นิ้ง ชัญญา ช็อก! พบเนื้องอกก้อนใหม่ เตรียมผ่าตัด 20 ส.ค.นี้
อัพเดตอาการป่วยในตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?
"ตอนนี้รอวันผ่าค่ะ วันที่ 20 สิงหาคมนี้ อีก 9 วัน "
คุณหมอว่ายังไงบ้าง?
"เนื้องอกโตขึ้นมาเซนนึง จากที่เจอมาเมื่อ 6 เดือนที่แล้ว เมื่อตอนเดือนมีนาคม ตอนนี้ก็เจอก้อนใหม่ค่ะ อยู่ตรงจมูกสมองอันนี้เพิ่งรู้เมื่อ 2 วันที่แล้ว"
อาการช่วงระหว่างพบว่าเป็นเนื้องอกในสมองเป็นยังไง?
"ตอนแรกคือปวดหัวรุนแรงมาก ปวดจนแบบต้องลงไปจิกหัวตัวเองเพราะเราอยากให้การจิกของเรามันเจ็บมากกว่าการปวดหัว เรารู้สึกว่าหัวมันตึบๆ แล้วนิ้งก็กินยาอยู่ 3 วันแต่ก็ไม่ดีขึ้น ทุกครั้งที่เดินก็เหมือนมีอะไรบีบสมองตลอดเวลา ทีนี้เราก็ไปโรงพยาบาลฉีดยาแล้วก็กลับบ้านใช้ชีวิตปกติ แต่ไปหาหมอทดสอบสมรรถภาพก็ปกติดี เลยลองเข้าตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า(MRI)ก็เป็นเนื้อหงอกค่ะ"
วันที่พบว่ามีเนื้อหงอกรู้สึกยังไง?
"ตอนที่เขาบอกว่ามีเนื้องอกเนี่ย ตอนนั้นหนูกำลังหาอะไรกินอยู่ คิดว่าไหนๆก็นอนโรงพยาบาลแล้วแถวนี้มีอะไรอร่อยก็สั่งแกร็บมากิน ตอนที่รู้คือแบบช็อกเป็นเนื้องอกจริงด้วย เหมือนแบบนี่ถ่ายซีรีย์ป่ะเนี่ย เพราะว่านิ้งเคยเล่นซีรีย์เกี่ยวกับมะเร็ง พอรู้แล้วแบบอย่างกับสายซีรีย์ แล้วระหว่างที่เราถามคำถามหมอก็เหมือนถ่ายซีรีย์ ว่าแล้วยังไงต่อคะ ว่าเป็นขนาดไหน แล้วก็ร้องไห้ เศร้าก่อนประมาณ 10 นาทีแล้วก็คิดได้ว่าเมื่อกี้เราจะสั่งอะไรกิน ก็สั่งแกร็บต่อ กลับมาที่การกินเหมือนเดิม"
"ใช่ค่ะ นิ้งรู้สึกว่าเราทำอะไรไม่ได้หมายถึง มันเป็นไปแล้ว เราทำอะไรไม่ได้แล้ว ซึ่งนิ้งคิดว่าหลังจากนี้เราจะทำอะไรให้ได้มากกว่า ต้องรักษาใช่มั้ย หรือต้องฉายรังษี ซึ่งหมอก็บอกว่าเดี๋ยวจะมีหมอจากแผนกเอ็กซเรย์มาบอกแต่ว่าเขายังไม่มาก็ต้องรอไปค่ะ แต่ระหว่างที่รอเราก็เป็นไปแล้ว คิดอะไรไม่ได้"
ส่งผลต่อชีวิตการทำงานเราบ้างไหม?
"มันส่งผลเพราะว่ามันปวดหัวมากกว่า ซึ่งหลังจากนั้นหมอก็ให้ยามากินแก้ตามอาการไป"
มันส่งผลให้น้ำหนักลด หรือเครียด รู้สึกบั่นทอนจิตใจบ้างไหม?
"ไม่นะคะ หนูไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองเครียดขนาดนั้น หนูรู้สึกว่าที่หนูไม่เครียดเพราะว่าหนึ่งมันเป็นไปแล้ว หมายถึงว่าถ้าเรารู้ว่าเราจะเป็นอะไรเราก็ป้องกันมันได้ แบบเลือกที่จะทำก่อนที่มันจะเกิด แต่ว่านี่มันเกิดขึ้นมาแล้ว เลยคิดว่าหลังจากนี้คืออะไร เราไปเครียดกับสิ่งที่เป็นไปแล้วไม่ได้หรอก เพราะการที่เครียดกับสิ่งที่เป็นไปแล้วมันไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น"
ครอบครัวว่ายังไงบ้าง?
"ครอบครัวยังเครียดกว่าหนูอีก คือหนูเพิ่งกลับจากโรงพยาบาล ด้วยความที่แบบว่าฉันจะตื่นมาแล้วใช้ชีวิตปกติ แล้วที่บ้านคือกลิ่นนิ่ง ละก็มาถามคำถามที่นิ้งก็ตอบไม่ได้ ตอนนั้นนิ้งยังอยู่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งแล้วเขาก็ให้คำตอบอะไรนิ้งไม่ได้เลย จนนิ้งต้องรอไปโรงพยาบาลรามาว่านิ้งเป็นอะไรกันแน่ ต้องทำยังไงกับมันต่อ ระหว่างที่รอทุกคนก็ถามเราก็ไม่รู้ว่าจะตอบยังไง ก็เลยตอบหนูก็ยังไม่รู้เหมือนกันอะม๊า ส่วนป๊าก็ติดตลกว่าอย่าลืมพ่อนะลูก แต่ฝั่งม๊าจะกังวลด้วยความที่เขาเป็นแม่เขาก็คงเป็นห่วงเราแหละ หนูรู้สึกว่าถ้าหนูยังไม่ได้เครียดขนาดนั้น ทุกคนไม่ต้องเครียดก็ได้ค่ะ เพราะเอนเนอร์จีทุกคนจะทำให้เรารู้สึกว่าเราต้องโฟกัสกับมันมากทั้งที่ตัวเราไม่ได้รู้สึกว่าเป็นอะไรมาก"
ยาชนิดที่กินมันเป็นชนิดที่รุนแรงไหม?
"หนูมียาแก้ปวดหัวหลายระดับแบบแรงช่วงนั้นมันเป็นช่วงโควิด ตื่นมาก็รู้สึกสายตาสั้นลง ตาพล่ามัว เริ่มแพนิกแล้วก็คืดไปเอง โควิด หรือ เนื้องอก จากเนื้องอก 3 เซน วันนึงมันโตขึ้นมา 1 เซน แล้วเอฟเฟ็กต์มันจะขนาดนี้ก็ไม่ได้ป่ะ ต้องบอกตัวเองว่าใจเย็นก่อน "
หมอบอกว่าจะมีโอกาสหายไหม?
"มีทางเดียวก็คือผ่าออก แต่ก็คือไม่ได้ออกหมด ด้วยตำแหน่งของมันที่อยู่ตรงแกนกลางสมองที่มีเส้นเลือดที่สำคัญอยู่ในสมอง เขาก็บอกว่าไม่รู้ว่ามันจะแข็งหรือนิ่ม แต่เขาก็บอกว่าทางการแพทย์ไม่มีอะไรร้อยเปอร์เซ็นต์"
"ตอนนี้ยังไม่กังวลนะ หมายถึงว่ามันเหลืออีก 9 วัน แล้วนิ้งคิดว่าเราจะทำอะไรก่อนหน้านี้มากกว่า คือถ้าวันนึงอยู่ดีๆเราบังเอิญเป็นเนื้องอก ตอนนั้นมันก็อาจจะเกิดเหตุอังเอิญอะไรอีกไม่รู้ก็ได้ เราไม่มีทางรู้แน่นอนว่าวันพรุ่งนี้มันจะเกิดอะไรบ้าง ระหว่างนี้นิ้งยังปกติอยู่ก่อนดีกว่ายังไม่อยากกังวลคิดว่าถ้าผ่าแล้วมันจะต้องพักฟื้นกี่วัน มันเป็นสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ สุดท้ายแล้วเราก็ทำได้แค่เชื่อใจหมอเท่านั้นตอนนั้นเราคงนอนไม่รู้เรื่องแล้ว"
ตั้งแต่เรารู้ว่าเราเป็นเนื้องอกแล้วต้องอยู่กับมัน หมอสั่งห้ามไหมว่าต้องดูแลตนเองยังไง ต้องห้ามกินอะไรบ้าง?
"นิ้งก็ถามนะ นิ้งก็นั่งคุยกับหมอ ว่าหนูออกกำลังกายได้ไหมคะ ถ้าหนูผ่าแล้วความอัจฉริยะหนูมันจะน้อยลงไหม หรือมันจะเกี่ยวกับความจำหนูไหม หนูก็อยากรู้ว่ามันยังไงเนาะ เขาก็บอกว่าออกกำลังกายได้เบาๆค่ะ ซึ่งเขาก็ไม่ได้ห้ามกินอะไรนะคะ"
การกินมีส่วนกระตุ้นให้เนื้อหงอกโตเร็วขึ้นไหม?
"เรื่องนี้เขาไม่ได้บอกนิ้ง ด้วยความที่ตัวนิ้งเองไม่ได้เป็นคนที่ร่างกายแข็งแรง นิ้งเป็นพาหะธาลัสซีเมีย เลือดจาง ความดันต่ำ ไทรอยด์ก็เคยเป็น เราค่อนข้างขี้โรคประมาณนึงค่ะ ซึ่งเราก็คิดว่าเราสามารถทำอะไรก่อนที่จะผ่าตัดได้บ้าง เราเลยเริ่มกินผัก กินโปรตีนให้ถึงเพราะอย่างที่ทุกคนรู้การกินโปรตีนจะช่วยให้ร่างกายเราซ่อมแซมเร็ว ก็ได้ดูว่าถ้าอยากจะเพิ่มเลือดต้องกินธาตุเหล็ก สังกะสี ซึ่งมันก็เป็นสิ่งที่ทุกคนรู้ได้ในการเสิร์ชเน็ต นิ้งก็พยายามทำจากที่ตอนแรกค่าเลือดนิ้ง 30 ตอนนี้ก็ขึ้นเป็น 38 น้ำตาลในเลือดก็ลดทุกอย่างเริ่มดีขึ้น นิ้งอยากให้อาการหลังนิ้งผ่าดีขึ้นเลยไปออกกำลังกายอาทิตย์ละ 2 วัน"
เหมือนเปลี่ยนวิถีชีวิตตัวเองไปเลย?
"ไม่ค่ะ ก่อนหน้านี้ก็เป็นแบบนี้ เราจะวิ่งเดือนนึง 92 กิโลเมตร โดยเรามีเป้าหมายว่าจะวิ่งให้ได้หนึ่งพันกิโลเมตรในปีนี้ พอเรามาเจอเรื่องเนื้องอกเราก็หยุดไปแต่ก็ยังเทรนนิ่งอยู่แต่ต้องเบาเรื่องการวิ่งลงเพราะบางทีมันกระเทือนเพราะเราวิ่งแบบบ้าคลั่ง เป็นคนชาเลนจ์ตัวเองไปเรื่อยๆ"
"ผ่าค่ะ แต่หลังจากนี้ยังไม่ได้ถาม หนูกลัวว่าเดี๋ยวหนูกังวลตอนนั้นหนูก็คงทำได้แค่ฟอลโลว์ตามเขาไปเขาให้ทำอะไรก็ทำ คือ 3-4 วันที่แล้วก็เพิ่งไปอ่านมาแล้วรู้สึกว่าไม่ดีและ ไม่ต้องอ่านดีกว่า หนูไม่อยากรู้อะไรเลย เพราะถ้าสมมุติหนูรู้ว่ามันง่ายขนาดนั้น แต่ปรากฎว่ามันมาแย่ให้หนู หนูก็จะแย่ไปอีกว่าทำไมมันต้องมาเกิดขึ้นกับเราด้วย ในเมื่อมันเกิดขึ้นกับเราเราก็แก้มันไป"
https://www.facebook.com/teeneedotcom