พชร์-นิก เคลียร์ชัดๆ ทะเลาะสร้างกระแสมั้ย? ปัดเหตุเลิกแฟนเก่ายอมจูบปากคืนดี

พชร์ : เราคุยกัน เพราะมันคาใจอยู่ เรารู้สึกว่าทะเลาะกับคนๆ นึงปีหน้าต้องขึ้นศาล ก็เคลียร์กันดีกว่าจบๆไป เพราะว่าตอนนั้นเรายังหัวร้อนอยู่ ตอนนี้เรามาตั้งสติคิดๆ มันก็ไม่ได้ผิดอะไรมาก ถ้ามัวทะเลาะกันต่อมันก็ไม่จบไม่สิ้น อย่างน้องเขาก็เคยทำงานกับเรา ตั้งแต่มีเรื่องไม่คุยกันเลย ตัดบล็อกทุกทาง พอไม่คุยกันก็ไม่เข้าใจกันเลยเป็นเรื่องขึ้นมา

ตอนนั้นที่ทะเลาะกันรู้สึกยังไง?
นิก : จริงๆ ตั้งแต่ทำงานกันมาพี่พชร์เขาเป็นคนขี้งอน เขาก็จะบล็อกแล้วเราก็จะไม่ค่อยได้คุยกัน มันก็เกิดความอึดอัด

พชร์ : เราไม่ได้งอนทุกคน ใครที่เราโทรไปไม่รับสายเราก็บล็อกหมด

ยังไงถึงคืนดีกัน?
นิก : พี่พชร์เขาให้ลูกน้องไลน์มาผม ให้ผมติดต่อหาพี่พชร์หน่อยมีงานมาให้ แต่ตอนนั้นผมยังไม่ติดต่อกลับประมาณ 3-4 ครั้ง ผมก็ทักพี่พชร์ไป เราจะรู้ว่าพี่พชร์เวลาทะเลาะกันเขาจะทำร้ายเรา แต่จริงๆ คือเขาไม่อยากทำร้ายเรา เหมือนใช้ความเข้าใจกันมากกว่า ผมไม่เคยโกรธเขา

พชร์ : ใจมันก็รอโทรศัพท์เราว่าเมื่อไหร่เราจะโทรไป เราให้ลูกน้องติดต่อไปให้โทรหาเราเพราะเราเป็นผู้ใหญ่ มันก็ไม่โทร มันให้เราเลิกบล็อกไลน์ เราก็เลิก เราก็บอกว่าจะเล่นหนังไหม อยากทำงานไหม อยากทำงานก็โทรมา เรามีสัญญาอีก 2 ปีอยากจะช่วยก่อนหมดสัญญาไป ถ้าหมดสญญาแล้วน้องจะไปทำอะไรก็เรื่องของน้อง ตอนนั้นเรามีพระเอก 2 คนแล้วอยากหาตัวโกงที่มันแบดจริงๆ เราก็นึกถึงมัน ไม่มีใครเล่นบทเลวๆ ได้เท่ามัน ก็คิดถึงมันว่ามันจะมีเงินใช้ไหม จะผ่อนบ้านยังไง

ตอนที่ติดต่อไปคุยกลัวมั้ย?
นิก : ผมคิดก่อนเลยว่าพี่พชร์เขามาไม้ไหนตอนนี้ หลังจากที่เราทะเลาะกัน มันมีหลายความคิดมากพี่ เราไม่รู้ว่าเขาคิดยังไง ผมก็ทักไปว่าทีมงานให้ติดต่อพี่มานะ เขาก็ตอบกลับมาว่าเป็นยังไงบ้างนิก สบายดีมั้ย พี่เป็นห่วงเสมอ ผมยังจำคำนี้ได้เลย

พชร์ : ตอนนั้นเราก็กลัวว่ามันจะแคปข้อความเราไปโพสต์อีกมั้ย เลยนัดเจอดีกว่าเพราะมันอัดอะไรเราไม่ได้ ในไลน์มันจะมีหลักฐาน

นิก : ตอนนั้นเราก็คิดอยู้พักนึงว่าจะไปเจอมั้ย เราถ่ายหนังมาตลอด 7-8 ปีไม่ได้พักเลย แล้วก็อยากทำตามฝันของตัวเองด้วย ประโยคพี่เป็นห่วงนิกเสมอนะ มันทำให้รับเล่นหนังเลย ผมอ่อนเลย

พชร์ : มีเพื่อนไปด้วยเป็น 4 คนก็คุยกัน ว่าจะทำงานด้วยกันไหม ตอนนั้นไม่โกรธล้วเราไม่พูดเรื่องความหลังกัน

นิก : เราพยายามอธิบายว่าเรารู้สึกอย่างนี้ แต่พี่พชร์บอกว่าเรื่องเก่าๆ เราจะไม่พูดถึงกันแล้ว เรามาเริ่มเรื่องใหม่ๆกันดีกว่า

แปลว่าไม่ได้เคลียร์ใจกัน?
พชร์ : เคลียร์แล้ว เราให้อภัยนิก ก็เท่ากับว่าเราเคลียร์แล้ว เพราะพูดไปเดี๋ยวทะเลาะกันอีก

เรื่องอยู่ในศาล?
พชร์ : ในศาลก็อยู่ไป เดี๋ยวปีหน้าเราต้องเข้าไปคุยกันที่ศาล มันยังมีรูปคดีอยู่ไม่ทราบว่ายังไง เดี๋ยวเราต้องปรึกษาทนายความ

ไปเจอรู้สึกยังไง?
นิก : ก็ไม่ได้เจอกันปีกว่า ตอนไปก็เกร็ง แต่พอเจอปุ๊บเห็นหน้าก็ไม่เกร็งแล้ว เขายิ้มแย้มเข้าหาเรา สบายๆ เราอยากอธิบายในมุมของเราว่าเรารู้สึกยังงี้ เขาก็มีมุมของเขา

พชร์ : มุมของฉันต้องมาเหนือกว่าอยู่แล้ว เพราะเราให้โอกาสน้องแล้ว ถ้ายังเรื่องมากอีก บอกว่าเรามาทำงานร่วมกันดีกว่า เรื่องเก่าๆ ก็ลืมมันไป อย่าไปพูดถึงมันอีก พูดถึงเดี๋ยวจะขัดใจกันอีก ตกลงทำไหม เราบอกตรงๆ เรามองใครไม่ออกที่จะมาเล่นเป็นตัวโกงที่มันเลวจริงๆเลย

พชร์ : ตอนนั้นเราขึ้นศาลเราไม่คุยกับเขา คิดว่าถ้าสมมติศาลตัดสินว่าเขาผิด มันก็ต้องมีเงินประกันตัว เราก็คิดในใจมันจะเอาเงินจากที่ไหน เราก็จะเอาเงินไปประกันออกมา มัน 3-4 แสนไง มันจะเอาเงินจากไหน ถึงแม้เราจะเป็นคนฟ้อง

ปีหน้าขึ้นศาลจะเป็นยังไง ทิศทางจะดีขึ้นไหม?
พชร์ : ศาลเขาพยายามให้เราไกล่เกลี่ยกันมาอยู่แล้ว 3 รอบ ต่างคนต่างไม่ยอม พี่อะยอมแต่มันไม่ยอม เราก็เลยไม่เป็นไร ถ้าเขาโอกาสไกล่เกลี่ยเราก็ไกล่เกลี่ยอีกรอบ

ถ้าศาลตัดสินว่าพี่พชร์ผิด?
พชร์ : มันเล่นหนังกับเราอยู่ ก็หักค่าตัวมันมาประกันตัวเราเอง

บางคนบอกทะเลาะสร้างกระแสเพราะจะมีหนังเรื่องใหม่?
พชร์ : ทะเลาะกันจริงๆ ก่อนหน้านี้มีหนังแล้วไม่มีเขาเล่น แต่มองตัวละครแล้วมันพอดีมันก็คิดถึงเด็กเราที่มีสัญญาอยู่ไง ไม่คิดจะสร้างกระแสเพราะทุกวันนี้ดังอยู่แล้ว กลับมาครั้งนี่พลิกบทบาทเลย เราให้โอกาสน้องให้คิดว่าอะไรถูก อะไรผิด อะไรสมควรทำ อะไรไม่สมควรทำให้คิดเองเพราะโตแล้ว แต่เวลาคนพูดบอกผู้ใหญ่รังแกเด็ก ไม่มีใครบอกเด็กรังแกผู้ใหญ่ คำนี้ควรเลิกพูดได้แล้ว

นิก : ตอนนั้นต่างคนต่างความติด ต่างคนต่างคิดว่าตัวเองถูก แต่พอเราได้มาเคลียร์มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด เราก็ได้กลับมามองตัวเอง ว่าเราเป็นเด็กไม่ควรไปก้าวร้าวใส่ผู้ใหญ่

น้องคิดได้แล้วรู้สึกยังไงบ้าง?
พชร์ : เราก็รู้สึกดี รู้สึกดีกับเค้ามาตลอด เราเข้าใจบางครั้งเด็กสมัยนี้ สองคนสองรุ่นมาจับมือร่วมกันมันก็จะดีขึ้น

ก่อนหน้านี้บอกว่าไม่อยากกลับมาเล่นหนังแล้ว?
นิก : เป็นเพราะคำๆนั้นด้วย คิดถึงกองถ่ายด้วย ผมเข้ามาตั้งแต่วันที่ผมเด็กมากๆ คนในกองพี่พชร์เป็นทีมๆเดิม เราเหมือนเป็นครอบครัว

มีค่ายหยังอื่นมาติดต่อ?
นิก : จริงๆก็มีนะ ช่วงที่ผมมีปัญหา ค่ายเสนอมาว่าจะเอาจำนวนเงินให้พี่พชร์ แต่ผมก็ไม่อยากเล่น

คนเม้าท์ที่ต้อวกลับมาเล่นหนังกับพี่พชร์เพราะไปไหนไม่รอด?
นิก : ได้ยินมาบ่อยมาก ผมเจอสิ่งที่ผมชอบแล้ว สิ่งที่ผมรักแล้วคือการเป็นยูทูปเบอร์ ตอนนี้ผมก็มีช่องของผมอยู่ในช่วงพัฒนาและก็ทำให้ดีที่สุด ถ้าเราจริงจังกับสิ่งไหนที่เราทำเราไปรอดแน่ๆ

ช่วงที่ทะเลาะกัน นิกชวดงานไปหลายงาน?
นิก : เราก็รู้สึก มันเยอะมากๆ เพราะพี่พชร์ก็ประกาศออกสื่อใครจ้างก็คือฟ้อง

พชร์ : ไม่เกี่ยว แฟนเก่าเขาไม่เกี่ยวอะไรกับเรา คุณพ่อเขาเสียเราก็ยังไปแสดงความเสียใจกับเขาอยู่เลย เราไม่เคยยุ่งเรื่องแฟนเก่าตั้งแต่เข้าวงการมาใหม่ๆ เรื่องส่วนตัวเราไม่ยุ่ง แต่เรื่องงานต้องฟังเรา

ยังไม่พาแฟนใหม่ไปเจอที่พชร์?
นิก : จริงๆผมอยากพาไป แต่เหมือนเราเพิ่งกลับมาคุยกัน แต่วันที่นัดเจอกันผมจะพามาเจอแล้ว จริงๆเรามาคุยกัน พี่พชร์ให้รอที่วันเหมาะสมก่อน

แอบจิ้นกับนิก?
พชร์ : ไม่จิ้นๆ เราไม่ชอบสไตล์นี้อยู่แล้ว ยกตัวอย่างดาราเข้ม หัสวีร์ ชอบสไตล์ยังงั้น

กลัวว่าจะกลับไปทะเลาะกันอีกไหม?
พชร์ : คงไม่แล้ว เพราะ 2 ปีมันแป๊ปเดียว หมดสัญญาไปทำอะไรก็เรื่องของมัน เราก็ปล่อยเขา ถ้าเขาไม่ต่อสัญญาก็เรื่องของเขา

กลับมาสนิทเหมือนเดิม?
พชร์ : ก็สนิท เมื่อวานก็เริ่มทำงานแล้ว ความรู้สึกก็ต้องเชื่อฟังกัน ถ้าเชื่อฟังเร็วขึ้นก็สนิทกันมากขึ้น

นิก : เราคุยกันเคลียร์แล้วเข้าใจแล้ว

หนังที่นิกเล่นกับพี่พชร์?
พชร์ : บอกโลกให้รู้ว่ากูรักมึง เป็นหนังเพื่อนกัน รักกันโดยที่ไม่บอกกัน ชายรักชายนิดหน่อย นิดเป็นตัวโกงสร้างปัญหาให้วาย มันเป็นวายอีกรูปแบบนึง วายจนๆหน่อย การทำงานยังไม่คลิก ถ้าคลิกจะด่ามากกว่านี้

นิก : ผมนอนไม่หลับเมื่อวานไม่โดนด่า จริงๆวันๆนึงต้องโดนด่า

นิก : หลังจากที่เราผ่านการเข้าใจผิดกัน ผมเป็นเด็กด้วย อาจจะมีพฤติกรรมที่ดูก้าวร้าว วันนี้ก็เตรียมพวงมาลัยมา ขอโทษพี่พชร์ ให้พี่พชร์ให้อภัยกันและกลับมารักกันเหมือนเดิม

พชร์ : ไม่เป็นไรก็ยังทำงานด้วยกัน เป็นห่วงมาเสมอ เป็นห่วงตลอด อยากจะบอกเขาหน่อยว่าเวลาจะเลือกอะไรให้กับชีวิตตัวเอง ต้องตั้งใจเลือกหน่อย ไม่เอาขยะมาเข้าตัวเอง การใช้ชีวิตเลือกสิ่งดีๆให้กับตัวเขาชีวิตต้องดีขึ้นไม่ใช่ตกต่ำลง เลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับชีวิต ไม่ใช่ว่าเอาหมด

นิก : ผมเข้าใจ เขาเป็นคนปากร้ายใจดี ไม่ค่อยชอบพูดไรหวานๆ

เขาบอกให้เลือกสิ่งดีๆ อย่าเอาขยะเข้ามา ถ้าเป็นเรื่องแฟนเราจะโกรธไหม?
นิก : ผมไม่โกรธทุกคนมีสิทธิ์ให้คำปรึกษา ให้คำแนะนำ แต่สุดท้ายแล้วมันอยู่ที่ตัวเราแค่นั้นเอง
พชร์ : เนี่ยมันเลือกเข้ามาปีนึงมันหงอยเลยอ่ะ (หัวเราะ)

ทำไมถึงทำยูทูบกับแฟน?
นิก : จริงๆมันเป็นเรื่องที่เสี่ยงมาก การที่เราทำช่องของเราเอง จนคนซัพเยอะ แต่พอมีปัญหาชีวิตผมก็เลิกทำไป แต่พอวันนึงผมรู้สึกว่า ผมมีชีวิตชีวามากขึ้น มีพลังบวกมากขึ้น บอกตรงๆ ว่าช่วงโควิดผมแย่มากๆอยู่บ้านคนเดียว มีคนนี้มาช่วยดึงขึ้นมา ผมอยากให้ความสดใสตรงนี้มอบให้ทุกคนมีรอยยิ้ม