ดวงตา คงทอง เปิดใจหมดเปลือก เคลียร์ข่าวเม้าท์ได้ดีเพราะมีเสี่ยเลี้ยง

ดวงตา : โดนเต็มๆ เลย เพราะว่างานเราเป็นงานออกนอกสถานที่ คอนเสิร์ต ไม่ว่าจะเป็นงานวัด งานอีเว้นท์ก็ถูกยกเลิกหมดเลย รวมถึงรายการบางรายการก็ต้องหยุดถ่ายไปก่อน

ดวงตา : เยอะค่ะ เดือนเมษายนทั้งหมดเลย

ดวงตา : ตอนเด็กๆ เป็นเด็กประกวดร้องเพลง เราก็ไม่รู้ว่าเราร้องเพลงเป็นหรือเปล่า เราก็ร้องเพลงเล่น พอดีไปเรียนหนังสือ อยู่ประมาณ ป.3-ป.4 ร้องเรียนเขาหาตัวแทนประกวดร้องเพลง พี่ตาก็ไปเป็นตัวแทนให้กับโรงเรียน ก็เป็นจุดที่ประกวดและหารายได้มาจุลเจือครอบครัว

ดวงตา : ใช่ค่ะ เขาไม่ให้แข่ง ตอนนั้นตาก็เป็นเด็กด้วย แล้วเหมือนกับว่าจังหวัดราชบุรีเราประกวดบ่อย ก็จะเจอคนที่เดินสายประกวดก็จะจำกันได้ พอเราไปประกวดแล้วเราชนะคนที่เขาจะมาประกวดเขาเห็นชื่อเราเขาก็ไม่อยากลงสมัครแล้ว ทีนี้คณะกรรมการ คนจัดงานก็จะเหมือนประมาณว่าไม่ต้องประกวดหรอก เดี๋ยวไปร้องโชว์แล้วกันเดี๋ยวก็ได้ติปกับบ้าน สมัยก่อนเงินมันหาง่าย แบงก์พันมาง่ายมาก

ดวงตา : พ่อก็ไปซื้อผมวิกมาให้ แล้วก็แต่งตัว เขียนคิ้ว ทาปาก เปลี่ยนชื่อ ใช้ชื่อป้า นามสกุลแม่

ดวงตา : 1.พ่ออยากให้เราหาประสบการณ์ 2.เงินรางวัลด้วย เช่น ทอง เงินสด ตู้เย็น ทีวี อะไรแบบนี้ พอร้องเพลงเสร็จเขาก็จำเสียงได้

ดวงตา : เคยมีประกวดที่มหาชัย เป็นงานประจำปี เราเป็นเด็กไปประกวดกับคนใหญ่ๆ ทีนี้เหมือนเราเป็นเด็กสุดเขาทำถ้วยรางวัลให้เรา แล้วเขียนชื่อถ้วยว่า "ถ้วยสยบดาว" เพราะว่าเราเป็นเด็กที่สุดไปประกวดกับผู้ใหญ่ ของเราเป็นรางวัลพิเศษ เราไม่ชนะ แต่ได้ถ้วยกลับมา

ดวงตา : ก็ตาเข้าวงการมาตั้งแต่อายุ 16 ย่าง 17 ปี ตอนนั้นอยู่ม.ปลาย พอเราเข้ามาปุ๊บเราได้รับความสนใจจากผู้ใหญ่ จากแวดวงคนลูกทุ่งว่าเด็กคนนี้เสียงดี เพราะอัลบั้มแรกของตา "กลับบ้านนอกดีกว่า" ได้รางวัลพระพิฆเนศทองพระราชทานด้วย แล้วหลังจากนั้นห่างไปประมาณ 2 ปี พอเราอายุ 18 ย่าง 19 ปีก็มาประสบความสำเร็จกับเพลงอยากเจอคนจริงใจ พออัลบั้มอยากเจอคนจริงใจมันดัง ทุกคนก็เลยคิดว่าอยากเจอคนจริงใจเป็นอัลบั้มแรก

ดวงตา : ดังมากค่ะ เพราะว่าเพลงของตามันมาพร้อมกับคุณลำไย มนต์รักส้มตำห่างอีก 2-3 ปี ก็ดังอีกชุดหนึ่ง

ดวงตา : ถ้าวันนี้คิดย้อนกลับไหนคือเพลงเราดังมาก แต่ในวัยที่เราอายุตอนนั้นไม่รู้จักว่าความดังคืออะไร เพราะว่า1.หน้าที่ของตาคือเรียนหนังสือ แล้วก็ไปร้องเพลง ตาทำแบบนี้ทุกวัน เราไม่รู้เลยว่าฉันเป็นนักร้องดัง ในยุคนั้นไม่มีเวลาอยู่บ้านเลย

ดวงตา : ใช่ค่ะ เขาบอกว่าศิลปินทุกคนต้องมีชื่อ ส่วนตัวตาพอเข้ามาผู้ใหญ่ก็มานั่งคุย ตอนนั้นเขาบอกว่าพอพูดปุ๊บแล้วนึกถึงตัวเรา ตอนนั้นเขาก็ให้พี่ปิ๋ม ซีโฟร์ มาดู พี่ปิ๋มเป็นคนตั้งให้ เขามองมาที่ดวงตาบอกว่าตาเป็นเอกลักษณ์ดีก็เลยใช้ดวงตา

ดวงตา : เคยได้ยินคำถามนี้ เคยมีคนมาขอเลี้ยงหลายคนมาก เมื่อก่อนเวลาไปทำงานก็จะไปกับน้องชาย น้องสะใภ้เราจะไปเป็นครอบครัว ก็จะดูแลกันเอง ทีนี้พอเราไป เราก็เจอเจ้าภาพที่เขาจ้างงานเราบ่อยๆ เขาก็เหมือนแบบเหมือนชอบเรา เขาก็โทร.มาคุย เขาอายุ 50+ คือเอาจริงๆ เรารักเขา เคารพเขาแบบพี่ แบบผู้ใหญ่ที่หยิบยื่นงานให้เรา เขาช่วยเหลือตลอดในเรื่องของงาน แล้วเรามองว่าเราทำงานอย่างนี้เรามีความสุขอยู่แล้ว ไปทำงานเสร็จกลับบ้าน เราเจอเขาแล้วมันคุยเราสบายใจมากกว่า อีกอย่างหยึ่งเขาก็มีครอบครัวอยู่แล้ว เราไม่สนิทใจที่แบบให้ใครมารับเลี้ยงเรา หรือเราจไปเป็นบ้านเล็ก บ้านน้อยของใคร เราก็บอกเขาไปว่าเราเคารพเมียเขานะ แล้วเรารู้จักกันหมด ถ้าวันข้างหน้าต้องไปเจอกัน แล้วเขารู้ว่าเราไปมีอะไรกับแฟนเขา มันจะมองหน้ากันไม่ติด อีกอย่างคือเราไม่สนิทใจ เราไม่ได้รักเขาแบบนั้น เรารักเขาแบบพี่ชาย เขาก็โอเคเข้าใจ แต่เขาก็พยายามอยู่ 1 ปี แต่ว่าสุดท้ายเขาเจอเราเขาก็ยังเห็นเราเป็นน้อง

ดวงตา : เขาพูดว่าเขามีทรัพย์สินเท่านั้น เท่านี้ เขาคุยเยอะว่าเดือนหนึ่งเขาให้ภรรยาเขาเป็นล้าน เขาบอกจะให้เราเดือนละ 2 แสน

ดวงตา : หนูหาได้มากกว่านั้น เรารู้สึกว่าเราเติบโตมาจากการทำงานของเรา เรามีทุกอย่างด้วยเสียง ด้วยแขน ด้วยขา ด้วยสมอง กับครอบครัวของเรา

ดวงตา : ล่าสุดก็มีค่ะ เดือนนี้เลย แล้วรู้สึกว่าเหมือนจะเป็นโรคจิตด้วย เขาเสนอให้ 2 แสนเหมือนกัน จ้างไปร้องเพลงแนวเอ็นเตอร์เทน แล้วผู้จัดการบอกว่าไม่รับค่ะ

ดวงตา : มีไปหาที่บ้านที่กาญจนบุรีก็มี ขับรถไปตามสืบว่าบ้านเราอยู่ที่ไหน สมัยก่อนตอนนั้นยังเรียนอยู่เลย เพราะฉะนั้นยังอยู่กาญจนบุรีเป็นหลัก เขาก็สืบไป ถามไป แล้วก็ไปหาที่บ้านก็มี แล้วก็มีประเภทโทร.มาแล้วก็ครางชื่อดวงตา เขาก็ตัดสายไปเอง

ดวงตา : ค่ะ เรารู้สึกว่าถ้าเราไม่ไหว เราต้องนอนอยู่บ้านหรือโรงพยาบาล แต่ถ้าเราไปถึงเวทีแล้วคนที่เขารอดูอยู่เขาอยากมาดูเราแสดงสด อยากมาฟังเสียงเรา อยากฟังเราพูด เอ็นเตอร์เทน เราก็ทำไปตามหน้าที่ต่อให้เสียงเป็นหวัดเราก็ร้องไปแบบนั้น

ดวงตา : ส่วนใหญ่มาจากการไปแสดงคอนเสิร์ต แล้วเราใช้เวลาในการทำงานค่อนข้างเร่งรีบ แล้วก็มันเป็นเทศกาล ก็จ้างคนขับรถ เรานั่งหลังแล้วมีน้องชายนั่งแล้วเหมือนเรารีบต้องไปแสดงต่อ แล้วเหมือนรถแหกโค้งยกล้อตะแคง ตอนนั้นใจหาย นั่นคือครั้งแรก และครั้งที่สองก็คือรีบเหมือนกันเราเล่นแถวๆ ลำลูกกาเสร็จจะไปชลบุรีต่อ ก็มอเตอร์เวย์ รีบแล้วเราต้องเลี่ยวซ้าย ตอนนั้นผู้หญิงขับก็จ้างเหมือนกัน แล้วจะไปเสยกับรถสิบล้อแต่ก็ไม่โดน แค่เฉียดเหลืออีกนิดเดียว แล้วก็ครั้งที่สามที่สหรัฐอเมริกา ตอนนั้นไปเที่ยวและไปแสดงคอนเสิร์ต เราก็มีเวลาก็ไปเที่ยวขึ้นเขาแล้วตอนนั้นหิมะตกพอดี เราก็ไม่เคยเห็นหิมะตกก็ตื่นเต้น ภ่ายวีดิโอใหญ่เลย พอขับไปแป๊บเดียวรถมันไถลชนขอบแล้วหมุน แต่ว่าไม่ตกเหว

ดวงตา : หลายๆ คนจะถาม เพราะว่าเขาไม่เคยเห็นแฟนตา คือมีคนคุย มีคนคบ มีคนดูแล ประมาณ 2-3 ปี เรียกว่าคนสนิท

ดวงตา : ก็ค่อนข้างกลัว เพราะว่าคือเราไม่กล้าที่จะบอกใคร ถ้าคบๆ ไปแล้วเลิกอย่างนี้ ชีวิตไม่แน่ไม่นอน หนูไม่บอกดีกว่า

ดวงตา : จริง เด็กประมาณ 29-30 ปี แต่ถ้าเป็นผู้ใหญ่ก็ 40 ปีขึ้นไป

ดวงตา : ก็จริงๆ หลายๆ คนเสียงดีนะ เพียงแต่ว่าตาจะได้ยินจากผู้ใหญ่ ครูเพลง จากสื่อมวลชนที่เขาเป็นคนตั้งฉายาให้ตา ก็คือนักร้องร้องทุ่งสาวเสียงเสน่หา ดีวาลูกทุ่ง ก็จะได้ยินจากสื่อมวลชนในแขนงของลูกทุ่ง ซึ่งก่อนหน้านั้นก็จะมี พุ่มพวง ดวงจันทร์, สุนารี ราชสีมา, แคทรียา มารสี, ฝน ธนสุนทร แล้วก็จะมีชื่อตา ตารู้สึกภูมิใจที่หลายๆ คนยกให้ตาเป็นไอดอลในการร้องเพลงลูกทุ่ง แล้วก็ชื่นชอบในน้ำเสียงของเรา แล้วหลายๆ คนก็จะบอกว่าแก้วเสียงเราเลียนแบบยาก เราก็เลยรู้สึกว่าเราเป็น 1 ใน 5 ที่หลายๆ คนพูดถึง

vvvvv

vvv

v