หนุ่ม กรรชัย เปิดใจ! ลือโดนปลดฟ้าผ่า ยันทุ่มเทเพื่อรายการ
ทั้งนี้ ทำให้เกิดความเห็นต่าง เนื่องจากไม่ได้เป็นแนวทางที่ "หนุ่ม" กรรชัย ตั้งใจทำมาโดยตลอด คืออยากให้เป็นกระบอกเสียงของชาวบ้าน จึงอาจจะทำในแนวทางใหม่ไม่ได้ ในขณะที่ทาง ผอ.ข่าว ได้พูดตอบกลับในเชิงว่า "ก็ไม่เป็นไรเอาไว้ค่อยมาร่วมงานกันใหม่" ทำให้บรรยากาศในที่ประชุมเกิดความตึงเครียดขึ้นมา ซึ่งเกิดข่าวลือว่าพิธีกรคนดังตัดสินใจที่จะย้ายช่อง
พร้อมยืนยันว่าขณะนี้ยังเป็นพนักงานช่อง 3 อยู่เหมือนเดิม และจะใช้แรงกายและมันสมองทำหน้าที่ของตัวเองให้เต็มที่ สำหรับประเด็นร้อนที่เกิดขึ้นเป็นเพราะความคิดเห็นต่างกันที่ยังไม่ได้มีการตกตะกอน เป็นเพียงการพูดคุยในครั้งแรก ซึ่งทุกอย่างต้องปรับจูนและหาจุดกึ่งกลางให้เจอ
เมื่อถามว่า กระแสข่าวที่เกิดขึ้นหลายคนค่อนข้างตกใจ?
"หนุ่ม" กรรชัย กล่าวว่า จากที่มีเพจหนึ่งลงทำนองว่า พิธีกรคนดัง จ่อโบกมือลาจอช่อง 3 แล้วมีการชี้ว่า คุณพ่อจอมโหน อยู่พระรามสี่ คือเขียนแบบนั้นก็คงไม่มีใคร คงจะมีคนเดียวนี่แหละ เราก็ยอมรับว่ามันมีการพูดคุยประชุมเกี่ยวกับเรื่องงานจริงๆ ตามที่มีกระแสข่าวออกไป
"แต่ถ้าจะถามว่ามันมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นอย่างนั้นหรือเปล่า ต้องตอบอย่างนี้ว่าคนเราทำงานอยู่ในองค์กรใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทไหนเมื่อมีการทำงานกับคนหมู่มากเป็นธรรมดาที่ย่อมมีความคิดเห็นแตกต่างกัน ไม่มีคนไหนหรอกที่ทำงานร่วมกันแล้วความคิดเห็นตรงกันเป๊ะทุกคน ฉะนั้นตอนประชุมอาจจะมีความเห็นต่างกันบ้าง"
เมื่อถามว่า แล้วกับคำพูดที่ว่า "ก็ไม่เป็นไรเอาไว้ค่อยมาร่วมงานกันใหม่" อันนี้จริงเท็จยังไง?
พิธีการข่าวคนดังกล่าวว่า อย่างที่บอกไปว่าการทำงานร่วมกันของคนหมู่มาก ต้องมีภาวะของการเห็นต่างหรือมองอะไรไม่ตรงกัน ทีนี้ในมุมกลับเรื่องราวเหล่านี้ต้องบอกด้วยว่ามันยังไม่ได้มีอะไรคืบหน้าเลย แค่คุยกันครั้งแรกเท่านั้นเอง ส่วนเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นมันเป็นเรื่องของอนาคต เพราะทุกอย่างต้องถูกคิดให้มันตกตะกอนเสียก่อน
"วันนี้ยังไม่มีการตกตะกอนออกมาเลยว่าจะเป็นยังไง แค่เป็นการเสนอแนวทางในมุมมองความคิดเท่านั้นเอง ต้องมีการมาปรับจูนกันก่อนว่าจะเอายังไง ต่อไปในอนาคตถ้าเกิดว่าถึงเวลาแล้วมันไม่ใช่ตัวเรา เราก็ต้องกลับมาพิจารณาตัวเองว่ามันไปต่อไม่ได้ ตอนนั้นก็ค่อยไปว่ากันอีกทีในอนาคต แต่ยังไม่ใช่วันนี้"
หนุ่ม กรรชัย กล่าวว่า "คล้ายๆ ในทำนองนั้นครับ แต่คงไม่ได้ไปลงรายละเอียดอะไรมากมาย แล้วทั้งหมดทั้งมวล คือ ก็ยังไม่ได้มีการตกตะกอน คงจะต้องไปหาจุดกึ่งกลางให้เจอเสียก่อนว่าจะเอายังไง อย่างที่บอกว่ายังต้องมีการปรับจูนกัน เนื่องจากเป็นการพูดคุยกันแค่ครั้งแรก แล้วเราไม่เคยทำงานด้วยกันมาก่อน ฉะนั้นอาจจะยังไม่รู้ว่าพี่เขาชอบทานอะไร เราเองชอบทานอะไร ทุกอย่างต้องใช้เวลาในการปรับจูนกันอยู่"
เมื่อถามว่า รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ เสียใจ หรือไม่พอใจกับคำพูดนั้นไหม?
หนุ่ม กรรชัยกล่าวว่า "ไม่หรอกครับ เราไม่ได้น้อยเนื้อต่ำใจหรือไม่ได้โกรธอะไรเลย อย่างที่บอกว่ามันเป็นแค่การคุยกันแค่เริ่มต้นครั้งแรก ยังไม่ได้มีการตกตะกอน เพราะว่าการจะเปลี่ยนแปลงรูปแบบรายการ หรือจะทำอะไรเพิ่มเติมขึ้นมาในหนึ่งรายการเนี่ย มันต้องมีการวิเคราะห์ให้หลากหลายแง่มุม ฉะนั้นทุกคนที่สิทธิ์ที่จะโยนความคิดเห็นหรือแนวทางของตัวเองเข้าไปในที่ประชุมอยู่แล้ว เราก็โยนแนวทางของเราลงไป ทางฝั่งพี่เขาก็โยนแนวทางของเขามา คนโน้นคนนี้ก็โยนแนวทางมา มันไม่ได้ประชุมกันแค่ 2 คน ประชุมกันเกือบ 30 คน เยอะมากครับ"
หนุ่ม กรรชัยกล่าวว่า "แนวทางของผมก็ตามข่าวที่ออกไปเลยครับ"
หลังจากที่มีกระแสข่าวออกไป ทางผู้ใหญ่ได้สอบถามหรือพูดคุยบ้างไหม?
หนุ่ม กรรชัยกล่าวว่า "คนโทร.มาเยอะ แต่เรายังไม่ได้คุยกับใครเลย เมื่อวานนี้(22ส.ค.) พอเริ่มมีข่าวออกมาเยอะๆ ยอมรับว่าเครียดมาก นอนไม่หลับมา 2 คืน จริงๆ เราเครียดมาตั้งแต่วันศุกร์ (21ส.ค.) ที่มีข่าวออกมาแล้ว บอกเลยว่าผลกระทบมันกระทบไปในหลายภาคส่วน แล้วเราก็เป็นห่วงทางช่อง 3 และผู้ใหญ่หลายๆ คน เราเลยเครียดและรู้สึกไม่สบายใจ"
เมื่อถามว่า งงหรือไม่ว่าข่าวหลุดมาได้ยังไง?
พิธีกรคนดังกล่าวว่า "งงมาก เพราะเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องในที่ประชุม ไม่ควรหลุดออกมาได้ แล้วพอหลุดออกมาก็ดันมากระทบตัวเราอย่างมาก ส่วนตัวไม่ได้อยากให้กลายเป็นความหมางใจ เพราะว่าสิ่งที่ออกมามันเป็นข้อความเหมือนว่าหมางใจ ซึ่งจริงๆ มันยังไม่ได้ไปถึงขั้นหมางใจอะไรกันเลย แค่พูดคุยแต่แนวทางความคิดเห็นอาจจะแตกต่างกันบ้างเท่านั้นเอง"
ถามต่อว่า แล้วกับทาง "หมวย"อริสรา กำธรเจริญ พิธีกรคู่ในรายการ ได้พูดคุยกันไหม?
หนุ่ม กรรชัย กล่าวว่า จริงๆ กับหมวยเราก็คุยกันตลอดอยู่แล้ว วันนั้นในที่ประชุมหมวยก็อยู่ด้วย ถามว่าแนวทางของหมวยกับเราไปทิศทางเดียวกันมั้ย ต้องบอกอย่างนี้ดีกว่าว่าเรากับหมวยตั้งใจทำรายการ เที่ยงวันทันเหตุการณ์ แบบถวายชีวิต อย่างเราเองทุ่มเทกับรายการนี้มาก ถึงขนาดที่ตัวเราไม่เคยไปส่งมายู (ลูกสาว) ไปโรงเรียนเลย เพราะว่าเราทุ่มเทกับงานมาก ตื่นตี 5 ครึ่ง เพื่อออกไปทำงาน เพราะอยากจะฟังแต่ละข่าวที่เข้ามาด้วยตัวเอง อยากคุยกับแหล่งข่าวหรือคนที่มีปัญหาเอง รายการออกอากาศตอน 11 โมง
"หลายคนถามว่าทำไมต้องตื่นตั้งแต่ตี 5 ครึ่ง อย่างที่บอกว่ามันมีช่วงแก๊ปเวลาไม่ได้นานมากนักในการที่เราจะทำข่าวเรื่องราวเหล่านี้ เลยมีความจำเป็นที่เราต้องรู้เอง แล้วก็ไปเตรียมงานเพื่อเข้าประชุมตอนเช้าเวลา 8 โมงครึ่ง เราทำอย่างนี้ทุกวันจนสุดท้ายแล้วทุกอย่างมันดีขึ้น" กรรชัยกล่าว
เมื่อถามว่า พอเกิดข่าวนี้ออกมา แล้วในการทำงานร่วมกันต่อไปจะมีปัญหาไหม?
กรรชัย กล่าวว่า จริงๆ แล้วเราไม่เคยรู้จักพี่เขามาก่อน พี่เขาก็ไม่เคยรู้จักเรามาก่อน อาจจะเคยได้ยินชื่อกันมา เพียงแต่เรายังไม่เคยทำงานด้วยกัน คนที่จะมาทำงานด้วยกันในช่วงแรกๆ มันต้องมีการทำความเข้าใจทำความรู้จักก่อน ว่าแต่ละคนชอบแบบไหน แล้วก็ปรับจูนกัน อีกอย่างเรื่องนี้ยังไม่มีการตกตะกอนอะไรเลย
ถามว่า ตามข่าวที่ออกมายังให้ชาวเน็ตติดตามด้วยว่า หนุ่ม กรรชัย จะแยกย้ายหรือไปต่อ?
หนุ่ม กรรชัย กล่าวว่า เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องในอนาคต ตอบไม่ได้จริงๆ แต่วันนี้เรายังเป็นพนักงานช่อง 3 อยู่ ฉะนั้นเราก็จะใช้พลังกายและมันสมองของตัวเองทุ่มเทในการทำงานให้ช่อง 3 แต่ถ้าถามว่ามีคนมาจีบมั้ยมาคุยมั้ย คือมันไม่ใช่แค่วันนี้ กล้าพูดได้ว่ามีมาตลอด มันเป็นธรรมดาที่จะต้องเคยมีคนมาพูดคุยกับเรา แต่อย่างที่บอกว่า ณ วันนี้เรายังเป็นพนักงานของช่อง 3 อยู่"
ถามว่า ลือปลดฟ้าผ่า?
หนุ่ม กรรชัย กล่าวว่า "ไม่ได้มีเรื่องแบบนั้นหรอกครับ ไม่มีใครปลดใคร เพราะทุกคนมีวุฒิภาวะในการพูดคุยกันอยู่แล้ว มันเป็นแค่ความคิดเห็นที่เห็นต่างก็แค่มาปรับจูนหาตรงกลางให้เจอเท่านั้นเอง"
กรรชัย กล่าวว่า "ไม่กลัวนะครับ ในส่วนของโหนกระแสเป็นรายการที่ผมทำเองครับ"
คำถามสุดท้ายว่า กำลังใจจากแฟนๆ รายการมีเข้ามาเยอะไหม?
กรรชัย กล่าวว่า "อันนี้บอกตรงๆ เลยว่าไม่กล้าอ่าน ไม่อยากอ่าน ทั้งที่ตัวเองทำงานอยู่ในวงการนี้และอยู่ในโซเชียลนะ แต่พอเกิดเหตุการณ์แบบนี้แล้วกลับไม่กล้าอ่าน แต่ก็มีคนรอบข้างที่อ่านแล้วมาบอกว่าทุกคนเป็นกำลังใจให้ ขออนุญาฝากผ่านทาง "ข่าวสด" แล้วกันว่า ขอบคุณมากจริงๆ ที่รักผม มันชื่นใจ แต่ก็อาจจะมีบางคนที่ไม่ได้ชื่นชอบเราบ้าง
"อันนี้เราก็ยอมรับเพราะไม่มีใครจะมารักเราได้ทั้งหมด แต่ก็ขอบคุณทั้งมุมติ มุมชม มุมรัก มุมไม่รัก ทุกอย่างคือเดี๋ยวจะไปอ่านทั้งหมด พอดีมันเกิดเหตุการณ์หมาดๆ เลยยังไม่กล้าอ่านอะไร เราไม่อยากพูดคำว่า...ขอบคุณที่เข้าใจผม แต่อยากพูดว่าขอบคุณที่รักผม เพราะมันมากกว่าคำว่าเข้าใจอีกนะ ขอบคุณที่รักผมจริงๆ ให้กำลังใจ และเข้าใจแนวทางของผม"
https://www.facebook.com/teeneedotcom