นักแสดงวัยใสสุดผยอง ทำตัวเหมือนดังซะเต็มประดา

เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง ไม่ใช้สแตนอิน ไม่มีตัวแสดงแทน มีแต่ดารามั่นหน้าที่คิดว่าดังย่ะคือเรื่องของเรื่องดันมีคนมาเล่าให้เดี๊ยนฟังว่าเจอดาราเรื่องเยอะเข้า ซึ่งบังเอิญคนๆนี้เขาเป็นเจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่ง ทีนี้มีประชาสัมพันธ์ของค่ายยักษ์ใหญ่ระดับประเทศคนหนึ่งติดต่อไปที่ร้านว่าอยากให้เขาช่วยสนับสนุนพื้นที่หน่อยเพราะจะมี นักแสดงวัยใส หน้าตาหล่อเหลา 2 คนไปเยี่ยมเยือนร้านเลยอยากให้มีสถานที่ชิลๆไว้เป็นเรื่องราวดีๆเจริญหูเจริญตาเวลาคนดูเห็น เจ้าของร้านอาหารก็ไม่ว่า ตอบตกลงพร้อมโทรประสานงานเรื่องอาหารให้พร้อมด้วยซ้ำ ซึ่งเขาก็บอกว่า You จะใช้อาหารกี่อย่างก็ได้ จะใช้มุมไหนของร้านก็ได้ งานนี้ตามมารยาทพื้นฐานของคน "ทำงานเป็น" เขาจะรู้และ "คิด" ได้แล้วว่าควรจะทำตัวยังไง

ต่อมาเมื่อถึงวันจริง ทุกอย่างถูกเซ็ตไว้พร้อมแล้ว ก่อนการถ่ายทำ นักแสดงวัยใส คนแรกที่มีหน้าตาหล่อเหลาและมีผมหยักศก เดี๊ยนขอเรียกว่า B1 แล้วกัน ส่วนอีกคนจมูกโด่ง ตาเล็ก ผมสีน้ำตาลทองเข้ม ซึ่งเดี๊ยนขอเรียกว่า B2 นะ ซึ่งตอนแรกที่นัดกัน B1 ก็มาสายกว่าเวลานัด 2 ชั่วโมง คนถ่ายทำก็ไม่ว่า จะขอเวลา ไปชอปปิง ก่อนหรือจะทำอะไรก็เชิญไม่ว่า แต่เมื่อถึงตอนที่เจ้าของร้านบอกเมนู B1 ก็ทำเสียงแข็งขึ้นมาทันที ไอไม่กินของกลิ่นแรง ไม่กินเค็ม ไม่กินอาหารที่ไม่ทำสด ไม่กินบลาๆ คือเ...งข้อแม้แรกเยอะมาก

วินาทีนั้นทุกคนก็ขำขันมองเป็นเรื่องชิลๆ และก็พยายามหาเมนูที่จะเสิร์ฟให้ B1 ได้กินด้วยความอร่อย ต่อมาเมื่อเริ่มถ่าย B1 ก็กระชากเสียงใส่คนถ่ายทำว่าผมไม่ชอบเสียงดังนะ ไม่ชอบคนเยอะ ไม่ชอบขายของ ไม่อยากใช้เวลานานและไม่อยากทำอะไรที่ลำบากเข้าใจไหม

อืม...เข้าใจ เ...งอยากสบายทำไมไม่นอนอยู่บ้านล่ะ อันนี้เดี๊ยนในใจ

ต่อมาถ่ายไปได้สักพัก B1 ก็พยายามโชว์พาวเวอร์ใส่ B2 เต็มที่ ซึ่งแน่นอนในเรื่องของชื่อเสียง B2 ไม่ได้เด่นดัง มากเท่า B1 ซึ่ง B1 มันโด่งดังจากซีรีส์เรื่องหนึ่ง ซึ่งผลงานที่ผ่านมามีประมาณ 8-9 เรื่องได้ ซึ่งก็ดังในวงแคบๆของกลุ่มเป้าหมายที่ชอบซีรีส์วัยรุ่นนึกออกป่ะ เ...งไม่ได้ดังขนาด ณเดชน์, หมาก-ปริญ หรือ ไมค์-ภัทรเดช ไง

งานนี้เจ้าของร้านที่ยืนอยู่ใกล้ๆก็คงเริ่มสงสาร  B2 ที่ถูกฉีกหน้าเบาๆอยู่หลายเทค เหมือน B1 พยายามทำให้ B2 โดนเทคบ่อยๆและด้วยความพูดน้อย B2 เลยดูเป็นคนสู้ B1 ไม่ได้และพูดไม่รู้เรื่องในการนำเสนอ

หลังจากนั้นเจ้าของร้านก็ตัดสินใจอยากทำให้บรรยากาศในการถ่ายทำดีขึ้นเลยไป ยกอาหาร มาเข้าฉากเอง พร้อมพยายามบอกว่าอยากจะได้อะไรกลับบ้านไปทานไหม งานนี้พอ B1 เห็นเขายกของมาให้แทนที่จะขอบคุณกลับเฉยและตักอาหารชิมก่อนจะพูดกลางวงก่อนถ่ายทำต่อว่า "ไม่เห็นอร่อยเลยอ่ะ"

แม่เจ้า! ถ้าเป็นเดี๊ยนจะตบกะโหลกร้าวเลย รู้ว่าไม่อร่อยหรืออร่อยพูดหลังงานได้ไหม

ดอกหนึ่ง B1 แกไม่มืออาชีพเลย ซึ่งเจ้าของร้านก็หน้าเสียแต่ อดทน ให้ถ่ายจนจบซีนนั้น ซีนต่อมาเป็นตอนที่ B1 และ B2 ต้องเดินพาชิมและชิมไปทั่วร้าน ระหว่างที่ถ่ายอยู่นั้น มีคนจะเข้ามาทานอาหารในร้าน B1 ก็จัดการ ขอเทคด้วยตัวเอง พร้อมบอกทีมงานว่าถ่ายทำอยู่ห้ามเข้าด้วยเสียงไม่ดัง แต่ก็ไม่เบา จนทุกคนยิ้มแห้งๆขึ้นมาและก็พยายามกันลูกค้าคนอื่นไปกินชั้น 2 ของร้าน

ด้วยความชุลมุนวุ่นวายเพราะความไม่มืออาชีพของ B1 เลยทำให้เมื่อทุกคนแยกย้ายกลับบ้านไป เจ้าของร้านเลยไป เปิดอินเตอร์เน็ต ดูด้วยความเจ็บใจว่า B1 นี่มันดังมากเลยเหรอ ทำไมกล้าทำนิสัยแบบนี้ ไม่กลัวถูกแฉหรือไง

พอเจ้าของร้านเปิดจอหาข้อมูลปุ๊บ ก็เจอเบาะแสปั๊บ He B1 คนนี้ ไม่ธรรมดา เลยย่ะ He เคยมีประวัติติดบุหรี่ติดเหล้าและเพลย์บอยคนหนึ่งก่อนเข้าวงการ แถมเมื่อค้นหาข้อมูลไปลึกๆก็พบว่ามีคนเข้ามาแฉในคอมเมนต์ว่า He เกเรแต่เพราะ ประจบเก่ง เลยได้มาเป็นดารา พอเห็นข้อมูลดังนั้นเจ้าของร้านถึงกับเอามือทาบอกเบาๆทันที เดี๊ยนซึ่งได้รับเรื่องมาพอถึงท่อนนี้ก็เอามือทาบอกเช่นกัน และเมื่อไปสอบถามจากสไตลิสในวงการคนหนึ่งถึงเรื่องข่าวนี้ เขาก็ยืนยันเบาๆว่าพฤติกรรมแย่ๆและ ผยอง ของ He ที่คิดว่าดังซะเต็มประดาอ่ะมีมานานแล้ว พอดังปุ๊บนิสัยก็เปลี่ยนไป ปากปีจอและชอบข่มคนอื่น
           
โอ๊ย! ฟังแล้วก็แซ่บต้องเล่าต่อทันที

เครดิตแหล่งข้อมูล : เดลินิวส์