สายเชีย เผยเส้นทางชีวิตจาก เด็กขอข้าววัดกิน สู่เจ้าของอสังหาริมทรัพย์!


สายเชีย  เผยเส้นทางชีวิตจาก เด็กขอข้าววัดกิน สู่เจ้าของอสังหาริมทรัพย์!

โด่งดังจากวลีเด็ด "จน เครียด กินเหล้า" จนใครๆ ก็รู้จักกันอย่างดีสำหรับ สายเชีย วงศ์วิโรจน์ ที่วันนี้จะมาเปิดชีวิตสุดลำเค็ญในวัยเด็กลำบากจนต้องขอข้าววัดกิน แต่บุญพาวาสนาส่งกลายมาเป็นเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีที่ดินเป็นร้อยไร่ ผ่านรายการคุยแซ่บShow ทางช่องOne31 ที่มี หนิง ปณิตา และ ใบเฟิร์น พัสกร เป็นพิธีกร พร้อมเผยช่วงนี้หัวใจกระชุ่มกระชวยเพราะได้แฟนสาวที่อายุห่างกันถึง12ปี มาช่วยดูแลหัวใจ




ไปไหนมาไหนคนให้ทำเยอะมั้ย จน เครียด กินเหล้า ?
สายเชีย : ไม่ใช่แค่จน เครียด กินเหล้า แต่ชอบให้ทำหน้าดุๆด้วย

จน เครียด กินหเล้า เป็นจุดเริ่มให้พี่เข้าวงการบันเทิง พี่เข้าวงการบันเทิงมาได้ยังไง ?
สายเชีย : เข้ามาก่อนหน้านั้นแล้ว ก่อนที่จะเป็น จน เครียด กินเหล้า 10 กว่าปีแล้ว

ถ้านับย้อนไปเช้าวงการบันเทิงมากี่ปีแล้ว ?
สายเชีย : 30 กว่าปีแล้ว เริ่มเข้าตั้งแต่ปี 29

พอเข้ามาในวงการบันเทิงมีอยู่หนึ่งคำที่พี่สายเชียไม่ชอบคือ ตัวประกอบ เหตุมันมาจากตรงไหน ?
สายเชีย : ตัวประกอบจะถูกจัดไปอยู่กับกลุ่มคนอีกประเภทนึง อย่างกินข้าวเค้าก็ให้ไปทางโน้น ถ้าเป็นดาราเค้าก็จัดไว้ให้อย่างดี เราก็เลยรู้สึกไม่ชอบคำว่าตัวประกอบ ก็เลยเปลี่ยนแปลงตัวเอง

เปลี่ยนยังไงบ้าง ?
สายเชีย : เปลี่ยนไปมีหน้าที่ที่มากขึ้นไง ตัวประกอบก็เดินผ่าน เป็นชาวบ้าน เป็นทหารหน้าวัง

เปลี่ยนแปลงตัวเองจนได้มีอาชีพใหม่เป็นสตั๊นท์แมน แล้วเห็นว่าค่าตัวจากการเป็นสตั๊นท์แมนได้ 6 หลักต่อวัน ?
สายเชีย : ไม่ถึงหรอก จริงๆเป็นค่าตัวถ่ายโฆษณามากกว่า

ตอนนั้นโฆษณา 6 หลักต่อวัน ในประเทศหรือต่างประเทศ ?
สายเชีย : มีต่างประเทศและในประเทศไทยด้วย มันแล้วแต่งาน


สายเชีย  เผยเส้นทางชีวิตจาก เด็กขอข้าววัดกิน สู่เจ้าของอสังหาริมทรัพย์!


จำได้มั้ยว่าจน เครียด กินเหล้าได้ค่าตัวเท่าไหร่ ?
สายเชีย : 30,000 บาท เรารู้ว่าโฆษณานี้เป็นโฆษณาที่ดี เป็นโฆษณาเกี่ยวกับธรรมะ เป็นสิ่งที่ดีสำหรับคนทั่วๆไป งานของ สสส มันจะออนแอร์ตลอด ตอนนั้นเรายังไม่มีชื่อเสียง ทำยังไงจะให้คนรู้จักเรา มันก็ต้องมีงานที่ออนแอร์อยู่ตลอด

งานนี้ทำให้คนในประเทศไทยคุ้นหน้า คุ้นตาพี่ จนมีโอกาสไปเล่นหนังโกอินเตอร์ เรียกว่าเปลี่ยนชีวิตของ พี่เลย เรียกว่าเปลี่ยนชีวิตของพี่เลยจากค่าตัวหลักแสน รวมๆกันเป็นหลักล้านเลย ?
สายเชีย : พี่ถ่ายหนังฮ่องกงก่อนอยู่ 2-3 ปี เล่นหนังจีนฮ่องกง ตอนที่เค้ายังไม่คืนประเทศกัน หลังจากนั้นก็เป็นหนังฝรั่ง

เราได้ภาษาอยู่แล้วหรือเปล่าหรือเราไม่มีพื้นฐานเลย ?
สายเชีย : ภาษาผมคุยได้ทั่วโลกเลย คุยกันเมื่อยมือเลย

หนังที่พี่เล่นพี่ประกบ แองเจลิน่า โจลี่ ด้วย แล้วพี่ก็ไปทำกับข้าวให้แองเจลิน่า โจลี่ กินมาด้วย เล่าให้ฟังหน่อย ?
สายเชีย : ตอนนั้นเราไปอังกฤษเดือนกว่า เราก็อยู่ประมาณอาทิตย์กว่าก็เริ่มหิวข้าว ทุกวันตอนเช้าเค้าก็จะมีขนมปังให้เรากิน เราก็มีความคิดว่าหิวข้าว เราก็ไปทำอาหารที่ห้องเค้าก็มาตำหนิเราว่าทำอาหารที่ห้องนะ เราก็ย้ายไปทำอีกห้องนึง เราก็ไปก้อยหมูกินบ้าง ข้าวเราไม่มีหม้อเราก็ใช้กาน้ำร้อนหุงข้าวโดยการไปซื้อถุงพลาสติกมาเอาข้างสารใส่ เอาน้ำใส่ แล้วก้ต้มในกาน้ำร้อน


สายเชีย  เผยเส้นทางชีวิตจาก เด็กขอข้าววัดกิน สู่เจ้าของอสังหาริมทรัพย์!


แล้วแองเจลิน่าได้กินได้ยังไงกับข้าวฝีมือพี่ ?
สายเชีย : หุ้นกันคนละ 5 ปอนด์ เราก็ได้หม้อข้าวมา แล้วก็มีคนเอากระทะมาให้ แองเจลิน่า โจลี่ เอาจานมาให้ สตั๊นท์แมนเอากระทะมา ช่างไฟหาหม้อข้าวมา เราก็ได้ครัวมาแล้วเราก็ทำกับข้าว ใครอยากรับประทานอาหารไทยก็เอามาคนละ 5 ปอนด์ เราก็เรี่ยไรแล้วก็ได้กินข้าวกับผมทุกวัน

เค้าได้บอกมั้ยว่าฝีมือทำอาหารของพี่เป็นยังไง ?
สายเชีย : ก็ไม่รู้หรอกครับ แต่เห็นมาเข้าแถวทุกวันเลย

กว่าชีวิตจะมาสบายอย่างนี้เห็นว่าในวัยเด็กลำบากมากๆ ถึงขั้นขอข้าววัดกินทุกวัน ?
สายเชีย : ครับ ขอข้าววัดกิน สมัยก่อนมันมีเรื่องยุ่งยากของการอดข้าว อาหารเยอะนะ ปลาเอย กิ้งก่าเราก็ยิงกินได้ นกเราก็ยิงกินได้ คนบ้านนอกได้เปรียบกว่าคนอยู่กรุงเทพฯ เราจะรู้จักหากิน รู้จักว่าสัตว์ชนิดไหนเรากินได้ แมลงชนิดไหนเรากินได้

หนีความจนมากรุงเทพฯมาชกมวย ?
สายเชีย : ใช่ ตอนนี้เราย้ายมาอยู่กำแพงเพชรแล้ว น้ำท่วมน่า ท่วมข้าว ตั้งใจทำนาคิดว่าจะมีข้าวเต็มยุ้ง ทำนา 50 ไร่โดยใช้ควายไถ ไม่ได้มีรถไถนาเหมือนเค้าไงเราจน ควายเราก็กัดมาเองหัดตั้งแต่ตัวย่อมๆ จนมันไถเป็น ตอนจะเกี่ยวฝนตกสองอาทิตย์ น้ำท่วม ข้าวมันก็งอกเป็นต้นใหม่บนรวงที่ยังไม่ได้เกี่ยว มันเกี่ยวไม่มีที่ซ่อนจะเอาซ่อนไว้ที่ไหนมันแห้งแล้วมันสุกหมดแล้ว เสียหายหมดเลย ก็เลยหนีเข้ากรุงเทพฯ ต้นทุนเรามีแค่ร่างกายที่แข็งแรงกับมันสมองที่พ่อแม่ให้มา ความรู้เราก็เรียนไม่จบ ม.2

ทำไมถึงต้องคิกว่าชกมวย ทำไมไม่อยากทำธุรกิจหรือเป็นพนักงานออฟฟิศ ?
สายเชีย : ด้วยร่างกาย ด้วยกล้ามเนื้อ ด้วยการใช้ชีวิตของเรา เราเป็นที่แข็งแรงมีซิกซ์แพ็ค มีกล้าม สามารถเลื่อยไม้ทำบ้านได้เป็นหลังๆ


สายเชีย  เผยเส้นทางชีวิตจาก เด็กขอข้าววัดกิน สู่เจ้าของอสังหาริมทรัพย์!


แล้วมากรุงเทพฯ ได้ต่อยมวยมั้ย ?
สายเชีย : ไม่ได้ต่อย มันไปไม่ถึงค่ายมวยซักที ครั้งแรกมาด้วยเงินสามร้อยบาทมันก็ไปอยู่แถวหัวลำโพงจะไปหาเพื่อนแถวหัวตะเข้ เดินจากหัวลำโพงไปถึงหัวตะเข้ จากตีสามจนถึงหัวตะเข้ก็หกโมงเช้า พอไปถึงเค้าก็บอกว่าไม่อยู่แล้ว ย้ายไปแล้ว

อยู่ๆกลายเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ ?
สายเชีย : มันเริ่มต้นจากเราเป็นพรีเซ็นเตอร์ เราเป็นคนที่คนทั้งประเทศรู้จัก แล้วเค้าใช้คอนเนคชั่นตรงนั้น คือคนที่ทำที่ดินเค้ามีตังค์แต่ไม่มีคนรู้จัก

เราไปเริ่มรู้จักเค้าได้ยังไง ?
สายเชีย : คนนั้นเค้ามาช่วยเราไปทำที่ดินที่จังหวัดเลยให้เราเป็นพรีเซ็นเตอร์ เราก็วางแผนว่าจะทำไวนิล จะขายตารางวาละเท่าไหร่

แต่ไม่ได้ลงทุนของตัวเองเลย ?
สายเชีย : ใช่ครับ

ประสบความสำเร็จมั้ยคะ ?
สายเชีย : ที่โน่นไม่ประสบตวามสำเร็จ

เห็นว่าเจ๊งเป็นล้านเลย ?
สายเชีย : ก็หลายล้านอยู่ เป็นหนี้กลับมา


สายเชีย  เผยเส้นทางชีวิตจาก เด็กขอข้าววัดกิน สู่เจ้าของอสังหาริมทรัพย์!


เราไม่ได้ลงเงินใช้เราเป้นพรีเซ็นเตอร์ เราเป็นหนีได้ยังไง ?
สายเชีย : เหมือนเราเป็นหนี้ด้วยเหมือนกัน ต้นทุนเราคือชื่อเสียง

แล้วพี่ทำยังไงต่อ ?
สายเชีย : ก็มาทำที่บางปะกงต่อ ลุยต่อ ประสบความสำเร็จ ขายได้เรื่อยๆ

ตอนนี้พี่สายเชียมีที่ดินทั้งหมดกี่ร้อยไร่ ที่เป็นเจ้าของ ที่เป็นของพี่เอง ?
สายเชีย : มันเป็นของขาย เราซื้อมาขาย มันก็จะเหลือที่ยังขายไม่ได้อยู่ไร่นึงมั่ง สองงานมั่ง

ตอนนี้ที่ยังเหลืออยู่ในสต๊อกทีแถวไหนบ้าง ?
สายเชีย : แถวบางปะกง แล้วก็ที่นครชัยศรีอีกประมาณ 400 ไร่ เป็นหนี้อยู่

วันนี้เรียกว่าเศรษฐีเลยได้มั้ย ?
สายเชีย : ไม่ได้ เรากำลังทำงาน กำลังลงทุนอยู่ เหมือนกับไปรบจะรีบนับศพทหารทำไม สงครามยังไม่จบเลย

ตัวเลขในบัญชีถึงสิบหลักหรือยัง ?
สายเชีย : ไม่ครับ เป็นหนี้ไปเรื่อย มันหมุนไปเรื่อย มันยังไม่จบ ชีวิตสบายขึ้น มีความหวัง หวังว่าเราทำงานขายที่ดินใช้หนี้เค้าหมดแล้วมันจะเหลือนะ

จะลาวงการบันเทิงแล้วไปเอาดีทางด้านอสังหาริมทรัพย์เลยมั้ย ?
สายเชีย : ไม่ลา ทำการแสดงเหมือนเดิม

ตอนนี้เป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวเลี้ยงลูก 3 คน แต่หัวใจกลับมาเป็นสีชมพูอีกครั้ง จะเปิดตัวเลยมั้ย ?
สายเชีย : ยังเปิดไม่ได้หรอกครับ เรายังไม่ได้แต่งงานกัน คบกันมา 7-8 ปีแล้ว

อายุห่างกันเยอะมั้ย ?
สายเชีย : 12 ปี

เห็นว่าพี่คนนี้เค้าเป็น FC พี่สายเชีย เค้ามาจีบเราก่อนมั้ย ?
สายเชีย : เค้าบอกว่าเค้าชอบมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว ตั้งแต่เราถ่ายโฆษณา จน เครียด กินเหล้าออกมา เค้าเรียกพ่อ เรียกแม่ไปดู

เค้าจีบพี่ยังไง ?
สายเชีย : เค้ามาหาที่เราพักอยู่ เราก็ปิ๊งเลย

ทางแฟนใหม่ได้มีการมาเจอกับลูกๆ พี่สายเชียหรือเปล่า ?
สายเชีย : เคยเจอ แต่ไม่บ่อย

ที่ไม่อยากเปิดตัวเพราะแฟนพี่สายเชียเป็นครูหรือเปล่า ?
สายเชีย : เค้าเป็นข้าราชการครับ

พี่สายเชียมีอะไรจะบอกกับแฟนมั้ย ?
สายเชีย : เห้ย ! รักนะเว้ย ! รักที่สุดในโลก คิดถึงมาก อยากจะหอมแก้มมากเลย


สายเชีย  เผยเส้นทางชีวิตจาก เด็กขอข้าววัดกิน สู่เจ้าของอสังหาริมทรัพย์!

คลิป
vvvvvvvv
vvvvvv
vvvv
vv
v


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
เช็คเบอร์มือถือ คลิ๊กเลย ++
กระทู้เด็ดน่าแชร์