กระแต แซ่บจนเจอโรคจิตส่งรูปของลับให้ - เผยโดนมรสุมชีวิตถาโถม

นักร้องสาวมากความสามารถ ที่ทั้งสวยทั้งแซ่บสำหรับ กระแต อาร์สยาม ที่วันนี้จะมาเปิดที่มาความเซ็กซี่ เผ็ดร้อน ปะทุไอจี ทำเอาแฟนคลับโรคจิตตามส่งรูปของลับให้ ผ่านทางรายการ คุยแซ่บShow ทางช่อง ONE31 ที่มี ธัญญ่า ธัญญาเรศ และ ตั๊กแตน ชลดา เป็นพิธีกร

กระแต : อันนั้นมีอยู่แล้ว จริง ๆ พอลงรูปแบบนี้ทาเก็ตมันก็แนวนั้นอยู่แล้ว เพราะว่าค่อนข้างจะเซ็กซี่ ก็จะมีหนุ่ม ๆ เยอะ แล้วก็มีชาวต่างชาติเยอะ บางทีที่จิต ๆ เยอะ ๆ ก็จะมีส่งรูปลับมาทาง DM แต่แตโชคดีที่มีทีมงาน ผู้จัดการ สกรีนให้ก่อน

กระแต : เคยมีนานแล้ว สัก 7-8 ปีที่แล้ว ก็มีมาบุกถึงบ้าน แต่ก็จบไปแล้ว เขาเหมือนสติไม่ค่อยดี เขาก็นั่งแท็กซี่มาแล้วก็บอกว่าเป็นผัวเก่าเรา

กระแต : ไม่รู้ อันนี้น่ากลัวมาก ตอนนั้นเป็นบ้านเก่าแล้ว พอย้อนกลับไปสรุปแล้วเขาก็ไปหาพี่จินตหราเหมือนกัน แล้วก็ไปสร้างเรื่องแบบนี้ มีลูกกับจินตหรา เราก็คุยกับพี่จินก็บอกคนเดียวกันเลย

กระแต : มาไม่ได้แล้ว เพราะบ้านใหม่แตไม่ค่อยได้เปิด ไม่เคยเปิดถ่ายรายการอะไรเลย ก็ค่อนข้างอยู่แบบระวัง จริง ๆ เราก็กลัวนะ เราก็ป้องกัน กว่าจะถึงแตได้ก็เจอบอดี้การ์ดหลายคน คุณพ่อ คุณแม่ ผู้จัดการ น้อง

กระแต : อันนั้นเป็นปกติค่ะ มาบ่อย ๆ แตเป็นคนที่เจออะไรแบบนี้ไม่ค่อยโพสต์อะไรลง แตมองว่าคนอื่นก็คงโดน โพสต์ไปก็เฉย ๆ อย่างเช่น รับเลี้ยง ทานข้าว ดูแลเดือนหนึ่งกี่แสน กี่ล้าน

กระแต : หนูจำไม่ได้เลย นานแล้ว ประมาณว่าอยากให้ไปดูแลเขา เพราะเขาบอกว่าดูท่าทางจะปกป้องเขาได้

กระแต : เราไม่รู้จักเขา ก็เลยไม่ทราบว่ามีไหม บางทีแตลงรูปเซ็กซี่จะมีหนุ่ม ๆ มาเยอะ

กระแต : ก็ใช่ค่ะ เข้าใจในธรรมชาติ เราลงก็ต้องเจออยู่แล้ว เป็นปกติ เราไม่ค่อยกลัว แต่ระวังตัว

กระแต : นี่แข้งขวาดีดเลย ล้อเล่น ๆ

กระแต : ปีที่แล้ว หนูเข้าโรงพยาบาล ไม่เคยนอนโรงพยาบาลนานขนาดนี้มาก่อนในชีวิต ก็นอนหนึ่งเดือนเต็ม ๆ เพราะว่าผ่าตัด เป็นฝีที่เต้านม

กระแต : ย้อนกลับไปตอนเด็ก ๆ ตอนนี้ก็เป็น น้ำเหลืองจะไม่ค่อยดี จะเขียวช้ำง่าย ประจวบกับปีที่แล้วงานเยอะ ถ่าย MV ซ้อมเต้น นอนน้อย หลายอย่าง ร่างกายมันสู้กับเชื้อโรคที่เข้ามาไม่ได้ กระแตไปตีลังกาเต้น แล้วมันไปกระแทกกับศอกน้องแดนซ์เซอร์ แล้วตรงหน้าอกก็ช้ำ ตอนแรกเราคิดว่าเดี๋ยวก็หาย ไป ๆ มา ๆ เหมือนเป็นหนอง เนื่องจากอักเสบ เลือดมันช้ำข้างใน แล้วติดเชื้อในกระแสเลือด หมอก็บอกว่ามันเป็นเหมือนฝีเต้านม เริ่มเป็นหนอง ก็ต้องใช้วิธีดูด แต่ดูดไม่ออก เพราะมันข้นมาก อันนี้ต้องบอกเป็นอุทาหรณ์ เป็นบทเรียนให้กับสาว ๆ เพราะคุณหมอบอกว่าผู้หญิงมีสิทธิ์เป็นเยอะมันคล้าย ๆ กับมะเร็งเต้านมมันกินเนื้อ ถ้าไปช้าอีกนิดนมหายข้างนึงเลย เพราะมันกินเนื้อ เป็นหนอง เป็นแบคทีเรียตัวนึง ถึงกับต้องผ่าตัดแล้วก็ล้างหนองทรมานมาก

กระแต : เป็นนิดนึง เป็นรอยเจาะ ประมาณเซนนึงตรงเนินหน้าอก ทรมานเหมือนใช้กรรม เครียดเลยนะ หนึ่งเดือนจากคนที่เคยออกคอนเสิร์ตทุกวัน เราเต้น เราอะไร เรานอนอยู่โรงพยาบาล เราจิตตกเลย เครียดมาก

กระแต : กลัวมาก เพราะหนึ่งตอนแรกห่วงงาน หมอบอกว่าหนึ่งเดือนต้องล้างแผลทุกวัน เจาะเลือด เปลี่ยนน้ำเกลือ ฆ่าเชื้ออะไรแบบก็เครียดเลย แล้วก็รู้สึกแบบไม่อยากกลับไปจุดนั้นแล้ว มันเครียดมาก น้ำตาไหล ร้องไห้ตลอด แล้วเจ็บมาก แผลแตจะหายเร็วด้วย ก็ต้องคว้านให้แผลไม่หายเร็ว เพราะหนองยังไม่หมด กรี๊ดมาก จากคนกลัวเข็มก็กลายเป็นชินไปเลย

กระแต : ก็คือมึน ออกจากโรงพยาบาลเดือนแรกก็อ่อนแอ เหมือนต้องพักอีกเป็นเดือนเหมือนกันกว่าจะฟื้นตัวเอง

กระแต : มีฟกช้ำ มันเกิดจากเลือดเสียข้างใน เราไปหาคุณหมอช้าจนหนองมันข้นขึ้นเรื่อยๆ ก็เสียใจ เข้าใจว่าทุกอย่างเกิดจากกรรม เราไม่ไปหาหมอ เราไม่ดูแล เราสุขภาพไม่แข็งแรง หลังจากนั้นแตก็ฟิตตัวเอง เริ่มแบ่งเวลา เปลี่ยนชีวิตใหม่ หาเวลาพักให้ตัวเอง เหมือนให้รางวัลตัวเองบ้าง

กระแต : กินอะไรไม่ได้เลยค่ะ ยาฆ่าเชื้อมันแรงด้วย ถ้าใครเป็นจะรู้เลย แค่กินน้ำก็อาเจียนแล้ว เดินก็เวียนหัว ตอนนั้นผอมมากใส่เสื้อผ้าไม่ได้เลย เพราะว่าใส่ตัวไหนก็ไม่สวย ต้องกินฟื้นเป็นเดือนเลย ตอนนี้ก็เหมือนเฟิร์มขึ้นมาหน่อย

กระแต : คุณหมอบอกว่ามีโอกาสค่ะ ผู้หญิงที่เป็นโรคนี้มีโอกาส เพราะว่าเชื้อบางทีมันยังไม่หมด ถ้าเราไปกระแทกหรืออะไรมันก็อาจจะเกิดขึ้นได้อีก ตอนนี้ก็มูเตลูอย่างเดียวเลย ขออย่าให้หนูเป็นอีก

กระแต : ใช่ค่ะ ก็มีเยอะเลย ช่วงที่เป็นข่าวทุกคนคิดว่าไปทำหน้าอก เราก็บอกว่าอยากทำให้มันใหญ่ บางคนก็บอกว่าซิลิโคนแตก นมเน่า ก็แล้วแต่เขาพูดก็ไม่เป็นไร เรารู้อยู่แก่ใจว่าเราเป็นอะไร

กระแต : ทำจมูก ตอนที่แตทำเมื่อ 6-7 ปีที่แล้ว อยากหน้าเรียว เมื่อก่อนเขาฮิตหน้าเรียว หมอบอกว่าไม่ให้ทำนะ เดี๋ยวอีกหน่อยมันจะฮิตกรามแบบฝรั่ง ๆ นะ ย้อนมาตอนนี้เราภูมิใจในกรามของเรา หน้าออกโครงเหลี่ยม ๆ ฝรั่งชอบ เราคิดในใจ ดีแล้ว หมอก็บอกให้ทำแค่จมูก ไม่งั้นโหวงเฮ้งแตจะเปลี่ยน คือแตไม่ค่อยเข้าคลินิก เพราะแตกลัวเข็ม ถ้าถามว่าให้ทำอะไรเพิ่ม ก็ไม่รู้จะทำอะไร ทำไปก็ไม่สวยเท่าพี่อั้ม ทำไปก็เท่านั้น

กระแต : ยิ่งโควิด หนูมีเวลาออกกำลังกายมาก ปกติเราออกคอนเสิร์ต เรานอนดึกมาก คนที่นอนน้อย ๆ เล่นฟิตเนสจะไม่ค่อยดี ร่างกายจะไม่ช่วย พอโควิดปุ๊บนอนเต็มที่ ตื่นมาไม่รู้จะทำยังไงก็เข้าฟิตเนสปั้นหุ่น เราก็มีแรงบันดาลใจจากนางแบบฝรั่ง

กระแต : จริง ๆ โรคนี้เขาเรียกว่ากล้ามเนื้ออ่อนแรง อัมพาตครึ่งซีก ถ้าเป็นหนักก็จะเรียกอัมพาตครึ่งซีก ก็เหมือนกล้ามเนื้อข้างหนึ่งไม่ทำงาน เมื่อ 2 ปีที่แล้ว เป็นกันเยอะนะ คนที่นอนน้อยมากๆ พักผ่อนไม่เพียงพอ เครียด ก็จะเจอเต็มเลย ก็จะเหมือนปากเบี้ยว แตสังเกตตัวเองว่าทำไมเรายิ้มปากไม่เท่ากัน แต่ตอนนี้ดีแล้ว พักผ่อนเต็มที่

กระแต : เหมือนเวลาสัมภาษณ์ แตพูดปากมันจะขึ้นไม่เท่ากัน แค่นั้นเอง เหมือนกล้ามเนื้อข้างหนึ่งมันไม่มีแรงยก ก็ไปปรึกษาหมอ จริง ๆ เขาจะให้ช็อตไฟ เพื่อให้กล้ามเนื้อมันกระตุกขึ้นมาให้เท่ากัน หมอบอกลองพักผ่อนให้เต็มที่ก่อน มันก็ดีขึ้น

กระแต : เป็นปีค่ะ ตอนแรกไม่คิดว่าเป็นอะไร ไม่ได้สังเกตตัวเอง จนบางทีมันมีคอมเมนต์บอกว่า เอ้ย..ศัลยกรรมจนปากเบี้ยว เราก็แบบ เห้ย..เราปากเบี้ยวจริงหรอ เราก็ไม่ได้ทำอะไรเกี่ยวกับปาก ทำไมปากเบี้ยว ก็เข้าไปดูตัวเอง ปากมันเผยอ ก็เลยเริ่มตตกใจตัวเองเป็นอะไร

กระแต : กลัวค่ะ เพราะมีเพื่อนที่รู้จักเป็น ตาข้างหนึ่งเขาจะหลับเลย ก็เหมือนข้างนั้นไม่ทำงาน แต่แตไม่ได้เป็นหนักขนาดนั้น แต่แตก็เป็นอยู่เป็นปีนะคะ เขาให้เราบริหารกล้ามเนื้อที่ใบหน้า ทำให้เขามีแรง นอนให้เต็มที่ อย่าเครียด

กระแต : กลัวมากค่ะ แต่เขาบอกว่ามันมีทางรักษาหาย

กระแต : เราก็ต้องให้กำลังใจตัวเองแหละ แต่ว่ารอบข้างก็สำคัญ รอบข้างในที่นี้คือครอบครัวเลย คุณพ่อ คุณแม่ น้องสาว ใครจะคิดยังไง มองเรายังไง แตคิดว่าสุดท้ายคนที่เขารักเรา เขาจะรู้ว่าเราทำเพื่ออะไร

กระแต : จริง ๆ แตมีธรรมะเป็นที่พึ่งด้วยนะ แต่ชอบปฏิบัติธรรม แต่ไม่ได้หมายถึงว่าไปนุ่งขาว ห่มขาว ให้ดูเป็นคนดี ไม่ใช่เลย เรานี่แหละเป็นคนไม่ดี เราเลยต้องไปขัดเกลาให้ดี

กระแต : ก็เป็นคนชอบทำบุญด้วย ก็ได้เจออะไรดี ๆ เยอะ มันเป็นความเชื่อ ที่บ้านก็จะเป็นห้องเทพเลย เกี่ยวกับพระพิฆเนศ พระแม่อุมา เป็นเทพแขก ๆ แล้วก็ห้องพระหนึ่งห้อง คือชอบปฏิบัติข้างบน บางทีเราไม่มีโอกาสไปที่วัดก็ปฏิบัติที่บ้าน

กระแต : จริง ๆ คุณพ่อ คุณแม่ตั้งให้ดีที่สุดแล้ว แต่นี่หนูอยากลอง เลยขออนุญาตจากคุณแม่ด้วย ไม่ได้เปลี่ยนเยอะ ชื่อกระแต อยู่แล้ว ก็เปลี่ยนเป็น แตร ชื่อจริง เมื่อก่อนใช้ นิภาพร ก็เปลี่ยนเป็น แตร บุญยะเลี้ยง ก็เอาชื่อเดียว อักษรเดียวเลย

กระแต : หนูว่ามันดีขึ้นนะ สำหรับแตมันไม่ได้เสียหายอะไร ถ้าเปลี่ยนแล้วไม่ดีขึ้นก็เปลี่ยนกลับ

กระแต : ก็อาจารย์ที่รู้จักกัน เขาก็บอกว่าลองเปลี่ยนไหม เพราะว่าชื่อ นิภาพร มันเหนื่อย เหนื่อยจริง ก็จะเจออะไรแบบเหมือนทุกขลาภกว่าจะดี กว่าจะดัง เหนื่อยเหลือเกิน ก็หลังจากออกจากโรงพยาบาลก็ไปเปลี่ยนชื่อ ก็รู้สึกว่าปีที่ผ่านมาเราไม่ได้ออกงานอะไรเยอะ ผลงานเพลงก็ไม่ได้ออก เพราะว่าตอนที่ออกนอนโรงพยาบาลเลยไม่ได้โปรโมตเพลง ก็เลยเงียบไปหมด แบบปีนี้จะทำอะไรดี ก็กลายเป็นว่าอยู่ ๆ ก็มีพรีเซ็นเตอร์เข้ามา ได้ก้อนใหญ่ ๆ ได้มีโปรเจ็กต์ใหญ่ ๆ เดี๋ยวหลังโควิดน่าจะได้ฟังกัน แล้วก็ได้มีโอกาสดี ๆ ที่มันเกิดขึ้น

กระแต : แตเป็นคนไม่ขอพร่ำพรื่อ เวลาขออะไรจะขอใหญ่ ๆ ขอบ้าน ขอรถ ของานอะไรใหญ่ ๆ

กระแต : ไม่เคยขอเรื่องความรักเลย แปลกมากเวลาไปไหว้พระที่ไหนจะขอให้ตัวเองมีสติในทุกวินาที มีปัญญาในการใช้ชีวิตในทุก ๆ วัน แล้วขอให้มีสุขภาพที่ดี มีการงานที่ดี

กระแต : จริง ๆ เราไม่ได้ขาด เราก็เลยไม่ขอหรือเปล่า ไม่สวยนะ แต่คนชอบมาคุย เราเป็นคนคุยเก่ง เวลาคุยกับหนุ่ม ๆ ก็จะอีกฟิวหนึ่ง เป็นคนตลกด้วยเวลาคุยกับหนุ่ม ๆ เราก็สนุก

กระแต : ก็มีมาเรื่อย ๆ เหมือนบางคนอยากจีบเราจะชวนเราไปทานข้าว แต่เราก็จะมีน้องสาว มีแม่ไป แล้วเขาจะบอกว่าทำไมไม่มาคนเดียวโตขนาดนี้แล้วไปคนเดียวก็ได้ หนูบอกว่าไม่ได้ค่ะต้องมีน้องไป เดี๋ยวหนูจะปล้ำพี่

กระแต : ก็มีคุยค่ะ แต่ว่ามันไม่ได้สานต่อกัน ด้วยงาน ด้วยอะไรมันไม่ตรงกัน คุยสนุกได้ เป็นพี่เป็นน้อง แต่รู้ว่ามาจีบแหละ แต่ว่ายังไม่ใช่ แต่ก็มีคนที่คุยนานมากแล้ว แต่คำว่าดู ๆ มันไม่ได้ว่าเราอยากจะเปิดตัว เรารู้สึกว่าเราไม่ได้พร้อม อยากให้มั่นใจกว่านี้

กระแต : เจ้าชู้เหมือนป๊าป๋า เมื่อก่อนนะคะ ตอนนี้โตแล้ว ขี้เกียจตาม เมื่อก่อนเราวิ่งสนุกมาก เข้าวงการใหม่ ๆ ก็จะเนื้อหอม เป็นสาวน้อย แล้วก็คุยเก่ง มีใครมาจีบก็คุยหมดเลย

กระแต : ก็คือนัดทานข้าวในร้านเดียวกันทั้ง 3 คนเลย เรานัดหลายวันเราก็เสียเวลา เสียคิวคอนเสิร์ต เวลาก็พร้อมกัน ก็มีคุณแม่ น้องสาว เพื่อน นั่งคนละโต๊ะเลย ก็บอกว่าวันนี้นัดเพื่อนมามีตติ้งกัน ก็คุยกับโต๊ะนี้เสร็จก็ไปอีกโต๊ะนึง เขาก็ไม่รู้ เขาคิดว่าคุยกับเพื่อน พอย้อนกลับไปไม่ดี มันบาปโกหกเขา ก็เริ่มไม่สนุก คุยเยอะมันปวดหัว เหมือนเราไม่จริงใจ

vvvvvvv

vvvvv

vvv

v