ทนายเจมส์ แจงคดี ไมค์ พิรัชต์ ยื่นคำร้องขอสิทธิ์เป็นพ่อ
"บนเส้นทางสายกฎหมาย คดีนี้ นับเป็นคดีที่ ๓ ที่ ฝ่ายชายขอให้ศาลมีคำพิพากษาว่า เป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งพบได้น้อยมากๆ ส่วนใหญ่มีแต่ฝ่ายหญิงที่ต้องฟ้องฝ่ายชายให้รับผิดชอบ
ที่ผ่านมา ถ้าผู้ชายทำผู้หญิงท้อง โดยไม่ได้จดทะเบียนสมรส ผู้ชายมักจะปัดความรับผิดชอบทันที ไม่ช่วยเหลือค่าอุปการะเลี้ยงดูใดๆ ทั้งสิ้น จนฝ่ายหญิงจะต้องใช้สิทธิทางศาล เพื่อฟ้องเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูจากฝ่าชาย ต่างจากเคสนี้ ฝ่ายชายแสดงความรับผิดชอบ ด้วยการจ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูมาโดยตลอด ทั้งที่ยังไม่มีหน้าที่ตามกฎหมาย ยังไม่ใช่บิดาโดยชอบด้วยกฎหมาย และยังไม่มีสิทธิในการปกครองบุตรแม้แต่น้อย
ในคดีครอบครัว สิ่งที่ผมเป็นห่วงมากที่สุด คือ การใช้เด็กเป็นตัวประกัน เพื่อต่อรองเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตร ถ้าไม่จ่ายเงิน หรือ จ่ายน้อย หรือ ไม่จ่ายตามที่ต้องการ ก็ไม่ให้เจอบุตร ซึ่งควรแยกแยะให้ออกระหว่างความสัมพันธ์ของบิดามารดาและบุตร กับความสะใจ การเอาชนะ หรือ เรื่องส่วนตัว
ไม้ตายสุดท้ายของผู้ที่ต้องการให้บุตรอยู่กับตัวเอง คือ การปั่นหัวเด็กให้เกลียดอีกฝ่าย เพื่อไม่ให้เด็กไปอยู่กับอีกฝ่าย จนกว่าจะได้ในสิ่งที่ต้องการ พ่อสาดโคลนใส่แม่ แม่สาดโคลนใส่พ่อ พ่อก็ไม่ดี แม่ก็ไม่ดี แล้วลูกจะเหลืออะไร ทั้งสองฝ่ายจำเป็นต้องทำแบบนั้น เพื่อประกาศให้โลกรู้ว่า ลูกเกิดมาจากสิ่งที่ไม่ดีงั้นหรอ ?
ให้นึกถึงหน้าเด็กเวลาที่เห็นพ่อแม่เถียงกันในบัลลังก์ต่อหน้าศาล เป็นภาพที่หดหู่มากนะครับ
เคสนี้ ผมนับถือน้ำใจน้องไมค์มากครับ ไม่เคยคิดจะเอาบุตรมาอยู่กับตัวเอง เพราะเห็นแก่ผลประโยชน์ของบุตรเป็นสำคัญ เด็กย้ายที่อยู่บ่อยๆ ไม่ใช่เรื่องดี เด็กอาจจะสับสน และเหนื่อยกับการปรับตัวอยู่ตลอดเวลา
วันนี้ น้องไมค์ ขอแค่ให้ศาลสั่งว่า เป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมาย ขอมีอำนาจปกครองร่วมกับแม่เด็ก และขอสิทธิเยี่ยมเยียนตามสมควรบ้าง ไม่ใช่พรากแม่กับลูกออกจากกันนะครับ ถ้าอ่านคำขอท้ายฟ้องจะชัดเจนครับ ลายลักษณ์อักษรโกหกไม่เป็นแน่นอนครับ
"แม้ว่าคนสองคนจะรักษาความรักเอาไว้ไม่ได้ แต่ยังคงเป็นพ่อแม่ที่ดีของลูกได้เสมอ"
ให้ยึดประโยชน์ของเด็กเป็นที่ตั้ง อะไรจบได้ ก็จบ สาวใส้กันในศาลไม่ใช่เรื่องดีนะครับ อย่าหาทำ สงสารเด็กครับ..........ขอให้จบลงด้วยดีนะครับ"
https://www.facebook.com/teeneedotcom