เปิดตัวแฟนหนุ่มของ เบลล์ เลลาณี รักครั้งนี้คุณแม่ แก้ว อภิรดี เซย์เยส!

แม่แก้ว : สนิทกันมาก รักกันมาก ตีกันมาก ชอบหัวเราะพร้อมกัน แล้วแต่มีทุกอารมณ์ใส่กัน

ตีกันเรื่องอะไร?
แม่แก้ว : บางทีก็ตีกันเรื่องแย่งเสื้อผ้า เวลาพี่ซื้ออะไรใหม่ๆ มา แล้วบอกว่าเผื่อเบลล์ชอบก็ใส่ด้วยกันได้ เสร็จแล้วเบลล์ควชอบเร็วไปหน่อย ป้ายยังอยู่เลย เบลล์เอาไปเปิดซิงทุกที

เบลล์ : เวลาคุณแม่ไปช้อปปิ้ง คุณแม่จะวีดิโอคอลมาว่าตัวนี้ชอบไหม ซื้อไซน์นี้แล้วกันเราจะได้ใส่ด้วยกันได้

ไซน์บิกินี่ ชุดเสื้อผ้า ไซ์เดียวกันไหม?
เบลล์ : ก็ใส่ชุดเดียวกันนะคะ

แม่แก้ว : ชุดลูก แก้วเตรียมชุดของแก้วไป แบบเสื้อสายเดี่ยว แล้วข้างล่างเป็นกางเกง ลูกบอกมี๊ซื้อชุดที่ไหน เราก็ยิ้มดีใจคิดว่าลูกชอบเทส ทำไมหรือลูก เขาบอกเบลล์จะเอาไปเผา มันไม่ได้ ไหนมี๊บอกว่าเราจะมีคอนเซ็ปต์เป็นเพื่อนกัน เบลล์ใส่อย่างนี้ แล้วดูมี๊สิใส่อะไรลายเลอะเทอะไปหมด เบลล์ก็เลยเอาชุดเขามาให้

แม่แก้ว : มันก็ประมาณนึงนะ เพราะว่าพี่แก้วค่อนข้างทำงานหนัก ทั้งปี 7 วันจะถ่ายละครตลอด อะไรที่เป็นวิตามินหรือแม้แต่การออกกำลังกายเสริม ก็จะเสริมอยู่ตลอดเวลา เพื่อช่วยให้ร่างกายเรามีความแข็งแรงเป็นพื้นฐาน

ทำงานหนัก แต่เห็นว่าลูกต้องอยู่ในสายตาตลอด?
แม่แก้ว : ยุคนี้เรามีทั้งกล้องวงจรปิดแล้วมีทั้งมือถือ ไม่ยากเลย ถ้าเราจะดูว่าตอนนี้อยู่บ้านกันไหม เราก็ส่องกล้องวงจรปิดก็ดูว่าลูกยังอยู่บ้านไม่ไปไหน แต่ถ้าในวงจรปิดไม่เห็น เห็นแต่รถ เราก็ต้องฮัลโหลถามคนที่บ้านแล้ว เด็กยุคใหม่เพื่อนเยอะ คือเราไม่ได้ห่วงว่าเจาคบคนไม่ดี แต่เราห่วงว่าเขาจะเกิดอันตรายในขณะที่เราไว้ใจเกินไป

เบลล์ปีนี้อายุเท่าไหร่แล้ว?
เบลล์ : 26 ค่ะ

26 แล้ว คุณแม่ว่าคุณแม่ห่วงเกินไปไหม?
แม่แก้ว : ก็ห่วงเรื่องขับรถชนหรือว่าเรื่องไปไหนแล้วไม่รู้ แม่ว่าเป็นแม่นะ บูก 60 ก็ยังห่วง ถ้าพี่ยังอายุถึง เรื่องความปลอดภัยเรามองว่าเป็นเรื่องต้องห่วง เบลล์บางทีก็ดื้อ ถ้าห่วงตรงๆ เดี๋ยวทะเลาะกัน ส่วนใหญ่จะบ่นฝากพี่ชาย ฝากเพื่อน ฝากคนรอบด้านให้มาบ่นเขาอีกต่อนึง

แม่แก้ว : ก็ห่วงเรื่องขับรถชนหรือว่าเรื่องไปไหนแล้วไม่รู้ แม่ว่าเป็นแม่นะ บูก 60 ก็ยังห่วง ถ้าพี่ยังอายุถึง เรื่องความปลอดภัยเรามองว่าเป็นเรื่องต้องห่วง เบลล์บางทีก็ดื้อ ถ้าห่วงตรงๆ เดี๋ยวทะเลาะกัน ส่วนใหญ่จะบ่นฝากพี่ชาย ฝากเพื่อน ฝากคนรอบด้านให้มาบ่นเขาอีกต่อนึง

แล้วเวลามีผู้ชายมาจีบ เราได้ปรึกษาคุณแม่ก่อนไหม?
เบลล์ : ก็คุยกันนะคะ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคน เราคุยกันแล้วรู้สึกว่าคนนี้ลองพามาเจอแม่ดู แต่ก็ยังไม่เคยพาใครมา แค่มีเล่าๆ ถึง แต่คนล่าสุดพามาแล้ว

แม่แก้ว : ลูกสาว ลูกชายเหมือนกันหมดเขาจะเรียกคนคบ เขาไม่เรียกแฟน เพราะเขามองว่ายังไม่ถึงวาระ

เบลล์คนนี้เจาน่ารักยังไง?
เบลล์ : เขาเข้ามาในแบบความเป็นพี่ชาย เป็นพี่ชายที่ปรึกษาได้ทุกเรื่อง พอเป็นพี่ชายปุ๊บ พอเราอยู่ด้วยกันไปก็เหมือนเพื่อน กลายเป็นว่าเป็นที่ปรึกษาในทุกๆ เรื่อง ชอบอะไรคล้ายๆ กัน

คนนี้คบมากี่ปีแล้ว?
เบลล์ : ประมาณ 3 ปีครึ่งค่ะ

ตอนนี้ปีที่ 3 ที่คบกัน หายเกร็งคุณแม่หรือยัง?
อาเมน : หายแล้วครับ ตอนนี้ก็ดีขึ้นแล้วครับ ถามว่ามันหายไปหมดเลยไหม มันก็ไม่หมดหรอกครับ

อาเมน : ผมว่า 2 ปีครึ่งได้

แม่แก้ว : นานเพราะว่าเราไม่เจอกันมากกว่า เราอยู่กองถ่าย

ถ้าไม่นับทริปล่าสุด ได้ใช้เวลารู้จักคุณแม่เท่าไหร่?
อาเมน : หลังจากคุยกับเบลล์ 6-7 เดือนได้ ถึงเริ่มได้เจอกันมากขึ้น ผมก็เชื่อว่าเบลล์อยากมั่นใจในตัวผมมากพอที่จะพามาเจอ ก็เลยอาจจะต้องรอนานหน่อย

ทางบ้านถามทำไมต้องเกร็ง?
อาเมน : ผมว่าทุกคนเกร็งแหละครับ คือเราก็อยากทำให้ดีที่สุด แต่ทุกครั้งที่เจอทันก็จะมีความเกร็งอะไรนิดนึงอยู่แล้ว ก็กลัวว่ามามี๊จะไม่ชอบตรงนี้หรือเปล่า

แม่แก้ว : คนนี้เหรอ จริงๆ เจอกันวันแรกที่เบลล์กำลังซ้อมเต้น ก็เห็น ปกติเป็นคนทักทายทุกคนอยู่แล้ว ก็ไม่ได้เลือกว่าคนนี้พิเศษหรือไม่พิเศษ แต่ก็แอบมองว่าเจาสนิทกันประมาณไหน จะได้รู้ โดยที่เราทำเหมือนไม่มอง ทุกครั้งที่ใครเข้ามาในชีวิตลูกเราทั้ง 3 คน เราก็จะมาบอกลูกเราว่า แม่ว่าเขาเป็นอย่างนี้ๆ นะ คอยสังเกตดูว่าเขาเป็นอย่างนี้หรือเปล่า แต่อาเมนเขาเป็นเด็กดี เราดูวิธีที่เขาปฏิบัติกับพ่อแม่ เรารู้สึกว่าพ่อแม่เขา เขาปฏิบัติดี เพราะฉะนั้นต้องซึมซับมาถึงลูกเราแน่นอน ส่วนที่สอง อาเมนอยู่เป็น เวลาเอาอะไรให้ เขาชอบไม่ชอบ เจาก็บอกว่าดี เขาไม่เคยปฏิเสธเลย

ผู้ชายคนนี้ ตอนนี้ผ่านหรือยัง?

แม่แก้ว : เพิ่ง 3 ปีกว่าเอง ก็ยังดูต่อไป ยังมีเวลา อายุไม่เยอะไม่ต้องรีบลูก

สักกี่ปีกว่าจะรู้สึกว่าโอเคสบายใจ?

แม่แก้ว : คนเราไม่ได้เป็นแฟน ก็เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดได้ เพราะอาเมนผ่านแล้วเรื่องเพื่อนที่ดีที่สุด ส่วนเรื่องแฟนที่ดีที่สุด มันต้องดูกันไปอีกยาว จริงๆ อาเมนผ่านหมด เหลือแค่จะคบกันได้นานแค่ไหน อยู่ที่เขาสองคน

อาเมน : เราแค่ 3 ปรเอง เราต้องรู้จักกันมากขึ้น ปรับตัวกันมากขึ้น สำหรับผมมันไม่ต้องเร่ง ถ้ามันใช่จริงๆ เดี๋ยวทุกอย่างมันก็พอดีเอง ผมว่าเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ ทำความรู้จักกันไปเรื่อยๆ อยู่ในสายตาของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายผมว่าก็โอเคแล้ว

แล้ววันนี้อาเมนว่าเบลล์คือคนที่ใช่ไหม?
อาเมน : ใช่ครับ

อาเมน : ตั้งแต่รู้จักมามี๊ รู้จักเบลลมาก็ ผมรู้สึกว่าทางครอบครัวของมี๊ก็เติมเต็มอะไรผมหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพี่น้อง เพราะผมเป็นลูกคนเดียว แล้วผมรู้สึกว่าอะไรหลายๆ อย่าง ผมยังไม่มั่นคงหรือดีพอ แต่ผมเชื่อว่าหลายๆ ปีขึ้นมาเรื่อยๆ ก็จะเชื่อว่าจะทำให้มามิ๊มั่นใจในผู้ชายคนนี้มากขึ้น

ตอนที่น้องเบลล์เจอคุณพ่อ คุณแม่อาเมนเกร็งไหม?
เบลล์ : เกร็งเหมือนกันค่ะ คุณพ่อ คุณแม่เขาเหมือเขาเลยค่ะ แต่เป็นเว่อร์ชั่นที่อบอุ่น และใจดีกว่า แล้วก็ใจเย็นมาก

ได้ข่าวว่าฝั่งบ้านอาเมนรักลูกคนนี้มาก จริงไหม?
อาเมน : จริงครับ ก็คือตั้งแต่อาทิตย์แรก พอเริ่มคุยกันผมก็พาไปเจอเลย ก็นั่งกินข้าวกัน พ่อ แม่ผมก็แฮปปี้มาก เวลาที่แม่ผมทำงานอยู่เบลล์ก็จะมาช่วยตลอด

หนึ่งในสาเหตุที่อามนชนะใจคุณแม่ เพราะเราถ่ายรูปสวยจริงไหม?
อาเมน : ครับ ผมกัยเบลล์เวลาไปห้างไปอะไรก็จะชอบถ่ายรูปด้วยกันอยู่แล้ว ก็คุยกันว่าถ้าทริปนี้มีมามิ๊ไปด้วยก็อยากจะถ่ายรูปมามิ๊สวยๆ

ทั้งคู่มองอนาคตไว้ยังไงบ้าง?
อาเมน : ผมรู้สึกว่าเราทำความรู้จักกันแบบนี้ไปเรื่อยๆ ดีกว่า ไม่ต้องรีบอะไรมากมาย

อาเมน : มันอาจจะมีบ้างในความคิดของเรา แต่ว่าเราไม่เคยพูดอยู่แล้ว ผมรู้สึกว่าการแต่งงานมันมากกว่าคนสองคน คือทั้งสองครอบครัวรวมกัน เพราะฉะนั้นเราเป็นผู้ชาย เราต้องมีความมั่นคงทุกอย่างมากพอที่จะทำให้คุณพ่อ คุณแม่ พี่น้องของฝั่งผู้หญิงเขารู้สึกว่าเขาสามารถฝากชีวิตของลูกสาวเขาไว้กับเราได้ เพราะฉะนั้น ผมรู้สึกว่ามันไม่ต้องรีบเลย เราต้องทำตัวเราให้มีความมั่นคงแล้วให้ดีมากพอก่อน

เบลล์เราคิดว่าอยากแต่งงานอายุเท่าไหร่?
เบลล์ : น่าจะไม่เกิน 32 ค่ะ

คุณแม่อยากอุ้มหลานบ้างไหม?
แม่แก้ว : ไม่ๆ พี่อยู่อย่างนี้ พี่มีหมาตั้ง 3 ตัว

แม่แก้วอยากบอกอะไรน้องทั้ง 2 ไหม?
แม่แก้ว : เป็นคนที่ดีอยู่แล้วทั้งคู่ ก็พาไปในที่ที่ดี ทำในสิ่งที่บวก อย่าทำในสิ่งที่ลบ อะไรที่ผู้ใหญ่เขาเตือน มันหนักมากกว่าจิ้งจกทัก เพราะฉะนั้นให้ฟัง ให้คิดให้มากๆ เพราะวันนึงเราก็เป็นผู้ใหญ่ แม่มั่นใจว่าลูกทั้งสองคนจะไปในสิ่งที่ดี และจะได้ในสิ่งที่ต้องการ