แพท พาวเวอร์แพท เผยเรื่องอย่างว่า..ในเรือนจำ ไม่ใช่แบบละคร

หลังจากที่ วันที่ 4 ม.ค. ที่ผ่านมา ที่เรือนจำกลางบางขวาง นนทบุรี กรมราชทัณฑ์ได้ทำการปล่อยตัวนักโทษในเรือนจำ ในโครงการโคกหนองนา แห่งน้ำใจและความหวัง จำนวน 117 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นรวมถึง "นายวรยศ บุญทองนุ่ม หรือ แพท พาวเวอร์แพท" อดีตนักร้องชื่อดัง ยุค90 เจ้าของเพลงรักอันตราย และ หลุดปากใช่ไหม ที่ถูกศาลตัดสินจำคุก 50 ปี ในข้อหา มียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและเสพ แต่ด้วยการประพฤติตัวดีในเรือนจำ เป็นครูดนตรีให้กับผู้ต้องโทษคนอื่นๆ กลายเป็นนักโทษชั้นดีได้รับการลดโทษต่อเนื่องจนเหลือการจองจำเพียง 16 ปี 6 เดือน

ล่าสุด "แพท พาวเวอร์แบงค์" ได้ร่วมให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ แฉ เผยถึงเรื่องราวชีวิตที่เปลี่ยนไปต้องปรับตัวหลังจากออกจากเรือนจำ โดยพิธีกร "มดดำ" ได้ถามว่า "สิ่งที่แปลกใจที่สุดคือสมาร์ทโฟน อย่างไอโฟนรู้จักไหม?" เขาได้ตอบว่า "ผมว่าก็คล้ายๆกันหมดนะ หน้าตาเหมือนกันแต่ไม่รู้ยี่ห้ออะไร"

สำหรับสิ่งที่ต้องปรับตัวมากๆหลังจากออกจากเรือนจำคือ การใช้ชีวิตพื้นฐาน การกิน การนอน การเข้าห้องน้ำ เนื่องจากตอนอยู่ในเรือนจำเป็นระบบหมด แม้กระทั้งเวลานอนจะเปิดไฟสว่างหมด นอนกันเยอะๆ ห้องน้ำเปิดโล่งปิดแค่ระดับหัวเข่า

แพท พาวเวอร์แพท เผยเรื่องอย่างว่า..ในเรือนจำ ไม่ใช่แบบละคร

เมื่อทราบว่าต้องออกจากเรือนจำ ก็มีความรู้สึกว่าตื้นตันใจ ดีใจ สิ่งที่เราเฝ้ารอมาถึงแล้ว พร้อมที่จะปรับตัวให้ดีขึ้น

คืนแรกที่กลับมานอนที่บ้าน รู้สึกว่าเปลี่ยนไปมากจากที่นอนธรรมดา มาเจอที่นอนนิ่มๆ จากที่ด้านในให้ผ้าห่ม 3 ผืน จะทำยังไงก็ได้แต่จะได้ 3 ผืนนั้นมาใช้ในการนอน

สำหรับคำที่เขาให้สัมภาษณ์ไว้ว่า "ถ้าไม่เข้าคุกอาจจะตายก่อน" เขาเผยว่า "เขาคลั่งไอดอลนักดนตรีต่างประเทศที่เสพยา เลยคิดว่านี่แหละแนวทางร็อคสตาร์ เดินตามโดยที่ไม่ได้แยกยแะในสิ่งที่ดีและสิ่งที่ไม่ดี"

หลังกำแพงสูงนั้นๆ สอนเขาได้มากทั้งเรื่องระเบียบวินัย การใช้ชีวิตกับคนส่วนใหญ่ และสอนในเรื่องบางครั้งที่เราคิดว่าเราเจ๋ง แต่จริงๆแล้วเราคือส่วนเล็กๆในโลกแค่นั้นเอง สอนเรื่องการเพียงพอในการดำเนินชีวิต สอนให้เราไม่ยึดติดกับสิ่งของ มีของเพียงไม่กี่ชิ้นก็สามารถใช้ชีวิตได้ จำกัดเรื่องเงินที่ใช้ให้ไม่เกิน 300 บาทต่อวัน

เมื่อถามว่า "แพทเป็นคนหน้าตาดี เข้าไปในนั้นปุ๊บเสียความบริสุทธิ์แน่นอน จริงไหม?" แพท เผยว่า "มันเป็นเรื่องของรสนิยม มีใครเข้ามาก็ต้องปฏิเสธเขาไปว่า ผมไม่ได้มีรสนิยมแบบนี้ แต่ถ้ามาเป็นเพื่อนกันได้ผมโอเคนะ ไม่แบ่งแยกเพศ เป็นเพื่อนกันดีกว่า เมื่อรู้คนแรกคนต่อไปก็จะรู้ต่อ"