เตรียมเผาร่าง สีเทา ตลกอาวุโส บริจาคร่างเป็นอาจารย์ใหญ่

ย้อนกลับไปเมื่อปี พ.ศ.2559 นายจรัล เพ็ชรเจริญ หรือ สีเทา ตลกอาวุโสวัย 84 ปี ที่เสียชีวิตลงจากอาการปอดติดเชื้อที่โรงพยาบาลชลประทาน โดยได้บริจาคร่างกายเป็นอาจารย์ใหญ่ แก่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทยนั้น 

ล่าสุดเเฟนเพจเฟซบุ๊ก ดาราภาพยนตร์ ได้โพสต์กำหนดการจัดพิธีฌาปณกิจ ในวันเสาร์ที่ 19 ธันวาคม เวลา 9.00 น. ณ เมรุ วัดบางบัวเขตบางเขน โดยโพสต์ระบุเเคปชั่นว่า

#ด้วยจิตคาราวะ #ศิลปินอาวุโส #ตลกลายคราม #สีเทา #จรัลเพ็ชรเจริญ หลัง #มอบร่างเป็นอาจารย์ใหญ่ #โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์สภากาชาดไทย #จัดพิธีฌาปนกิจ #เสาร์ที่19ธันวาคม เวลา 9.00 น. ณ เมรุ #วัดบางบัวเขตบางเขน
:
:
สีเทา ศิลปินอาวุโสผู้เป็นตำนาน ตลกรุ่นใหญ่ผู้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร คือแสดงตลกด้วยหน้าตาท่าทาง ลักษณะหลังโกง พุงป่อง เหมือน "เท่ง" ตัวตลกดาราหนังตะลุง ของทางภาคใต้ อาสีเทา หรือ จรัล เพ็ชรเจริญ ตลกอาวุโส ที่เสียชีวิตในวัย 84 ปี ด้วยอาการปอดติดเชื้อ เมื่อเวลา 2.19 น. ของวันที่ 17 ตุลาคม 2559 ที่โรงพยาบาลชลประทาน จังหวัดนนทบุรี

โดยอาสีเทาได้บริจาคร่างกายเป็นอาจารย์ใหญ่ แก่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย. ซึ่งนพ.ธันวา ตันสถิตย์ ผอ.ศูนย์ฝึกผ่าตัด โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย กล่าวว่า รพ.จุฬาฯ ได้รับร่างของ นายจรัล เพ็ชรเจริญ หรือ สีเทา มาไว้เป็นอาจารย์ใหญ่ให้กับนิสิตแพทย์ตามความประสงค์ของผู้ตายแล้ว จากการตรวจร่างกายเบื้องต้นของผู้ตาย พบว่า ร่างกายค่อนข้างสมบูรณ์ สามารถนำมาเป็นอาจารย์ใหญ่ได้เลย แต่ยังไม่สามารถเป็นอาจารย์ให้กับนิสิตแพทย์ในปีการศึกษา 2559 ได้ เพราะนิสิตแพทย์ปีที่ 2 ได้มีอาจารย์ใหญ่ขึ้นเรียนแล้ว ดังนั้น ร่างของ นายจรัล จะได้เป็นอาจารย์ใหญ่ให้กับนิสิตแพทย์ในปี 2560 ในแต่ละปี ทั้งนิสิตแพทย์และแพทย์เฉพาะทางของ รพ.จุฬาฯ จะมีการใช้ร่างอาจารย์ใหญ่เพื่อการศึกษากายวิภาคศาสตร์ประมาณ 300 ร่าง และใน 1 ร่าง หากเป็นร่างนิ่มจะสามารถอุทิศร่างเพื่อใช้ในการศึกษาได้เป็นเวลา 2 ปี แต่หากเป็นร่างปกติจะสามารถอุทิศร่างได้ประมาณ 1 ปีเนื่องจากจะมีการศึกษาทุกส่วนของร่างกายอย่างละเอียด และร่างของ นายจรัล นั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้จัดให้เป็นอาจารย์ใหญ่ของนิสิตแพทย์และจะใช้ระยะเวลาในการอุทิศร่างให้นิสิตแพทย์ได้ทำการศึกษาเป็นเวลา 1 ปี อย่างไรก็ตาม โดยปกติแล้วการจะนำร่างผู้เสียชีวิตมาทำเป็นอาจารย์ใหญ่ได้นั้น จะใช้ระยะเวลาในการดองน้ำยาฟอร์มาลินประมาณ 2 สัปดาห์ ก็สามารถนำร่างมาเป็นอาจารย์ใหญ่ได้เลย ส่วนโรคที่ไม่สามารถบริจาคร่างกายเป็นอาจารย์ใหญ่ได้ คือ ไวรัสตับอักเสบ ติดเชื้อเอชไอวี (HIV ) หรืออยู่ในช่วงพิสูจน์ทางคดี เป็นต้น
#กำหนดงานฌาปนกิจ อาสีเทา นายจรัล เพ็ชรเจริญ จะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 19 ธันวาคม 2563 เวลา 9.00 น. ณ วัดบางบัว เขตบางเขนกรุงเทพมหานคร
โดยร่างอาจารย์ใหญ่สีเทา จะมาถึงศาลาแสงนาค ประมาณ 8.30น. (เคลื่อนจากโรงพยาบาลจุฬา) พิธีฌาปนกิจคือ 9.00 น.

สีเทา หรือ จรัล เพ็ชรเจริญ เป็นดาราตลกอาวุโส มีบุคลิกเด่นคือแสดงตลกด้วยหน้าตาท่าทาง ลักษณะหลังโกง พุงป่อง เหมือน "เท่ง" ตัวตลกดาราหนังตะลุง ของทางภาคใต้ เกิดเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2475 ที่อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี
บิดาคือ จ.ส.อ.เมฆ เพ็ชรเจริญ เป็นนายทหารเรือเก่า ส่วนมารดาคือ นางจรูญ เพ็ชรเจริญ เป็นแม่ค้าขายขนมหวาน ปัจจุบันเสียชีวิตแล้วทั้งคู่

สีเทาเริ่มเข้าสู่วงการโดยชักชวนของเสน่ห์ โกมารชุน ให้เป็นมาเป็นนักพากย์ภาพยนตร์ และแสดงภาพยนตร์เป็นตัวประกอบในบทตลกเรื่องแรก คือ ฟ้าธรรมาธิเบศร์ นำโดย วิไลวรรณ-พันคำ ฉายวันที่ 8 มีนาคม 2499 ตามมาด้วย เรื่อง สี่สิงห์นาวี นำโดย วิไลวรรณ-พันคำ-สุรสิทธิ์ ฉายวันที่ 29 ธันวาคม 2499 เล็บครุฑ นำโดย อมรา อัศวนนท์-ลือชัย นฤนาท ฉายวันที่ 12 พฤษภาคม 2500 และอีกหลายเรื่อง ต่อมาเข้ารับราชการตำรวจ ตั้งแต่ประมาณ พ.ศ. 2520 จนเกษียณอายุราชการ

ชีวิตส่วนตัวสมรสกับยุพิน แก้วประเสริฐ มีบุตรสามคน และมีลูกติดจากภรรยาเก่า 1 คน
#รางวัลที่ได้รับ
* รางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม จัดโดยชมรมวิจารณ์บันเทิง ประจำปี พ.ศ. 2548 จากเรื่อง มหา'ลัย เหมืองแร่
* รางวัลเกียรติยศคนทีวี ในพิธีประกาศผลรางวัลโทรทัศน์ทองคำ ครั้งที่ 19 ประจำปี พ.ศ. 2547 ร่วมกับ กำธร สุวรรณปิยะศิริ และอารีย์ นักดนตรี
* รางวัลเกียรติยศ จากนิตยสารแฮมเบอร์เกอร์ ประจำปี พ.ศ. 2551
* รางวัลเกียรติยศ ในพิธีประกาศผลรางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์ ครั้งที่ 25
อาสีเทาเคยล้มป่วยจากโรคความดันโลหิตสูง และหลอดเลือดแตกในสมอง จนเกือบถึงแก่ชีวิตแต่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่9 ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าพระราชทานดอกไม้มาเยี่ยม ซึ่งทำให้สีเทายังสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณมาจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต และได้ตั้งปณิธานจะทำความดีถวายจนลมหายใจสุด โดยการบริจาคร่างกายเป็นอาจารย์ใหญ่ ในการทำบุญครั้งสุดท้ายของชีวิต