ย้อนชีวิต โรสแมรี่ เจอมรสุมจนพลิกผันจากนักร้องดังต้องมารับบริจาคขอข้าวกิน

กลายเป็นเรื่องราวที่ได้รับความสนใจไม่น้อย เมื่อ โรสแมรี่ คาฮันดิง อดีตนักร้องสาว ยุค 90 เจ้าของเพลงดัง ให้ฉันทำอย่างไร และ เปล่ามีน้ำตา ออกมาโพสต์ขอรับบริจาคข้าวของต่างๆเพื่อประทังชีวิตในยุคโควิด-19 แม้จะอายเเสนอาย แต่เมื่อเห็นลูกชายต้องอดคนเป็นแม่ก็กล้ำกลืนความอายลงอกตากหน้าออกมาขอความช่วยเหลือ ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้ว

ล่าสุดมีรายงานว่า น้ำใจคนไทยหลั่งไหลให้ความช่วยเหลือเธอ จนสาวโรสได้เปิดใจกับสื่อดังว่า นอกจากลูกมีกินแล้ว ตอนนี้ก็มีงานติดต่อตนมาอีกด้วย ทั้งในไลฟ์สด หรือที่ร้านอาหาร ส่วนลูกชายก็มีคนติดต่อให้ไปแคสงานบ้าง รวมถึงมีคนส่งของมาให้ขายด้วย เท่ากับว่าต่อไปตนก็จะไม่ลำบาก ไม่ต้องขอความช่วยเหลือแล้วสำหรับแพลนที่จะย้ายบ้าน ย้ายโรงเรียน พี่โรส เผยว่า ทำเรื่องย้ายโรงเรียนเรียบร้อยแล้ว จากเอกชนเป็นรัฐบาล (จากรร.สายอักษรไปรร.วัดลาดพร้าว) ทำให้ภาระตนน้อยลงเยอะมาก ประหยัดไปอีกเป็นหมื่น ซึ่งตนไปคุยกับคุณครูเลยว่า จ่ายไม่ไหวจริงๆ แล้วน้องพีเคก็รับรู้แล้ว เขาโอเคส่วนบ้านคงไม่ย้ายแล้ว เพราะใกล้โรงเรียนใหม่ แล้วราคาก็ไม่แพงมาก แถมมีพื้นที่ให้ลูกชาย รวมถึงน้องหมาที่ตนเลี้ยงด้วย นอกจากของบริจาค ยังมีคนโอนเงินมาให้ด้วย ตนขอขอบคุณมาก เพราะจะนำไปซื้อคอมพิวเตอร์มือสองให้ ลูกชายเรียนออนไลน์ รวมถึงค่าเสื้อผ้ารองเท้าสำหรับไปเรียนในที่ใหม่

อย่างไรก็ตามหลายคนอาจจะไม่รู้จักโรสแมรี หรือ หลงลืมเรื่องราวของเธอกันไปมากแล้ว วันนี้ทางเราจะขอพาย้อนกลับไปดูมรสุมชีวิตของนักร้องสาวรายนี้ว่า เกิดอะไรขึ้น จากนักร้องดังคนหนึ่ง ชีวิตถึงพลิกผันไปได้มากขนาดนี้!?

โรสแมรี่ คาฮันดิง เป็นลูกครึ่งไทย-ฟิลิปปินส์ ปัจจุบันอายุ 43 ปี พ่อเป็นนักดนตรี ทำให้โรสได้รับการปลูกฝังเรื่องการร้องเพลงและเล่นดนตรีจากผู้เป็นพ่อเริ่มเข้าวงการบันเทิงตั้งแต่อายุ 13 ปี ด้วยการเล่นโฆษณาและมิวสิกวิดีโอ และถูกค่ายคีตาเรียกไปออดิชั่นเพื่อเป็นนักร้องเกิร์ลกรุ๊ปวงที-สเกิร์ต แต่เธอไม่ได้งานนี้ อย่างไรก็ตามโรสแจ้งเกิดในปี 2537 โดยได้รับเลือกเป็นศิลปินเดี่ยวในสังกัดแลมด้าทรี ออกอัลบั้ม ROSEMARIE เปิดตัวด้วยเพลง ให้ฉันทำอย่างไร กลายเป็นเพลงฮิตติดชาร์ตอันดับ 1 ตามคลื่นวิทยุต่างๆ จากนั้นเธอได้ย้ายไปสังกัดค่ายจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ มีอัลบั้มชื่อ Merry Rose และปล่อยเพลงเปล่ามีน้ำตา เป็นเพลงฮิตในอัลบัมนี้

อยู่ในวงการบันเทิงพักใหญ่ โรสแมรี่ ผันตัวไปร้องเพลงตามร้านอาหารในตอนกลางคืนอยู่หลายปี จนตั้งท้องและแยกทางกับพ่อของลูกตั้งแต่ยังไม่คลอด ก่อนที่เธอจะย้ายไปทำงานอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ที่อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โรสแมรี่เป็นซิงเกิลมัม ลูกชายได้เจอพ่อครั้งแรกตอนอายุ 3 ขวบ แต่อีกฝ่ายมีครอบครัวใหม่ไปแล้วและไม่รับรองเป็นบุตร แม้จะมีการตรวจ DNA ที่แน่ชัด แต่อดีตสามีก็ส่งเสียลูกบ้างแต่หลังๆ ก็ขาดการติดต่อไป

ย้อนชีวิต โรสแมรี่ เจอมรสุมจนพลิกผันจากนักร้องดังต้องมารับบริจาคขอข้าวกิน

เธอพาลูกกลับมาอยู่กรุงเทพฯ ไปขายเครปที่ตลาดแฮปปี้แลนด์และได้เป็นข่าวอีกครั้ง ทำให้โรสมีงานร้องเพลงบ้าง ส่วนลูกชายก็เริ่มมีงานจากโมเดลลิ่งติดต่อเข้ามา จากนั้นพ่อของโรสป่วยหนัก เธอต้องดูแลทั้งพ่อและลูกชายตามลำพัง มีหนี้จากค่ารักษาพยาบาลเป็นแสน โรสได้กลับไปร้องเพลงตามร้านอาหาร ซึ่งเธอจะพาลูกไปด้วย และขายของต่างๆ ที่สามารถขายได้เพราะต้องแบกรับภาระทุกอย่างเพียงคนเดียว ทำให้โรสแมรี่เริ่มเครียดจนเป็นโรคซึมเศร้าถึงกับเคยคิดฆ่าตัวตายมาแล้ว

หายเงียบไปนาน กระทั่งเมื่อ 16 พ.ค. 63 เธอโพสต์เฟซบุ๊กตัดพ้อชีวิตของตัวเองที่ต้องตะเกียกตะกายหาเงินจนเลือดตาแทบกระเด็น และของานให้ตัวเองและลูกทำ โรสโพสต์ขอความช่วยเหลือในเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 18 พ.ค. 63 โดยขอรับบริจาคไข่ไก่ ปลากระป๋อง ขนมปัง โดยบอกว่าตัวเองดิ้นรนจนเจ็บไปหมดแล้ว ตัวเองไม่ได้กินข้าวหลายวันยังอยู่ได้ แต่ทนเห็นลูกอดไม่ได้ แม้จะอายแต่ก็ต้องทำ เพราะนอกจากปากท้องแล้วค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ต้องแบกรับตั้งแต่พ่อป่วย บ้านที่อยู่ก็เป็นบ้านเช่า เมื่อโควิด-19 ระบาด งานก็หดหายแต่รายจ่ายเท่าเดิม ก็ยิ่งทำให้เธอลำบากมากขึ้น....

และนี่คือ ชีวิตของโรสแมรี่ อดีตนักร้องที่โด่งดังไม่น้อยคนหนึ่ง ในช่วงยุค90