ริชชี่ เปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาส ชวนเที่ยวดอยปู่หมื่น เผย ก๊อต เพื่อนผู้ชายคนแรก
"ขอบคุณค่ะ (พนมมือไหว้) จริงๆหนูรู้สึกขอบคุณตลอด ทุกวันนี้เหมือนทุกคนให้กำลังใจเราเยอะมาก หนูลงรูปทุกคนก็จะมาบอกว่าสู้ๆนะ อยากบอกว่าหนูดีขึ้นมากๆแล้วค่ะ แล้วก็ขอบคุณมากๆที่เป็นกำลังใจให้ค่ะ"
ดอยปู่หมื่นที่บ้านเราก็ดังเลย?
"ก็ดีใจค่ะ เพราะหนูคิดว่าพี่ๆน้องๆที่โน้นต้องดีใจมากๆ เพราะทุกคนบอกว่าน่าอยู่มากๆ แต่ต้องบอกก่อนนะคะว่ามันเป็นแบบแอดเวนเจอร์มากๆเลย มันเป็นธรรมชาติเพราะริชคิดว่าอยากอนุรักษ์ความเป็นธรรมชาติตรงนั้นไว้ มันเป็นต้นน้ำด้วย อาจจะไม่ได้สะดวกสบาย แต่ถ้าคนที่อยากไปสัมผัสชีวิตชาวบ้านที่นั่นจริงๆชาวลาหู่ ก็หวังว่าทุกคนจะชอบค่ะ"
"จริงๆครอบครัวทำอยู่แล้วค่ะ มีคุณลุงคุณน้าแล้วก็คุณแม่ช่วยดูแลอยู่ค่ะ หนูได้ช่วยโปรโมตให้ครอบครัวและชาวบ้านด้วย ก็ดีใจค่ะ ตอนนี้มีติดต่อมาเยอะ แต่ด้วยแบบเดิมเราไม่ได้รับแบบใครจะขึ้นก็ได้ มันต้องผ่านทางบ้านต้องพาขึ้น ทางขึ้นยังลำบาก ต้องใช้รถโฟวิล ดีใจที่คนชอบ ถ้ามีโอกาสได้ไปจริงๆ หวังว่าทุกคนจะชอบ มันธรรมชาติมากๆ เหมือนไปชาจแบตค่ะ"
จะกลับบ้านเมื่อไหร่?
"ถ้าพี่เขาบอกว่ามีเวลาว่างก็จะรีบกลับเลยค่ะ ถ้าหนูขึ้นดอยวันไหนหนูจะบอกก่อนนะคะ จะได้มาเจอค่ะ(หัวเราะ) ส่วนเรื่อง ชา ในส่วนของหนูกำลังจะเปิดตัวเร็วๆนี้ค่ะ อีกนิดเดียวกำลังทำแพ็กเกจจิ้งค่ะ เป็นชา แนวชาระบาย เป็นดีท็อกซ์ ช่วยระบบข้างใน ถ้าลำไส้เราดี ผิวพรรณเราก็จะดีหมดเลย แล้วหนูดื่มเองตลอดอยู่แล้วค่ะ เลยอยากลองทำตัวนี้ แต่ชาของที่บ้านมีอยู่แล้วค่ะ มีหลายอัน มีของคุณน้าหลายคนค่ะ"
"ทีแรกหนูกังวลค่ะ หนูกลัวหนูพูดไม่รู้เรื่อง ขอบคุณทุกคนที่เข้าใจความเป็นหนู เอ็นดูเรา"
จากข่าวจากผลงาน จนถึงวันนี้ถือว่าพิสูจน์เราในวงการบันเทิงได้หรือยัง?
"จริงๆผลงานหนูตั้งใจมากๆ อยู่แล้ว ถ้าได้ดูละครทุกคนก็คงเห็น แต่ว่าขอบคุณฟีดแบ็กจากคนที่ไม่ได้ดูด้วย ที่เขาเห็นแล้วไปย้อนดูงานเรา ก็ขอบคุณมากๆ ขอบคุณแทนทีมงานทุกคนด้วยคะ ถามว่ามันทำให้เราแกร่งมากขึ้นไหม ก็รู้สึกว่าต้องเข้มแข็งขึ้นค่ะ เพราะว่าเหมือนแม่ๆของเรา พี่แฟนคลับเขาก็ห่วงมาก เรารู้สึกว่าต่อไปนี้เราไม่ได้แค่ตัวคนเดียวแล้ว เราต้องเข้มแข็งเพื่อทุกๆคนด้วย"
หลังจากให้สัมภาษณ์ไปได้มีโอกาสคุยกับพี่ไก่หรือพี่ม้าหรือยัง?
"คิดว่าพี่ผู้จัดการน่าจะคุยแล้วค่ะ หนูไม่เคยคุยเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว เพราะในกองก็จะมีพี่ผู้จัดอีกคนนึงชื่อพี่อี๊ด ตอนนี้หนูสบายใจขึ้นค่ะ"
หลายคนบอกว่าคำตอบเราวันนั้นเป็นต้นแบบในการตอบคำถามของดารา เรารู้สึกยังไงบ้าง?
"(ยิ้ม)หนูตอบปกตินะคะ ต้นแบบเลยเหรอคะ ไม่ขนาดนั้นค่ะ หนูคิดว่าหนูก็ตอบปกติ เพราะพี่ถามหนูก็ตอบธรรมดาค่ะ จริงๆหนูไม่ได้คิดว่าเป็นเรื่องใหญ่ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เหมือนเป็นการเข้าใจผิด หนูก็แค่ตอนแรกก็เฮิร์ตว่าทำไมเป็นแบบนี้ แต่ไม่ได้รู้สึกว่าผู้ใหญ่ผิดหรือมีใครผิดเลยค่ะ คิดว่าถ้าทุกคนได้รู้ความจริง รู้จักหนูก็คงโอเค แต่ตอนนั้นกังวลว่าแล้วทุกคนจะรู้ได้ยังไงเพราะหนูไม่ได้ออกสื่อ หรือทุกคนไม่เคยเห็นเราเลย"
"(ยิ้ม)มันเป็นประโยคในละครค่ะ ที่ว่า "มายที่แปลว่าของผม" หนูว่าเพื่อนเป็นห่วงเพราะหนูพูดน้อย เขาคงพยายามช่วยเรากลัวจังหวะเดดแอร์เพราะรายการสด"
กลายเป็นกระแสจิ้นไปแล้ว ?
"ขอบคุณที่เมตตาหนูและเพื่อนหนูด้วย (ยิ้ม)
มีโอกาสไหม หลายคนเชียร์ให้คบกันจริงๆ ?
"จริงๆตอนนี้เริ่มมีเพื่อนแล้วก็ดีใจค่ะ(หัวเราะ) หนูอยู่โรงเรียนหญิงล้วนมาตั้งแต่เด็กด้วยมั้งคะ เราก็ไม่ได้พยายามเงียบหรือว่าอะไร เจอเด็กผู้ชายหนูว่าบางทีเขาอาจจะดูว่าเราเหมือนไม่พูด เหมือนเขากลัวๆเรา เราก็ไม่เลยไม่ค่อยมีเพื่อนผู้ชาย"
"ก็ประมาณนั้นค่ะ"
ตอนนี้คือสนิทที่สุดใช่ไหม?
"เขาน่าจะเป็นคนพูดเก่งและเข้าได้กับทุกคน และบังเอิญมาเล่นเรื่องนี้ด้วยกันเขาก็เลยสนิทกับเราด้วย แต่หนูว่าจริงๆเขากับทุกคนอยู่แล้วค่ะ แล้วเราก็มีพี่โน๊ (ผจก.) ช่วยดูแลเหมือนกันค่ะ พี่โน๊ตดูแลหลายคนค่ะ"
https://www.facebook.com/teeneedotcom