เจจินตัย หันหลังให้วงการ เตรียมพา น้องพลอยเจ ไปใช้ชีวิตที่อเมริกาถาวร


เจจินตัย หันหลังให้วงการ เตรียมพา น้องพลอยเจ ไปใช้ชีวิตที่อเมริกาถาวร

ยิ่งโตก็ยิ่งน่ารักจริงๆ สำหรับ น้องพลอยเจ ลูกสาวคนสวยของคุณพ่อหน้าเด็ก จิม-เจจินตัย อันติมานนท์ และภรรยาคนสวย บี พลอยพัชชา เพราะหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู แก้มยุ้ยตาโตเหมือนตุ๊กตาเดินได้แล้ว แถมยังพูดเก่ง มีพัฒนาการที่ดีด้วย จึงไม่แปลกใจจริงๆ ที่ตอนนี้มีพี่ๆ แฟนคลับหลงรักกันทั่วบ้านทั่วเมือง พร้อมขึ้นแท่นซุปตาร์ฟันน้ำนมขวัญใจมหาชนอีกด้วย ล่าสุด เจจินตัย ก็ได้มารายการ ต้มยำอมรินทร์ ผลิตโดย CHANGE2561 พร้อมอัปเดตเรื่องราวชีวิตของลูกสาว



กลายเป็นขวัญใจสาวแท้ สาวเทียมทั้งประเทศไทยเลย

เจจินตัย : ช่วงนั้นกลุ่มดาราที่มีซิกแพคมันน้อย ตอนนั้นมีแค่เรา เต้ กำปั้น เกือบประกวดเพาะกายเลย ไปไกลมาก ทำอาหารคลีนด้วย ทานแต่อกไก่ บล็อคโคลี่เท่านั้น แต่สุดท้ายแล้ว คนจะเข้าใจว่าการที่จะลีนเราต้องกินอาหารที่คลีนเท่านั้น แต่ผมเอาตัวเองเป็นคนทดลองว่าเรากินอาหารที่มีรสชาติได้ แต่เราต้องทานในปริมาณที่มีโซเดียมน้อย ไม่ทานอาหารที่มีรสเค็มมาก หวาน เค็ม นี่อันตราย อาหารที่มีรสเค็ม หนักกว่าหวานครับ

เพราะมีรูปร่างที่ดีขนาดนี้ มีสาวๆ เข้ามามากมายจนเป็นภาพลักษณ์ของ ผู้ชายเจ้าชู้
เจจินตัย : ภาพนี้เป็นมาตั้งแต่เข้าวงการเลย เมื่อก่อนก็ยอมรับนะครับว่าเจ้าชู้จริง ยุคนั้นดาราน้อย เราก็เลยเพลิน ตอนนี้เลิกแล้วครับ นิสัยเจ้าชู้ เพราะมีลูกด้วยแล้วครับ


เจจินตัย หันหลังให้วงการ เตรียมพา น้องพลอยเจ ไปใช้ชีวิตที่อเมริกาถาวร


เห็นว่าช่วงที่ฮอตๆ มีละคร 11 เรื่องเลย ถ่ายพร้อมกันด้วย

เจจินตัย : มีบทที่เป็นบู๊ แอคชั่น ส่วนใหญ่จะได้รับบทร้ายอยู่แล้ว 11 เรื่อง เราไม่ได้อยู่ทุกตอนนะครับ บางเรื่องก็ 7 ตอน 8 ตอน พอเราจะถ่ายเรื่องนี้จบ เรื่องใหม่ก็เปิดกล้องพอดี ถ่ายละคร 7 วันเลย จันทร์ อังคาร พุธ 2 เรื่อง พฤหัส ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ 4 เรื่อง การอยู่ในวงการนี้ ถ้ายอมแพ้ก็จบ แต่ถ้าเรามีการเปลี่ยนแปลงตัวเอง และพัฒนาตัวเองอยู่เรื่อยๆ งานก็จะมีเข้ามาให้เราเรื่อยๆ ครับ

ขอย้อนกลับไปถามตอนเราเป็นนักแสดงวัยรุ่น แล้วเราต้องเปลี่ยนตัวเองมาเป็นอีกแบบของการแสดง ชีวิตช่วงนั้นเป็นยังไงบ้าง

เจจินตัย : ตอนนั้นเราเหมือนเป็นพระเอกช่วง 90 ทุกคนเต็มที่กับเราหมด แต่พอเราเปลี่ยนมาเป็นตัวสอง คนที่เราเจอเปลี่ยนไปจริงๆ เป็นสัจธรรมมาก เราไม่กลัวที่เราไม่ได้เป็นพระเอกนะครับ แต่เราแค่เฮิร์ตมากกว่าเพราะความรู้สึกเปลี่ยนไป พระเอกก็จะมีคนมาอวย อะไรก็ดีไปหมด แรกๆ ก็สัมผัสได้นะครับ แต่เราก็ทำใจได้ เข้าใจได้ เมื่อทุกอย่างเปลี่ยนไป


เจจินตัย หันหลังให้วงการ เตรียมพา น้องพลอยเจ ไปใช้ชีวิตที่อเมริกาถาวร


ในช่วงที่เปลี่ยนแปลงในเรื่องการแสดง เป็นช่วงที่เราแต่งงานพอดี เลยไม่ค่อยมีคนรู้เท่าไหร่ แต่ที่กลับมาฮอตได้เพราะลูกสาว "น้องพลอยเจ" ดึงกลับมา

เจจินตัย : ด้วยความที่เราไม่ชอบเป็นข่าวอยู่แล้ว เราก็จัดไม่ได้ใหญ่มาก จดทะเบียนกับภรรยาอย่างถูกต้อง และเราก็จัดกันในครอบครัว เราไม่ได้คิดว่าจะเป็นประเด็นที่คนจะสนใจอะไรขนาดนั้น เราก็ใช้ชีวิตปกติ แต่พอเรามีลูก เราก็ลงรูปลูกเรา แต่มีคนมาสนใจในความน่ารักของพลอยเจเยอะ ชีวิตเราเปลี่ยนเลย มีแต่คนมาเอ็นดูลูกเรา พอเขาเอ็นดูแล้วเขาก็มานึกถึงเรา ซึ่งหนึ่งในคนที่เอ็นดูลูกเราก็ คือ พี่อ้วนเลยครับ พี่อ้วนเข้ามาคอมเมนต์ หนูน่ารักจังนะคะลูก เราก็ดูใคร ปรากฎว่าเป็นพี่อ้วน (ยิ้ม)

ส่งเสริมเขาให้เรียนการแสดงตั้งแต่ 3 ขวบเลย
เจจินตัย : ใช่ครับ พยายามให้เขาได้ลองเรียนหลายๆ อย่าง เพราะเราอยากรู้ว่าเขาชอบอะไร ไม่ชอบอะไร พาไปเรียนแอคติ้งแล้วเรารู้สึกว่าเขาชอบ เราก็เลยไปต่อ ให้เขาเรียนเป็นกลุ่มเลย จะได้ละลายพฤติกรรม กล้าออกสังคม ไปเจอกล้อง เราได้เห็นเขามีความสุข มีเพื่อน ลูกเป็นคนที่มีพลังเยอะ ชอบว่ายน้ำ เตะฟุตบอล อย่างงานละเอียดพวกทำอาหาร ลูกบอกว่าไม่เอาเลย แต่ถ้าถามว่าจะดันให้เล่นละครไหม ไม่ได้ดันหรอกครับ เพราะโลกของการเล่นละครมันเหนื่อยมาก

แล้วถ้ามีคนติดต่อให้เขาเล่นละคร
เจจินตัย : ยังไม่ใช่ตอนนี้ครับ ยังไม่ใช่วัยเขา


เจจินตัย หันหลังให้วงการ เตรียมพา น้องพลอยเจ ไปใช้ชีวิตที่อเมริกาถาวร


พาลูกเข้าวัดด้วย เพิ่งทำหรือทำมานานแล้ว

เจจินตัย : เรื่องการทำบุญ ตัวผมทำมาตั้งแต่อายุ 15 แล้วนะครับ แต่ว่าเราไม่ได้มีโซเชียลอะไรเท่ากับทุกวันนี้ ตอนนี้เราลง ก็ได้เห็นว่าเราทำอะไรบ้าง เราทำบุญ จิตเราก็สงบ แล้วเราก็ให้เขาซึมซับไปเรื่อยในสิ่งที่เราทำ ผมพาเขาเข้าวัดตั้งแต่ 4 เดือน จนตอนนี้เขาสวดมนต์ได้

มีลูกสาวน่ารักขนาดนี้ ทำไมไม่คิดจะมีอีกสักคน
เจจินตัย : ตัวเราเองอยากจะมี แต่ภรรยาเดี๋ยวก็อยาก เดี๋ยวก็ไม่อยาก เรื่องนี้มันก็ต้องขึ้นอยู่กับความสมัครใจแต่ละคนด้วยเนอะครับ เพราะว่าเขามีความรู้สึกว่าไม่รู้จะแชร์ความรักยังไง เพราะว่ารักคนนี้มาก ส่วนผมอยากมีลูกชาย แต่สุดท้ายปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ ถ้าเขาพร้อมเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น เพราะภรรยาต้องเป็นเจ้าบ้านใช่ไหม (หัวเราะ)


เจจินตัย หันหลังให้วงการ เตรียมพา น้องพลอยเจ ไปใช้ชีวิตที่อเมริกาถาวร


แล้วจริงไหมที่จะย้ายไปอยู่ที่อเมริกา

เจจินตัย : ใช่ครับ ผมมีหุ้นส่วนเปิดร้านอาหารไทยอยู่ที่อเมริกา ทำมา 7 ปีแล้ว เลยอยากพาลูกไปลุย ตอนแรกแพลนไว้ว่าจะไปตั้งแต่เดือนเมษายน แต่เพราะโควิดมา ก็เลยพักไว้ก่อน

ไปเที่ยวหรือไปยังไง
เจจินตัย : ไปอยู่ถาวรเลย ไปเป็นนักลงทุนที่โน้น ละครหรือสิ่งที่เราจะสูญเสียไปก็ไม่เสียดายครับ รู้สึกแลกกัน เพราะอยู่ที่นั่นก็มั่นคง อยู่ที่นี่ลูกสบายไป เพราะมีแต่คนเอ็นดู รัก ช่วยเหลือ ถ้าเราไปอยู่ที่อเมริกาสัก 10-15 ปีแล้วกลับมา ลูกน่าจะกลายเป็นคนแข็งแกร่ง ประสบความสำเร็จในชีวิต ผมบินไปดูที่เรียนให้ลูกแล้วนะครับ ไปดูสถานที่ ไปดูโลเคชั่นร้านเรียบร้อยแล้ว

เจจินตัย : แต่ตอนนี้ยังไปไม่ได้ เลยรับงานต่อก่อนครับ แล้วค่อยดูทิศทางอีกครั้ง เพราะว่าถ้าเราไปเลยตอนนี้ แปลว่าเราตัดทุกอย่างทางนี้เลย ตอนนี้เลยต้องดูสถานการณ์ เศรษฐกิจ และ ความปลอดภัยก่อนครับ ซึ่งภรรยาผมอยากไปมาก อยากพาลูกไปลุย

ไปเห่อลูก ไม่เห่อซิกแพคแล้วเหรอ
เจจินตัย : ไม่เห่อแล้วครับ เกรงใจลูกมากๆ เพราะเรามีลูกแล้ว เพราะบางทีเราลงรูปหน้าเราเอง แต่มีคนมาคอมเมนต์ว่าไม่เอารูปพ่อจะเอารูปลูก


เจจินตัย หันหลังให้วงการ เตรียมพา น้องพลอยเจ ไปใช้ชีวิตที่อเมริกาถาวร


เจจินตัย หันหลังให้วงการ เตรียมพา น้องพลอยเจ ไปใช้ชีวิตที่อเมริกาถาวร


เจจินตัย หันหลังให้วงการ เตรียมพา น้องพลอยเจ ไปใช้ชีวิตที่อเมริกาถาวร


เจจินตัย หันหลังให้วงการ เตรียมพา น้องพลอยเจ ไปใช้ชีวิตที่อเมริกาถาวร


เจจินตัย หันหลังให้วงการ เตรียมพา น้องพลอยเจ ไปใช้ชีวิตที่อเมริกาถาวร

vvvvvv
vvvv
vv
v


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี อัมรินทร์TV


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
ตามข่าวteenee.com จาก LineToday เข้าไปคลิ๊กกดติดตามได้เลย
กระทู้เด็ดน่าแชร์