูนย์จะนำบริวารมาถวาย จนหกโมงเย็นยังไม่โทรมาเราก็โทรไปเขาส่งกลับมา ผลจากการตรวจไม่พบเชื้อ หนูกราบเลย ละรีบส่งข้อความหาน้องสาวเราเป็นห่วงเขามากที่สุด เหมือนยกภูเขาออกจากอก

โกรธผลเทสอันแรกที่ไม่เสถียรหรือเปล่า?
ลูลู่ : ไม่ได้โกรธ หนูว่าดีมากกว่า มันเป็นการคัดกรองที่ดีเยี่ยมอยู่แล้ว เพราะเราไม่รู้ว่าได้รับไวรัสตัวไหน แล้วเราได้ไปตรวจแบบแท้จริงผลขเราคือมันไม่มี มาตรการของแต่ละที่ไม่เหมือนกัน